พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 476 เตรียมการ
หยวนต้าตงและคนอื่น ๆ ต่างก็แปลกใจทำไมผู้อาวุโสคนนี้ถึงเลือกเครื่องรางไม้ปริศนาอันนี้ที่แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่รู้จักวิธีใช้งาน?
ใครก็ตามที่เคยเข้ามาในคลังสมบัติของสำนักจะต้องรู้จักกับเครื่องรางไม้นี้
เครื่องรางไม้นี้มันไม่มีพลังวิญญาณใด ๆ อยู่ในตัวของมัน หรือต่อให้จะมีใครพยายามส่งพลังวิญญาณเข้าไปในมัน พลังวิญญาณก็จะรั่วไหลออกมาทันที อันที่จริงไม่ต้องพูดถึงพลังวิญญาณแม้แต่การส่งจิตสำนึกของตนเองเข้าไปดูว่ารายละเอียดด้านในของมันเป็นอย่างไรมันก็ไม่สามารถดูได้ มันจะทะลุผ่านไปเหมือนกับไม่มีอะไรอยู่ข้างใน
ด้วยความแปลกประหลาดนี้ แม้จะไม่มีใครรู้ว่าใช้มันอย่างไรหรือมันทำอะไรได้บ้าง เครื่องรางไม้นี้ก็ยังคงถูกเก็บไว้ในคลังสมบัติของอารามนวดารามาตลอด
“ท่านผู้อาวุโส เครื่องรางไม้นั้นดูไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรเลยไม่ใช่งั้นเหรอ? ทำไมท่านถึงไม่เปลี่ยนไปเลือกของชิ้นอื่น ๆ ที่ใช้งานได้กัน?” หวางหมิงหยวนพยายามที่จะแอบหลอกถาม
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่หวางหมิงหยวนและพูดว่า “อย่าพยายามหลอกถามข้าในสิ่งที่เจ้าไม่ควรรู้ ไม่งั้นเจ้าจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ เครื่องรางไม้ในมือของข้าถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามีสูงสุดในบรรดาสมบัติที่พวกเจ้ามี ซึ่งมันดีแล้วที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเจ้ามีมันอยู่ในอารามนวดารา มิฉะนั้นอารามนวดาราของเจ้าคงจะถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองไปนานแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวางหมิงหยวนและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูก จากนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าถามอะไรอีกต่อไป
ไม่ว่ามันจะเป็นของดีแค่ไหน ถ้าพวกเขาไม่มีดวงชะตาต่อมัน การครอบครองมันไว้ก็จะมีหายนะเท่านั้น
พวกเขาทุกคนต่างเป็นผู้บ่มเพาะที่มีประสบการณ์มากมายมาหลายร้อยถึงพันปี ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจคำพูดนี้ และอีกอย่างคือพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร พวกเขาจึงไม่รู้สึกเสียดายอะไรมากมาย
“เอาล่ะ สิบรายการข้าได้รับครบแล้ว” หลิงตู้ฉิงมองไปที่ผู้คนของอารามนวดาราและพูดขึ้น “ตามข้อตกลงของเรา ต่อไปข้าจะวางรูปแบบค่ายกลป้องกันสำนักให้กับพวกเจ้าใหม่ ซึ่งวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้สร้างจะต้องเป็นของพวกเจ้าเอง ส่วนความแข็งแกร่งของค่ายกลป้องกันนั้นจะมีอำนาจอยู่ในระดับสวรรค์สมบูรณ์* ขั้นสูงสุด ซึ่งนี่เป็นความช่วยเหลือแรกที่ข้าจะมอบให้พวกเจ้าข้อตกลงแรก ความช่วยเหลือที่สอง ข้าสัมผัสได้ว่าพวกเจ้าได้แอบนำหุ่นเชิดที่ข้าทิ้งไว้ที่เมืองหยูหลันกลับมาที่สำนักของพวกเจ้า จงนำหุ่นตัวนั้นมาหาข้า ข้าจะปรับแต่งมันให้สามารถปลดปล่อยพลังของระดับนภาคราม(ขอบเขตสวรรค์** ให้กับพวกเจ้า ซึ่งพวกเจ้าจะสามารถควบคุมมันได้โดยการใช้พลังวิญญาณของพวกเจ้าในการขับเคลื่อนมัน ในข้อนี้มันจะเทียบได้กับพวกเจ้ามีผู้เชี่ยวชาญระดับนภาครามเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน”
