พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 598 ไปพบกับดอกไม้เทวะหยินหยางอีกครั้ง
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ของหลิงตู้ฉิง สีหน้าของเย่เจียงไห่ก็ดูสลดลงทันที
เมื่อคิดว่าเขาต้องมอบครึ่งหนึ่งของสมบัติเขาให้กับหลิงตู้ฉิง เขาก็รู้สึกว่าเนื้อย่างตรงหน้าไม่อร่อยอีกแล้ว
“น้องเขย สมบัติทั้งหมดนั่นมันเป็นของที่ข้าใช้เวลาเก็บออมมาตั้งหลายแสนปีเมื่อชีวิตที่แล้ว เจ้าจะใจร้ายเอามันไปถึงครึ่งหนึ่งเลยเชียวเหรอ?” เย่เจียงไห่ส่งสายตาอ้อนวอน
เมื่อเห็นว่าลูกของนางแสดงท่าทีเจ็บปวด มู่หลงหยานก็อดไม่ได้และช่วยพูดเสริมขึ้นว่า “ตู้ฉิง ทำไมเจ้าถึงไม่เอาน้อยลงหน่อยล่ะ เจียงไห่ยังต้องเลี้ยงดูคนของเขาอีกตั้งหลายแสนชีวิตที่นี่ ถือซะว่าเห็นแก่หน้าของชิงเฉิงได้ไหม?”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม จากนั้นเขาพยักหน้าให้เย่เจียงไห่ และพูดว่า “ถ้างั้นข้าจะเอาไปแค่ 2 ใน 10 ส่วนของสมบัติเจ้า แต่ในอนาคตเมื่อไหร่ที่ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เจ้าจะต้องตอบรับทันที”
เย่เจียงไห่รีบตอบกลับด้วยความตื่นเต้น “นั่นไม่มีปัญหาเลย! ไม่ว่าจะยังไงพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าเจ้าเรียกเมื่อไหร่ข้าจะไปช่วยทันทีเลย”
“ก็ดี ถ้างั้นก็เป็นอันตกลงว่าข้าจะเอาสมบัติเจ้าไป 2 ใน 10 ส่วน” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เอาล่ะตอนนี้เจ้าไปเปิดคลังสมบัติของเจ้าได้แล้วรึยัง? หลังจากที่ข้าได้สมบัติแล้วข้าจะได้ไปจากตำหนักของเจ้าสักที”
“ได้เลย!” เย่เจียงไห่รีบตอบกลับ
หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ได้เดินมาถึงภูเขาจำลองที่เป็นสถานที่สำหรับเอาไว้เก็บสมบัติ ซึ่งเย่เจียงไห่ก็ใส่กุญแจทั้งสามเข้าไปและท่องคาถาบางอย่าง ซึ่งไม่นานภูเขาจำลองก็แยกออกจากกันส่งผลให้ทุกคนได้เห็นประตูมิติที่อยู่ด้านในอีกที
หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ “โชคของเจ้าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ สามารถที่จะมีพื้นที่มิติส่วนตัวได้แบบนี้”
“ถึงแม้ว่าโชคของข้าจะค่อนข้างดี แต่มันก็คงไม่เท่ากับเจ้าหรอกว่าไหม?” เย่เจียงไห่หัวเราะ
จากนั้นเย่เจียงไห่ก็เป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในประตูมิติ
เมื่อทุกคนเข้าไปในประตูมิติ ทุกคนก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่งที่มีความกว้าง 300 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเต็มไปด้วยสมบัตินานาชนิดไม่ว่าจะเป็น โอสถ อาวุธ วัสดุ สมุนไพรและอื่น ๆ อีกมากมาย
เย่เจียงไห่หัวเราะ “ของที่อยู่ด้านนอกทั้งหมดมันสำหรับเอาไว้ให้บรรดาลูกศิษย์เอาไว้ใช้ ส่วนของที่อยู่ในนี้มันคือคลังสมบัติส่วนตัวของข้าที่เอาไว้ใช้เอง เอาล่ะน้องเขยเจ้าหยิบได้เลย ส่วนท่านแม่และชิงเฉิงหากถูกใจอะไรจะหยิบไปก็ได้เช่นกัน สำหรับคนอื่น ๆ ในเมื่อพวกเจ้าสามารถเข้ามาในที่นี่ได้แล้วข้าถือว่าวาสนาของพวกเจ้านั้นดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นข้าอนุญาตให้พวกเจ้าหยิบได้คนละ 1 ชิ้น!”
