พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 92 วังเสวี่ยเสียเงินไปหมด
บทที่ 92 วังเสวี่ยเสียเงินไปหมด
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบเจ็บสิบปีของท่านปู่ตระกูลเฉิน หลังจากลู่เฉินพาฉีฉีไปส่งที่โรงเรียนเสร็จ ก็ไปซื้อใบชาหนึ่งโล
เขาเคยได้ยินเฉินซิงซิงบอกว่าท่านปู่เฉินก็ชอบกินชาหลงจิ่งเช่นกัน เขาเลยได้ซื้อชาหลงจิ่ง
ขอให้แต่ไม่ใช่การซื้อในงานโดยเฉพาะ ธรรมดาแล้วชาหลงจิ่งล้วนไม่แพงมาก
อย่างเช่นซองนี้ของลู่เฉินก็แค่ใช้เงินสองหมื่นกว่าเอง
งานเลี้ยงวันเกิดของท่านปู่เฉินจัดอยู่ที่รีสอร์ทหยุนวู่ของตระกูลเฉิน ลู่เฉินมาถึงที่รีสอร์ทหยุนวู่ ก็เห็นลานจอดรถมีรถที่หรูหราจอดอยู่นับสิบคัน Mercedes-BenzและBMW มีอยู่แค่ไม่กี่คันล้วนเป็นรถที่ธรรมดาสุดในนี้ Hummer Land Rover Porsche ฯลฯ ถือได้ว่าอยู่ในระดับกลางเท่านั้นเอง
รถที่หรูหรากว่ายังมีรถสปอร์ต พวกลัมบอร์กินี่ เฟอร์รารี ยังมีโรลส์รอยซ์หลายคันที่เป็นรุ่นฐานล้อยาว ในนั้นยังมีรถคันหนึ่งทะเบียนรถเป็นเลขแปดล้วนๆ
ส่วนลู่เฉินขับรถAudiคันหนึ่งเข้ามาในลานจอดรถ ถือได้ว่าสะดุดตามาก
พวกยามที่รับผิดชอบโบกรถพอได้เห็นรถAudiของลู่เฉิน ล้วนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมาะ
“คุณครับ คุณมาร่วมงานเลี้ยงของท่านปู่ตระกูลเฉินใช่ไหมครับ?”ยามคนหนึ่งขึ้นมาถาม
“ครับ”ลู่เฉินพยักหน้า
“นั้นจอดฝั่งนี้ละกัน”
ยามโบกรถให้ลู่เฉินจอดอย่างมืออาชีพ
เห็นได้ชัดว่า ยามีพวกนี้ของตระกูลเฉินค่อนข้างมีคุณสมบัติที่ดี
และเนื่องจากที่จอดไม่มากแล้ว การจอดรถจึงค่อนข้างจะช้า
พอดีในเวลานี้ มีรถPorscheคันหนึ่งขับเข้ามาในลานจอดรถ เมื่อเห็นยามโบกรถA6คันหนึ่งตั้งนานแล้วยังจอดไม่เสร็จ จึงมีหญิงสาวสองคนเดินลงมาจากข้างบน
“พวกแกตาบอดหรือไง?รถAudiที่ล้าสมัยแบบนี้ก็ปล่อยเข้ามาได้ คนขับรถแบบนี้เหมือนเป็นคนมาเข้างานวันเกิดของคุณปู่ฉันหรือ?”หญิงสาวในนั้นคนหนึ่งตวาดออกมา
“ขอโทษครับ คุณหนูสอง เขาบอกว่าเขาได้มาร่วมงานเลี้ยงของท่านปู่ครับ”ยามคหนึ่งอธิบายอย่างขมขื่น
ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าเฉินเสี่ยวปิง เป็นลูกสาวของเฉินอี้จุนซึ่งเป็นน้องชายเฉินกวงซิน เป็นคนดื้อรั้นเอาแต่ใจ และมักจะรังเกียจคนจน
สาวสวยข้างเธอคนนี้ชื่อว่าหลี่ชุนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในสมัยมหาวิทยาลัยของเธอ วันนี้เพิ่มมาจากมณฑลฉวนดู เฉินเสี่ยวปิงเพิ่งไปรับเธอกลับมาที่สนามบิน
ลู่เฉินแปลกใจมาก เลยชูหัวออกมามอง พบว่าเป็นหญิงสาวสองคนที่สวยมาก แต่คนที่สูงกว่าในนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งและเย็นชา
“มองอะไรอยู่วะ?รีบจอดรถให้เสร็จเลย ไม่นั้นก็ออกไปให้พ้น!”เฉินเสี่ยวปิงเห็นว่าลู่เฉินชูหัวออกมา เลยตวาดอย่างรังเกียจ
โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าลู่เฉินได้ใส่ชุดสูทชุดหนึ่งที่ธรรมดามาก เธอก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจ
