พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 630 คนแรกในประวัติศาสตร์
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับ บรรดาผู้คนที่เคยเห็นเขาคลั่งก็เริ่มรู้สึกกังวล โดยเฉพาะคนในครอบครัวของหลิงตู้ฉิง
แต่แล้วเมื่อพวกเขาเห็นว่าที่ร่างกายของหลิงตู้ฉิงกลับมีแสงดาวปรากฏขึ้น พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจ
ที่แท้เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่หลิงตู้ฉิงกำลังจะทะลวงขอบเขตก็เท่านั้น
แต่แล้วเมื่อผ่านไปสักพัก บรรดาผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าโง่งม เนื่องจากในเวลานี้ร่างของหลิงตู้ฉิงกลับมีแสงดาวถึง 5 ดวงปรากฏขึ้น ซึ่งแต่ละดวงมีสีแตกต่างกันไป มี สีแดง ขาว เขียว ฟ้า และ เหลือง
ทุกคนต่างรู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าหลังจากบ่มเพาะขอบเขตประสานทะเลปราณขึ้นไปเหนือกว่าระดับ 11 ความสำเร็จในทุก ๆ ระดับขึ้นไปจะมีแสงดาวหนึ่งดวงปรากฏเพิ่มขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ทะลวงขอบเขต
แต่สูงสุดที่พวกเขาเคยเห็นหรือเคยได้อ่านมามันแค่ 4 ดวงเท่านั้น หรือก็คือขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 14 แต่ตอนนี้ที่ร่างของหลิงตู้ฉิงมันมีแสงดาวปรากฏถึง 5 ดวง มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?
“หรือว่าก่อนหน้านี้เขาอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 15 ?” ซวนหยวน พึมพำกับตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
ถึงแม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่มาหลายหมื่นปี แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง เนื่องจากเขาเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าขอบเขตประสานทะเลปราณ มันมีถึงระดับ 15 ?
บรรดาผู้คนรอบ ๆ ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน พวกเขาต่างพึมพำกับตัวเอง “นี่เขาบ่มเพาะไปถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 15 ?”
หากไม่ใช่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 15 มันจะมีแสงดาว 5 ดวงปรากฏขึ้นได้ยังไง?
แต่ไม่ว่ามันจะใช่หรือไม่นั้น พวกเขาก็คงจะต้องรอถามหลิงตู้ฉิงเพื่อยืนยันคำตอบแค่เพียงอย่างเดียว
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ แสงดาวทั้งห้าที่ปรากฏขึ้นก็ค่อย ๆ ดับลงเข้าไปในร่างของหลิงตู้ฉิง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเขาได้ทะลวงขอบเขตสมบูรณ์แล้ว
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงไช่หยุนก็อดใจไม่ไหวและรีบถามขึ้นทันที “ท่านพ่อ นี่ท่านบ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 15 เลยงั้นเหรอ?”
นางเป็นคนเดียวของบรรดาพี่น้องทั้งหมดที่บ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 14 และทะลวงขอบเขตรวมแสงดารา ดังนั้นนางจึงรู้เป็นอย่างดีถึงความรู้สึกเมื่อตอนที่นางบ่มเพาะไปถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 14 ซึ่งหลังจากนั้นนางก็รู้สึกได้ว่ามันไม่มีหนทางที่จะไปต่อได้อีกแล้ว
เมื่อมองไปที่สายตาคาดหวังรอคำตอบจากทุกคนที่อยู่รอบกาย หลิงตู้ฉิงก็เผยรอยยิ้มและพยักหน้า “ถูกต้อง ก่อนหน้านี้พ่อบ่มเพาะไปได้ถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 15”
เมื่อทุกคนได้ยินคำตอบยืนยันเช่นนี้ พวกเขาก็แสดงสีหน้าตกตะลึงจนถึงขั้นอ้าปากค้าง
ซวนหยวนรีบถามขึ้นทันที “มันเป็นไปได้ยังไงที่ขอบเขตประสานทะเลปราณจะมีถึง 15 ระดับ? ท่านทำยังไงถึงสามารถทะลวงระดับไปได้?”
