พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 668 ความลับที่ไม่ควรเอ่ยถึง
ใบบงการทัพที่มีรายชื่อของผู้อาวุโสถึง 8 ใน 10 ส่วนจากจำนวนทั้งหมดของภูเขาฟีนิกซ์ กลับยังไม่มีอำนาจเพียงพอที่ลบล้างอำนาจใบบงการทัพที่ออกมาจากหลิงตู้ฉิง?
บรรดาผู้คนต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ใบบงการทัพระดับไหนกันที่หลิงตู้ฉิงส่งออกไป? ทำไมเขาถึงมีมันได้?
เฟิงหลิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงพลางขมวดคิ้วแน่น ถัดมาเขามองไปที่เหล่าผู้อาวุโสที่ไม่ยอมลงชื่อด้วยสายตาขุ่นเคือง จากนั้นเขาก็หยิบใบบงการทัพที่อยู่ในมือเฟิงซินมาและเขียนชื่อ ‘เฟิงหลิง’ ลงไปและยื่นมันคืนกลับไปให้เฟิงซิ และพูดว่า “จัดการพวกมันสักทีให้จบ ๆ ไป!”
ด้วยสถานะของเขาที่เป็นถึงบรรพบุรุษของภูเขาฟีนิกซ์ เขาแน่ใจว่าชื่อของเขานั้นสามารถชดเชยรายชื่อของเหล่าผู้อาวุโสอีก 2 ส่วนที่ไม่ยอมลงชื่อได้
“ใบบงการทัพของท่านยังคงระดับไม่สูงพอที่จะลบล้างคำสั่งจากใบบงการก่อนหน้านี้ได้!” เฟิงซินกลอกตาและพูดขึ้น
พวกเจ้านี่มันโง่เง่ากันจริง ๆ ใบบงการทัพที่ชายคนนั้นส่งมาให้ข้ามันคือใบบงการทัพระดับสูงสุดของภูเขาฟีนิกซ์ ซึ่งมีเพียงแค่ตัวตนระดับนายเหนือหัวเท่านั้นที่จะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้! ต่อให้พวกเจ้าลงชื่อกันทั้งภูเขาฟีนิกซ์มันก็ไม่เพียงพอหรอก!
ถึงแม้ว่าเฟิงซินจะก่นด่าในใจ แต่นี่มันคือข้อมูลความลับของใบบงการทัพ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถบอกกับใครได้
แน่นอนว่าเฟิงซินรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่า หลิงตู้ฉิงเป็นใครทำไมเขาถึงมีใบบงการทัพระดับนายเหนือหัวแห่งภูเขาฟีนิกซ์ได้?
“นี่เจ้าเป็นใครกัน?” เฟิงหลิงถามขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล “ถ้าเจ้าไม่รีบบอกมาว่าเจ้าเป็นใคร ต่อให้เจ้าจะสามารถสั่งองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ได้ ข้าก็ยังสามารถจัดการเจ้าได้ด้วยวิธีอื่นอยู่ดี!”
ในตอนแรกเขาต้องการใช้อำนาจของเขาในการจัดการกับหลิงตู้ฉิง
แต่ในเมื่อเขาเห็นแล้วว่าอำนาจที่เขามีอยู่มันใช้ไม่ได้ ตอนนี้เขาจึงจะใช้กำลังของเขาเองแทน
ไม่ว่าจะยังไงเขาคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิ เขามั่นใจว่าความแข็งแกร่งของตัวเขานั้นสามารถจัดการกับหลิงตู้ฉิงได้อย่างสบาย ๆ
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับว่า “อยากจะใช้วิธีการอะไรของเจ้าก็เชิญ ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ภูเขาฟีนิกซ์มันเละขนาดไหน”
“ถ้างั้นก็ได้เลย!” เมื่อพูดจบ เฟิงหลิงก็ประสานมือใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาทันที ซึ่งก็คือระบำฟีนิกซ์เย้ยเก้าสวรรค์!
“ระบำฟีนิกซ์เย้ยเก้าสวรรค์?” หลิงตู้ฉิงเย้ยหยัน “บรรลุระบำฟีนิกซ์เย้ยเก้าสวรรค์มาเท่าหางอึ่งกลับกล้าใช้มันกับข้างั้นเหรอ?”