*ระดับสวรรค์สมบูรณ์ หรือ ขอบเขตสวรรค์ระดับ 8
**ระดับนภาคราม หรือ ขอบเขตสวรรค์ระดับ 7
“ความช่วยเหลือที่สาม ข้าจะทำการบรรยายเต๋าให้กับพวกเจ้าฟัง ซึ่งมันจะช่วยให้พวกเจ้าทุกคนเข้าใจถึงแก่นแท้ของวิชาต่าง ๆ ที่ลึกซึ้งได้ง่ายขึ้น และมันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเจ้าให้มากขึ้นไปอีก”
“ความช่วยเหลือที่สี่ ข้าจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาบ่มเพาะให้กับพวกเจ้า ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่วิชาระดับสูง แต่มันก็อยู่ในระดับที่ดีกว่าวิชาที่พวกเจ้าใช้ในการบ่มเพาะในตอนนี้ เอาล่ะนี่คือความช่วยเหลือทั้งหมดที่ข้าจะให้กับพวกเจ้าจากการแลกเปลี่ยนกับสิ่งของทั้งสิบอย่างที่ข้าเอามาจากพวกเจ้า พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?”
“ขอบคุณผู้อาวุโส ขอบคุณผู้อาวุโส!” หยวนต้าตงและคนอื่น ๆ รีบพูด
อันที่จริง หยวนต้าตงและคนอื่น ๆ นั้นยอมตกลงหมดใจตั้งแต่ความช่วยเหลือที่สองแล้ว
เหตุที่อารามนวดาราของพวกเขาถูกรังแก มันเป็นเพราะพวกเขาไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งพอ
หากพวกเขาสามารถมีผู้เชี่ยวชาญระดับนภาคราม พวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องสำนักอื่น ในเวลานั้นอารามนวดาราของพวกเขาจะยังคงเป็นหนึ่งในสำนักอันดับต้น ๆ
แล้วยิ่งเพิ่มโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเคล็ดวิชาใหม่และการบรรยายเต๋า สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในไม่ช้าพวกเขาจะกลายเป็นแข็งแกร่งกว่าเดิมมากกว่าในอดีต
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังจะมีค่ายกลป้องกันที่มีความแข็งแกร่ง ระดับสวรรค์สมบูรณ์ขั้นสูงสุด ต่อให้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้นอย่างมากที่สุดพวกเขาก็สามารถซ่อนตัวหลบอยู่ในสำนักได้หลายร้อยปี
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า การที่พวกเขาตกลงแลกเปลี่ยนกับหลิงตู้ฉิงมันจะทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ต่ออารามนวดาราของพวกเขาขนาดนี้
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เหตุผลที่หลิงตู้ฉิงให้สิ่งตอบแทนมากมายขนาดนี้นั้นก็เป็นเพราะเครื่องรางไม้ชิ้นนั้น
หากไม่มีเครื่องรางไม้อันนั้น อย่างมากที่สุดที่หลิงตู้ฉิงจะให้พวกเขาก็คือการสร้างค่ายกลป้องกันใหม่ให้แค่เท่านั้นเพียงอย่างเดียว
เหตุที่ให้มากมายขนาดนี้ก็เพราะว่ามูลค่าของเครื่องรางไม้นั้นไม่ธรรมดา
จากนั้นภายใต้คำแนะนำของหลิงตู้ฉิง บรรดาผู้คนของอารามนวดาราก็เริ่มเลือกส่วนผสมที่จำเป็นในการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงวัสดุที่จำเป็นในการสร้างค่ายกลป้องกันใหม่
หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็นำผู้อาวุโสหลายคนของอารามนวดารามาช่วยเขาสร้างค่ายกลป้องกันใหม่ ซึ่งใช้เวลา 10 วันมันก็แล้วเสร็จ
ทันทีหลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็ส่งตราประทับที่ไว้เปิดใช้ค่ายกลรวมทั้งรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับมันให้กับหยวนต้าตง จากนั้นเขาพูดว่า “สิ่งแรกเสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปข้าจะบรรยายเต๋าให้กับพวกเจ้าฟัง!”
