พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 36 บ่มเพาะด้วยยาพิษ[รีไรท์]
บทที่ 36 บ่มเพาะด้วยยาพิษ[รีไรท์]
คำพูดของเจี้ยนหนีฉาง ทำให้ทุกคนตกใจ
งานเลี้ยงของตระกูลที่น่าจะเต็มไปด้วยความชื่นมื่น แต่กลับมีคนวางยาพิษในอาหาร
พวกนักฆ่าต้องการกำจัดพวกเขาทั้งหมดไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กตัวเล็ก ๆ?
มี่ไลพูดอย่างเยือกเย็น “นายท่าน ข้าจะสั่งให้คนปิดผนึกภัตตาคารแห่งนี้และค้นหาคนที่วางยาพวกเรา!”
หลิงตู้ฉิงพูด “จริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับภัตตาคารแห่งนี้หรอก มันเป็นฝีมือของนักฆ่าที่หนีรอดไปได้เมื่อครู่น่ะ ข้าสัมผัสได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในระแวกนี้นี่แหละ”
ไร้เงาพูดอย่างหดหู่ “นายท่าน ทำไมข้าสัมผัสอะไรไม่ได้เลย ท่านช่วยบอกข้าได้ไหมว่ามันอยู่ที่ไหน ข้าจะไปฆ่ามันทันที”
ในฐานะที่เป็นนักฆ่า การเปลี่ยนบทบาทของไร้เงาจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่า ไร้เงาย่อมมีความรู้สึกที่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย
หลิงตู้ฉิงตอบ “มันอยู่ห่างไปประมาณ 200 ก้าว ทันทีที่เจ้าเริ่มเคลื่อนไหวมันก็จะหนีไป”
อันที่จริงหลิงตู้ฉิงยังไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้ว่านักฆ่าอยู่ที่ไหน แต่เขาสามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายสังหารลาง ๆ ที่นักฆ่าปล่อยออกมา แน่นอนว่าถ้าเขาต้องการตามล่านักฆ่าจริง ๆ ด้วยความแข็งแกร่งของเขานี้ย่อมไม่มีปัญหาอะไร แต่เขาไม่สามารถทำได้เนื่องจากเขาจำเป็นต้องปกป้องบรรดาลูก ๆ ของเขาที่อยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ดังนั้นการไล่ล่านี้เขาจึงต้องฝากความหวังไว้ที่ไร้เงาและพวกผู้คุ้มกันเท่านั้น
เมื่อไร้เงาได้ยินว่านักฆ่าอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 ก้าวเขาก็เงียบลงทันที ระยะการตรวจจับที่ไกลขนาดนั้นมันเกินความสามารถที่เขาจะรับรู้ไปแล้ว
เจี้ยนหนีฉางหยิบยาแก้พิษออกมาและมอบให้กับทุกคน “พิษที่อยู่ในอาหารเหล่านี้เรียกว่าโรสมาร์เวล มันมีผลทำให้ประสาทหลอน ข้าคิดว่าเป้าหมายของนักฆ่าคนนี้คงยังไม่ได้คิดที่จะฆ่าพวกเราในทันที ตราบใดที่ทุกคนใช้ยาแก้พิษของข้าทุกคนก็จะปลอดภัย”
จู้กว่างเต๋อ และคนอื่น ๆ ที่มาจากตระกูลมี่ กินยาแก้พิษทันทีเนื่องจากไว้วางใจในเจี้ยนหนีฉาง
แต่สำหรับคนของหลิงตู้ฉิง พวกเขายังไม่ได้กินยาแก้พิษที่เจี้ยนหนีฉางให้มา พวกเขาต่างพากันมองไปทางหลิงตู้ฉิง
เมื่อเทียบกับการเชื่อในคำพูดของผู้เชี่ยวชาญพิษที่พวกเขาพึ่งรู้จัก พวกเขาเลือกที่จะเชื่อในหลิงตู้ฉิงมากกว่า พวกเขาจะกินยาเมื่อหลิงตู้ฉิงบอกให้กินเท่านั้น
ในเวลานี้หลิงตู้ฉิงทำสีหน้าแปลก ๆ ขณะที่เขาถามเจี้ยนหนีฉาง “ในเมืองนี้เจ้ามีชื่อเสียงขนาดไหน?”
เจี้ยนหนีฉางหัวเราะ “นายท่าน แม้ว่าข้าจะไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงที่สุด แต่คนส่วนใหญ่ก็รู้จักข้า”
“เช่นนั้นเมื่อมีคนรู้จักเจ้าเยอะ ก็แสดงว่าศัตรูก็ต้องรู้ถึงตัวตนของเจ้าด้วยว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง แล้วทำไมเจ้าถึงคิดว่ายาแก้พิษของเจ้าจะสามารถใช้แก้พิษในอาหารเหล่านี้ได้?” หลิงตู้ฉิงถาม
ผู้เชี่ยวชาญพิษตอบอย่างมั่นใจว่า “เพราะมันเป็นแค่เพียงพิษโรสมาร์เวล ข้ารับประกันได้ว่ายาแก้พิษของข้าสามารถล้างผลของมันได้แน่นอน!”
