พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 673 กำเนิดใหม่
บรรดาผู้คนที่เห็นผลงานของหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ต่างรู้สึกสยดสยองกันเป็นอย่างมาก
หากจะพูดถึงเรื่องของการพรากชีวิต ไม่มีใครในพวกเขาที่ไม่เคยสังหารชีวิตมาก่อน โดยเฉพาะเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่สูงกว่าขอบเขตราชันขึ้นไปที่พรากชีวิตมาแล้วจนพวกเขานับไม่ไหว
แต่วิธีการสังหารแบบนี้ของหลิงตู้ฉิง พวกเขาไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อนจริง ๆ
แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าสิ่งที่หลิงตู้ฉิงกำลังทำในตอนนี้ มันคือการช่วยหวงซีชำระล้างพลังแห่งความตายโดยการใช้ชีวิตของเหล่าผู้คนกว่า 1,000 คนในการเป็นตัวตายตัวแทน ซึ่งอันที่จริงพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าใจอะไรกับชีวิตของเหล่าผู้ทรยศพวกนี้สักเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าจะยังไงคนเหล่านี้ก็ต้องถูกประหารในท้ายที่สุด
ในเวลานี้ ประตูยมโลกก็ดูดพลังแห่งความตายในร่างของหวงซีออกไปเรื่อย ๆ พร้อมกับดวงวิญญาณของเหล่าผู้ทรยศอย่างช้า ๆ
ผู้ทรยศกว่า 1,000 คนค่อย ๆ ล้มตายลงไปอย่างไร้สุ้มเสียง ซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เพื่อเป็นการชำระล้างพลังแห่งความตายให้หมดไปจากร่างของหวงซี
ทางด้านของหวงซี ในตอนนี้ก็รู้สึกว่ามันประหลาดเหลือเกิน
นางรู้สึกเหมือนกับว่านางได้ตายไปแล้วนับร้อยนับพันครั้งและทุกครั้งที่นางรู้สึกว่านางตาย นางได้ถูกส่งลงไปอยู่ในยมโลกแล้วเรียบร้อยและการที่นางมีโอกาสได้สัมผัสกับยมโลกนับร้อยนับพันครั้งแบบนี้มันเริ่มที่จะทำให้นางบรรลุอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับยมโลก ยกตัวอย่างก็เช่น พลังงาน!
แต่ถึงแม้ว่านางจะรู้สึกแปลก ๆ แต่นางก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยดี เนื่องจากนางมั่นใจในตัวของหลิงตู้ฉิงว่าเขาจะไม่ปล่อยให้นางเป็นอันตรายแน่นอน
ในเวลาไม่นาน เหล่าผู้ทรยศกว่า 1,000 คนก็ตายไปจนเกือบหมดเหลือจำนวนอีกแค่เพียงหยิบมือและพลังแห่งความตายในร่างของหวงซีก็หลงเหลืออยู่อีกเพียงน้อยนิด
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าปัญหาของหวงซีกำลังจะแก้ไขได้อย่างราบลื่น จู่ ๆ เงาดำร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านในประตูยมโลกและตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาล “พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้ใช้วิญญาณอื่นรับความตายแทนเพื่อหลอก…”
ก่อนที่ร่างเงานั้นจะได้ทันพูดจบ มันกลับเห็นหลิงตู้ฉิงซะก่อน ซึ่งมันตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ร่างเงากรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนทันทีพร้อมกับปิดประตูยมโลกและหันหลังหนีไปอย่างรวดเร็ว
บรรดาผู้คนต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน?
หากวิเคราะห์จากสิ่งที่ร่างเงานั้นเพิ่งพูดก็คือ มันคงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติก็เลยมาตรวจสอบและลงทัณฑ์ผู้ที่เป็นต้นเหตุ แต่แล้วเมื่อมันเห็นหลิงตู้ฉิง มันกลับหนีไปในทันทีโดยที่ไม่กล้าจะทำอะไรสักอย่างนอกจากปิดประตูยมโลก?
