พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 671 ชำระล้างภูเขาฟีนิกซ์
บรรดาผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ต่างเข้าใจความหมายที่หลิงตู้ฉิงต้องการจะสื่อ
วิธีการที่พวกเขาใช้อยู่นั้นหากเป็นแค่ช่วงระยะสั้น ๆ มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ถ้าเป็นในระยะยาวนั้นแน่นอนว่ามันจะต้องมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น
และคนที่คิดวิธีการนี้ขึ้นมานั้นลืมคิดถึงผลเสียเพราะว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเปล่า? หรือว่าจงใจอยากให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว?
ในทางกลับกัน เหล่าบรรพบุรุษของภูเขาฟีนิกซ์กลับรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงมีลักษณะนิสัยที่เปลี่ยนไปขนาดนี้
อย่างน้อย ๆ หลิงตู้ฉิงก็ไม่มีกลิ่นอายสังหารเหมือนอย่างที่เคยมีมาเมื่อก่อน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลิงตู้ฉิงถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้ แต่พวกเขาก็คิดอยู่ในใจว่าถ้าหากหลิงตู้ฉิงเปลี่ยนเป็นแบบนี้แล้วจริง ๆ บังลังก์ที่ยังว่างอยู่ของพวกเขาก็ควรมอบให้กับหลิงตู้ฉิงอีกรอบหนึ่ง
หลิงตู้ฉิงถามขึ้นอีกครั้ง “ปกติแล้วใครเป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับทองคำสีชาด?”
หนึ่งในบรรพบุรุษที่ชื่อ เฟิงฉิง ลุกขึ้นยืน “เป็นผู้น้อยเอง!”
หลิงตู้ฉิงถามขึ้นว่า “เจ้ารู้รึเปล่าว่าทองคำสีชาดนั้นสำคัญกับภูเขาฟีนิกซ์แค่ไหน?”
“ข้าทราบดี องค์เหนือหัว!” เฟิงฉิงพยักหน้า “ที่ผ่านมาข้าเป็นผู้ที่ไปรับทองคำสีชาดที่เมืองขนนกอัคคีมาโดยตลอด แต่พอถึงรอบล่าสุดนี้…”
เขาต้องการที่จะพูดต่อเหมือนกันว่า ‘ทองคำสีชาดถูกท่านขโมยไป รอบล่าสุดข้าเลยทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์…’
หลิงตู้ฉิงหัวเราะอย่างเย็นชาและถามว่า “เจ้ารู้เรื่องที่เมืองขนนกอัคคีมีปัญหารึเปล่า?”
“ผู้น้อยเพิ่งมารู้เอาในภายหลังนี้เอง” เฟิงฉิงตอบกลับด้วยความสัตย์จริง
หลิงตู้ฉิงถามต่อไปอีก “ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้วว่าทองคำสีชาดสำคัญแค่ไหน ถ้างั้นทำไมเจ้าถึงไม่ลงไปตรวจสอบเมืองขนนกอัคคีให้ดีเมื่อมันมีการปรากฏตัวของผู้ทรยศที่นั่น? หากข้าไม่ได้พบกับเฟิงและไม่รู้เรื่องของเมืองขนนกอัคคีจากนาง และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับที่ตระกูลหนิงสมรู้ร่วมคิดกับพวกสันเขาหมื่นอสูร และไม่ได้สั่งให้หวงเซียะบอกข้อมูลเหล่านั้นกับพวกเจ้า มันจะนานเท่าไหร่กันกว่าที่เจ้าจะรู้เรื่องทั้งหมด?”
เฟิงฉิงไม่กล้าที่จะตอบคำถามนี้ เพราะเขารู้ตัวดีว่ามันเป็นเพราะเขาเองที่ละเลย
หลิงตู้ฉิงจ้องไปที่เฟิงฉิงด้วยสายตาเย็นชาและถามว่า “300 ปีที่ผ่านมา เจ้าเอาทองคำสีชาดกลับมาได้เท่าไหร่?”
เฟิงฉิงไม่กล้าตอบคำถามนี้อีกเช่นกัน เนื่องจากเรื่องนี้เขาเองก็ทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ 300 ปีที่ผ่านมาภูเขาฟีนิกซ์จะได้รับทองคำสีชาดมาไม่ครบตามกำหนด แต่พวกเขาก็ยังคงไม่ขาดแคลนพวกมัน เนื่องจากพวกเขายังมีทองคำสีชาดที่สำรองเอาไว้ใช้ยามขาดแคลนอยู่
หลิงตู้ฉิงโบกมือปล่อยทองคำสีชาดส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งที่เขากักเก็บไว้ในแหวนมิติออกมา ซึ่งจำนวนของมันไม่ได้เยอะมากสักเท่าไหร่ “นี่คือทองคำสีชาดที่หานฉีเตรียมจะมอบให้กับเจ้าในปีนี้!”
