พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 101
ทันทีที่สิ้นเสียง ฝ่ามือของหยานฟู่ก็ปล่อยเมฆหมอกสามสีออกมา ในช่วพริบตา เมฆสามสีเหล่านี้ก็กลืนกินเขาเหมือนพายุและหายไปทันที
จั๋วฝานขมวดคิ้วและแค่นเสียง
พลังของวังราชาเม็ดยามาจากพิษ มันไม่มีวิชาที่ปราดเปรียวเหมือนป่าไขว่ฮัวหรือร่างกายไร้เทียมทานอย่างผู้บ่มเพาะกายา
ดังนั้น การป้องกันของพวกเขาจึงถือว่าอ่อนแอสุด
เพื่อกลบจุดอ่อนนี้ เขาจึงซ่อนตัวเองในหมอกพิษทันทีที่โจมตี ทำให้คนกลัวจะเข้าใกล้
แต่มันน่าเสียดายที่วันนี้เจ้ามาพบข้า
แสงเย็นแวบผ่านตาของเขาและเท้าของจั๋วฝานก็ขยับเล็กน้อย ขณะที่เขากำลังจะพุ่งเข้าหมอก ตัดหัวของเด็กนี่ในหนึ่งลมหายใจ เขาก็ต้องหยุดชะงักเท้า และดวงตาก็หันซ้ายขวา
ไม่ ในนั้นคือกับดัก!
เด็กนี่ดูเหมือนจะมาเพื่อแก้แค้นให้เสี่ยวตานตาน แต่จริง ๆ แล้วมาที่นี่เพื่อจดใจทดสอบบิดา ไม่งั้น มันควรเป็นคนจากหมู่ตึกฮัวอวี่ที่มาจัดการให้ศิษย์ มันจะกลายเป็นเจ้าเด็กปากมากนี่ได้ไง?
พอคิดได้แบบนี้ จั๋วฝานก็สูดหายใจลึก สงบสติลงอีกครั้งและความเยือกเย็นก็กลับสู่ดวงตา
มันดูเหมือนว่าเจ้าหมู่ตึกนางนั้นจะยังไม่แน่ใจถึงตัวตนเขา นางจึงส่งเด็กนี่มาหยั่งเชิง ตอนนี้ มันคงมียอดฝีมือระดับนภาหลายคนที่ซุ่มดู
ฮึ่ม ร้ายกาจ!
จั๋วฝานแสยะยิ้มเย็น และถอยหลังอีกครั้ง โดยไม่มีแววตาเดิมอีก
ถ้าเป็นตามที่คาดไว้ งั้นศึกนี้เขาก็ไม่มีทางเอาชนะได้เลยจริง ๆ!
“ฮ่าๆๆ…เจ้าหนู เจ้าอวดดีนักไม่ใช่หรือไง?เข้ามาสู้สิถ้าเจ้ามีความสามารถ!”ตอนนี้เอง เสียงหัวเราะบ้าคลั่งของหยานฟู่ดังจากด้านใน
หนังตาจั๋วฝานกระตุก เ ขาเชิดคางและหัวเราะ”ฮี่ๆๆ…เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไงถึงจะวิ่งเข้าหมอกพิษเจ้าไป?ถ้าเจ้าออกมา ข้าถึงเล่นด้วย ถ้าไม่ก็อยู่ในนั้นไปตลอดเถอะ รอให้พลังปราณของเจ้าหมด ข้าค่อยจัดการกับเจ้าทีหลัง!”
“ฮึ่ม ถ้าเจ้าคิดว่าฝ่ามือเมฆสายรุ้งเป็นแค่วิชาป้องกัน งั้นเจ้าก็ผิดมหันต์!วันนี้ นายน้อยผู้นี้จะแสดงให้เจ้าเห็นว่าวิชายุทธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเป็นเยี่ยงไร!”
ฮะห์!
หยานฟู่แหกปาก และหมอกพิษสามสีก็ยิงออกจากเมฆ บินใส่จั๋วฝานเหมือนแขนสามข้างและความเร็วก็ไม่ด้อยไปกว่าความเร็วของจั๋วฝานเลย
รูม่านตาของเขาหดลง เขาลดหัวและหลบ กระทืบเท้าอย่างแรง จากนั้นก็พุ่งผ่านช่องว่างของหมอกพิษทั้งสาม แต่หมอกพิษกลับเลี้ยวกลับและติดตามเขา
เหมือนกรงเล็บปีศาจสองข้าง มันกำลังจะคว้าจับเขา
“ฮ่าๆๆ เจ้าหนู ดูให้ดี!ฝ่ามือเมฆสายรุ้งของวังราชาเม็ดยาเราเด่นทั้งรุกและรับ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร เจ้าจะต้องตายแน่!”
