พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 96 วังชิจูเขียนสัญญา
บทที่ 96 วังชิจูเขียนสัญญา
“พ่อ ช่วยฉันด้วย” วังซิงโดนลู่เฉินถีบออกมา อย่างตื่นตระหนกทันที
เขารู้ฝีมือของลู่เฉิน แม้แต่บอดี้การ์ดบางคนก็ไม่กล้าสู้กับลู่เฉิน ไม่กล้าแม้แต่นิดเดียว
วังชิจูและเฉินซานหันกลับมาและสีหน้าดูน่าเกลียด
“ แกกล้าสร้างปัญหาในตระกูลเฉินของฉันหรอ?” เฉินซานจ้องไปที่ลู่เฉินด้วยสีหน้าเศร้า เป็นผู้ช่วยในบ้านเฉินมาหลายปีแล้ว แม้ว่าเจ้าบ้านหวังจะปฏิบัติต่อเขาในฐานะพี่ชาย แต่เขาก็ไม่เคยถูกคนอื่นไม่สนใจขนาดนี้
“คุณผู้ช่วยเฉินใช่ไหม นายไม่เหนหรอว่าบ้านนั้นสร้างปัญหาเอง พนันแพ้เป็นหนี้อีก ฉันแค่มาทวงหนี้เฉยๆ” ลู่เฉินพูดเบา
“ไอ่เด็กน้อย ดีมาก ทำดีมาก!” เฉินซานตัวสั่น หันกลับมาเรียก “รปภ. รปภ.อยู่ไหน”
ทันทีที่ได้ยินเสียงของเขา รปภ.หลายคนก็รีบเข้ามา
ทุกคนถอยไปข้างหนึ่ง มองจากสายตาของลู่เฉินแล้วเต็มไปด้วยความตลก
บ้านเฉินได้เรียนรปภ.มา พวกเขาเชื่อว่าลู่เฉินจะต้องออกไปจากที่นี้ในวันนี้แน่นอน
“ไอ่น้อง ฉันจะให้โอกาสนายเป็นครั้งสุดท้าย ไม่งั้นฉันจะให้พวกเขาจับคุณออกไปทันที!” เฉินซานขู่
ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในบ้านเฉิน ถ้าเขาถูกเจ้าของบ้านไล่ เป็นการขายขี้หน้ามากๆ
ทุกคนส่ายหัวรู้สึกว่าลู่เฉินไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจน
แม้ว่าจะต้องการทวงเงินสักกี่ร้อยล้าน แต่ก็ไม่ควรมาขอที่นี้ นี้เป็นการไม่ให้เกียจคุณผู้ช่วยเฉินเลยไม่ใช่หรอ?
“จะไล่ฉันออก?” ลู่เฉินยิ้มและพูดอย่างใจเย็น “ถ้าเฉินกวงซิงพูดแบบนี้ ฉันจะหันหลังกลับและจากไป แต่คุณยังไม่มีอำนาจพอและคุณก็ไม่มีสิทธิด้วย”
อะไรนะ?
เขาบอกว่าผู้ช่วยเฉินไม่มีสิทธ์ไล่เขางั้นหรอ?
ทุกคนหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ส่วนใหญ่เห็นว่าลู่เฉินเข้ามาจากข้างนอกไม่ใช่มาจากห้องรับแขกอีกสองห้อง
งั้นก็แสดงว่า ลู่เฉินจึงไม่มีสิทธ์ที่จะเข้าไปในห้องประชุมนี้
คนอย่างลู่เฉินที่ไม่มีตัวตนในที่นี้ กล้าสร้างปัญหาในบ้านของเฉิน ผู้ช่วยเฉินอยากให้ออกไปก็แค่ออกไปไม่ใช่หรอ?