เฟิงฉิง มองไปยังกองทองคำสีชาดด้วยสีหน้าตกตะลึง “เป็นไปไม่ได้! ก็ข้าเห็นว่าพวกเขาขุดมันออกมาได้มากกว่านี้…”
ล่าสุดเขาเป็นคนไปรับทองคำสีชาดด้วยตัวเอง ซึ่งเขาก็พบว่าพวกมันหายไปและเพื่อการสืบสวนเขาจึงดูห้วงความทรงจำของเหล่าผู้คนทั้งหมดในเหมือง ซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าในรอบ 100 ปีที่ผ่านมาได้มีการขุดเหมืองอย่างหนักจนจำนวนทองคำสีชาดที่เขาต้องได้รับมันควรจะมีจำนวนมากกว่านี้เกือบ 20 เท่า
ตอนนี้เขาพบปัญหาแล้ว
หลิงตู้ฉิงตั้งคำถามถึงการละเลยหน้าที่ของเขาก็เพราะประเด็นทองคำสีชาดที่หายไปเป็นหลัก
หลิงตู้ฉิงโบกมืออีกครั้ง คราวนี้เขาเอาทองคำสีชาดที่เขาเก็บไว้อยู่ทั้งหมดออกมากองตรงหน้า ซึ่งจำนวนของพวกมันพอ ๆ กับเนินเขาลูกเล็ก ๆ “เจ้ารู้ไหมว่าข้าเจอทองคำสีชาดที่เหลือนี้ที่ไหน?”
“องค์เหนือหัว โปรดประทานความกระจ่างให้ข้าเถิด!” เฟิงฉิงคำนับและเอ่ยขึ้น
“ใต้ดิน!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ห่างออกไปจากเหมือง 100 กิโลเมตร พวกมันถูกฝังอยู่ใต้ดินโดยอสูรดินและปีศาจเงา!”
บรรดาผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ที่อยู่รอบ ๆ เมื่อได้ยินประโยคนี้พวกเขาถึงกับอยู่ในอาการตื่นตระหนก
ศัตรูตัวฉกาจของพวกเขาลักลอบเข้ามาขโมยของสำคัญของพวกเขาถึงในพื้นที่สำคัญขนาดนี้ได้ยังไง?
เฟิงฉิงเอาหัวโขกพื้นและเอ่ยขึ้นด้วยความอับอาย “องค์เหนือหัว ข้าผิดไปแล้ว ข้ายินดีรับการลงทัณฑ์จากท่าน!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นับจากนี้เป็นต้นไปเจ้าจะต้องย้ายไปอยู่ที่เหมืองเพื่อดูแลทุกอย่างที่นั่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามออกมาจนกว่าจะมีคำสั่งอนุญาต!”
“น้อมรับบัญชา!” เฟิงฉิงตอบกลับ “องค์เหนือหัว ในเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ หานฉีจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใหญ่หลวงแน่นอน แต่ทำไมตอนที่ข้าไปสืบสวนเรื่องทองคำสีชาดที่หาย ข้าได้ทำการตรวจสอบห้วงความทรงจำของเขาแล้วทำไมข้าถึงไม่เห็นความผิดปกติอะไรเลย?”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวเราจะได้รู้กันแน่นอน ไปพามันมาหาข้าเดี๋ยว ข้าจะตรวจสอบมันเอง” หลิงตู้ฉิงออกคำสั่ง
“รับทราบ!” เฟิงฉิงและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิที่เพิ่งถูกหลิงตู้ฉิงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองขนนกอัคคีพากันไปจับตัวหานฉีที่เมืองขนนกอัคคีทันที
จากนั้นหลิงตู้ฉิงถามขึ้นต่อ “ใครเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเจตจำนงรูปปั้นฟีนิกซ์?”
หนึ่งในตัวตนระดับบรรพบุรุษยืนขึ้นด้วยสีหน้าอับอายและไม่เอ่ยคำใดออกมาแก้ตัว เนื่องจากเขาปล่อยปละละเลยไม่ทำนุบำรุงดูแลเหล่ารูปปั้นจริง
หากเป็นในอดีต ความผิดในกรณีนี้นับได้ว่าร้ายแรงมากเพราะมันเปรียบได้ดั่งไม่เคารพเหล่าบรรพบุรุษของตนเอง
เมื่อเห็นสีหน้าสำนึกผิดของผู้ที่ลุกขึ้นยืน หลิงตู้ฉิงจึงไม่ซักถามอะไรต่อให้เปลืองเวลา เขาพูดขึ้นว่า “นับจากนี้เป็นต้นไป ข้าจะเปลี่ยนให้เฟิงจิงเทียนเป็นผู้ดูแลเจตจำนงรูปปั้นฟีนิกซ์แทนเจ้า ส่วนหน้าที่ของเจ้าคือคอยเป็นผู้ช่วยของเขาแทน!”
