พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 41 ขัดจังหวะ[รีไรท์]
บทที่ 41 ขัดจังหวะ[รีไรท์]
เมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสองที่ดูประหม่า หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “นั่งลงก่อน”
สตรีทั้งสองมองหลิงตู้ฉิงอย่างประหลาด และพากันไปนั่งตรงข้ามกับเขา พวกนางไม่แน่ใจว่าพวกนางจะตอบสนองความต้องการของหลิงตู้ฉิงได้ตรงจุดหรือเปล่า
“ข้าจะเรียกชื่อของพวกเจ้าว่าอย่างไรดี?” หลิงตู้ฉิงถาม
หญิงสาวคนหนึ่งก็ก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ชื่อจริงของข้าคือ หลิวเฟ่ยเฟ่ย ข้าหวังว่านายท่านจะจำได้”
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่หลิวเฟ่ยเฟ่ยถูกแจ้งให้รับแขกในฐานะนางคณิกา นางถูกสอนให้ทิ้งชื่อจริงและอดีตต่าง ๆ ไว้เบื้องหลัง แต่ในเมื่อหลิงตู้ฉิงกำลังจะเป็นชายคนแรกในชีวิตของนาง นางจึงตั้งใจบอกชื่อจริงของนางไป
หญิงสาวอีกคนที่ดูมีอายุมากกว่าแนะนำตัวขึ้นเช่นกัน “ข้าน้อยผู้ต่ำต้อย มีนามว่า เสี่ยวเถา”
“หลิวเฟ่ยเฟ่ย เสี่ยวเถา…” หลิงตู้ฉิงพูดพึมพำ “ข้าจำชื่อพวกเจ้าได้แล้วทั้งสองคน ตอนนี้ข้ามีคำถามอยากถามพวกเจ้า พวกเจ้ารู้ไหมว่าความรู้สึกระหว่างชายและหญิงแสดงออกกันอย่างไร?”
หลิวเฟ่ยเฟ่ยและเสี่ยวเถามองหน้ากัน พวกนางคิดว่ามันเหมือนกับสิ่งที่ชายชราบอกว่าเจ้านายของเขาจะถามคำถามแปลก ๆ เหล่านี้
หลิวเฟ่ยเฟ่ยไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้เนื่องจากนางก็ยังไม่มีประสบการณ์จริง
อย่างไรก็ตาม เสี่ยวเถานั้นดูไม่ได้กังวลอะไรมากมาย
นางรวบรวมวิเคราะห์ความหมายในคำพูดของโม่หยูถังที่อธิบายกับพวกนางก่อนหน้านี้เข้ากับความเข้าใจของนางเองและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า
“นายท่าน นอกจากกิจวัตรประจำวันมากมายที่คู่รักต้องทำด้วยกันแล้วก็ยังมีเรื่อง ‘อย่างว่า…’ ในอนาคตเมื่อนายท่านได้พบกับคนรักนายท่านจะเข้าใจได้ส่วนคืนนี้ให้พวกข้าสอนท่านเกี่ยวกับวิธีการทำเรื่อง ‘อย่างว่า’ กันก่อน”
หลิงตู้ฉิงดีใจมาก “ไหนข้าต้องทำยังไงบ้าง?”