“แล้วถ้ามันไม่ได้มีแค่พิษโรสมาร์เวลในจานล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีพิษอื่น ๆ ผสมอยู่ในอาหารอีก” หลิงตู้ฉิงถามต่อไป
เจี้ยนหนีฉางขมวดคิ้วขณะมองดูจานอาหารบนโต๊ะ นางไม่ทันได้คิดว่าอาจจะพบพิษอื่น ๆ ในอาหารอีก
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “นี่เจ้าไม่เข้าใจหลักการของการใช้พิษเลย ว่าควรใช้พิษอย่างไร”
เจี้ยนหนีฉางไม่เต็มใจที่จะยอมรับ “แล้วนายท่านคิดว่าหลักการของการใช้พิษที่ถูกต้องเป็นอย่างไร”
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างชัดเจนว่า “เห็นได้ชัดว่าคนที่วางยาพิษรู้จักตัวตนเจ้าและวางกับดักไว้ ถ้าเจ้าไม่ใช้ยาแก้พิษ เจ้าอาจจะไม่เป็นอะไรเลยอย่างน้อย ๆ ก็ตอนนี้ แต่ถ้าเจ้าใช้ยาแก้พิษล่ะก็…เจ้าจะตายอย่างไม่ต้องสงสัย! แต่ถ้าหากเจ้าไม่เชื่อข้า ลองพนันกันก็ได้ เจ้ากินยาแก้พิษของเจ้าได้เลย เสร็จแล้วก็ลองกินอาหารไปสักอย่างนึงดู!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิงทุกคนมองไปที่เจี้ยนหนีฉาง
สำหรับหลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้กินยาแก้พิษ พวกเขากำยาแก้พิษไว้แน่น พวกเขาเริ่มสับสนว่าควรจะกินดีหรือไม่ควรจะกินดี
แต่สำหรับจู้กว่างเต๋อ และคนอื่น ๆ ที่กินยาแก้พิษไปแล้วพวกเขาเริ่มสับสนไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใครดี
เจี้ยนหนีฉางรู้สึกขุ่นเคืองในใจ นางอยากจะพูดว่า ‘ถึงแม้ว่าท่านจะเก่งเรื่องหมากรุกแต่เมื่อพูดถึงการใช้พิษท่านจะเก่งไปกว่าข้าได้ยังไง ข้าศึกษาเกี่ยวกับพิษมาตลอดเป็นระยะเวลากว่าหลายสิบปี เรื่องพิษแค่นี้นางไม่มีทางพลาดแน่นอน!’
นางเชื่อมั่นว่าตัวเองคิดถูก ดังนั้นนางจึงหยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกินจานที่มีพิษโรสมาร์เวล
หลังจากเคี้ยว ๆๆ และกลืนอาหารลงกระเพาะ นางมองไปยังหลิงตู้ฉิงด้วยความมั่นใจและเอ่ยว่า “นายท่าน ข้าสบายดี!”
มีอยู่สิ่งหนึ่งที่นางไม่ได้พูดนั่นก็คือ ‘เห็นไหมว่าท่านคิดผิด’
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตระกูลมี่เลี้ยงดูนางมาเป็นอย่างดี นางจึงให้ความเคารพต่อตระกูลมี่เป็นอย่างมาก ตอนนี้ตระกูลมี่มอบหมายให้นางทำตามคำสั่งของหลิงตู้ฉิง นางจึงไม่อยากจะมีประเด็นขัดแย้งอะไรกับหลิงตู้ฉิงให้มันมากมาย
หลิงตู้ฉิงพูดพร้อมกับยิ้มว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าสบายดี มา เจ้ามากินปลากระพงนี้ต่อหน้าทุกคน และตามด้วยดอกเบญจมาศเขียวทอดกรอบ”
เจี้ยนหนีฉางกินตามคำแนะนำของหลิงตู้ฉิงทีละนิด ในเวลาเดียวกันนางก็พูดอย่างภูมิใจ “นายท่าน ข้ายังคงสบายดี!”