เสียงหยิ่งยโสของหยานฟู่มาจากหมอกพิษอีกครั้ง และจั๋วฝานก็ขดปาดอย่างดูถูกขณะหลบ
คนคนนี้ที่ใช้พิษทั้งแกร่งและอ่อน ตราบเท่าที่พลังพิษไม่เสื่อม งั้นก็จะไร้เทียมทาน แต่เมื่อพิษสลาย มันก็จะเหมือนตัวขยะ
โดยปกติ ผู้บ่มเพาะระดับเดียวกันจะไม่มีวันฆ่าเจ้าหมอนี่ได้!
ดังนั้น ไม่มีจักรพรรดิโบราณคนใดที่ปกครองด้วยพิษ วังราชาเม็ดยาสามารถเป็นใหญ่ได้ด้วยฝ่ามือพิษนี้ก็เพราะฝ่ามือพิษนี้นั้นยังไม่มีใครคิดหาทางแก้ได้
ฮึ่ม หลังข้าทำลายฝ่ามือพิษของเจ้าและเตะวังราชาเม็ดยาของเจ้าออกจากเจ็ดตระกูลใหญ่ มันจะเป็นเวลาร้องไห้ของเจ้า ตอนนี้ ฮึ่ม ฮึ่ม…ข้าต้องทนไปก่อน!
เขากัดฟันอย่างรุนแรง
แต่ตอนเขาไม่พูดอะไร หยานฟู่ก็คิดว่าจั๋วฝานกลัวเขาหัวหด”เจ้าหนู อย่าคิดว่าเจ้าเหนือกว่าคนธรรมดาแล้วจะรังแกคนของเจ็ดตระกูลใหญ่ได้ ข้าขอบอกเจ้า เจ้าสามารถเมินตระกูลอื่นได้ แต่ถ้าเจ้ายั่วยุวังราชาเม็ดยาเราเมื่อไร เจ้าจะไม่ตายดีแน่!”
แล้วข้าไปยั่วยุวังราชาเม็ดยาของเจ้าตอนไหน?เจ้าเป็นคนริเริ่มเอง!
หลังสูดหายใจลึก จั๋วฝานก็กำหมัดแน่น
เด็กนี่น่าเตะปากเป็นบ้า ต่อให้ข้าต้องแกล้งแพ้ ข้าก็จะต้องสั่งสอนมัน!
พอคิดได้อย่างนี้ จั๋วฝานก็หยุดราวกับเหนื่อยจากการวิ่ง พอเห็นฉากนี้ หยานฟู่ก็อดดีใจไม่ได้และรีบพุ่งเข้าหาจั๋วฝานด้วยหมอกพิษสามสี แดง เหลือง และเขียว
แต่ทว่า ตอนนี้เอง จั๋วฝานกลับหรี่ตาลง และเสียงดังปังก็เกิดขึ้น มันพุ่งผ่านวงล้อมของหมอกพิษเหมือนกระสุนปืนใหญ่ พุ่งใส่ใจกลางหมอกพิษ
รูม่านตาของเขาหดลงและหยานฟู่ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าจั๋วฝานทำอะไร แต่มันสายเกินไป จั๋วฝานได้พุ่งเข้าหมอกพิษ มาถึงตัวเขา คว้าคอเขาและผลักออก
“สารเลว ข้าติดพิษแล้ว วันนี้ข้าจะสู้กับเจ้าจนตัวตาย!”
ตอนนี้เอง ตัวของจั๋วฝานได้ติดพิษอย่างหนัก ใบหน้าของเขาเดี๋ยวแดง เดี๋ยวเหลืองและเขียว เลือดเริ่มไหลออกจมูกกับปาก แต่เขาไม่สนใจ เขาคำราม และยกเข่าขึ้นกระแทกอกของหยานฟู่!
อึก!