ในที่สุดก็มีคนเต็มใจที่จะบอกเขา ดังนั้นเขาจึงมีความสุขมาก
เสี่ยวเถากัดริมฝีปากของนางและพูดว่า “นายท่านโปรดก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำแล้ว
ให้พวกเราช่วยท่านทำความสะอาดร่างกายเสียก่อน หลังจากนั้นพวกข้าทั้งสองจะสอนท่านทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด”
หลิงตู้ฉิงโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดร่างกายข้าหรอก ตั้งแต่ข้า เริ่มบ่มเพาะร่างกายของข้าก็ไร้มลทินอยู่แล้ว ขอแค่บอกข้าว่าจะทำเรื่อง ‘อย่างว่า’ ได้อย่างไรก็พอ”
เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของหลิงตู้ฉิง เสี่ยวเถาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว “อย่างที่คิดไว้...ท่านไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ”
เมื่อเสี่ยวเถาคิดว่าหลิงตู้ฉิงไม่รู้อะไรเลย นางจึงพูดกับหลิงตู้ฉิงอย่างอ่อนโยนว่า “นายท่าน การทำความสะอาดร่างกายนั้นมีจุดประสงค์อย่างอื่นอีกนอกเหนือจากการชำระ
ล้าง นั่นก็คือการสื่อสารทางอารมณ์ ดังนั้นนายท่านโปรดลงไปในอ่างอาบน้ำก่อน”
“เอาอย่างนั้นก็ได้” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า
ไม่ว่า ’ครู’ จะพูดอะไรเขาก็จะทำตามอย่างแน่นอน
เมื่อพูดจบหลิงตู้ฉิงใช้วิชาตัวเบาสะบั้นวายุกระโดดเข้าไปนั่งในอ่างอาบน้ำทันที โดยที่เขายังไม่ถอดเสื้อผ้าสักชิ้น ส่งผลให้เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปหมดทั้งตัว
เสี่ยวเถาและหลิวเฟ่ยเฟ่ยที่เห็นเพียงแสงวาบติดตาและจู่ ๆ หลิงตู้ฉิงก็หายไป ทำให้พวกนางรู้สึกงุนงงและกวาดสายตามองไปทั่วห้องทันที
เมื่อกวาดสายตามองไปทั่วห้องพวกนางก็เห็นหลิงตู้ฉิงนั่งปรากฎอยู่ในอ่างอาบน้ำ
ทั้ง ๆ ที่ยังใส่เสื้อผ้า เมื่อเห็นภาพเช่นนี้พวกนางก็หัวเราะคึกคักกันเป็นการใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ หลิวเฟ่ยเฟ่ยแต่เดิมนางประหม่ามาก แต่หลังจากเห็นเรื่องตลกเช่นนี้นางรู้สึกว่าความกังวลใจของนางค่อย ๆ ลดลง
นางกัดริมฝีปาก พลางคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ นางเดินไปหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “นายท่านแม้ว่าสถานะของท่านจะเป็นลูกค้า…แต่ในครั้งนี้ข้าจะปรนนิบัติต่อท่านเปรียบเสมือนท่านเป็นสามีของข้าอย่างแท้จริง นายท่านโปรดรับการปรนนิบัติจากข้าด้วย”
ในฐานะที่หลิงตู้ฉิงจะผู้ชายคนแรกในชีวิต นางรู้สึกถึงความรู้สึกที่คลุมเครือกับเขา
นี่เป็นเพราะนางไม่รู้ว่าจะมีชายคนใดแต่งงานกับนางในอนาคตหรือไม่ เพราะฉะนั้น
คืนนี้ก็อาจถือได้ว่าเป็นคืนแต่งงานของนางเช่นกัน
ในขณะนี้ หลิวเฟ่ยเฟ่ยเริ่มเดินเข้ามาใกล้อ่างอาบน้ำพร้อมกับอาการสั่นด้วยความตื่นเต้นของนาง เช่นเดียวกับความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นในหัวใจของนาง
หลิงตู้ฉิงเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะนี่คือบทเรียนที่เขากำลังมองหาและต้องการจะเข้าใจ
ดังนั้นเมื่อหลิวเฟ่ยเฟ่ยเข้ามาหาเขา แม้ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรนาง ส่วนเสี่ยวเถา เขารู้สึกว่าไม่ค่อยจะมีความรู้สึกอะไรกับนางสักเท่าไหร่ ซึ่งแตกต่างจากหลิวเฟ่ยเฟ่ยโดยสิ้นเชิง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลิงตู้ฉิงจึงเอ่ยถาม หลิวเฟ่ยเฟ่ยว่า “พอถึงเวลาที่เราทำเรื่อง ‘อย่างว่า’ กัน มันจำเป็นด้วยเหรอที่แม่นางเสี่ยวเถาจะต้องอยู่ด้วย เจ้าสอนข้าคนเดียวไม่ได้เหรอ?”
