พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 480 กุญแจสุสานศักดิ์สิทธิ์
หยวนต้าตง หวางหมิงหยวนและคนอื่น ๆ ต่างก็ออกมาส่งหลิงตู้ฉิงกันอย่างพร้อมเพรียง และเมื่อพวกเขาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงออกจากอารามนวดาราไปแล้ว พวกเขาก็รีบกลับไปฝึกฝนต่อทันที
สำหรับหลิงตู้ฉิงและกลุ่มคนของเขาที่ออกจากอารามนวดารา เมื่อพวกเขาออกมาได้สักพัก พวกเขาก็เห็นฟางหมิงยู่และคนอื่น ๆ ที่ยังคงรั้งรออยู่นอกอารามนวดารา
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาจึงสั่งให้หลงเฉินมุ่งหน้าไปยังกลุ่มของฟางหมิงยู่
ฟางหมิงยู่และคนอื่น ๆ ตื่นตัวทันที เมื่อพวกเขาเห็นหลิงตู้ฉิงและกลุ่มคนของเขากำลังใกล้เข้ามา
ในขณะเดียวกับที่พวกเขาตื่นตัว ไฟแห่งความเกลียดชังก็ลุกโชนเต็มไปในจิตใจของพวกเขา เพราะแผนการทั้งหมดของพวกเขาถูกทำลายอย่างย่อยยับโดยหลิงตู้ฉิง!
“เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้า?” ฟางหมิงยู่มองไปที่รถม้าที่หลงเฉินกำลังลากอยู่และถามขึ้น
เมื่อได้ยินคำถาม หลิงตู้ฉิงจึงสั่งให้หลงเฉินหยุด และจากนั้นเขาจึงเดินลงมาจากรถม้าและพูดว่า “ข้าเห็นว่าพวกเจ้ายังคงดื้อดึงรั้งอยู่ที่นี่ ข้าเลยอยากจะมาเตือนพวกเจ้าว่าพวกเจ้าไม่ควรที่จะโลภให้มันมากนักและจงกลับไปที่ที่พวกเจ้าจากมาโดยเร็วที่สุด จงละทิ้งความตั้งใจที่จะจัดการกับอารามนวดาราไปซะ ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องตายกันหมด!”
หลานฟ่างจุนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที “นี่เจ้าประเมินความแข็งแกร่งของเราต่ำเกินไปรึเปล่า? แม้ว่าอารามนวดาราจะเปลี่ยนไป แต่เราก็ยังมั่นใจในความแข็งแกร่งของพวกเราเช่นกัน!”
ที่จริงแล้วนางกำลังสาปแช่งอยู่ในใจ ‘ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า พวกข้าก็คงจะจัดการกับอารามนวดาราไปตั้งนานแล้ว!’
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่หลานฟ่างจุน และพูดว่า “ในตอนนี้อารามนวดารามีพลังระดับนภาครามปกป้องอยู่ ถ้าพวกเจ้ายังดึงดันบุกเข้าไป พวกเจ้าทั้งหมดทุกคนจะต้องตายอยู่ข้างในอารามนวดาราแน่นอน เอาล่ะ นี่คือคำแนะนำทั้งหมดที่ข้าสามารถให้เจ้าได้ ต่อไปมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าเองแล้วว่าจะเชื่อข้าหรือไม่ หลงเฉิน ไปกันเถอะ!”
