พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 248 การจากลาของถังชี่หยุนและสามี
บทที่ 248 การจากลาของถังชี่หยุนและสามี
ทันทีที่เหล่าเด็ก ๆ ได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงจะไปยังศาลาศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนก็เตรียมตัวพร้อมที่จะไปเช่นกัน
ด้วยสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญมากมายมาล้อมคฤหาสน์สราญรมย์เพราะต้องการชิงตัวโจวจื่อซิน บรรดาเด็ก ๆ จึงไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระมานาน เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพวกเขากำลังจะได้ไปศาลาศักดิ์สิทธิ์พวกเขาก็รู้สึกกระชุ่มกระชวย
ในเวลาเดียวกันกับที่หลิงตู้ฉิงพูดจบ ถังชี่หยุนและหมิงเทียนลี่ก็เดินออกมาและพูดกับ หลิงตู้ฉิงว่า “ท่านหลิง ในพริบตาเราอยู่ที่นี่มา 6 ปีแล้ว เราทำสิ่งที่ต้องทำสำเร็จแล้ว 2-3 ปีที่ผ่านมาเราได้สอนถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้ออกไปจนหมด ตอนนี้พวกเราคิดว่ามันคงถึงเวลาที่ต้องจากลาแล้ว”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ถังชี่หยุนและหมิงเทียนลี่แล้วพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
“ท่านพ่อกับท่านแม่กำลังจะจากไปแล้วเหรอ?” หมิงจู้พูดด้วยสีหน้ากังวล
แม้ว่านางจะรู้อยู่แก่ใจนานแล้วว่าพ่อแม่ของนางจะต้องจากไป แต่นางก็ไม่คิดว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วเช่นนี้
ถังชี่หยุนยิ้มและพูดว่า “พี่ชายของเจ้าแต่งงานไปนานแล้ว และเจ้าเองก็แต่งงานกับยู่ชานแล้ว ในฐานะพ่อแม่ของพวกเจ้าเราได้ทำหน้าที่ของเราไปแล้ว ต่อไปจงเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง พ่อกับแม่ก็ต้องค้นหาเส้นทางของเราเช่นกัน”
“แต่…” หมิงจู่รีบพูด “อยู่ต่ออีกสักวันสองวันได้ไหม ข้าจะได้รับใช้พวกท่านให้เป็นอย่างดีเป็นครั้งสุดท้าย!”
หมิงเทียนลี่ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องแยกกันแล้ว เจ้าได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญูแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกต่อไป”
“แต่… แต่…” หมิงจู้ไม่รู้จะพูดอะไร
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “หมิงจู้ปล่อยพ่อแม่ของเจ้าไปเถอะ!”
“พวกเจ้าทำงานหนักเพื่อคนในตระกูลของข้ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ข้าจะให้รางวัลแก่เจ้า” พูดจบ หลิงตู้ฉิงวาดมือของเขาขึ้นในอากาศ และสัญญาที่เขาได้ลงนามกับถังชี่หยุนก็ปรากฏขึ้นเป็นตัวอักษรสีทองมากมายลอยอยู่ตรงหน้า
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ถังชี่หยุนและพูดว่า “เจ้าควรรู้ว่ามีข้อสัญญาบางอย่างที่เจ้าได้ละเมิดไปบ้างแล้ว”
ถังชี่หยุนพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ ตามสัญญาที่นางลงชื่อไว้นางได้ละเมิดกฎไปบางข้อ
จากนั้น…
ในสัญญา หัวข้อประโยคต่าง ๆ ที่ถังชี่หยุนละเมิดได้ถูกลบหายไปเหมือนควันในอากาศ ส่วนอักษรที่เหลือก็สลายหายกลายเป็นหมอกสีทองลอยไปเข้าสู่ร่างกายของนาง
“ขอบคุณ ท่านหลิง!” ถังชี่หยุนโค้งคำนับ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เป็นไร อันที่จริงแล้วข้าก็ได้รับประโยชน์มากมายจากเจ้าเช่นกัน เอาล่ะ! เมื่อพวกเจ้าพร้อมแล้วก็ไปเถอะ!”
หมิงจู้พยักหน้าและพูดด้วยสีหน้าอาลัย “ท่านพ่อท่านแม่ ข้าจะไปส่งพวกท่าน!”