สำหรับหลิงตู้ฉิง สิ่งที่เขาหยิบไปน้อยที่สุดก็เป็นพวกอาวุธหรือสมบัติที่เป็นชิ้นสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เขาเลือกแต่พวกวัสดุต่าง ๆ หรือไม่ก็เป็นโอสถและสิ่งของอย่างอื่นที่มีประโยชน์กับคนในครอบครัวของเขาเท่านั้น
หลังจากผ่านไปสักพัก หลิงตู้ฉิงก็เก็บสมบัติไปครบทั้งหมด 2 ใน 10 ส่วนจากในคลังสมบัติ
เย่เจียงไห่ส่ายหัวและพูดว่า “น้องเขย เจ้านี่ช่างเถรตรงและซื่อสัตย์ดีจริง ๆ เจ้าบอกว่า 2 ส่วน เจ้าก็หยิบไปแค่ 2 ส่วนจริง ๆ ไม่มีขาดไม่มีเกินแม้แต่น้อย!”
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ของที่ข้าเลือกไปทั้งหมดมันมีแต่สิ่งที่ลูก ๆ และภรรยาของข้าต้องการทั้งนั้น เจ้าคิดว่าเป็นข้าเองที่สนใจเหล่าสมบัติของเจ้าจริง ๆ งั้นเหรอ?”
หากจะพูดถึงมูลค่า แค่กิ่งไม้ที่เขาได้รับไปมูลค่าของมันก็มีมูลค่ามากกว่าตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน 2 ตำหนักรวมกันแล้ว
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็พูดต่อ “ข้ายังเหลือดอกไม้เทวะหยินหยางที่ยังไม่ได้นำไป แต่เพื่อความเท่าเทียม ข้าจะมอบน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตาให้กับเจ้าเพื่อเป็นการชดเชย”
เย่เจียงไห่ถอนหายใจ “หากไม่ใช่เพราะว่าข้าไม่สามารถรั้งพวกมันเอาไว้ได้ ต่อให้เจ้าจะเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตาสัก 10 ขวดมาแลกกับข้า ข้าก็คงไม่มีทางตกลงแน่นอน”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “จงพอใจกับสิ่งที่เจ้าได้รับไปแล้วเถอะ นี่มันก็ตั้งล้านปีแล้วที่พวกมันอยู่ช่วยเจ้าดูแลทุ่งสมุนไพรให้!”
ในระหว่างที่พวกเขาคุยกันไปสักพัก คนอื่น ๆ ต่างก็เลือกสมบัติที่ตัวเองถูกใจเสร็จพอดี
“ตู้ฉิง เสร็จจากที่นี่แล้วเจ้าจะทำอะไรต่อ?” มู่หลงหยานถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงหัวเราะและตอบว่า “ต่อไปข้าคงจะกลับไปที่อาณาเขตนภา แต่ก่อนหน้านั้นข้าคงจะไปเยี่ยมลูกสาวของข้าที่สำนักเต๋าสวรรค์ก่อน จริงสิ ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์เชื่อมโยงกับประตูเคลื่อนย้ายของสำนักเต๋าสวรรค์รึเปล่า?”