พวกเขาทุกคนต่างสงสัย หลิงตู้ฉิงเคยไปทำอะไรกับร่างเงาผู้นั้นเอาไว้กัน? ทำไมมันถึงต้องกลัวขนาดนั้น?
หลิงตู้ฉิงมองไปที่หวงซีที่ยังคงมีพลังแห่งความตายส่วนหนึ่งหลงเหลืออยู่ จากนั้นเขาแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าและขมวดคิ้ว
ในตอนนี้ประตูยมโลกได้ปิดไปแล้ว หากจะทำให้มันเปิดออกอีกมันจะยุ่งยากเป็นอย่างมาก และยิ่งบวกกับที่อีกด้านของประตูรู้แล้วว่าหลิงตู้ฉิงต้องการจะทำอะไร มันก็ยิ่งทำให้เขาเปิดประตูยมโลกได้ยากมากขึ้นไปอีก
อันที่จริงปัญหาทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเขาแข็งแกร่งกว่านี้สักหน่อย
ตอนนี้เขาจึงต้องมาแก้ไขพลังแห่งความตายที่ยังหลงเหลือในร่างของหวงซีด้วยตัวเอง ซึ่งมันยุ่งยากเป็นอย่างมาก
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ร่างของหวงซีอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็หยิบกิ่งไม้ที่ได้จากต้นเทวะศาสตราขึ้นมาและหักส่วนหนึ่งของกิ่งออกมาประมาณ 4 ถึง 5 นิ้ว และดึงใบออกมาจากกิ่งอีกหลายใบ จากนั้นเขาก็ยื่นพวกมันให้กับหวงซี
เมื่อตอนที่ประตูยมโลกปิดลง หวงซีก็เหมือนถูกปลุกอย่างกะทันหัน
นางรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เพราะนางสัมผัสได้ว่าในร่างของนางยังคงมีพลังแห่งความตายหลงเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นทำไมนางถึงตื่นขึ้นมากลางคันแบบนี้?
เหตุผลที่นางไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นเลยก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ นางกำลังอยู่ในสภาวะหยั่งรู้กับพลังของยมโลกที่นางได้เห็นมานับพันรอบผ่านเหล่าดวงวิญญาณของผู้ทรยศที่ถูกสูบลงไปนับพันคน
ในตอนนี้เมื่อนางเห็นว่าหลิงตู้ฉิงยื่นกิ่งไม้และใบไม้มาให้ นางก็เข้าใจความตั้งใจของหลิงตู้ฉิงและหลอมรวมพวกมันเข้าไปในร่างของนางเอง
เมื่อเห็นว่าหวงซีพร้อมแล้วกับขั้นตอนต่อไป หลิงตู้ฉิงจึงหันไปหาหลิงไช่หยุน และพูดว่า “ลูกพ่อ เจ้ามาช่วยนางที ช่วยใช้เลือดและพลังเพลิงสายเลือดของเจ้าจุดเพลิงแห่งการกำเนิดใหม่ให้นาง”
หลิงไช่หยุนถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย “ท่านพ่อ ข้าควรทำยังไงบ้าง?”