หลิวเฟ่ยเฟ่ยเมื่อได้ยินคำถามนี้นางก็เหล่มองไปยังเสี่ยวเถาด้วยสายตากระอักกระอ่วน
นางคณิกาจะไม่รู้วิธีการได้อย่างไร? ถึงแม้นางจะเป็นหญิงบริสุทธิ์ แต่ที่หอมรกตแดงก็มีการสอนภาคทฤษฎีอยู่ด้วยเช่นกัน
เหตุผลที่โม่หยูถังเลือกเสี่ยวเถามาด้วยนั้นเป็นเพราะเขากังวลว่าหลิวเฟ่ยเฟ่ยจะไม่สามารถแก้ปัญหาของหลิงตู้ฉิงได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงเลือกเสี่ยวเถาเข้ามาปรนนิบัติหลิงตู้ฉิงด้วยอีกคน เนื่องจากนางมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้โชกโชน
หลิวเฟ่ยเฟ่ยครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นนางหลบตาลงแล้วพูดว่า “ข้ารู้วิธีการ
แน่นอนเพียงแต่ประสบการณ์ของข้ามีไม่มากเท่าพี่เสี่ยวเถา”
หลิงตู้ฉิงกล่าวโดยไม่ลังเลเลย “ถ้าเจ้าเข้าใจเรื่องนี้แล้ว ข้าก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเสี่ยวเถาอีก เสี่ยวเถา! ข้ารู้สึกได้เมื่อตอนที่เจ้าสัมผัสข้า นิ้วของเจ้าเย็นเหมือนว่าร่างกายมีบางอย่าง
ผิดปกติ เจ้ามาตรงนี้ข้าจะดูให้และช่วยแก้ปัญหาของเจ้า”
เสี่ยวเถารู้ทันทีว่านี่คือผลตอบแทนของสิ่งที่ชายชราพูดถึง นางก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า “นายท่าน ข้าเจ็บปวดร่างกายทุกสองถึงสามวันของเดือน มันเจ็บจนแทบทนไม่ได้ นายท่านได้โปรดช่วยข้าด้วย!”
หลังจากตรวจเป็นเวลา 3 วินาที หลิงตู้ฉิงกล่าวทันทีว่า “ง่ายมาก เอาพู่กันมาให้ข้า ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้และเจ้าต้องพักฟื้นอีก 7 วัน!”
หลังจากเขียนใบสั่งยา หลิงตู้ฉิงโบกมือไปที่เสี่ยวเถาและพูดว่า “เจ้าไปได้แล้ว!”
เสี่ยวเถาจับใบสั่งยาแน่นและพูดกับหลิวเฟ่ยเฟ่ยด้วยความอิจฉาเล็กน้อย “น้องสาว ข้าอวยพรให้เจ้าโชคดี อย่ามัวแต่ทำตัวเรียบร้อยเหนียมอาย จงปรนนิบัตินายท่านให้ดีที่สุดล่ะ”
แม้ว่านางจะพูดกับหลิงตู้ฉิงไม่กี่คำ และแม้ว่าสูตรยาที่ได้รับมายังไม่ได้รับการยืนยันว่าได้ผล แต่นางคิดว่าหลิงตู้ฉิงคงไม่ได้โกหก
นี่ขนาดนางยังแทบจะไม่ได้ทำอะไรให้หลิงตู้ฉิง นางยังได้รับประโยชน์ขนาดนี้ แล้วหลิวเฟ่ยเฟ่ยล่ะ? นางอยากจะรู้มากว่าเฟ่ยเฟ่ยจะได้ประโยชน์อะไรบ้างในฐานะสาวพรหมจรรย์
อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตามต่อจากนี้ล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง
อีก
หลังจากเสี่ยวเถาออกไป หลิงตู้ฉิงพยายามสัมผัสกับความรู้สึกที่ออกมาจาก
ร่างกายของหลิวเฟ่ยเฟ่ยอย่างเงียบ ๆ
ทางด้านของหลิวเฟ่ยเฟ่ยในเวลานี้ นางค่อย ๆ เอื้อมมือไปถอดเสื้อผ้าของหลิงตู้
ฉิงที่กำลังนั่งอยู่ในอ่างอย่างแผ่วเบา
ในวินาทีที่เสื้อของหลิงตู้ฉิงหลุดออก…
ผนังของห้องก็พังลงมาดังโครม ตามด้วยกลุ่มคนที่พุ่งทะลุกำแพงเข้ามาจากทุก
ทิศทุกทาง
หลิวเฟ่ยเฟ่ยตกตะลึง นางหมอบตัวลงกับพื้นทันทีไม่กล้ายกหัวขึ้นมามอง
หลิงตู้ฉิงที่ในตอนนี้รู้สึกว่าอารมณ์ของเขาพังทลายลงไปเรียบร้อย เขากวาดตา
มองไปยังบรรดาผู้บุกรุกและลุกขึ้นยืนจากอ่างและแผ่ไอสังหารที่ล้นเหลือ
เจิ้นสีชวงเดินเข้ามา หัวเราะแล้วพูดเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านี่ช่างโชคดีจริง ๆ พอ
ถึงเวลาจะตายทั้งที ดันมีสาวงามร่วมเดินทางไปปรโลกด้วยอีกคน นับได้ว่าชาตินี้ที่เจ้าเกิดมาได้ตายแบบนี้ถือว่าไม่เสียชาติเกิดเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”