“คุณบอกว่าฉันไม่มีสิทธ์ที่จะไล่คุณออก?” เฉินซานพูดด้วยรอยยิ้มแล้วโกรธ
“ุถ้าไม่เชื่อคุณสามารถให้พวกเขาลองดูสิ แต่ฉันไม่อยากทำให้เฉินกวงซิงต้องอับอายและฉันไม่ต้องการให้เขาไล่คุณออกจากบ้านเฉินเพื่อฉันดังนั้นฉันแนะนำให้นายคิดใหม่นะ” ลู่เฉินพูด
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินประโยคนี้และพวกเขาก็รู้สึกว่าลู่เฉินบ้าไปแล้ว
แต่เฉินซานหรี่ตาและลังเลเล็กน้อย
เป็นถึงผู้ช่วยของบ้านเฉินแถมอยู่ในตำแหน่งนี้มาหลายปีความสามารถเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ยังต้องมีความสามรถของวิสัยทัศน์และการตัดสินด้วย
ลู่เฉินมั่นใจมาก ที่เขาไม่สงสัยอะไรในใจก็แปลกแล้ว
ถ้าสิ่งที่ลู่เฉินพูดเป็นความจริง เขารู้จักเจ้าของบ้านจริงๆล่ะ ถ้าเขาก็จะไล่ลู่เฉินออกไป ถึงจะไม่ใช่บ้านเฉินไล่ออกเองก็ตามเฉินกวงซิงไม่สบายใจแน่ๆ
ดังนั้นในขณะนี้เขาลังเลไปเลย
“เจ้าบ้านหวัง วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 70 ปีของคุณนายเฉินฉันไม่อยากทำให้เรื่องมันใหญ่ และยิ่งไม่อยากให้กระทบถึงคุณชายน้อยเพราะฉะนั้นฉันจะไม่เเอาเรื่องคุณ นายคืนเขา100ล้านไปก่อน ที่เหลือค่อยๆคืนที่หลังนะ”
เฉินซานขยิบตาที่วังชิจู และหันไปหาลู่เฉิน: “นี่ครั้งสุดท้าย ถ้านายยังไม่ยอมแพ้อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
ลู่เฉินยิ้มแล้วยิ้มอีก เขารู้ว่ามันไม่ใช่จริงที่หรอกจะขอให้วังซือจูคืนเงิน 600 ล้านหรอก และอีกอย่างเป็นงานเลี้ยงของคุณชายเฉิน เขาก็ไม่อยากให้เฉินกวงซิงขายหน้าใ
จุดประสงค์ของเขาคือให้วังชิจูเขียนเป็นสัญญา ถึงเวลาก็ไปหาที่บ้านได้ง่าย
วังชิจูเข้าใจความหมายของเฉินซานและเขียนสัญญา เขียนก้เขียน ถ้าลู่เฉินไม่ไปที่บ้านของเขาหรอก ถ้าลู่เฉินจะทวงของที่เขาต้องการได้ แค่ลู่เฉินไปบ้านหวัง เขาต้องโดนลู่เฉินจับไว้แน่ๆ
“ไอ่น้อง นายมีปัญหาหรอ” วังชิจูพูดและมองไปที่ลู่เฉิน
“ไม่มีหรอ งั้นก็เขียนเลย” ลู่เฉินยิ้ม
“พ่อ เป็นหนี้เขา 350 ล้านเท่านั้น” ตอนที่วังชิจูเขียน วังซิงได้เตือน
เจ้ามือรู้สึกเจ็บใจ เขานึกว่าวังชิจูมา วังซิงจะปล่อยเขา ไม่คิดเลยว่าวังซิงจะตายถวง 150 ล้านของเขา ทำให้เขาอยากอาเจียนออกมา
ถ้ารู็ว่าวังซิงไร้ประโยนช์ ตีให้ตายก็ไม่ช่วยวังซินพนันหรอก
เขาเสียใจมาก
