พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 154 เริ่มงานประมูล
บทที่ 154 เริ่มงานประมูล
เมื่อมองไปยังฉากที่ฉายบนอากาศ ทุกคนต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความตกใจ มีเพียงเสี่ยวเยว่เฟิงและถังชี่หยุนเท่านั้นที่มองหลิงตู้ฉิงด้วยความชื่นชม เพราะมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจว่าการทำแบบนี้ยากเพียงใด
“นายท่าน ดูเหมือนว่างานนี้จะมีคนให้ความสนใจเยอะจริง ๆ” เสี่ยวเยว่เฟิงมองไปที่สถานการณ์บนจอภาพและพูดกับหลิงตู้ฉิง “มีหลายสำนักที่ข้าพอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง ในอาณาเขตทะเลชางหมางนี้ไม่มีสำนักขนาดใหญ่ แม้แต่สำนักบุปผาจันทราก็เพิ่งเป็นสำนักระดับกลางเมื่อไม่กี่ปีก่อน”
“อาณาเขตทะเลชางหมาง?” หลิวเฟ่ยเฟ่ยถามด้วยความประหลาดใจ นางไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับทะเลชางหมางใด ๆ และแม้แต่ลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงก็มองไปที่เสี่ยวเยว่เฟิงด้วยความประหลาดใจ พวกเขาอยากรู้ว่าอาณาเขตทะเลชางหมางคืออะไร
เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้าและอธิบายว่า “แม้ว่าพวกท่านทั้งหมดจะเรียกสถานที่นี้ว่าเป็นทวีปเทียนหยวน แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงเกาะเท่านั้นและเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนภายนอกในชื่อเกาะเทียนหยวน นอกจากเกาะเทียนหยวนแล้วยังมีเกาะอื่น ๆ อีกหลายเกาะ และเกาะเหล่านี้รวมทั้งภูมิภาคทั้งหมดเรียกว่า อาณาเขตทะเลชางหมาง
หลิวเฟ่ยเฟ่ยพูดด้วยความตกใจ “ทวีปใหญ่ขนาดนี้เป็นเพียงเกาะงั้นเหรอ!”
“นั่นเป็นเพราะเจ้ายังไม่เคยเห็นโลกที่กว้างกว่านี้” เสี่ยวเยว่เฟิงพูดอย่างเฉยเมยว่า “ด้วยความสามารถของข้า ข้าสามารถเดินทางไปมารอบเกาะนี้ได้ภายใน 1 วัน แต่ถ้าหากเป็นปีศาจกระทิงเพลิงอเวจีของนายท่านลากรถม้า มันจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วยามในการข้ามเกาะเทียนหยวน โลกภายนอกมันกว้างใหญ่กว่าที่เจ้าคิดมาก แต่ในเมื่อโชคชะตาชีวิตของเจ้าได้มาบรรจบให้พบเจอกับนายท่านแล้ว ในอนาคตเจ้าจะได้เห็นอย่างแน่นอนว่าโลกภายนอกกว้างใหญ่ถึงเพียงไหน”
หลิงตู้ฉิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่พวกเจ้าคิดว่าทวีปนี้มันใหญ่มากเพราะพวกเจ้ายังอ่อนแอ จงฝึกฝนให้มากขึ้น ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่โลกของพวกเจ้าก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น เอาล่ะ รีบสนใจดูการประมูลของตระกูลมี่กัน เดี๋ยวการประมูลเริ่มต้นขึ้นความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นในไม่ช้า”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง ทุกคนจึงหันกลับไปให้ความสนใจกับจอภาพเพื่อดูสถานการณ์ภายในอาคารประมูลตระกูลมี่
