พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 404 ความผิดหวังของหลิงเทียนหยุน
ในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็ได้นำหลิงเทียนหยุนมาถึงดาวแห่งพงไพร
ซึ่งแน่นอนว่าตามธรรมชาติแล้วดาวแห่งพงไพรย่อมเป็นสถานที่ที่มี มหาวิถีแห่งพงไพร มันมีวัสดุที่เป็นไม้ล้ำค่ามากมาย ซึ่งวัสดุเหล่านี้มันก็สามารถพบได้ทั่วไปในโลกภายนอกเช่นกัน แต่มันก็คงจะต้องใช้เวลาและความพยายามเป็นอย่างมากหากจะหามันให้ครบทุกชนิดได้แบบที่มีอยู่บนดาวดวงนี้หากออกไปยังโลกภายนอก เนื่องจากไม้แต่ละประเภทก็อยู่ต่างอาณาเขตกันไป
ตอนนี้ไม้แทบทุกชนิดได้อยู่รวมกันบนดาวแห่งพงไพรเรียบร้อยแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่หลิงตู้ฉิงต้องทำก็มีแค่สร้างเตาหลอมขึ้นมาใหม่แล้วรวบรวมไม้เหล่านี้เพื่อหลอมโอสถวิญญาณไม้ออกมา
หลังจากใช้เวลาถึง 7 เดือนในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็รวบรวมไม้ที่เขาต้องการทั้งหมดได้จนครบ จากนั้นเขาก็เริ่มหลอมโอสถวิญญาณไม้ทันที
และถึงแม้ว่าจะมีคนมารบกวนเขาตอนที่เขากำลังหลอมโอสถ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาสักเท่าไหร่
หลังจากที่หลิงตู้ฉิงหลอมโอสถวิญญาณไม้เสร็จ เขาก็กินมันทันทีและร่างของเขาก็กลายเป็นร่างวิญญาณไม้
หลังจากที่ร่างของเขากลายเป็นร่างวิญญาณไม้ มันก็ส่งผลให้พลังธาตุไม้แผ่ออกมาจากร่างกายของหลิงตู้ฉิงทำให้ต้นไม้ทั้งหมดบนดวงดาวเติบโตอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งแม้แต่ร่างกายของหลิงตู้ฉิงเองก็เริ่มที่จะบวมขึ้นด้วยเช่นกัน ราวกับว่าดาวดวงนี้ตอบแทนเขาด้วยการส่งพลังชีวิตเข้าไปในร่างของเขา
สถานการณ์นี้กินเวลานานกว่า 1 เดือนก่อนที่จะสงบลง
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงก็พาหลิงเทียนหยุนไปที่ดาวที่เต็มไปด้วยเต๋าแห่งปฐพีโดยไม่หยุดพัก หลังจากหลอมโอสถวิญญาณปฐพี และเปลี่ยนร่างกายของเขาให้เป็น ร่างวิญญาณปฐพี จากนั้นเขาก็ไปที่ดาวทองคำ จนในท้ายที่สุดหลังจากผ่านไปเกือบ 2 ปีในที่สุดเป้าหมายของหลิงตู้ฉิงก็บรรลุผล ในตอนนี้ร่างของเขาได้กลายเป็น ร่างเบญจธาตุ อย่างสมบูรณ์แบบตามที่เขาตั้งเป้าไว้
“ท่านพ่อ ท่านทำสำเร็จแล้วรึเปล่า?” หลิงเทียนหยุนถามขึ้น
เขาเฝ้าสังเกตจากด้านข้างตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับร่างกายของพ่อของเขา
“แน่นอนว่าพ่อทำสำเร็จ!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ
“แล้วมันมีผลอย่างไร?” หลิงเทียนหยุนถามอย่างสงสัย
หลิงตู้ฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าอธิบายสั้น ๆ ก็คือ ร่างกายของพ่อจะแข็งแกร่งกว่าเดิมหลายสิบเท่า นอกเหนือจากนั้น เนื่องจากในร่างของพ่อมีรูปแบบของธาตุทั้งห้าอยู่ภายใน ดังนั้นวิชาและการโจมตีธรรมดาของธาตุทั้งห้าจะไม่มีผลกับพ่อ”
หลิงเทียนหยุนพูดอย่างมีความสุข “แล้วถ้าเป็นการโจมตีด้วยกฎของพลังแบบต่าง ๆ ล่ะ?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ถ้าเป็นพลังแห่งกฎพ่อคงจะรับการโจมตีของมันโดยตรงไม่ได้ ร่างของพ่อในตอนนี้แค่สามารถป้องกันธาตุทั้งห้าได้เท่านั้น หากต้องปะทะกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ขึ้นไปพ่อคงยังไม่สามารถใช้ร่างกายเข้าปะทะได้เพียงอย่างเดียว”
แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็ค่อนข้างพอใจ ในอดีตเขาสามารถป้องกันการโจมตีทางจิตได้เท่านั้น เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีและมนต์ต่าง ๆ โดยตรง เขาจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการหลบหลีก
แม้ว่าเข้าจะมีวิธีการมากมายที่ทรงพลัง แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาก็ยังอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณเท่านั้น
แต่ในเมื่อตอนนี้เขาสำเร็จร่างเบญจธาตุเรียบร้อยแล้วมันก็หมายถึงว่าความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งอย่างน้อย ๆ ก็สำหรับตอนนี้
หลิงเทียนหยุนหัวเราะ “อย่างน้อย ๆ ท่านพ่อก็แข็งแกร่งขึ้นล่ะนะ! แต่ว่าท่านพ่อ เมื่อครู่ข้าได้คำนวณอย่างรอบคอบแล้วว่าเวลาที่เราอยู่ที่นี่ถูกใช้ไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เราเหลือเวลาอีกเพียง 1,400 วัน ถ้าเราจะทำอะไร เราต้องทำมันให้เสร็จโดยเร็ว”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “อืม ไม่เป็นไร พ่อเองก็ได้คำนวณเวลาไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเวลาที่เหลืออยู่มันจะเพียงพออย่างแน่นอน”
หลิงเทียนหยุนพยักหน้าและมองไปที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เขาถอนหายใจและพูดว่า “ที่นี่ช่างมีวัสดุล้ำค่ามากมายนัก ถ้าข้าสามารถนำกลับไปให้พี่น้องคนอื่น ๆ ได้ พวกเขาคงบ่มเพาะได้เร็วกว่าเดิมมาก”
หากไม่มีแหวนมิติ เขาจะเก็บอะไรออกไปได้สักเท่าไหร่?
หลิงตู้ฉิงพูดด้วยสีหน้าหนักใจ “เมื่อถึงเวลาพ่อจะสร้างกระเป๋า จากนั้นเราค่อยมาดูกันว่ามันมีของสิ่งไหนที่จำเป็นจริง ๆ ที่มีค่าพอที่เราจะเอาออกไปได้บ้าง”
แม้กระทั่งหลิงตู้ฉิงเองก็ไม่กล้าที่จะนำสิ่งของที่ใหญ่เกินไป ผ่านเข้าไปในห้วงมิติที่เชื่อมต่อกับภายนอกของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
แต่แน่นอนว่าการพกสิ่งของบางอย่างไว้บนร่างกายมันไม่ใช่ปัญหาและนี่ก็เป็นประโยชน์อย่างหนึ่งของการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
อย่างไรก็ตามด้วยผู้คนจำนวนมากที่รออยู่ที่เรือน จำนวนของที่พวกเขาจะสามารถพกออกไปได้จึงห่างไกลจากคำว่าพอ!
“เฮ้อ เราค่อยมาคิดเรื่องนี้อีกทีเมื่อถึงเวลาก็แล้วกัน” หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ต่อไป เราไปที่ดาวเงามายากันก่อน เพื่อดูว่ามันจะมีผลประโยชน์อะไรให้เจ้าบ้างรึเปล่า”
เมื่อพูดจบ เขาจึงบินไปยังดาวเงามายาพร้อมกับหลิงเทียนหยุน
เมื่อมาถึงดาวเงามายา พวกเขาต่างพบว่าสภาพภายนอกของมันนั้นหากมองด้วยตาเปล่านั้นจะไม่สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนกลายเป็นภาพมัว ๆ เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้หากเป็นคนธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปในดาว เอาแค่การจะมองเห็นมันให้ชัดเจนนั้นยังเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
อย่างไรก็ตามปัญหาเช่นนี้นั้นไม่มีผลกระทบอะไรต่อ หลิงตู้ฉิงและลูกชายของเขาแม้แต่น้อย
หลิงตู้ฉิงสามารถมองทะลุผ่านเต๋าเงามายาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้มันยังเป็นเต๋าเงามายาที่ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงสามารถผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ส่วนหลิงเทียนหยุน ด้วยร่างกายเซียนมายาของเขา เขาจึงสามารถเข้าไปในดาวเงามายาได้อย่างง่ายดาย
แต่แล้วเมื่อพวกเขาเข้าไปในดาว พวกเขาก็ได้เจอกับเรื่องบังเอิญที่น่าหัวเราะ เนื่องจากว่าพวกเขาทั้งสองได้เจอกับคู่หูที่มาจากสำนักเก้าเทพอสูรอีกครั้ง
“พวกเจ้าอีกแล้วเหรอ!?” คนทั้งสองจากสำนักเก้าเทพอสูรพูดด้วยสีหน้าโมโห
ไอ้คนพวกนี้ไล่พวกเขาออกจากดาวอเวจี และตอนนี้พวกเขายังต้องมาเจอกับไอ้พวกเดิมที่ดาวเงามายาอีกงั้นเหรอ?
