พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 57 ขิงแก่ปะทะขิงแก่[รีไรท์]
บทที่ 57 ขิงแก่ปะทะขิงแก่[รีไรท์]
ณ คฤหาสน์ ตระกูลเจิ้นในเมืองหลวง
เจิ้นฟูเห่ามองจี้ชิงหยวนด้วยความโกรธ
เมื่อครู่ จี้ชิงหยวนเพิ่งส่งข่าวการเสียชีวิตลูกชายคนเล็กของเขา หลังจากที่ได้รับข่าวเขาโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
“พวกเจ้านี่เป็นกลุ่มขยะจริง ๆ มีคนตั้งมากมายแต่ไม่สามารถปกป้องลูกข้าคนเดียวได้!” เจิ้นฟูเห่าตะโกน
จี้ชิงหยวนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว “นายท่าน เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากนี้ภูมิหลังของบุคคลนั้นเป็นหลานชายของแม่ทัพหลิง ดังนั้นพวกเราจึงคิดว่าไม่ควรล้ำเส้นจนเกินไป เราจึงจ้างให้กลุ่มเสื้อคลุมโลหิตเพื่อช่วยจัดการมัน แต่ข้าไม่คาดว่านายน้อยจะหุนหันพลันแล่นนำผู้เชี่ยวชาญออกไปด้วยตนเอง จึงส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้”
“ล้ำเส้น?” เจิ้นฟูเห่าเย้ยหยัน “เพราะไอ้คำว่าล้ำเส้นของพวกเจ้าคำเดียว ทำให้ลูกของข้าถูกฆ่าตาย! ข้าจะไปหาไอ้แก่นั่นและหากมันไม่ชดใช้ให้กับข้าอย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็…ฮึ่ม!”
หลังจากพูดจบแล้ว เจิ้นฟูเห่าก็รีบเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าและบินไปยังทิศที่ตั้งของคฤหาสน์ตระกูลหลิงที่อยู่ภายในเมืองหลวง
เจิ้นฟูเห่าลอยตัวในอากาศเหนือคฤหาสน์ตระกูลหลิงและตะโกนเสียงดัง “หลิงเจิ้งสง! เจ้าจะจัดการยังไงกับหลานชายของเจ้าที่กล้าฆ่าลูกชายของข้า!”
หลังจากสิ้นเสียงของเจิ้นฟูเห่า สักพักเสียงของชายชราผู้หนึ่งก็ดังสวนกลับออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิง “เข้ามาและอธิบายก่อนว่าหลานชายของข้าไปฆ่าลูกชายของเจ้าตอนไหน”
“ได้! แม้ว่าคฤหาสน์ตระกูลหลิงของเจ้าจะเป็นบ่อมังกรหรือถ้ำเสือ ข้าก็ยังอยากลองของ!” เจิ้นฟูเห่าพ่นลมจากจมูกแสดงอาการดูถูก จากนั้นเขาจึงร่อนลงในลานคฤหาสน์ตระกูลหลิง
ชายชราตระกูลหลิงเดินออกมายังลาน เขาขมวดคิ้วขณะที่มองไปยังเจิ้นฟูเห่า
“เมื่อเจ็ดวันที่แล้ว!” เจิ้นฟูเห่าพูดอย่างเย็นชา
ชายชราตะโกนออกไปข้างนอก “เรียกพวกเด็กเหลือขอทั้งหมดมาที่นี่!”
ชายชราคนนี้เป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรจันทรา หลิงเจิ้งสง
เมื่อได้ยินเสียงของหลิงเจิ้งสงมีคนหนุ่มสาวจำนวนมากมาปรากฏตัวต่อหน้าคนทั้งสองและถามว่า “ท่านปู่ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ? เอ๊ะ ท่านผู้บัญชาการเจิ้นก็อยู่ด้วย พวกเราทักทายผู้บัญชาการเจิ้น”
ที่จริงแล้วด้วยเสียงดังของเจิ้นฟูเห่า พวกเขาพอจะเดาเรื่องคร่าว ๆ ได้แล้วว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น
พวกเขาเองก็สงสัยเช่นกันว่าใครกันที่กล้าฆ่าลูกของชราผู้นี้
หลิงเจิ้งสงมองที่เจิ้นฟูเห่าแล้วพูดว่า “หลาน ๆ ข้าทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว ใครที่เจ้าคิดว่าฆ่าลูกชายของเจ้า”
เจิ้นฟูเห่าตะโกนว่า “ตาเฒ่าหลิง เจ้าแน่ใจหรือว่าลูกหลานของเจ้าทั้งหมดอยู่ที่นี่ ข้าไม่ได้พูดถึงเด็กพวกนี้ แต่ข้าพูดถึงหลานชายของเจ้าที่เมืองฟีนิกซ์!”