หลิงตู้ฉิงจำได้ว่าก่อนหน้านี้ หลิงไช่หยุนต้องการให้เฟิงจิงเทียนเป็นผู้ดูแลรูปปั้นฟีนิกซ์ ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงทำตามความต้องการของลูกสาวของเขา
เฟิงจิงเทียนที่ได้ยินแบบนี้ก็ตกอยู่ในอาการมึนงง
แค่เขาช่วยเหลือหลิงตู้ฉิงทำความสะอาดรูปปั้นฟีนิกซ์ 2 ตัวเมื่อครู่ ในตอนนี้เขากลับถูกมอบตำแหน่งสำคัญของเผ่าให้เลยงั้นเหรอ?
ส่วนทางด้านของบรรพบุรุษที่เคยมีหน้ารับผิดชอบดูแลรูปปั้นฟีนิกซ์นั้น เขารู้สึกโล่งใจนิดหน่อยเพราะว่าเฟิงจิงเทียนเป็นหลานชายของเขาเอง ดังนั้นการที่เขาถูกมอบหน้าที่ให้เป็นผู้ช่วยหลานชายของเขามันจึงไม่ค่อยน่าอายสักเท่าไหร่
ในเวลานี้บรรดาผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งใจไปตาม ๆ กัน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะวางแผนการบ่อนทำลายครั้งใหญ่เอาไว้ แต่ในเมื่อทุกอย่างถูกค้นพบแล้วตอนนี้ ดังนั้นมันก็ควรจะไม่มีปัญหาอีกแล้วใช่ไหม?
ว่าแต่มันยังมีชิวไป๋หยูที่ถูกคร่ากุมวิญญาณอยู่นี่ อะไรจะเกิดขึ้นกับเขาต่อไปกัน?
สิ่งที่เหล่าผู้คนไม่รู้ก็คือหลังจากนี้ต่างหากมันถึงจะเป็นช่วงเวลาอันน่าตื่นตะลึงอย่างแท้จริง
ตอนนี้หลิงตู้ฉิงไม่ใส่ใจอะไรกับเหล่าผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ที่อยู่รอบ ๆ อีกแล้ว เขามองไปที่ดวงวิญญาณของชิวไป๋หยูที่อยู่ในมือของเขาแทน
หลิงตู้ฉิงคิดอยู่สักพักและพูดกับหวงซีว่า “เดี๋ยวเจ้าทำตามวิธีที่ข้าบอกเพื่อปลดผนึกความลับต่าง ๆ ที่อยู่ในดวงวิญญาณของเขา”
แน่นอนว่าหวงซีทำตามที่หลิงตู้ฉิงบอกอย่างว่าง่าย
ไม่นานต่อมาผนึกต่าง ๆ ที่เคยดำรงอยู่ในดวงวิญญาณของชิวไป๋หยูก็ถูกคลายออกทั้งหมด จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เริ่มทำการค้นดวงวิญญาณของชิวไป๋หยูจนทะลุปรุโปร่ง
บางคนของเหล่าผู้คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ พวกเขาก็รีบบินหนีจากไปในทันที
พวกเขารู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่ดวงวิญญาณของชิวไป๋หยูถูกค้นจนเสร็จ พวกเขาทุกคนจะถูกเปิดโปง
มีสิ่งเดียวที่พวกเขาไม่เข้าใจก็คือ หลิงตู้ฉิงคลายผนึกของดวงวิญญาณได้ยังไง?
อันที่จริงพวกเขายังคงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วหลิงตู้ฉิงเป็นใคร
น่าเสียดายที่ในทันที่พวกเขาขยับร่างบินหนี พวกเขาก็ถูกหวงซีจับเอาไว้ทันที
หลิงตู้ฉิงค้นดวงวิญญาณของชิวไป๋หยูอยู่ได้สักพัก จากนั้นเขาก็ค้นดวงวิญญาณของคนอื่น ๆ ต่อที่โจมตีเขาในตอนเริ่มแรกและถูกเขาจับเอาไว้
เมื่อหลิงตู้ฉิงค้นดวงวิญญาณของทุกคนที่เขาจับตัวไว้เสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นและตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าจะเริ่มชำระล้างภูเขาฟีนิกซ์นับตั้งแต่บัดนี้! คนแรก เฟิงเจียง!”
ในทันทีที่หลิงตู้ฉิงขานชื่อ เฟิงเจียงก็ตายในทันที
หวงซีไม่ปราณีผู้อาวุโสที่ทรยศผู้นี้เลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นการชำระล้างภูเขาฟีนิกซ์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!