นี่พวกเขาควรทำยังไงดี!?
เมื่อมองวิเคราะห์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ดาวอเวจี แม้ว่าสองคนนี้จะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณ แต่มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้แน่นอน
แต่ถ้าพวกเขาจะต้องสละโอกาสของดาวดวงนี้อีกรอบ พวกเขาย่อมไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “พวกเจ้าอีกแล้วงั้นเหรอ? เฮ้อ ข้าขอแนะนำพวกเจ้าอีกรอบก็แล้วกัน ดาวเงามายานี้ก็ไม่เหมาะกับพวกเจ้าเช่นกัน แต่ก็เอาเถอะ มันคงจะไม่ดีที่ข้าจะไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของพวกเจ้ามากนัก พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าแค่ผ่านมาที่นี่เพื่อหาบางสิ่งบางอย่างก็เท่านั้น”
แม้ว่าดาวเงามายาที่อยู่ตรงหน้าเขาจะไม่ใช่ดาวที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุด
เส้นผ่าศูนย์กลางของมันอยู่ที่ประมาณ 60 เมตร
ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงแค่ทักทายทั้งสองคน และจากนั้นเขาก็บินสำรวจไปรอบดาวกับหลิงเทียนหยุน
คู่หูจากสำนักเก้าเทพอสูรต่างก็ตกตะลึง พวกเขาต่างงุนงงว่าทำไมไอ้คนชั่วสองคนนี้ถึงไม่ทำอะไรพวกเขารอบนี้
และเนื่องจากพวกของหลิงตู้ฉิงไม่สนใจพวกเขา พวกเขาจึงกลับไปบ่มเพาะในดาวเงามายากันต่อ
ในอีกด้านหนึ่ง หลิงตู้ฉิงก็นำหลิงเทียนหยุนวนรอบดาวเงามายา และพูดกับหลิงเทียนหยุนด้วยสีหน้าสลด “หยุนเอ๋อ เจ้าคงจะไม่ได้รับโอกาสโชคดีเหมือนอย่างคนอื่น ๆ จากในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ สิ่งเดียวที่ดีที่สุดคือเจ้าสามารถหาวัสดุบางอย่างจากดาวเงามายา เพื่อสร้างอาวุธให้ตัวเองได้ ซึ่งอาวุธนี้สามารถหลอมรวมเข้ากับเงาของเจ้าได้ แต่เนื่องจากวัสดุมีน้อยและระดับของมันค่อนข้างต่ำ พ่อเกรงว่าอาวุธที่พ่อสร้างให้เจ้าได้มันคงเป็นแค่ระดับราชวงศ์และคงสร้างออกมาได้เพียงชิ้นเดียว”
หลิงเทียนหยุนที่ได้ยินเช่นนี้เขาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าหมดหนทาง “ไม่เป็นไรท่านพ่อ เอาเป็นว่าท่านก็ทำมันให้ข้าใช้ก่อนสักชิ้นก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ส่วนในอนาคตถ้าหากว่าข้าพบวัสดุที่ดีกว่าเมื่อไหร่ ข้าคงจะต้องรบกวนให้ท่านช่วยสร้างอันใหม่ที่ดีกว่าให้ข้าอีกครั้ง”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ไม่มีปัญหา! ไป พวกเราไปเก็บวัสดุกันเถอะ…”