ภายในอาคารประมูล มี่ตั้วตั้วกำลังรอให้ทุกคนมาพร้อมกันก่อนที่เขาจะประกาศเริ่มการประมูล ในช่วงเวลานี้เขาได้ทำความเข้าใจกับสำนักต่าง ๆ ถึงมูลค่าของโอสถกำเนิดรากฐานเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่มูลค่าของโอสถกำเนิดรากฐานจะถูกกำหนดโดยหอการค้าของเขา หลิงตู้ฉิงได้บอกเขาไว้ว่า อันที่จริงสูตรโอสถกำเนิดรากฐานนั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย หลังจากที่โอสถตัวนี้ไปอยู่ในมือปรมาจารย์หลอมโอสถคนอื่น ๆ เมื่อนั้นสูตรโอสถกำเนิดรากฐานจะถูกลอกเลียนแบบได้อย่างง่ายดาย และเมื่อถึงเวลานั้นมูลค่าของสูตรโอสถกำเนิดรากฐานจะลดลงเป็นอย่างมากหลังจากที่มันถูกเปิดเผย
และเมื่อทุกคนสามารถหลอมโอสถกำเนิดรากฐานได้ ความได้เปรียบของตระกูลมี่จะหายไปอย่างสมบูรณ์
มี่ตั้วตั้ว ขณะนี้เขามองไปที่แขกทุกคนและยิ้ม “ยินดีต้อนรับสู่การประมูลของตระกูลมี่! ข้าคิดว่าข้าคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย เนื่องจากทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าจุดประสงค์หลักของงานประมูลนี้นั้นจัดขึ้นมาเพื่อเสนอขายโอสถอะไร แต่ไม่ว่าจะยังไงทางหอประมูลของเราเองไม่ได้มีเพียงแค่โอสถนั้นที่จะนำมาแสดง ทางเราเองยังมีสมบัติวิเศษอื่น ๆ ที่น่าสนใจนำมาเสนอให้พวกท่านเช่นกัน”
“ฉะนั้นก่อนอื่นเรามาประมูลสมบัติวิเศษระดับวิญญาณกันก่อน สมบัติชิ้นแรกที่จะขึ้นประมูลในวันนี้ มันพึ่งถูกสร้างได้ไม่นานและมันยังไม่ได้รับแม้แต่การตั้งชื่อ ความสามารถของมันสามารถช่วยให้ผู้ใช้ที่อยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณ ปลดปล่อยพลังของตนเองได้มากขึ้นถึง 10 เท่า หรือแม้ผู้ใช้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราสมบัติชิ้นนี้ก็จะช่วยให้ปลดปล่อยพลังได้มากขึ้นถึง 5 เท่า สมบัติชิ้นนี้จัดอยู่ในสมบัติวิญญาณระดับสูง!”
หลังจากมี่ตั้วตั้วพูดจบ ผู้ช่วยงานประมูลที่ยืนอยู่ด้านข้างมี่ตั้วตั้วในขณะนี้ เขาได้นำกระบี่วิญญาณระดับสูงที่หลิงตู้ฉิงสร้างขึ้นออกมาจากแหวนมิติ เขาเริ่มโคจรพลังวิญญาณลงในมันและเริ่มที่กวัดแกว่งแสดงพลังของมันไปมาบนเวที
“การประมูลของหอการค้าของข้านั้น พวกท่านสามารถใช้เหรียญทองหรือเหรียญคริสตัลที่มีมูลค่าเท่ากันได้ตามที่พวกท่านสะดวก สำหรับราคาเปิดของกระบี่เล่มนี้คือ 50 ล้านเหรียญทองและการเรียกราคาประมูลเพิ่มแต่ละครั้งจะต้องไม่น้อยกว่า 1 ล้านเหรียญทอง!”