“หืม?” หลิงเจิ้งสงสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
“ฮ่า ฮ่า ดี เจ้าเริ่มนึกอะไรออกแล้วสินะ!” เจิ้นฟูเห่าพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้มันฆ่าลูกชายข้าแล้วเจ้าจะชดใช้อย่างไร?”
หลิงเจิ้งสงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดช้า ๆ ว่า “ผู้บัญชาการเจิ้น ตอนนี้ข้ายังไม่ทราบเรื่องราวที่มาที่ไปแน่ชัด ข้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์สักเท่าไหร่ในตอนนี้ ข้าขอส่งคนไปเมืองฟีนิกซ์เพื่อตรวจสอบเรื่องราวก่อน ถ้าเป็นฝ่ายข้าที่ทำผิด ข้าจะชดใช้ให้แก่ท่านอย่างเหมาะสม”
เจิ้นฟูเห่ากระแทกเสียงด้วยสายตาเย้ยหยัน “ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะชดใช้ให้ข้ายังไง!”
เจิ้นฟูเห่าหันหลังกลับและบินออกไป เนื่องจากหลิงเจิ้งสงให้เหตุผลที่สมควรแก่เขา เขาจึงไม่สามารถโจมตีหลิงเจิ้งสงได้
ยิ่งไปกว่านั้น หลิงเจิ้งสงดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้เลย
หลังจากเจิ้นฟูเห่าจากไปแล้ว ผู้คนในตระกูลหลิงที่มองดูเหตุการณ์ต่างจ้องมองไปที่หลิงเจิ้งสง พวกเขาอยากรู้ว่าหลิงเจิ้งสงจะทำอย่างไรต่อไป
หลิงเจิ้งสงเงียบไปนานแล้วพูดกับชายหนุ่มคนหนึ่ง “ฉิงเฟิง พาผู้คุ้มกัน 2 คนไปที่เมืองฟีนิกซ์เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้! และจงพาเขากลับมาหาข้าทันที หากมีอะไรเกิดขึ้นเจ้าสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้เลยว่าควรจะทำอย่างไร ภารกิจในคราวนี้ถือเป็นการทดสอบของเจ้า”
ชายหนุ่มก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ท่านปู่ข้าจะไปที่นั่นทันที!”
“เอาล่ะทุกคนแยกย้ายกันไปได้แล้ว” หลิงเจิ้งสงโบกมือแล้วเดินกลับไปนั่งทำสมาธิในห้องทำงาน
เขาเริ่มระลึกถึงเรื่องราวบางอย่างในอดีต
ในเวลานั้น หลิงเจิ้งสงยังเป็นเด็ก เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ‘หมู่บ้านสายธาร’
ที่นั้นเขาได้พบกับหนุ่มสาวคู่หนึ่ง
คู่รักหนุ่มสาวเข้ามาหาเขาและถามว่าแซ่ของเขาคือหลิงใช่หรือไม่ แน่นอนเขาตอบว่า “ใช่”
คู่หนุ่มสาวสอบถามประวัติเขาสักพัก จากนั้นพวกเขาได้สอนทักษะการบ่มเพาะให้เขาโดยไม่มีเหตุผล
หลังจากสอนทักษะการบ่มเพาะให้เสร็จ หนุ่มสาวคู่นั้นก็ได้จากไป หลิงเจิ้งสงแปลกใจมาก เขาไม่รู้ว่าหนุ่มสาวคู่นั้นต้องการอะไรจากเขา
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มฝึกฝนทักษะการบ่มเพาะที่หนุ่มสาวคู่นั้นทิ้งไว้ให้อย่างขยันขันแข็งจนต่อมาเขาได้เข้าร่วมกับกองทัพ ในเวลาที่เขาอยู่ในกองทัพ เขาได้สร้างผลงานมากมายอย่างไม่หยุดหย่อนจนเป็นที่ประจักษ์ในความแข็งแกร่ง
50 ปีต่อมาคู่หนุ่มสาวกลับมาหาเขาอีกครั้ง และในเวลานั้นเขาได้เป็นแม่ทัพไปแล้ว
หลิงเจิ้งสงมีความสุขมากที่ได้เห็นผู้มีพระคุณของเขาอีกครั้ง แต่ชายคนนั้นพูดกับหลิงเจิ้งสงว่า “ข้าสอนทักษะการบ่มเพาะให้เจ้าในเวลานั้นก็เพราะว่าข้าต้องการยืมใช้แซ่ของเจ้า เจ้าต้องอ้างตัวเองว่าเป็นพ่อของข้าให้ผู้คนทั่วไปได้รับรู้”