เสียงกระดูกหักดังสะท้อนในหูของทุกคน คอของหยานฟู่หวาน เขาพ่นเลือดออกมาเป็นฝอย ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เขาไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนไม่กลัวพิษและกล้าวิ่งเข้ามา
ไม่ว่ามันจะเป็นใคร มันก็ควรลังเลตอนเจอกับหมอกพิษตรงหน้า ในเวลาแค่ 15 นาที หมอกคงหมด แต่ใครจะไปรู้ว่าจั๋วฝานกลับเด็ดขาดจนเลือกใช้กลยุทธ์แบบนี้ เขาไม่กลัวตายเลยหรือไง?
“เจ้ามันบ้า เจ้ามันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ!”
พอเห็นว่าจั๋วฝานติดพิษ เลือดสีแดงกับดำไหลออกจากอวัยวะทั้งเจ็ด หยานฟู่ก็อดกรีดร้องออกมาไม่ได้
จั๋วฝานแสยะยิ้ม”เห้ยเห้ย..ก็ข้ามันบ้านะสิ!ยังไงซะ ข้าก็จะตายอยู่แล้ว ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน และนี่คือการล้างแค้นของข้า!”
ทันทีที่สิ้นเสียง จั๋วฝานก็แทงเข่าใส่หน้าอกของหยานฟู่อีกสามดอก แทบทำลายกระดูกหน้าอกของเขาจนป่นปี้ ความรู้สึกเจ็บปวดวิ่งเข้าไขกระดูกเขา หยานฟู่แทบหมดสติ
แต่ทว่า นี่ยังไม่จบ
ก่อนเขาจะได้พูดอะไร จั๋วฝานก็คว้าหัวเขา และตบมันเป็นสิบฉาด
เพี้ย เพี้ย เพี้ย…
เสียงตบแหลมบาดหูทุกคน ฟันของหยานฟู่กระเด็นหลุดหมดปาก น้ำตาไหลเอ่อในดวงตาเขา แต่เขาไม่มีแรงจะร้องไห้
เพราะความเจ็บปวดนี้มันเจ็บถึงหัวใจ!
เสี่ยวตานตานกับตงเทียนปาได้แต่ยืนตกตะลึง โดยเฉพาะเสี่ยวตานตาน นางอดเอามือปิดปากด้วยความเหลือเชื่อไม่ได้
ตัดสินจากสภาพบาดแผล หยานฟู่นั้นไม่ถึงตาย แต่จั๋วฝานนั้นติดพิษ และพลังชีวิตก็กำลังลดลง เห็นได้ชัดว่าเขาจะตายในไม่ช้า
แต่ตัดสินจากกลิ่นอายของทั้งสอง จั๋วฝานกำลังเล่นงานศัตรูเหมือนผู้ชนะ และตรงกันข้าม หยานฟู่เหมือนไอขี้แพ้ที่กำลังอ้อนวอนขอความเมตตา
มันเป็นแบบนี้ไปได้ไง?
เสี่ยวตานตานมองจั๋วฝานด้วยความรู้สึกผสมปนเปในหัวใจ
เห็นได้ชัดว่าขากำลังจะตาย แต่ก่อนเขาตาย เขายังยืนหยัดเหมือนผู้แข็งแกร่งสุดในโลก นางไม่เคยพบเจอผู้ชายแบบนี้มาก่อน
เป็นเวลาชั่วขณะ หัวใจของนางกระตุกเล็กน้อย หวังให้จั๋วฝานรอด
แต่น่าเสียดาย นางรู้เต็มอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครรอดหลังโดนพิษของวังราชาเม็ดยา เพราะแม้แต่คนของเจ็ดตระกูลใหญ่ก็ยังหวั่นเกรง!
“ฮี่ๆ….ไหนเจ้าบอกว่าวิชายุทธ์ของวังราชาเม็ดยาเจ้าไร้เทียมทาน?เจ้าอยากให้บิดาตายไม่ใช่หรือ?ฮืม วันนี้ข้าจะตายไปกับเจ้า ดูสิว่าเจ้าหรือข้าที่จะตายแบบมีความสุข!”