หลิงตู้ฉิงเริ่มประสานมือและใช้ระบำฟีนิกซ์เย้ยเก้าสวรรค์เช่นกัน
ในระหว่างที่หลิงตู้ฉิงใช้ระบำฟีนิกซ์เย้ยเก้าสวรรค์ รูปปั้นฟีนิกซ์ทั้งสองที่อยู่หน้าตำหนักภูเขาฟีนิกซ์ก็ส่องประกายขึ้นทันที
เจตจำนงของรูปปั้นฟีนิกซ์ที่เฟิงจิงเทียนเป็นผู้ปลุก ปรากฏกายขึ้นที่ด้านข้างของหลิงตู้ฉิง และจากนั้นมันม้วนตัวโบยบินอย่างงดงามไปปะทะกับฟีนิกซ์ที่เกิดจากวิชาระบำฟีนิกซ์เย้ยเก้าสวรรค์ที่เฟิงหลิงปลดปล่อยออกมา
ผลลัพธ์ของฟีนิกซ์ทั้งสองที่ปะทะกันนั้นรู้ผลอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตาเดียว
เจตจำนงรูปปั้นฟีนิกซ์ทำลายฟีนิกซ์ที่เกิดจากวิชาระบำฟีนิกซ์เย้ยเก้าสวรรค์ของเฟิงหลิงลงอย่างง่ายดาย และมันก็บินกลับเข้าไปที่รูปปั้นเหมือนเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในเวลานี้บรรดาผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ต่างเข้าใจแล้วว่า ทำไมหลิงตู้ฉิงถึงแข็งแกร่งนักทั้ง ๆ ที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดารา ที่แท้เขาก็ได้รับการเกื้อหนุนจากพลังที่สถิตอยู่ในรูปปั้นฟีนิกซ์
แต่มันก็ยังมีสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจเช่นกันก็คือ รูปปั้นฟีนิกซ์มีพลังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทางด้านของเฟิงหลิงมีสีหน้ามืดหม่นทันทีเมื่อเห็นว่าเคล็ดวิชาของตัวถูกทำลายลงไปอย่างง่ายดาย
เขารู้เป็นอย่างดีว่าที่ผลลัพธ์เป็นเช่นนี้ก็เพราะ หลิงตู้ฉิงได้รับการเกื้อหนุนพลังจากเจตจำนงของรูปปั้นฟีนิกซ์ทั้ง 99 ตัวที่ถูกทิ้งไว้โดยเหล่าบรรพบุรุษรุ่นแรก ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีใครจำได้แล้วว่าพวกมันสำคัญอย่างไร
เฟิงหลิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดว่า “อย่าคิดว่าเจ้าจะสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจเพราะว่าเจ้ามีเจตจำนงของรูปปั้นฟีนิกซ์เกื้อหนุน! หากเจ้ายังไม่ยอมจำนนแต่โดยดี ต่อไปข้าจะใช้กระจกฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์ฆ่าเจ้าซะ!”
“เอาเลย ใช้กระจกฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์มาเลย วันนี้ข้าจะได้ขยี้ความภาคภูมิใจที่สุดของพวกเจ้าให้แหลกสลายไปซะ” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ข้าอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหากเจ้าไม่มีบรรดาของที่เหล่าบรรพบุรุษทิ้งไว้ให้เจ้าแล้ว เจ้ายังจะกล้าปากดีแบบนี้ต่อไปอีกรึเปล่า”
ยิ่งเขาเห็นการกระทำของเฟิงหลิงมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ผิดหวังมากเท่านั้น
หากเขารู้ว่าเรื่องราวมันจะเป็นแบบนี้ ในอดีตเขาคงปล่อยให้คนเหล่านี้ตายไปซะให้หมด
เฟิงหลิงพ่นลมออกจมูกด้วยความเดือดดาล จากนั้นกระจกทองเหลืองบานหนึ่งก็ค่อย ๆ ลอยออกมาจากตำหนักฟีนิกซ์
ในเวลาเดียวกับที่กระจกทองเหลืองปรากฏขึ้น มวลพลังของกฎแห่งอัคคีที่อยู่รอบ ๆ ภูเขาฟีนิกซ์ก็พากันปั่นป่วนอย่างรุนแรง
แต่แล้วก่อนที่กระจกฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์จะลอยไปถึงเฟิงหลิง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นและพูดว่า “เฟิงหลิง เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กระจกฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์แบบนี้!”