หวางหมิงหยวนรีบถาม “ผู้อาวุโส หากพวกเราจะขออนุญาตให้ศิษย์ของพวกเราในสำนักมาร่วมฟังด้วยจะได้ไหม?”
“ข้ามีหน้าที่บรรยายเต๋าเท่านั้น ส่วนที่เหลือพวกเจ้าจงจัดการกันเอาเอง” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวางหมิงหยวนก็พูดกับหยวนต้าตงทันที “เจ้าสำนักนี่เป็นโอกาสที่หาไม่ได้อีกแล้ว! โปรดท่านเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันใหม่เพื่อปกป้องอารามเอาไว้ก่อน เพื่อให้ศิษย์คนอื่น ๆ เข้ามาฟังบรรยายกับพวกเรา!”
การได้ฟังการบรรยายเต๋าโดยตัวตนที่ล้ำลึกจนยากหยั่งถึงเช่นหลิงตู้ฉิง แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงมีประวัติเป็นมาอย่างไร หากพวกเขาไม่คว้าโอกาสนี้ไว้พวกเขาก็คงจะโง่เกินทน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยวนต้าตงก็ตอบตกลงโดยไม่คิดทันที
หลังจากนั้นไม่นานศิษย์ทั้งหมดของอารามนวดาราก็มารวมตัวกัน เตรียมพร้อมที่จะฟังการบรรยายของหลิงตู้ฉิง
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ชิงเฉิงก็รีบพูดกับโม่เอ๋อว่า “สามีของข้ากำลังจะเปิดบรรยายเต๋า เจ้าจงมาตั้งใจฟังให้ดี มันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเจ้า!”
โม่เอ๋อพยักหน้า จากนั้นนางจึงเดินไปนำเสี่ยวเยว่เฟิง หลงเฉิน หยุนจื่อรุ่ย เปียนเฉียวเฉียว มานั่งฟังการบรรยายของหลิงตู้ฉิงด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นางไม่รู้ก็คืออีกสี่คนที่นางชวนมานั้นรู้ซึ้งถึงคุณค่าของการฟังบรรยายเต๋าของหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดียิ่งกว่านางเสียอีก เพราะพวกเขาได้เคยฟังมันมาก่อนหน้านี้แล้ว
ภายในรถม้า เย่ชิงเฉิงเหลือบมองไปที่เย่หยูหลัน แต่ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งทางเย่หยูหลันก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงที่อยู่ด้านนอกรถ และก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน
หลิงตู้ฉิงใช้เวลาบรรยายเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนใจว่าใครจะได้รับประโยชน์จากมันมากหนือน้อยเพียงใด จากนั้นเขาก็ขังตัวเองอยู่ในค่ายกลกระบี่เหินเมฆาเพื่อเริ่มกระบวนการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์
ส่วนทางด้านบรรดาคนของอารามนวดาราหนึ่งในสามของพวกเขาทะลวงระดับการบ่มเพาะของตัวเองได้ทันที
แต่คนส่วนใหญ่ที่ทะลวงระดับการบ่มเพาะได้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์ที่มีระดับการบ่มเพาะขอบเขตสวรรค์ขึ้นไป เพราะขอบเขตที่ต่ำกว่านั้นการทะลวงระดับแต่ละครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะทะลวงระดับไม่ได้พวกเขาก็ยังได้รับประโยชน์ในด้านความเข้าใจเกี่ยวกับเต๋าที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมาทั้งหมด หยวนต้าตงถอนหายใจและพูดว่า “เพราะวิสัยทัศน์ที่อ่อนด้อยของข้า ข้าเกือบจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ถ้าหากเราไม่ตกลงแลกเปลี่ยนกับผู้อาวุโสในครั้งนี้อารามนวดาราของเราจะตกต่ำอย่างสมบูรณ์”
“เจ้าสำนัก ท่านอย่าได้ตำหนิตัวเองเช่นนี้เลย!” หวางหมิงหยวนและคนอื่น ๆ ต่างพูดขึ้นปลอบ