หลิงตู้ฉิงโบกมือและพูดว่า “ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าฟังก็แล้วกัน ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 นั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะในอนาคตเท่านั้น ผู้ที่บ่มเพาะไปถึงระดับ 12 ถึงจะมีคุณสมบัติสามารถสร้างอาณาเขตสวรรค์และบ่มเพาะไปยังขอบเขตสวรรค์ในอนาคตได้ ซึ่งข้าเรียกมันว่า ‘คุณสมบัติก้าวเข้าสู่สวรรค์’ หรือ ‘ผู้สร้างอาณาเขต’ ”
“แต่ว่าผู้ที่มีคุณสมบัติก้าวเข้าสู่สรวงสวรรค์นั้นมีคุณสมบัติพอแค่เพียงบ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตจักรพรรดิเพียงเท่านั้น ไม่สามารถสร้างวิถีเต๋าของตัวเองในอนาคตได้ จะมีก็แต่ผู้ที่บ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 ขึ้นไปถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะสามารถสร้างวิถีเต๋าของตนเองในอนาคต”
“ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 หรือดาวดวงที่ 3 นั้นเป็นระดับที่ถ้าหากใครไปถึงคนผู้นั้นจะถูกเกื้อหนุนโดยสวรรค์และโลกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถที่จะมีสิทธิ์ในการสร้างวิถีเต๋าของตนเองได้ ซึ่งข้าเรียกว่า ‘ผู้ที่มีสิทธิ์ครองเต๋า’ ”
“ซึ่งผู้ที่มีความสำเร็จไปได้ถึงระดับนั้น อาณาเขตสวรรค์ของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นโลกอีกใบหนึ่ง เนื่องจากวิถีเต๋าของพวกเขาเองที่สร้างขึ้นนั้นได้กลายเป็นสิ่งค้ำจุนอาณาเขตสวรรค์จนมันมีอำนาจมากขึ้น แต่ถึงแม้ว่าอาณาเขตจะกลายเป็นโลกอีกใบแต่มันก็ไม่ใช่โลกที่แท้จริง”
“โลกที่แท้จริงนั้นคืออะไร? โลกที่แท้จริงก็คือโลกที่เราอยู่ โลกที่มีสรรพชีวิตหมุนวนเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบ โลกที่แท้จริงคือโลกที่มีชีวิต”
“ส่วนดาวดวงที่ 4 หรือขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 14 นั้นคือผู้ที่ในอนาคตจะมีคุณสมบัติพอที่จะจัดเรียงกฎต่าง ๆ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ เหล็ก ใส่ลงไปในโลกของตนเองได้หรือหากพูดอีกอย่างก็คือในอนาคตพวกเขาอาจจะสามารถสร้างโลกที่แท้จริงของตนเองได้ ซึ่งข้าเรียกว่า ‘ผู้ลิขิตชะตา’ หรือหมายถึงผู้ที่สามารถให้กำเนิดชีวิต”
“การให้กำเนิดชีวิตที่พูดถึงนั้นไม่ใช่การให้กำเนิดแบบปกติเช่นการตั้งครรถ์และให้กำเนิดบุตร แต่มันก็เป็นการจัดเรียงกฎแห่งธาตุต่าง ๆ เพื่อ ‘สร้าง’ ชีวิตใหม่ขึ้นมาตามเจตจำนงของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น เหล่าเทพเจ้าบรรกาลที่สร้างเผ่าต่าง ๆ ขึ้นมาบนโลกใบนี้ พวกเขาไม่ได้ให้กำเนิดเหล่าชีวิต แต่พวกเขา ‘สร้าง’ ขึ้นมาทั้งหมด หรือแม้แต่เจ้า ไช่หยุน ลูกพ่อ ในอนาคตถ้าหากเจ้าบ่มเพาะไปจนถึงจุดสูงสุดของเจ้า เจ้าเองก็สามารถที่จะสร้างชีวิตขึ้นมาได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการให้กำเนิดชีวิต”
“ส่วนระดับ 15 ข้าเรียกมันว่า ‘ขอบเขตเหนือล้ำ’ มันคือขอบเขตที่อยู่เหนือสุดในทุก ๆ ระดับขอบเขต ในตอนนี้ข้าเองก็ยังคงตามหาอยู่ว่าความสามารถพิเศษที่แท้จริงของมันคืออะไร แต่สิ่งที่ข้ารู้แน่ ๆ ก็คือมันคือขอบเขตที่อยู่เหนือกว่าขอบเขตที่เคยมีมาทั้งหมด”
เมื่อฟังจนจบทุกคนต่างก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าโง่งม พวกเขาไม่นึกเลยว่าในวันนี้จะมาได้ยินความลับแห่งการบ่มเพาะที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน
ทั้งการก้าวเข้าสู่สรวงสวรรค์ การสร้างเต๋า การสร้างชีวิต นี่มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคนไหนในประวัติศาสตร์เคยบันทึกเอาไว้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้เป็นอย่างดีว่าความสามารถที่พวกเขาได้ยินมาทั้งหมดการจะใช้มันได้ก็ต้องบ่มเพาะไปจนถึงจุดสูงสุดของเส้นทางการบ่มเพาะซะก่อน ซึ่งมีคนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ไปถึงได้ แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงและตื่นเต้นอยู่ดี
แม้แต่หลิงตู้ฉิงที่เป็นคนอธิบายขึ้นมาเอง ในตอนนี้ในใจของเขาก็ยังรู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
เขาได้แล้วรู้ว่าในตอนนี้จุดหมายของเขาควรจะเดินไปในทางไหน
เขานึกย้อนไปถึงตัวตนที่เป็นเจ้าของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ หากตัวตนนั้นเข้าใจทุกอย่างได้แบบเขา ตัวตนนั้นคงจะทำความฝันของตัวเองสำเร็จได้แน่นอน
แต่น่าเสียดายที่มาถึงตอนนี้ ตัวตนนั้นคงไม่มีวันทำสำเร็จได้แน่นอน เนื่องจากตัวตนนั้นไม่มีดาวดวงที่ 5 !
หลิงตู้ฉิงแน่ใจอยู่สิ่งหนึ่งว่า ดาวดวงที่ 5 นั้นจะปรากฏขึ้นได้ก็เพราะมันเกี่ยวข้องกับชะตากรรม!