มู่หลงหยานส่ายหัว “ความสัมพันธ์ของพวกเราสองสำนักไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้น ดังนั้นพวกเราจึงไม่ได้เชื่อมประตูเคลื่อนย้ายถึงกัน แต่ว่าที่นิกายไท่อี้นั้นมีประตูเคลื่อนย้ายที่เชื่อมถึงอยู่ ซึ่งสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่ใกล้กับนิกายไท่อี้เป็นอย่างมาก พวกเราอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่อาณาเขตเท่านั้น เมื่อถึงเวลาข้าจะส่งข่าวไปแจ้งให้นิกายไท่อี้ต้อนรับพวกเจ้า และพวกเจ้าจะได้ใช้ประตูเคลื่อนย้ายของที่นั่นได้สะดวก”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “’งั้นก็เอาตามที่เจ้าบอกก็แล้วกัน แต่ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้อีกรอบสักหน่อย ในตอนนี้ภายในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเจ้านั้นเน่าเฟะเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปสำนักของเจ้าคงอยู่ได้อีกไม่นาน ดังนั้นเจ้าและสามีของเจ้าควรจะแก้ไขโดยเร็ว โดยเฉพาะที่ในตอนนี้ลูกชายของเจ้าได้กลายเป็นเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนไปแล้ว เจ้าควรจะอาศัยอิทธิพลชื่อเสียงของลูกชายเจ้าในการชำระล้างสำนักของเจ้าซะใหม่”
มู่หลงหยานพยักหน้าพลางครุ่นคิด
“และอีกอย่าง อย่าได้คิดที่จะไปยุ่มย่ามอะไรกับเขตแดนหมอกที่อยู่ด้านหลังสำนักของเจ้าอีก ไม่เช่นนั้นหากเกิดหายนะอะไรขึ้นมาพวกเจ้าจะไปโทษใครไม่ได้นอกจากตัวพวกเจ้าเอง!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยเตือน
ถึงแม้ว่าภายนอกของมันจะดูไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วมันคืออาวุธเต๋าของเขาเมื่อชีวิตที่แล้ว แถมมันยังเป็นอาวุธที่ดุร้ายที่สุดเกินกว่าใครจะจินตนาการได้อีกด้วย! หากมันโกรธขึ้นมาจริง ๆ ต่อให้มีสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์สักร้อยสำนักก็คงไม่เพียงพอเป็นที่ลับเขี้ยวของมัน
มู่หลงหยานรีบพูดขึ้นทันที “พวกเราไม่กล้าไปล่วงเกินมันแน่นอน ต่อไปนี้พวกเราจะไม่เหยียบเข้าไปที่นั่นอีกแล้วข้าสัญญา!”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็มองไปที่เย่เจียงไห่ และพูดว่า “เจ้าเองก็เหมือนกัน อย่าได้มีความคิดอะไรแผลง ๆ ที่จะไปลองของกับมันเด็ดขาดต่อให้เจ้าจะกลับไปแข็งแกร่งเหมือนตอนชีวิตที่แล้วของเจ้าก็ตาม มันยังคงเป็นสิ่งที่เจ้าไม่อาจต่อกรด้วยได้ ตัวตนอย่างเจ้ามันไม่พอที่จะทำให้มันเอาจริงได้ด้วยซ้ำ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เจียงไห่ก็ได้แต่ยิ้มและไม่พูดอะไรต่อ
เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดในสิ่งที่ต้องการพูดจบ เขาก็พาทุกคนเดินไปที่ทุ่งสมุนไพรและพูดกับดอกไม้เทวะหยินหยางว่า “เจ้ายังต้องการไปกับข้าไหม?”