ทุกคนที่ได้ยินความสามารถของกระบี่เล่มนี้จากการประกาศของมี่ตั้วตั้ว และได้เห็นพลังของมันด้วยตาตัวเองจากการแสดงโดยผู้ช่วยงานประมูล ในตอนนี้ผู้คนจำนวนมากจากสำนักต่าง ๆ จึงเริ่มแสดงสีหน้าสนใจและเริ่มประมูลเรียกราคาประมูลกันอย่างรวดเร็ว
หลังจากการแข่งราคาประมูลกันอยู่สักพัก ในที่สุด หลี่จือหลิง ก็เป็นผู้ชนะการประมูลในของชิ้นแรก นางได้รับกระบี่วิญญาณเล่มนี้ไป ในตอนแรกที่นางได้ยินความสามารถที่ไม่ธรรมดาของกระบี่เล่มนี้ นางก็เดาได้ทันทีว่าหลิงตู้ฉิงจะต้องเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาให้มี่ตั้วตั้วนำมันมาประมูลแน่นอน ซึ่งเมื่อเดาได้เช่นนี้ นางจึงตั้งใจว่าจะนำมันกลับไปเพื่อให้ปรมาจารย์สร้างสมบัติในสำนักของนางตรวจสอบหาเทคนิคการสร้างมันขึ้นมา
หลังจากที่หลี่จือหลิงจ่ายค่ากระบี่ไปเป็นจำนวนเงิน เหรียญคริสตัล 200 เหรียญ (อัตราแลกเปลี่ยนปกติคือ 1 เหรียญคริสตัล = 500,000 เหรียญทอง) แล้วกระบี่วิญญาณก็ถูกส่งมอบให้กับนาง ส่วนคนอื่น ๆ ยังคงสงบและตั้งใจเก็บเงินไว้เพราะกระบี่เล่มนี้อันที่จริงแล้วไม่ใช่เป้าหมายของพวกเขาในการมางานประมูลในวันนี้ หลังจากได้รับเหรียญคริสตัล มี่ตั้วตั้วนั้นยิ้มออกมาอย่างเบิกบานใจ เหรียญคริสตัลนี้มีมูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญทอง เขาพอใจมากที่ของประมูลชิ้นแรกประมูลได้ในราคาสูงขนาดนี้
สิ่งที่นำมาประมูลชิ้นต่อไปยังคงเป็นสมบัติวิเศษระดับวิญญาณ
แต่ทุกชิ้นต่อ ๆ มาที่นำขึ้นมาประมูลนั้น ราคาเริ่มต้นของพวกมันไม่สูงมากนัก เนื่องจากสมับติเหล่านี้ล้วนถูกจัดหามาโดยมี่ตั้วตั้ว และเป็นสมบัติวิเศษระดับวิญญาณขั้นกลางทั้งหมด
เมื่อเห็นว่าราคาไม่สูงมากนักคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมการประมูลก็เริ่มซื้อสมบัติวิญญาณเหล่านี้เช่นกัน
หลังจากนั้นมี่ตั้วตั้วได้หยิบโอสถประสานดาราคุณภาพสูงสุดออกมา 6 เม็ดและโอสถประสานดาราเหล่านี้เป็นโอสถที่หลิงตู้ฉิงเป็นผู้หลอมขึ้นมา มี่ตั้วตั้วเก็บไว้ 2 เม็ดส่วนที่เหลือทั้งหมดเขาจึงนำพวกมันออกประมูล
มี่ตั้วตั้วชูขวดโอสถคริสตัลโปร่งแสงขึ้นมาสองขวด ซึ่งภายในบรรจุโอสถประสานดาราอยู่ขวดละ 3 เม็ดและตะโกนว่า “ข้าคิดว่าพวกท่านทุกคนคงมีความรู้ในสรรพคุณของโอสถประสานดาราอยู่แล้ว ข้าคงไม่จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับมัน ข้าขอเปิดราคาขายของโอสถที่อยู่ในขวดนี้ทั้งหมดที่ เหรียญคริสตัล 3 เหรียญต่อ 1 ขวด!”
โอสถประสานดาราเป็นสิ่งที่ทุกสำนักต้องการ แล้วยิ่งโอสถที่ถูกนำขึ้นมาประมูลนั้นเป็นถึงโอสถประสานดาราที่มีคุณภาพสูงสุด ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มประมูลทันที
ในเวลานี้ที่ฝั่งของทางด้านของสำนักสวนร้อยพฤกษา ชายชราร่างสูงสวมหน้ากากพูดกับเจียงเต๋อชิง “ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนเราก็ต้องเอามันมาครอบครองให้ได้ 1 ขวด!”