“ท่านพ่อตาแม่ยาย ข้าจะไปส่งท่านด้วย!” หลิงยู่ชานพูด
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ แต่พวกเขาก็ได้กราบไหว้ต่อหมิงเทียนลี่และ ถังชี่หยุนแล้ว การเรียกพวกเขาว่าพ่อตาและแม่ยายจึงไม่เป็นการผิดประเพณีแต่อย่างใด
“ครูถัง ครูหมิง เราจะไปส่งพวกท่านด้วย!” เด็ก ๆ ทุกคนต่างก็พูดขึ้นเช่นกัน
ถังชี่หยุนและหมิงเทียนลี่พยักหน้าด้วยความพอใจและเดินออกจากคฤหาสน์สราญรมย์
จ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อเองก็กำลังจะไปส่งพวกเขาด้วย แต่ถูกหลิงตู้ฉิงหยุดไว้
“พวกเขาสามารถไปส่งได้ แต่พวกเจ้านั้นไม่ควร ดังนั้นจงอย่าไปเลย!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น
“สามี?” จ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ มองไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างอยากรู้อยากเห็น
หลิงตู้ฉิงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและพูดว่า “ปล่อยให้พวกเขาไปกันเองเถอะ หมิงเทียนลี่กำลังจะตาย หากเขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่เขาก็คงจะตายไปนานแล้ว พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องไปห่วงอะไรกับเขา พวกเจ้าควรใช้เวลาว่างฝึกฝนให้หนักจะดีกว่า เพราะบางทีวันหนึ่งข้าอาจจะต้องจากไปเช่นกัน”
“สามีจะไปเหมือนกันเหรอ?” บรรดาภรรยาของเขาต่างตกใจ ตอนนี้พวกนางไม่สนใจเรื่องของถังชี่หยุนอีกแล้ว แต่พวกนางมุ่งความสนใจมาที่หลิงตู้ฉิงแทน
“สามี ในอนาคตพวกเราทั้งครอบครัวจะไปกันที่ไหนงั้นเหรอ?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ไม่ใช่ พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องอยู่ที่นี่ ส่วนข้าจะไปที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้บรรดาภรรยาของเขาก็เริ่มกังวล จากนั้นพวกนางก็ถามเกี่ยวกับเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับทีละคน
อีกด้านหนึ่งภายใต้การคุ้มกันของเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่หลิงตู้ฉิงสั่งให้ติดตามมา เหล่าเด็ก ๆ ก็ได้มาส่งถังชี่หยุนและหมิงเทียนลี่จนถึงชายแดนอาณาจักรจันทรา
“เอาล่ะ พวกเจ้ากลับได้แล้ว!” ถังชี่หยุนหัวเราะ
หมิงเทียนลี่มองไปที่หมิงจู้อย่างลึกซึ้งและยิ้ม “หมิงจู้ พ่อหวังว่าเจ้าจะมีอนาคตที่ดีสืบต่อไป”
“ข้าเข้าใจแล้วท่านพ่อ…” หมิงจู้ตอบขณะจับแขนของหลิงยู่ชานด้วยความเศร้า
“ครูถัง ครูหมิง ข้าจะออกคำสั่งให้ลูกชายของท่านถูกนำตัวกลับมาที่เมืองหลวงทันที ข้าให้สัญญาว่าข้าจะไม่ละเลยเขาแน่นอน” หลิงยี่เทียนตะโกน
“ขอบพระทัย ฝ่าบาท” ถังชี่หยุนและหมิงเทียนลี่โค้งคำนับแล้วจากไป
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาได้ยกระดับการบ่มเพาะขึ้นสู่ระดับสูงของขอบเขตประสานทะเลปราณ คนธรรมดาไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้
เมื่อเห็นพวกเขาสองคนลับตาไปจนมองไม่เห็น ในที่สุดเหล่าเด็ก ๆ ก็กลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์
“พี่สะใภ้ ข้าจะส่งคนไปเรียกพี่ชายของท่านกลับมาตอนนี้เลย เขาจะได้เข้าเรียนที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์เพื่อฝึกฝนอย่างถูกต้อง ในอนาคตข้าจะทำให้เขาเป็นบุคคลสำคัญในอาณาจักร” หลิงยี่เทียนสัญญากับหมิงจู้
หมิงจู้พยักหน้า “ขอบคุณน้องหก!”