ดอกไม้เทวะหยินหยางผงกดอกมันทันที ดอกไม้สีขาวพูดกับเย่เจียงไห่ว่า “ตาเฒ่าฮัว เจ้าติดค้างพวกข้าครั้งใหญ่กับ 1 ล้านปีที่พวกข้ารอคอยเจ้า เมื่อไหร่ที่พวกข้าบ่มเพาะเสร็จแล้ว พวกข้าจะกลับมาหาเจ้าอีกครั้งเพื่อให้เจ้าชดใช้คืน”
เย่เจียงไห่ตอบกลับด้วยสีหน้าจนใจ “ขอแสดงความยินดีกับพวกท่านทั้งสองด้วยก็แล้วกัน ในอนาคตหากมีอะไรให้ข้าช่วยเหลือ พวกท่านบอกมาได้เลยข้าไม่ปฏิเสธแน่นอน”
“ยังดีที่เจ้ามีเหตุผล!” ดอกไม้สีขาวพูดขึ้น จากนั้นมันหันกลับไปมองหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “เจ้าจะให้พวกข้าไปกับเจ้ายังไง? หากพวกข้าออกจากทุ่งสมุนไพรแห่งนี้ อารมณ์ของพวกข้าจะไม่คงที่ขึ้นเรื่อย ๆ”
หลิงตู้ฉิงหยิบกงล้อเบญจธาตุขึ้นมาและพูดว่า “เข้ามาในนี้!”
เมื่อดอกไม้เทวะหยินหยางลุยเข้าไปในกองล้อเบญจธาตุ หลิงตู้ฉิงก็เก็บมันลงไปทันที
“น้องเขย ไอ้ของเมื่อครู่นี้มันอะไรกันน่ะ? ขอข้าดูอีกทีได้ไหม!” เย่เจียงไห่รีบเอ่ยขึ้นทันที
เมื่อครู่เขาแค่เพียงเหลือบมองเห็นมันเท่านั้น ซึ่งเขาไม่ได้เห็นมันเต็มตาเท่าไหร่ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ชั่วครู่เดียวเขาก็สัมผัสได้ได้ว่ามันไม่ธรรมดามาก ๆ
“เจ้าจะดูไปทำไม?” หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “หลงเฉิน พวกเราไปกันได้แล้ว!”
เมื่อได้รับคำสั่ง หลงเฉินก็หยิบรถม้าออกมาและกลายร่างเป็นมังกรทันที
การมาที่นี่หลงเฉินเองก็ได้ประโยชน์ไปมากมายเช่นกัน ดังนั้นต่อให้หลิงตู้ฉิงจะสั่งเขาไม่ว่าอะไรก็ตาม เขายอมเชื่อฟังอย่างหมดใจแน่นอน
ทางด้านของเย่เจียงไห่ก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าขัดใจ นี่เขาไม่ยอมให้ข้าดูสมบัติจริง ๆ งั้นเหรอ?
มันมีสมบัติแปลก ๆ กี่อย่างกันที่อยู่ในร่างของน้องเขยของเขาคนนี้?
แล้วเมื่อเขาเห็นรถม้าที่หลิงตู้ฉิงใช้โดยสาร เขาก็อดไม่ได้กับสภาพของมันที่ดูซอมซ่อเป็นอย่างมาก เขาหัวเราะและพูดว่า “น้องเขยนี่เจ้าทำไมเป็นแบบนี้ไปได้? เจ้าใช้มังกรตัวเล็ก ๆ แบบนี้แถมยังรถม้าที่ดูซอมซ่อเพื่อเดินทางงั้นเหรอ? ไม่ได้ ๆ แบบนี้ข้าทนดูไม่ได้หรอก ข้ามีรถมังกรอยู่คันหนึ่งซึ่งบังเอิญได้มันมา ข้าจะให้เจ้าไว้ก็แล้วกัน แต่มันน่าเสียอยู่อย่างหนึ่งตรงที่รถมังกรนี้ต้องใช้มังกรเก้าตัวในการลากมัน แต่เจ้ากลับมีมังกรแค่ตัวเดียว มันช่างเสียของจริง ๆ”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่รถมังกรและพยักหน้า “ไม่เลว ข้าจะรับของขวัญนี้ของเจ้า ส่วนมังกรอีก 8 ตัวไว้ข้าค่อยไปจับเอาในอนาคตก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลงเฉินก็เก็บรถม้าคันเก่าไปไว้ในแหวนมิติ จากนั้นเขาก็เชื่อมต่อตัวเองกับรถมังกรพลางครุ่นคิดว่าอยากจะให้บรรดาพี่น้องของเขามาช่วยเขาลากรถมังกรนี้อีกแรง