ตามจริงแล้วชุดสูทของลู่เฉินชุดนี้สามพันกว่า เป็นชุดสูทที่แพงที่สุดที่เขาซื้อในช่วงหลายวันนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าคำนึงถึงเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของท่านปู่เฉิน ต้องใส่ให้เป็นทางการหน่อย ไม่นั้นเขาคงใส่เสื้อยืดธรรมดาแล้ว
อุณหภูมิของยวี่โจวในเวลานี้ได้สูงถึงสามสิบกว่าองศาแล้ว ดังนั้นวันปกติเขาเลยชอบใส่เสื้อยืด
ลู่เฉินขมวดคิ้ว และจอดรถต่อ ไม่อยากไปมีเรื่องกับเฉินเสี่ยวปิง
“เสี่ยวปิง งานเลี้ยงวันเกิดครบเจ็ดสิบปีของคุณปู่คุณ ทำไมมีคนจนแบบนี้มาเข้าร่วมด้วยล่ะ”หลี่ชุนก็ดูถูกลู่เฉินเช่นกัน
ใช่แล้ว หลี่ชุนก็เป็นคนที่มีสกุลใหญ่โตเช่นกัน เธอเป็นตั้งคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดของฉวนดู ดังนั้นในสายตาของเธอ คนอย่างลู่เฉินที่ขับรถAudiหลายแสน เป็นเพียงแค่คนยากจน
“ใครจะไปรู้ล่ะ อาจจะเป็นเพื่อนของญาติบ้านเรา มาเพื่อจะมาเห็นโลกกว้างมั้ง”เฉินเสี่ยวปิงพูดพร้อมส่ายหน้า
“ก็ใช่อยู่ ในงานเลี้ยงวันเกิดครบเจ็ดสิบปีของท่านปู่ตระกูลเฉิน ก็ต้องมีคนหลายๆที่หลายๆอาชีพอยากจะมาเข้าร่วมแน่นอน เพื่อจะได้เห็นโลกกว้างข้างนอกไง”หลี่ชุนพยักหน้า
“เออ คนยากจนเช่นนี้ นอกจากว่าอยากจะเห็นโลกกว้างแล้ว แน่นอนต้องมีใจที่คิดจะประจบประแจงผู้มีอำนาจด้วย”เฉินเสี่ยวปิงเห็นลู่เฉินจอดรถเสร็จ ก็เลยขึ้นรถPorscheเพื่อเตรียมที่จะจอดรถ
ลู่เฉินเดินลงมาจากรถ ก็เห็นหลี่ชุนมองตนเองด้วยสายตาที่ดูถูก จึงส่ายหน้า และเดินไปจากข้างๆของหลี่ชุน
พอเดินผ่านลานจอดรถไป ก็มาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ และได้เห็นรุ่นลูกหลานของตระกูลหลี่ยืนเป็นแนวเดียวเพื่อต้อนรับแขก
แต่ลู่เฉินไม่รู้จักสักคน ก็เลยเดินเข้าไปโดยตรง
พอเดินผ่านทางต้อนรับ ก็มาถึงจุดรับของขวัญ ลู่เฉินเลนเอาใบชาในมือของตนยื่นขึ้นไป
“โปรดลงชื่อค่ะ”คนที่รับของขวัญเป็นผู้หญิงวัยกลางคนหนึ่ง ส่วนข้างหลังของเธอมีพนักงานเสิร์ฟยืนอยู่ห้าหกคน น่าจะอยู่เพื่อขนของขวัญ
งานวันเกิดของคนมีอำนาจอย่างท่านปู่เฉิน สังคมชนชั้นสูงของยวี่โจวแน่นอนต้องรับรู้ด้วย ของขวัญที่มอบนั้นไม่ใช่เงินแน่นอน ต้องเป็นสิ่งของมีค่าต่างๆ
ดังนั้นเลยต้องให้พนักงานเสิร์ฟขนย้ายเข้ามา
“ลู่เฉิน ใบชาหลงจิ่งหนึ่งโล”ลู่เฉินพูด
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นหญิงวัยกลางที่มีหน้าที่รับของขวัญหรือพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ข้างหลัง ล้วนปรากฏสีหน้าที่ดูถูก
ใบชาของลู่เฉินเป็นของขวัญที่แย่ที่สุดที่พวกเธอได้รับในวันนี้ ของขวัญที่คนอื่นนำมา มูลค่าต่ำสุดก็ล้วนมีราคาสองแสนขึ้นไป
อย่างเมื่อกี้นี้ก็ได้รับใบชาโลหนึ่ง แต่ของคนอื่นนั้นเป็นพันธุ์หวงซานเหมาเฟิง โลละแปดแสนกว่า โลละสองหมื่นของลู่เฉินหาที่เปรียบมิได้
“ตรงไปทางซ้ายมือ”ผู้หญิงที่รับผิดชอบรับของขวัญพูดอย่างดูถูก
