พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 672 ประตูยมโลกปรากฏ
ท้ายที่สุด หลิงตู้ฉิงก็จับกุมตัวผู้คนได้มากกว่า 1,000 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแผนการร้ายต่าง ๆ ที่มีต่อภูเขาฟีนิกซ์ ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิรวมอยู่ด้วยมากกว่า 10 คน
เวลาที่ผ่านไปนับหมื่นปี มันทำให้จิตใจของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ
ในเวลานี้ไม่มีใครเอ่ยปากคัดค้านการจับกุมตัวเหล่าผู้คนพวกนี้สักคน อันที่จริงต่อให้หลิงตู้ฉิงไม่ได้ใช้สถานะของเขาและหวงซีในการจับกุมตัวคนเหล่านี้ ในท้ายที่สุดเขาก็ยังสามารถแสดงหลักฐานที่แน่นหนามากพอที่จะลากตัวคนพวกนี้มาฆ่าทิ้งอยู่ดี
การชำระล้างภูเขาฟีนิกซ์ครั้งนี้มันรวดเร็วเกินไปจนไม่มีใครที่สามารถไหวตัวทันหนีรอดไปได้ พวกผู้ทรยศทั้งหมดต่างถูกจับมารวมกันที่เมืองลอยฟ้าอย่างรวดเร็ว
หรือต่อให้พวกเขาจะรู้ตัวทัน พวกเขาก็ไม่สามารถหนีออกไปจากอาณาเขตฟีนิกซ์ได้อยู่ดี เพราะทั้งอาณาเขตฟีนิกซ์ได้ถูกปิดผนึกไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
นอกเหนือจากเฟิงหลิงและเฟีงเจียงที่ถูกสังหารไปแล้ว บรรดาผู้ทรยศคนอื่น ๆ ต่างก็พากันอ้อนวอนขอชีวิตกันจ้าละหวั่น
หลิงตู้ฉิงมองไปยังเหล่าผู้ทรยศที่กำลังร้องขอชีวิตด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นเขาหันมามองหวงซีด้วยสายตาลึกซึ้ง
หวงซีจ้องไปที่ดวงตาของหลิงตู้ฉิงเช่นกัน และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า “การที่ข้าได้พบกับท่านอีกครั้งนั้นถือว่าความฝันของข้าได้ถูกเติมเต็มเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ข้ามันเป็นเพียงแค่โครงกระดูกที่เดินได้เท่านั้น ข้าจะไปคู่ควรกับท่านได้อย่างไร? หากเป็นไปได้ข้าอยากให้ท่านรอข้ากลับมาเกิดใหม่เพื่อที่พวกเราจะได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นข้าคงต้องรบกวนให้ท่านช่วยตามหาข้าที อย่าให้ข้ารอนานเหมือนในชีวิตนี้ที่ข้าต้องรอท่านเลย”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว และพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องไปเกิดใหม่หรอก”
หวงซีส่ายหัว “ข้าจำเป็นต้องเกิดใหม่ ตัวข้าในตอนนี้มีแต่พลังแห่งความตายอัดแน่นเต็มไปหมด หากไม่ใช่เพราะข้ามีเจตจำนงที่แข็งแกร่งแล้วล่ะก็ป่านนี้ข้าคงกลายเป็นปีศาจไปแล้ว สภาพของข้าแบบนี้จะไปคู่ควรกับท่านได้อย่างไร? ดังนั้นท่านโปรดรอข้าสักหน่อย ให้ข้าได้ลงไปปลดเปลื้องพลังแห่งความตายในดินแดนยมโลกก่อนเถอะ!”