จั๋วฝานกระชากผมของหยานฟู่ด้วยมือหนึ่ง และตัวของเขาก็สั่นกระตุก เห็นได้ชัดว่าพิษเข้ากระแสเลือดเขาแล้ว และชีวิตก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน แต่เขายังแสดงรอยยิ้มบ้าคลั่ง คว้าหัวผหยานฟู่ และจับฟาดลงกับพื้นอย่างเกรี้ยวกราด
การกระแทกนี้ ต่อให้หยานฟู่ไม่ตาย มันก็คงบาดเจ็บสาหัส!
“หยุดมือ!’
ทันใดนั้น ลมแรงก็พุ่งเข้ามา จั๋วฝานโดนผลักล้มลงกับพื้น และไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก ชายชราชุดเขียวค่อยๆบินโฉบลงตรงหน้าหยานฟู่ ป้อนเม็ดยาให้เขา และมองบาดแผลของเขาก่อนถอนหายใจโล่งอก
จากนั้นเขาก็จ้องมองจั๋วฝานบนพื้นอย่างเกรี้ยวกราด
คนสองคนยืนบนอาคารสูงห่างไปพันเมตร หนึ่งในนั้นคือชายวัยกลางคนไว้หนวดเครา อีกคนคือชายชราผมแดง ทั้งสองมองไปทางจั๋วฝาน แต่กลับเศร้าใจ
‘โอ้ เจ้าเด็กนี่น่าทึ่งจริง ๆ การต่อสู้ที่สิ้นหวังของเด็กนี่ถือเป็นว่าเป็นดาวข่มของวังราชาเม็ดยา!ถ้าอีกหกตระกูลใหญ่ใช้วิธีนี้กับวังราชาเม็ดยา ราชาเม็ดยาอสูรจะยังอวดดีได้อีกหรือ?”ผู้อาวุโสห้าหัวเราะ “ข้าชอบเด็กนั่นจริง ๆ”
หลินจื่อเทียนพยักหน้าเล็กน้อยและถอนหายใจยาวเหยียด”ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมเทียนอวี่ถึงแพ้ ตอนเจอกับคนบ้าแบบนี้ แถมพลังยังไม่ธรรมดา มันคงไม่แปลกที่จะแพ้ แต่จะมีสักกี่คนในโลกที่สามารถเป็นได้แบบเขา ผู้ไม่กลัวความตาย!คนส่วนใหญ่คงคิดหนีเอาชีวิตรอดก่อน และมันคงสายเกินไปที่จะตอบสนอง ดังนั้น วังราชาเม็ดยาจึงยังน่ากลัว”
ผู้อาวุโสห้าพยักหน้าให้หลินจื่อเทียนและบินหายไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงเขาในอากาศ”น่าเสียดาย ชายหนุ่มคนนี้มีร่างกายแข็งแกร่ง ถ้าเขาได้รับการฝึกจากข้า มันจะกลายเป็นสุดยอดอาวุธในอนาคต!แต่ตอนนี้มันโดนพิษของวังราชาเม็ดยาไปแล้ว น่าเสียดาย น่าเสียดาย…”
“ผู้อาวุโสห้า”ครั้งนี้ หลินจื่อเทียนตะโกน”เจ้าหนูนั่น…ไม่ใช่จั๋วฝานหรือ?”
ผู้อาวุโสห้าหยุดชะงัก หันมาเหลือบมองเขา และส่ายหัว”จั๋วฝานเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก ลอบกัดเก่งเหมือนหมาป่า ชั่วร้ายเหมือนงู และดุร้ายเหมือนเสือ!ข้าไม่ได้บอกว่าเด็กนี่ไม่ได้เหมือนเสือ แต่มันยังมีความต่าง ต่อให้เด็กนี่จะไม่กลัวตาย แต่เขาก็ยังห่างไกลจากจั๋วฝานคนนั้น!”
“หลินจื่อเทียน ฟังให้ดี!จั๋วฝานผู้นั้น..น่ากลัวกว่าเด็กนี่นับร้อยเท่า!”เปลือกตาของเขาสั่นโดยไม่รู้ตัวและผู้อาวุโสห้าก็หายตัวไปทันที
หลินจื่อเทียนเป็นคนเดียวที่เหลือ
ผู้อาวุโสห้าอันดับแรกของโหยวหมิงกู่คือเสาหลักของโหยวหมิงกู่ เป็นพลังรบสูงสุด ชายหนุ่มคนนั้นต้องเป็นคนแบบไหนถึงทำให้ห้าผู้อาวุโสหวาดกลัวได้ถึงขนาดนี้…