“ท่านผู้มีพระคุณ ไหนเลยข้าจะคู่ควรให้ท่านผู้มีพระคุณ….” หลิงเจิ้งสงพูดอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวพูด “เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก เพียงทำตามคำสั่งของสามีข้าแล้วมอบเงินส่วนหนึ่งของเจ้ามาให้เรา เราจะไปที่เมืองฟีนิกซ์เพื่อลงหลักปักฐาน เจ้าแค่ต้องให้เรายืมใช้แซ่ของเจ้าและเงินอีกก้อนหนึ่งเท่านั้นพอ”
หลิงเจิ้งสงที่กำลังสับสนแต่ท้ายสุดเขาก็ได้แต่ตอบตกลงกับคำสั่งนี้
จากนั้น หลิงเจิ้งสงจึงได้สร้างเรื่องปล่อยข่าวว่า มีชายหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินทางมาหาเขาที่คฤหาสน์เพื่ออ้างตัวว่าเป็นลูกชายของเขา เขาได้ยอมรับว่าชายหนุ่มผู้นั้นเป็นลูกชายของเขาจริง เขาแสร้งเล่ากับบรรดาผู้คนว่า อันที่จริงแล้วเคยมีอยู่คืนหนึ่งที่เขาได้หลับนอนกับหญิงสาวชาวบ้านผู้หนึ่งในระหว่างที่เขาได้ออกไปประจำการในดินแดนห่างไกล และชายหนุ่มผู้นี้ก็น่าจะเป็นลูกที่เขาให้กำเนิดขึ้นมาร่วมกับหญิงสาวชาวบ้านผู้นั้น
เขายังได้แสร้งปล่อยข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับชายหนุ่มผู้เป็นบุตรนอกสมรสของเขาคนนี้ว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างไม่ราบลื่น เขาจึงได้ส่งครอบครัวของบุตรนอกสมรสคนนี้ไปอาศัยอยู่ที่เมืองฟินิกซ์ให้ไกลหูไกลตา โดยเขาไม่เคยไปเยี่ยมเยียนเลยสักครั้ง
ในพริบตาหลาย 10 ปีผ่านไป หลิงเจิ้งสงเกือบลืมไปแล้วว่ามี ‘หลานชาย’ อยู่ที่นั่น เขาไม่คาดหวังว่าข่าวคราวของหลานชายคนนี้จะปรากฏในวันนี้
“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกท่านต้องการอะไร แต่ทุกปีที่ผ่านมาข้าสามารถประสบความสำเร็จในวันนี้นั้นเนื่องมาจากความช่วยเหลือของพวกท่านทั้งหมด พวกท่านวางใจได้แม้ว่าพวกท่านจะไม่อยู่ ข้าก็ยังจะปกป้องลูกชายของพวกท่าน ไม่ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปคืออะไร” หลิงเจิ้งสงพูดพึมพำ
หลังจากนั้นเขาก็หยิบคริสตัลสื่อสารขึ้นมาและพูดว่า “ไปที่เมืองฟีนิกซ์ไปหาเขาและฝากตัวเจ้าให้เป็นผู้ติดตามของเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เจ้าต้องปกป้องเขาให้ดี เจ้ารู้เรื่องในปีนั้นดีที่สุด ถ้าหากมีความจำเป็นอะไร เจ้าสามารถอ้างชื่อข้าในการลงมือได้ทันที!”
“รับทราบ!” เสียงจากปลายทางดังขึ้น
“ข้าหวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้น…” หลิงเจิ้งสงพึมพำหลังจากวางคริสตัลสื่อสารลงและยิ้มอย่างขมขื่น
เมื่อหลิงเจิ้งสงจัดให้คนสองกลุ่มเดินทางไปที่เมืองฟีนิกซ์ เจิ้นฟูเห่าก็กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเจิ้น
“ท่านผู้นำ เป็นอย่างไรบ้าง?” จี้ชิงหยวนที่รออยู่เอ่ยถาม
เจิ้นฟูเห่าพูดอย่างเยือกเย็น “ไอ้แก่นั่นยังไม่ตอบตกลง ดูจากสีหน้าแล้ว เขายังคงมีความรู้สึกผิดต่อลูกชายนอกสมรสนั่น! มันบอกให้ข้ารอการตรวจสอบ ตรวจสอบกับเวรอะไรล่ะ! หลานมันฆ่าลูกชายของข้า! ข้าจะไม่ปล่อยให้ลูกชายของข้าต้องตายเปล่า! เจ้ากลับไปที่เมืองฟีนิกซ์เดี๋ยวนี้และคิดหาวิธีฆ่าไอ้เวรนั่นให้ข้า”
“รับทราบ บ่าวจะรีบกลับไปปรึกษาเรื่องนี้กับนายน้อยเพื่อช่วยกันคิดหาวิธีฆ่าคนตระกูลหลิงนั่นยังไงทันที!” จี้ชิงหยวนพูดด้วยน้ำเสียงอาฆาต