หลังจากเขียนสัญญาเสร็จแล้วลู่เฉินได้รวบรวมสัญญาและบัตรธนาคารที่วังซิงให้เขาขอให้พนักงานเอาชิปทั้งหมดไปเปลี่ยน
ทุกคนหัวเราะเยาะเมื่อเห็นว่าลู่เฉินทำให้บ้านหวังโกรธ
ลู่เฉินลนหาที่ตายมาก ไม่ช้าก็เร็วเขาจะถูกบ้านหวังกำจัดทิ้งแน่
เงินบ้านหวังไม่ใช่ใครมาขอได้ง่ายๆ
ออกจากคาสิโน โทรศัพท์ของลู่เฉินก็ดังขึ้นเขาหยิบมันออกมาดูว่ามันคือหลินอี้จุน
“ ลู่เฉิน ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?” น้ำเสียงของหลินอี้จุนฟังดูไม่ค่อยดี
“อยู่บ้านเฉิน ฉันมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับคุณชายเฉิน” ลู่เฉินกล่าว เมื่อวานเขาพูดถึงเรื่องนี้กับหลินอี้จุนแล้ว แถมบอกว่าเขาพาเธอมาด้วย แต่หลินอี้จุนไม่ต้องการมาเธอบอกว่าเธอมีลูกค้าต้องมาพบ ลู่เฉินก็เลยไม่บังคับให้เธอมา
“ เงินของคุณอยู่ไหน?” หลินอี้จุนถามอีกครั้ง
“เงินของฉันอยู่ในบัตรของฉัน มีอะไรหรอ คุณต้องการใช้เงินหรอ” ลู่เฉินตอบไปปุ้ปเขาเพิ่งนึกได้ วังซิงน่าจะโทรหาแล้วบอกกับเธอเรื่องที่เขาแพ้ไป 90 ล้านแน่เลย
หลังจากได้ยินลู่เฉินพูด หลินอี้จุนก็วางสายทันที
ลู่เฉินมองโทรศัพท์แล้วหัวเราะแบบงงๆ
เหตุผลที่เขาต้องการ 90 ล้านต่อหน้าวังเสวี่ย ก็คือต้องการให้วังเสวี่ยไม่ขอเงินเขาเพื่อไปพนันอีก
การพนันไม่ใช่เรื่องดี สิบเก้าพนันแพ้ แม้ว่าเขาจะมีการฟังที่ยอดเยี่ยมและสามารถได้ยินเสียงของการทอยลูกเต๋า แต่เขาก็ไม่ได้เป็นนักพนัน ยิ่งไม่อยากพูดถึงการเล่นของวังเสวี่ยเลย
หากวังเสวี่ยยังคงพนันต่อ ลู่เฉินเชื่อว่าในทั้งบ้านหลินอาจจะเสียบ้านหลังสุดท้ายให้กับวังเสวี่ยก็ได้
แพ้จนตาแดง ไม่มีเหตุผลเอาสักเลย
ขณะที่ลู่เฉินกำลังจะวางโทรศัพท์โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ไอ่ลูกเขย นายมาหรือยัง หรือไม่ก็ให้ลูกสาวฉันไปรับ” เฉินกวงซิงถามในโทรศัพท์
“โอ้ ฉันถึงแล้วตอนนี้ฉันอยู่ในห้องนั่งเล่นแห่งนี้” ลู่เฉินพูด
“อืม คุณมาที่สวนว่านโส้ ฉันจะให้ลูกสาวของฉันออกไปรับนาย ตอนนี้ฉันไม่ค่อยสะดวก” เฉินกวงซิงกล่าว
“โอเค” ลู่เฉินวางสายโทรศัพท์ ถามใครบางคนถึงเส้นทางของสวนว่านโส้ ของบ้านเฉิน แล้วเดินไป
เมื่อเขามาถึงประตูสวนว่านโส้ เขาก็ถูกพนักงานเสิร์ฟหยุดไว้
“สวัสดีครับ โปรดแสดงบัตรเชิญของคุณ” บริกรกล่าว
ลู่เฉินผงะ เขาไม่มีบัตรเชิญจากบ้านเฉินเลย ตอนเฉินกวงซิงเชิญเขาในวันนั้นเขาก็ไม่ได้รับบัตรเชิญนิ