นี่เป็นเพราะอำนาจของอารามนวดาราเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้น เขาจึงจำเป็นต้องมาแจ้งเตือนคนเหล่านี้ให้มีทางเลือก ไม่เช่นนั้นหากคนเหล่านี้ตาย บาปมันจะมาตกอยู่ที่เขาเช่นกัน
แต่ถ้าหากเขาเตือนเช่นนี้แล้ว และคนกลุ่มนี้ยังรนหาที่ตายมันก็จะไม่มีผลอะไรกับเขา
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ขึ้นรถม้าไป และหลงเฉินก็เริ่มลากรถม้าขึ้นบินไปยังทิศทางที่อาณาเขตสุสานกระบี่ตั้งอยู่ตามแผนที่ที่เขาได้รับมาจากอารามนวดารา
“สามี ครั้งนี้ท่านได้รับของดีมาจากอารามนวดาราบ้างรึเปล่า?” เย่ชิงเฉิงยิ้ม ขณะที่นางถามไปยังหลิงตู้ฉิง
จากที่นางเห็นว่าหลิงตู้ฉิงได้ให้ความช่วยเหลือมากมายกับอารามนวดารา นางก็รู้ได้ทันทีว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ
หลิงตู้ฉิงยอมสร้างค่ายกลใหม่ขึ้นมา ทั้งยังช่วยหลอมยาและให้ความรู้กับบรรดาคนในสำนักทั้งหมดของอารามนวดารา ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าหลิงตู้ฉิงจะต้องได้รับบางสิ่งบางอย่างที่ล้ำค่าจากอารามนวดาราแน่นอน
ซึ่งตอนนี้นางอยากรู้มากว่าเขาได้รับอะไรมาจากอารามนวดารา? ไม่ต้องพูดถึงพวกวัสดุระดับจักรพรรดิ นางรู้ดีว่าแค่วัสดุระดับจักรพรรดิ หลิงตู้ฉิงย่อมไม่ตอบแทนให้กับพวกเขามากมายถึงขนาดนี้
เพราะสามีของนางเป็นคนที่ ‘ขี้เหนียว’ มากในระดับหนึ่ง!
เมื่อนึกถึงเครื่องรางไม้ที่เขาได้มาจากอารามนวดารา หลิงตู้ฉิงยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า “แน่นอนข้าได้ของดีมาก ๆ มาจากอารามนวดารา!”
“ของดีอะไร?” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “เล่าให้ข้าฟังที ข้าอยากรู้ว่าท่านได้อะไรมาจากอารามนวดารา”
“ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นกุญแจเข้าสู่สุสานศักดิ์สิทธิ์!” หลิงตู้ฉิงตอบ
เย่ชิงเฉิงอุทาน “อะไรนะ!?”
นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจและมองไปที่หลิงตู้ฉิงโดยไม่กระพริบตา
อารามนวดาราเล็ก ๆ มีกุญแจเข้าสู่สุสานศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง?
สุสานศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ฝังศพของตัวตนที่ยิ่งใหญ่มากหลังจากเสียชีวิตแล้ว
สำหรับสถานที่เช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงอารามนวดารา ต่อให้เป็นสำนักมหาอำนาจก็ยังตื่นเต้นหากได้ยินข่าวของมัน เนื่องจากในสุสานมันจะเต็มไปด้วยสมบัติมากมายของผู้ที่เป็นเจ้าของสุสาน ดังนั้นหากใครได้เข้าไปคนผู้นั้นจะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล
ในตอนนี้เมื่อคนอื่น ๆ ในรถม้าได้ยินเสียงร้องด้วยความประหลาดใจของเย่ชิงเฉิง พวกเขาต่างก็สงสัยว่าเย่ชิงเฉิงกับหลิงตู้ฉิงกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน?
“สามี ท่านไปทำยังไงอารามนวดาราถึงยอมแลกเปลี่ยนกุญแจสุสานศักดิ์สิทธิ์ให้กับท่าน?” เย่ชิงเฉิงถามขึ้น
นางไม่สงสัยในคำพูดของหลิงตู้ฉิง แต่นางรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมอารามนวดารายอมแลกของล้ำค่าเช่นนี้ให้กับหลิงตู้ฉิงได้แบบง่าย ๆ?
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เพราะพวกเขาไม่รู้จักมันน่ะสิว่ามันคือกุญแจสุสานศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นพวกเขาจึงโยนมันทิ้งไว้ในคลังสมบัติเท่านั้น ด้วยความแปลกประหลาดของมันที่ไม่ว่าจะเป็นพลังวิญญาณหรือการใช้จิตสำนึกส่งเข้าไปในมัน มันก็จะไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับ ด้วยเหตุนี้ในสายตาของคนทั่วไปมันจึงเป็นได้แค่เครื่องรางไม้ที่แปลกประหลาดและไร้ค่า ซึ่งอันที่จริงแล้วหากต้องการเปิดใช้งานกุญแจนี้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันใช้พลังแห่งเจตจำนงส่งเข้าไป เพื่อเปิดใช้งานมันถึงจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง”
เย่ชิงเฉิงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “สามี สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเราสามารถบรรลุเงื่อนไขดังกล่าวได้ เมื่อถึงเวลาที่ท่านช่วยพ่อของข้าออกมาแล้ว ในตอนนั้นท่านจะให้พ่อหรือแม่ของข้าส่งพลังแห่งเจตจำนงลงไปในมันก็ย่อมทำได้ จากนั้นสิ่งที่อยู่ภายในสุสานจะสามารถทำกำไรมหาศาลให้เราได้แน่นอน”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อย “กำไรมากหรือน้อยนั้นมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้านในสุสานด้วยต่างหาก”
“สามี ท่านรู้ไหมว่าสุสานอยู่ที่ไหน?” เย่ชิงเฉิงถามอีกครั้ง
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน มีทางเดียวที่เราจะรู้ได้ก็คือเราต้องเปิดใช้งานกุญแจก่อนจึงจะรู้”
เย่ชิงเฉิงพยักหน้า “ถึงเวลานั้นข้าจะไปที่สุสานศักดิ์สิทธิ์กับท่านด้วย ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่ามันเป็นยังไง”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไม่มีปัญหา!”