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าแน่วแน่ “จงเชื่อข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าไปวนเวียนในวัฏสงสาร เจ้าเพียงแค่ต้องใช้คาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ในการเกิดใหม่เท่านั้นก็พอ”
“แต่พลังแห่งความตายที่อยู่ในร่างของข้ามันหนาแน่นเกินไป ถ้าข้าใช้คาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ในการกำเนิดใหม่ พลังแห่งความตายที่อยู่ในร่างกายของข้าคงไม่หมดไป” หวงซีพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล “และยิ่งไปกว่านั้นหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาในระหว่างที่ข้าใช้คาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ ข้าคงไม่สามารถเกิดใหม่ได้อีกต่อไป ที่ข้าพูดไม่ใช่ว่าข้ากลัวตายแต่ข้ากลัวว่าข้าจะไม่ได้เจอท่านอีกครั้ง”
“งั้นเดี๋ยวเจ้าก็คอยดูก็แล้วกันว่าข้าทำอะไรได้บ้าง” หลิงตู้ฉิงยิ้มให้กับหวงซี จากนั้นเขาหันไปหาเหล่าตัวตนระดับสูงของภูเขาฟีนิกซ์และยื่นแผ่นกระดาษออกไปพร้อมกับออกคำสั่งว่า “พวกเจ้าจงไปเอาวัสดุต่าง ๆ ที่ข้าจดเอาไว้มาที่นี่ให้เร็วที่สุด”ไอรีนโนเวล
เมื่อได้รับคำสั่ง บรรดาผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ต่างก็รีบรับกระดาษรายชื่อวัสดุต่าง ๆ มาจากมือหลิงตู้ฉิง และรีบออกไปตามหาวัสดุทั้งหมดทันที อันดับแรกพวกเขาใช้วิธีการถามกันเองก่อนว่าใครมีวัสดุที่อยู่ในรายการบ้าง จากนั้นเมื่อเหลือแต่รายการวัสดุที่พวกเขาไม่มี พวกเขาก็ไปไล่หาในคลังสมบัติของภูเขาฟีนิกซ์ต่อหรือไม่ก็ออกไปหาซื้อแทน
ในเวลาไม่นาน วัสดุที่หลิงตู้ฉิงต้องการทั้งหมดก็เตรียมพร้อม
วัสดุกว่า 8 ส่วนในรายการที่หลิงตู้ฉิงให้เหล่าผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ไปหามามันมีแต่วัสดุที่เปี่ยมไปด้วยธาตุอัคคีและธาตุไม้ ส่วนที่เหลืออีก 2 ส่วนคือวัสดุที่มีกลิ่นอายปีศาจอันน่าสยดสยองและวัสดุระดับธรรมดาต่าง ๆ
หลิงตู้ฉิงมองพวกมันอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็เริ่มใช้พวกมันสร้างเป็นแท่นบูชาขึ้นมา
เมื่อหลิงตู้ฉิงสร้างแท่นบูชาเสร็จ เขาก็หันไปหาหวงซีและพูดว่า “มานอนลงบนนี้”
หวงซีรู้สึกสงสัย แท่นบูชานี้สามารถทำให้นางกำเนิดใหม่ได้งั้นเหรอ?
ถึงแม้ว่านางจะรู้สึกสงสัย แต่นางก็ยังนอนลงไปบนแท่นบูชาอย่างว่าง่าย
หลิงตู้ฉิงพูดกับหวงซีอีกครั้ง “นำหยดเลือดของพวกคนทรยศเหล่านั้นทุกคนมาอาบตัวของเจ้า”
หวงซีทำตามที่หลิงตู้ฉิงบอกทันที นางใช้พลังของนางดึงหยดเลือดของเหล่าคนทรยศกว่าพันคนที่ถูกตรึงร่างคุกเข่ารออยู่รอบ ๆ แท่นบูชามาอาบร่างของนาง
เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว หลิงตู้ฉิงก็เอ่ยขึ้น “หมิงยู่!”