“เฟิงปิง ข้าไม่ใช่คนที่เจ้าควรจะห้ามแต่มันควรจะเป็นไอ้คนผู้นั้นที่เจ้าต้องไปจัดการกับมันมากกว่า!” เฟิงหลิงชี้นิ้วไปที่หลิงตู้ฉิง “และอีกอย่างในตอนนี้เจตจำนงของรูปปั้นฟีนิกซ์อยู่ในการควบคุมของมันหมดแล้ว เจ้าน่าจะรู้ดีว่ามันหมายความว่ายังไง!”
เฟิงปิงตอบกลับทันที “แน่นอนว่าความหมายของมันก็คือเขาคือหนึ่งในพวกเดียวกันกับเรา! หากเขาเป็นคนนอก เขาจะไม่มีวันควบคุมเจตจำนงรูปปั้นฟีนิกซ์ได้เลย ต่อให้เขาปลุกพวกมันได้เขาก็จะถูกพวกมันสังหารทันที ส่วนกระจกฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นเจ้าก็น่าจะรู้ดีว่ามันคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเรา ซึ่งมีไว้สำหรับจัดการกับภัยคุกคามที่มาจากภายนอกเท่านั้น เจ้าไม่สามารถใช้มันทำร้ายพวกพ้องของเราเองได้!”
เฟิงหลิงแสดงสีหน้าน่าเกลียดทันที
อันที่จริงเขาเข้าใจเหตุผลที่เฟิงปิงพูดมาเป็นอย่างดี แต่เขาไม่มีความสุขที่จะยอมรับมัน
และในเมื่อตอนนี้เขาถูกเฟิงปิงมาขวางเอาไว้แบบนี้ มันก็เป็นการยากแล้วที่เขาจะใช้กระจกฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์ในการจัดการกับหลิงตู้ฉิง
เฟิงปิงไม่ใส่ใจอะไรกับเฟิงหลิงอีก เขาหันไปหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ในเมื่อท่านเป็นหนึ่งในพวกเรา ถ้างั้นได้โปรดท่านช่วยบอกกับพวกเราได้ไหมว่าท่านเป็นใครกันแน่ และท่านมีเหตุผลอะไรถึงได้มาเยือนพวกเราในวันนี้?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “เป้าหมายแรกของข้าก็คือ ข้าจะให้ลูกสาวของข้ามาเป็นนายเหนือหัวของพวกเจ้าภูเขาฟีนิกซ์ ส่วนเป้าหมายที่สองก็คือข้าจำเป็นต้องฆ่าคนของพวกเจ้าบางคน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฟิงหลิงพ่นลมหายใจด้วยความเดือดดาล
เฟิงปิงส่ายหัว “ถึงแม้ว่าลูกสาวของท่านจะมีสายเลือดที่สูงส่ง แต่ว่าที่มาของลูกสาวท่านนั้นไม่ชัดเจน ความแข็งแกร่งของนางก็ต่ำเกินไปและนางยังไม่เคยสร้างคุณงามความดีอะไรให้กับภูเขาฟีนิกซ์ของพวกเรา ดังนั้นข้าคิดว่าจู่ ๆ จะให้นางมาเป็นนายเหนือหัวของพวกเรานั้นมันคงยังไม่เหมาะสักเท่าไหร่”
“ข้ามีอำนาจเพียงพอ ทำไมจะทำไม่ได้?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
เฟิงปิงยิ้มอย่างจนใจและพูดว่า “ผู้ที่สามารถขึ้นมาเป็นนายเหนือหัวของพวกเราได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนเท่านั้น ท่านจะใช้กำลังเพื่อขึ้นมาเป็นนายเหนือหัวไม่ได้”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “งั้นเหรอ? ถ้างั้นนายเหนือหัวของพวกเจ้าคนที่แล้วล่ะเขาขึ้นมาเป็นได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหลิงตู้ฉิง สีหน้าของเฟิงปิงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที ส่วนทางด้านของเฟิงหลิงนั้นไม่รอช้า เขาพุ่งตัวเข้าไปหาหลิงตู้ฉิงทันทีด้วยกำลังทั้งหมดของเขา