“อืม!” เย่ชิงเฉิงพยักหน้าพร้อมกับเหลือบมองไปที่เย่หยูหลัน จากนั้นนางจึงส่งเสียงทางโทรจิตของนางไปยังหลิงตู้ฉิง “สามี ป้าหลันต้องการแลกเปลี่ยนโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์กับท่าน ท่านไม่ต้องการจะแลกเปลี่ยนกับนางจริง ๆ งั้นเหรอ? อันที่จริงข้าอยากอธิบายว่านางเพียงแค่คิดถึงผลประโยชน์ของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์เป็นหลักก็เท่านั้น จริง ๆ แล้วนางไม่ได้มีเจตนาร้ายใด ๆ”
หลิงตู้ฉิงถามอย่างสงสัย “นี่สำนักของเจ้าไม่มีแม้แต่โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ อยู่ในสำนักเลยงั้นเหรอ?”
ตามปกติที่หลิงตู้ฉิงเข้าใจ โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ไม่ใช่ของล้ำค่าอะไรมากมายสำหรับสำนักมหาอำนาจ
หรือว่าสำนักของเย่ชิงเฉิงเองก็ตระหนี่กับคนในสำนัก?
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น เย่หยูหลันก็เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นอันที่จริงนางก็ควรจะได้รับมันมาบ้างไม่ใช่หรือไง?
เย่ชิงเฉิงฝืนยิ้มและพูดว่า “สามี นี่ท่านต้องการล้อเลียนสำนักของข้าแน่ ๆ เลยใช่ไหม? โอสถระดับสูงเช่นนั้นสำนักของข้าจะมอบมันให้กับคนในสำนักง่าย ๆ ได้อย่างไร? ข้าคิดว่าท่านคงเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ของเหล่าสำนักมหาอำนาจผิดไปมาก โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์นั้นหายากมากและมีราคาแพงมาก ซึ่งแน่นอนคนทั่วไปไม่มีทางหาซื้อมาใช้ได้ หรือต่อให้จะมีเงิน แต่มันก็ไม่มีใครยอมขายมันออกมาง่าย ๆ หรอก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงถึงกับตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
หลิงตู้ฉิงไม่สามารถเข้าใจได้จริง ๆ ว่าโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์มันหายากได้ยังไง? หากไม่นับรวมตัวเขาที่สามารถใช้วิธีการพิเศษในการหลอมมันออกมาได้ในตอนนี้ นักหลอมโอสถคนไหนก็ตามที่มีระดับการบ่มเพาะระดับสวรรค์สามัญขึ้นก็สามารถหลอมมันขึ้นมาได้ทั้งนั้น หากพวกเขามีสูตรของมัน
เท่าที่เขาจำความได้ในยุคของเขานั้นมีผู้คนมากมายที่สามารถหลอมเม็ดโอสถเช่นโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นจำนวนมากมาย
แต่แล้วทำไมตอนนี้แม้แต่สำนักมหาอำนาจอย่าง สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์กลับขาดแคลนโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์?
หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ แต่เดิมเขาคิดว่าเป็นแค่เฉพาะในทะเลชางหมางเท่านั้นที่จำนวนนักหลอมโอสถได้ลดลง แต่ตอนนี้ทำไมมันกลับเป็นว่านักหลอมโอสถทั่วโลกได้ลดลงเหมือนกันหมด?
“มันเกิดอะไรขึ้น?” หลิงตู้ฉิงถามด้วยความประหลาดใจ “โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์มันไม่ได้หลอมยากขนาดนั่นสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?”