โดยไม่ต้องอธิบายอะไร หมิงยู่พุ่งตัวเข้าไปหลอมรวมเข้ากับร่างของหลิงตู้ฉิงเพื่อเกื้อหนุนระดับการบ่มเพาะของเขาจนพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทันที
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็นั่งขัดสมาธิลงที่ตรงหน้าแท่นบูชาและเริ่มท่องบทสวด
บรรดาผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เมื่อเห็นภาพนี้ต่างก็รู้สึกงุนงง ไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะทำอะไร
พวกเขาไม่เข้าใจว่าแท่นบูชานั้นมีไว้เพื่ออะไร และไม่เข้าใจความหมายของบทสวดที่หลิงตู้ฉิงกำลังสวด
แต่ในทางกลับกัน หวงซีที่นอนราบอยู่บนแท่นบูชากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวนางอย่างชัดเจน
ยิ่งหลิงตู้ฉิงสวดบทสวดไปนานมากเท่าไหร่ หวงซีก็รู้สึกได้ราวกับว่านางกลายเป็นคนคนเดียวกับเหล่าผู้คนทั้ง 1,000 คนที่นางนำหยดเลือดมาอาบร่างของนาง
ในเวลาเดียวกัน เหล่าผู้ทรยศที่ถูกนำหยดเลือดไปก็สัมผัสได้เช่นเดียวกันว่ามันเหมือนกับพวกเขาได้กลายเป็นหวงซีเช่นกัน
พวกเขาต่างมองหน้ากันและกันด้วยความงุนงงไม่รู้ว่านี่มันหมายความว่ายังไง
แต่เดี๋ยวอีกไม่นานทุกคนก็จะได้เข้าใจความหมายของเหตุการณ์นี้ทั้งหมด
หลังจากหลิงตู้ฉิงท่องบทสวดจบ ร่างของเขาก็เปล่งประกายแสงแห่งพุทธจนเหมือนกับว่าเขาคือร่างจำแลงของพระโพธิ์สัตว์ที่กลับมาสู่โลกมนุษย์
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เริ่มท่องบทสวดต่อไป
บทสวดต่อไปที่หลิงตู้ฉิงท่องอยู่ในขณะนี้คือ บทสวดเดียวกับที่เขาเคยสอนให้เหล่าหญิงสาวของหุบเขาบุปผาอนันต์สวดเพื่อชำระล้างวิญญาณปีศาจในอดีต แต่มันมีความแตกต่างกันตรงที่อำนาจของบทสวดที่หลิงตู้ฉิงท่องออกมาตอนนี้มันรุนแรงกว่าของเหล่าหญิงสาวในหุบเขาบุปผาอนันต์นับร้อยเท่า
ไม่นานต่อมา จู่ ๆ ก็มีประตูบานยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือร่างของหวงซี และเมื่อบานประตูเปิดออกพลังแห่งความตายในร่างของหวงซีก็ถูกดูดเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าประตูนี้คือประตูที่เชื่อมกับยมโลก ซึ่งหน้าที่ของมันคือดูดเอาวิญญาณของผู้ที่ตายแล้วลงไปยังยมโลกเพื่อเข้าสู่วัฏสงสาร
แต่สิ่งที่แปลกประหลาดในตอนนี้ก็คือ นอกเหนือจากพลังแห่งความตายที่อยู่ในร่างของหวงซีถูกดูดเข้าไป วิญญาณของนางกลับไม่ถูกดูดเข้าไปด้วยทั้ง ๆ ที่หากพูดกันตามเหตุผลแล้วนางคือสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว
ในทางกลับกัน ทางด้านของเหล่าผู้ทรยศที่นั่งคุกเข่าอยู่รอบ ๆ แท่นบูชากลับค่อย ๆ นอนแน่นิ่งไปทีละคนสองคนเรื่อย ๆ
ส่วนเหตุผลที่พวกเขาตายเช่นนี้ก็เพราะวิญญาณของพวกเขาถูกดูดเข้าไปในประตูยมโลกพร้อม ๆ กับพลังแห่งความตายของหวงซี!