ลู่เฉินมองเข้าไปด้านในมีสามทางเดิน เมื่อเห็นสายตาของผู้หญิง เขาก็รู้ว่าทางที่เธอชี้นั้นเป็นพื้นสำหรับแขกธรรมดา
ใช่แล้ว งานเลี้ยงครั้งนี้ของท่านปู่เฉิน เนื่องจากมีแขกมาร่วมงานเยอะมาก ดังนั้นแบ่งออกเป็นพื้นที่สามส่วน ของขวัญที่มีมูลค่าน้อยกว่าห้าแสนอยู่พื้นที่หนึ่ง มูลค่าระหว่างห้าแสนถึงหนึ่งล้านอยู่อีกพื้นที่หนึ่ง ส่วนมากกว่าหนึ่งล้านก็อยู่อีกพื้นที่หนึ่ง แยกแยะได้อย่างชัดเจน
ลู่เฉินเดินเข้ามาในห้องโถง แม้ว่าเป็นห้องโถงที่แย่ที่สุด แต่ก็ใหญ่มาก แถมตกแต่งได้อย่างหรูหราอีกด้วย ให้ความรู้สึกที่สุกสกาวและงดงามแก่ผู้คน
เมื่อมองไปรอบๆ มีแค่ไม่ถึงห้าหกสิบคน ถือได้ว่าล้วนเป็นคนที่มีธุรกิจส่วนตัวที่ดำเนินได้ค่อนข้างดี
ทุกคนล้วนมีแวดวงของตนเอง บ้างก็รวมตัวกันพูดคุยกัน บ้างก็กินน้ำชาพักผ่อนอยู่ในศาลา
สิ่งที่ลู่เฉินรู้สึกแปลกใจคือ ห้องโถงนี้ยังมีสถานบันเทิงอีกมากมาย
มีทั้งห้องคาราโอเกะ บาร์ คาสิโน และงานเดิมพันบนหินที่เลกๆอีก ถือได้ว่ามีครบทุกอย่างทุกแบบ
ลู่เฉินมองดูคนในนี้ไปสักรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่มีคนที่รู้จัก
แต่ก็ไม่แปลก แขกในนี้ล้วนเป็นแขกที่มอบของขวัญในมูลค่าที่สูง ดังนั้นมันก็ไม่แปลกที่ลู่เฉินไม่รู้จัก
“โอ้มายก๊อด ในคาสิโนมีคนเล่นใหญ่มาก รอบหนึ่งเล่นตั้งเป็นสิบล้าน น่าตื่นเต้นสุดๆ”
“ว้าว นั้นคงเป็นคนใหญ่คนโตจากสถานที่อื่นมาเล่นสิ ไป ไปดูกัน”
“พี่น้อง ไป ไปดูกัน ยังไงอยู่ที่นี่ก็เหงาๆอยู่”ชายหนุ่มคนนี้เมื่อเห็นลู่เฉินอยู่แค่คนเดียว จึงมาทักทายอย่างเร่าร้อน
ลู่เฉินยักไหล่ เขาก็รู้สึกว่าเหงาอยู่ เลยพยักหน้า แล้วก็เดินตามไปดู
พอเข้ามาในคาสิโน เห็นแต่ว่ามีคนรุมล้อมกันเป็นจำนวนมาก
โชคดีที่ลู่เฉินค่อนข้างสูง เลยสามารถเห็นทั้งสองฝั่งที่เดิมพันกันอยู่
เมื่อได้เห็นว่าคนที่กำลังเดิมพันอยู่นั้นเป็นแม่ยายวังเสวี่ยของตนเอง ลู่เฉินรู้สึกค่อนข้างจะจนปัญญา จากนั้นก็บีบเข้าไปข้างใน
“ฉันลงสิบล้าน ซื้อใหญ่!”ลู่เฉินเพิ่งบีบตัวเข้ามาในฝูงคน ก็ได้ยินเสียงของวังเสวี่ยที่ทุ่มสุดตัวในการวางเดิมพัน
“อีเมียติดพนัน นี่เป็นสิบล้านสุดท้ายแล้ว แกเหลือไว้ให้เป็นค่าซื้อโลงศพให้ฉันบ้างได้ไหม?”หลินดาไห่พูดอย่างโกรธขรึม
“หุบปาก!”เห็นได้ชัดว่าวังเสวี่ยเสียเงินมากจนตาแดงขึ้นมา จึงตวาดใส่เขา
“แม่!”หลินอี้เจียก็ตะโกนอย่างโมโห
แต่เมื่อกี้ก็เสียไปแล้วสามสิบล้าน ถ้ารอบนี้เสียอีก นั้นเงินกำไรที่ลู่เฉินหาให้พ่อก็ล้วนเสียหมดแล้ว ไม่เพียงแค่นี้ ยังต้องเสียเข้าไปอีกหนึ่งล้านกว่าอีก
“วางเสร็จเอามือออกด้วยครับ จะเปิดแล้ว”พอเจ้าโต๊ะตะโกนเสร็จ ก็เปิดลูกเต๋าออกมา
เลข134 รวมเป็นแปด เล็ก
เมื่อเห็นผลที่เปิดมา วังเสวี่ยหน้าซีกทันที หลินดาไห่ก็เกือบจะโกรธจนสลบไป สีหน้าของหลินอี้เจียแย่จนสุดๆ
เงินกำไรสี่สิบล้านที่ลู่เฉินหาให้พวกเขาในการประชุมที่จัดขึ้นอย่างมโหฬารโบราณ ล้วนเสียไปหมดเพียงแค่นี้