หลิงตู้ฉิงยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยและพูดว่า “หลังจากกินอาหารมาเยอะแล้วเรามาดื่มซุปกัน! ซุปเต่ากระดองหนามนี้ได้เคี่ยวมาอย่างดี ยังอุ่นและอร่อยเหมาะสำหรับล้างกระเพาะ”
“แน่นอน!” ผู้เชี่ยวชาญพิษพูดอย่างเอาชนะ
นางหยิบช้อนขึ้นมาตักซุปเต่าแล้วกินขณะที่มันยังร้อนอยู่
“นายท่าน ข้ายังคงสบาย ด ดิ…” เจี้ยนหนีฉางเพิ่งพูดว่านางสบายดี แต่แล้วก็เปล่งเสียงกรีดร้อง เลือดสด ๆ ไหลออกมาจากปากของนาง
ในเวลานี้นางรู้สึกราวกับว่าท้องของนางถูกตัดเป็นพัน ๆ ชิ้น ตับและลำไส้ของนางคล้ายกับกำลังถูกลวก ภายในร่างของนางร้อนราวกับถูกไฟเผา
มือของนางสั่น นางหยิบเม็ดยาล้างพิษชนิดอื่นออกมาจากแหวนมิติและเริ่มกินพวกมัน
หลิงตู้ฉิงตะโกนว่า “ยิ่งกินยาแก้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้นนะ”
“นายท่านโปรดช่วยนางด้วย!” มี่ไลรีบอ้อนวอนให้หลิงตู้ฉิงช่วย
“นายท่านโปรดช่วยข้าด้วย! ข้าผิดไปแล้ว!” เจี้ยนหนีฉางตัวสั่นขณะที่พูดอย่างรีบเร่ง จู้กว่างเต๋อและคนอื่น ๆ ต่างก็เหงื่อแตกพลั่ก ถ้าพวกเขากินเหมือนเจี้ยนหนีฉาง พวกเขาคงจะต้องมีสภาพไม่ต่างอะไรกับนางแน่นอน
หลิงตู้ฉิงมองไปยังพวกจู้กว่างเต๋อ และคนอื่น ๆ ที่กินยาแก้พิษเข้าแล้ว และเอ่ยขึ้นมา “แล้วทำไมพวกเจ้าถึงไม่กินตามนาง? พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าไม่ถูกพิษงั้นเหรอ? การที่พวกเจ้าได้สูดกลิ่นของอาหารที่มีพิษพวกนี้เข้าไปพร้อมกับกินยาแก้พิษของนาง นั่นหมายความว่าพวกเจ้าได้ถูกพิษไปเรียบร้อยแล้ว”
“ถ้าพวกเจ้าไม่อยากตาย พวกเจ้าจงรีบแล้วกินอาหารตามขั้นตอนที่ข้าสั่งให้นางกิน และแน่นอนความเจ็บปวดที่พวกเจ้าจะได้รับย่อมไม่น้อยไปกว่านาง ความเจ็บปวดในครั้งนี้ที่พวกเจ้าได้รับ ให้คิดซะว่าเป็นเครื่องเตือนใจ ในความผิดที่พวกเจ้าไม่เชื่อฟังข้า!!”
เจี้ยนหนีฉางเริ่มกินอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ส่วนจู้กว่างเต๋อ และคนอื่น ๆ ก็เริ่มกินตามด้วยความกลัว
พวกเขากินอาหารมื้อนี้ด้วยความเจ็บปวด
หลิงตู้ฉิงคร้านที่จะมองใบหน้าที่ชวนสังเวชเหล่านั้น เขาหันหลังกลับและพูดกับหลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ ว่า “กินไปเถอะ ไม่ต้องกลัว กินตามที่พ่อบอกให้กิน แม้ว่าพวกเจ้าจะได้รับพิษเข้าไป พ่อก็สามารถรักษาให้พวกเจ้าได้ทุกคน พ่อรับประกันว่าพวกเจ้าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับพวกเขาหรอก”
เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบเขาถอดตะเกียบออก
สำหรับคนของหลิงคู้ฉิงที่เหลือพวกเขาก็เริ่มกินตามคำสั่งของหลิงตู้ฉิง
พวกเขากินอย่างเพลิดเพลิน
ในห้องขนาดใหญ่ ด้านหนึ่งกลายเป็นสวรรค์ในขณะที่อีกด้านหนึ่งกลายเป็นนรก พวกเขาด้านหนึ่งกำลังรับประทานอาหารด้วยท่าทางที่มีความสุข ในขณะที่อีกด้านหนึ่งรู้สึกเคี่ยวกรำไปด้วยความเจ็บปวดจากการกิน
แต่แล้วใบหน้าของกลุ่มคนที่ทานอาหารด้วยความเจ็บปวดนั้นค่อย ๆ สงบลงและพลังวิญญาณเริ่มพุ่งออกจากร่างกาย ระดับการบ่มเพาะของพวกเขากำลังเริ่มเพิ่มขึ้น!
“นายท่าน ดูเหมือว่าระดับของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้นแล้ว” โม่หยูถังพูดขึ้น
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “นี่คือรางวัลสำหรับความเจ็บปวดของพวกเขา”