เจียงเต๋อชิงพยักหน้าเล็กน้อยและตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ไม่ต้องกังวล ยังไงรอบนี้พวกเรานำเหรียญคริสตัลมามากพอแน่นอน!”
ในเวลานี้ราคาของโอสถประสานดาราขวดแรกได้เพิ่มขึ้นเป็น 40 เหรียญคริสตัลแล้ว เจียงเต๋อชิ ตะโกนขึ้นแข่งราคาทันที “ 60 เหรียญคริสตัล!”
เขาเพิ่มราคาขึ้นมาอีก 20 เหรียญคริสตัลทันที เพื่อข่มผู้เข้าร่วมประมูลคนอื่น ๆ
เมื่อเห็นเจียงเต๋อชิงเสนอราคาเหรียญคริสตัล 60 เหรียญ คนอื่น ๆ จึงเลิกสู้ราคา เนื่องจากโอสถประสานดาราเหล่านี้ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นโอสถคุณภาพระดับสูงสุด แต่พวกมันก็ไม่ใช่ของที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากที่อื่น
หลังจากจ่ายเงินแล้วโอสถประสานดาราคุณภาพสูงสุดที่อยู่ในขวดแรก 3 เม็ดก็ถูกส่งมายังสำนักสวนร้อยพฤกษาทันที เมื่อชายชราสวมหน้ากากเห็นโอสถประสานดารา เขาก็หยิบมันขึ้นมา 1 เม็ดแล้วหั่นออกเป็นสองซีก แล้วเอาซีกหนึ่งเข้าปากเพื่อลิ้มรส และบดอีกครึ่งหนึ่งให้เป็นผงและเริ่มศึกษามันอย่างละเอียด
มีไม่กี่คนที่สังเกตเห็นการกระทำนี้ เนื่องจากในตอนนี้ผู้คนทั้งหมดในหอประมูลต่างให้ความสนใจกับสถานการณ์ของการประมูล
ยกเว้นบรรดาเด็ก ๆ ที่กำลังมองจอภาพอยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ที่สังเกตเห็นการกระทำของชายชราคนนี้
“ท่านพ่อทำไมชายชราคนนั้นถึงทำลายโอสถประสานดาราที่ซื้อมาในราคาสูงอย่างนั้นล่ะ?” หลิงยี่เทียนถามด้วยความประหลาดใจ
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เขาและยิ้ม “เขากำลังตรวจสอบฤทธิ์ของตัวโอสถและรวมไปถึงส่วนผสมของมัน ดูเหมือนว่าคนจากสำนักนี้จะเตรียมตัวมาดีอยู่เหมือนกัน”
หลิงว่านถิงถามอย่างเป็นห่วง “ท่านพ่อ นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรู้ความลับของท่านในการหลอมโอสถงั้นเหรอ?”
หลิงตู้ฉิงมองไปยังนางและอธิบายอย่างใจเย็น “วิธีการหลอมโอสถประสานดาราของพ่อนั้น เป็นวิธีการหลอมที่แตกต่างจากการหลอมอย่างที่พวกเขามีใช้กันอยู่ในตอนนี้ สูตรขึ้นรูปก็แตกต่างกันออกไป หากเขาต้องการที่จะเข้าใจวิธีของพ่อ เขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็คงประมาณสองถึงสามทศวรรษ แต่ถ้าหากว่าเปลี่ยนจากโอสถประสานดารา เป็น โอสถกำเนิดรากฐาน ขอแค่มีปรมาจารย์หลอมโอสถที่มีความเฉลียวฉลาดแม้เพียงเล็กน้อย ด้วยสูตรของมันที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย มันก็ง่ายมากที่จะถูกลอกเลียนแบบ”