จากนั้นนางและหลิงยู่ชานก็กลับไปที่เรือนของพวกเขา สักพักนางก็มองไปที่หลิงยู่ชานและพูดว่า “ยู่ชาน อีกเพียงไม่กี่เดือนเจ้าก็จะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว จากวันที่เจ้าหมั้นกับข้า ในพริบตามันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ข้าคิดว่าเราควรจะ…”
หลิงยู่ชานมองไปที่หมิงจู้อย่างไม่สบายใจและพูดว่า “ไว้ข้าขอความเห็นจากท่านพ่อก่อนก็แล้วกัน”
หมิงจู่รีบดึงหลิงยู่ชานกลับมาและกระซิบ “นี่เจ้า…ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องไปถามลุงหลิงกัน?”
หลิงยู่ชานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องสำคัญแบบนี้ข้าต้องรายงานให้ท่านพ่อทราบก่อนสิ แต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงท่านพ่อของเข้าคงจะไม่ว่าอะไรหรอก!”
หมิงจู้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย นางต้องถามคำถามพ่อของนางเช่นนี้ด้วยหรือไม่?
อย่างไรก็ตามนางนึกถึงวิธีที่หลิงตู้ฉิงเลี้ยงดูหลิงยู่ชานตั้งแต่เขายังเด็ก นางก็เข้าใจได้ว่าทำไมหลิงยู่ชานถึงอยากปรึกษาหลิงตู้ฉิง แม้ว่านางจะขี้อายและไม่เต็มใจ แต่นางก็ยังปล่อยให้หลิงยู่ชานไปถามหลิงตู้ฉิง
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง ตอนนี้เริ่มจะเกิดความวุ่นวาย
หลังจากได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงจะจากไปในอนาคต เหล่าภรรยาก็ขอไปกับเขา ไม่มีใครสามารถชักชวนให้เขาอยู่ต่อที่นี่ได้ ดังนั้นทุกคนจึงพยายามขอติดตามเขาไป
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างหมดหนทาง “ไปคราวนี้ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่กลับมาสักหน่อย อีกอย่างข้าแค่บอกให้พวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อมกันไว้ก่อนก็แค่นั้นและข้าก็ยังไม่ได้จากไปซะตั้งแต่ตอนนี้ซะเมื่อไหร่กัน กว่าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับจะเปิดออกยังคงห่างไปอีก 48 ปี ส่วนระยะเวลาในการเดินทางไปถึงที่นั่นก็คงใช้เวลาราว ๆ 15 ปี ดังนั้นเรายังคงมีเวลาเหลือที่จะอยู่ด้วยกันอีกอย่างน้อยก็อีกประมาณสัก 20 ปีกว่าข้าจะออกเดินทาง ถ้าจะให้พูดสรุปเลยก็คือข้าจะไม่อยู่ที่นี่แค่ 28 ปี ทำไมพวกเจ้าถึงร้อนรนขนาดนี้? เอาล่ะ ยู่ชานกำลังมาหาข้าแล้ว ให้ข้าถามเขาก่อนว่าเขามีอะไรจะพูดกับข้า”
ตอนนี้หลิงตู้ฉิงประสบกับความยุ่งยากจากการฝึกฝนเต๋าตู้ฉิงอีกครั้ง เนื่องจากเขาพึ่งรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถมีชีวิตที่เป็นอิสระเหมือนชีวิตชาติก่อนที่ถ้าหากเขาอยากจะไปที่ไหนเขาก็สามารถไปได้ทุก ๆ ที่ที่อยากไปโดยไม่จำเป็นต้องสนใจใคร
เมื่อบรรดาสาว ๆ ได้ยินว่ายังเหลือเวลาอีกหลายปี พวกนางก็สงบลง หลังจากนั้นทุกคนก็นั่งอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางจริงจัง รอฟังคำถามของหลิงยู่ชาน
เมื่อได้ยินคำขอของหลิงยู่ชาน หลิงตู้ฉิงก็ยิ้มและพูดว่า “จริง ๆ แล้วตอนที่พ่อรับเจ้ามาเป็นบุตรบุญธรรม พ่อก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเจ้าอายุเท่าไหร่กันแน่ ดังนั้นเจ้าอาจจะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้ หากพวกเจ้าทั้งสองต้องการนอนห้องเดียวกัน ข้าจะสอนวิธีบ่มเพาะด้วยการผสมผสานระหว่างหยินและหยางให้เจ้าเอง เหมิงลู่! พวกเจ้าก็พากันไปสอนหมิงจู้เถอะ”