ถึงแม้ว่าหลิงไช่หยุนจะเห็นวิธีการอันน่าหวาดหวั่นของหลิงตู้ฉิงเมื่อครู่ นางก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงนางรู้สึกสนุกซะด้วยซ้ำ
นางรู้สึกว่าการที่นางได้ติดตามพ่อของนางออกมารอบนี้มันช่างคุ้มค่าจริง ๆ
ในตอนนี้เมื่อนางได้ยินหลิงตู้ฉิงขอความช่วยเหลือจากนาง นางจึงเต็มใจให้ความช่วยเหลือเต็มที่ แต่มันติดอยู่แค่เพียงว่านางไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง
“นำหยดเลือดและพลังเพลิงสายเลือดของเจ้า 1 ใน 4 ส่วนของที่เจ้ามีส่งไปให้นาง เจ้าไม่ต้องกังวล พ่อจะชดเชยสิ่งที่เจ้าเสียไปให้เจ้าเมื่อถึงเวลา” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
หลิงไช่หยุนพยักหน้า จากนั้นนางก็ทำตามที่หลิงตู้ฉิงบอกทันที
เมื่อพลังเพลิงสายเลือดของหลิงไช่หยุนสัมผัสกับร่างกายของหวงซี ร่างของหวงซีก็ถูกเผาไหม้ทันที
โดยที่หลิงตู้ฉิงไม่ต้องบอกอะไร หวงซีรีบลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิบนแท่นบูชา จากนั้นนางก็เริ่มโคจรคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์
ภายใตการจ้องมองของเหล่าผู้คน ตอนนี้ทั้งมงกุฎและชุดคลุมของหวงซีได้ถูกเผาไหม้จนหลอมละลายไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงโครงกระดูกของนางเพียงอย่างเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่
แต่แล้วต่อมา แม้แต่โครงกระดูกของนางก็เริ่มถูกเผาจนสลายหายไปกับเปลวเพลิง ซึ่งในท้ายที่สุดเมื่อเปลวเพลิงมอดดับลง สิ่งที่เหลืออยู่บนแท่นบูชาก็เหลือแค่เพียงสิ่งเดียวก็คือ ไข่ใบโตขนาด 1 คนโอบที่มีเปลือกสีเขียวคล้ำ
ไข่สีเขียวคล้ำใบนี้ปลดปล่อยกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกและมืดหม่นออกมาอย่างหนาแน่น ซึ่งแม้แต่หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นมันก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าประหลาดใจ
บรรดาผู้คนของภูเขาฟีนิกซ์ที่ดูเหตุการณ์อยู่ก็ประหลาดใจเช่นกัน เนื่องจากตามบันทึกของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นเผ่าฟีนิกซ์คนไหนที่ทำการกำเนิดใหม่โดยใช้คาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ ร่างของคนผู้นั้นจะหวนคืนเป็นเหมือนกับเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลาย กลายเป็นฟีนิกซ์ที่แท้จริงไปเลย
แต่ถึงแม้ว่าผลลัพธ์มันจะน่าอัศจรรย์ แต่มันก็มีคนเพียงจำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่กำเนิดใหม่โดยใช้คาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ ดังนั้นในความเป็นจริงจึงไม่มีใครกล้าใช้วิธีนี้ในการกำเนิดใหม่ เนื่องจากหากการกำเนิดใหม่โดยคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ล้มเหลว คนผู้นั้นจะถูกเผาไหม้จนเหลือแต่เถ้าถ่านและไม่เหลือโอกาสที่จะกลับมาเกิดใหม่อีกเลย
ตอนนี้มันจึงเป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ที่ทุกคนได้เห็นภาพของการกำเนิดใหม่โดยใช้คาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์
แต่ว่าทำไมองค์หญิงของพวกเขาถึงกลายเป็นไข่? แล้วทำไมไข่ใบนี้กลับปลดปล่อยกลิ่นอายมืดหม่นแบบนั้น?
หลิงตู้ฉิงเดินเข้ามาที่ไข่และหยิบมันขึ้นมาโอบไว้ในวงแขน จากนั้นเขาเก็บเอาทองคำสีชาดที่กองไว้อยู่กลางลานมาครึ่งหนึ่ง และหันไปพูดกับหวงอู่ “หวงอู่ พาพวกข้าไปที่ใจกลางของแดนกระดูกขาว!”
หวงอู่รีบตอบกลับทันที “รับทราบ!”
จากนั้นนางก็รีบกลายร่างเป็นฟีนิกซ์ขนาดยักษ์ยืนอยู่กลางลานทันที
หลิงตู้ฉิงหันไปหาจ้าวเหมิงลู่ และคนอื่น ๆ และพูดว่า “ไช่หยุนเจ้ามากับพ่อ ส่วนคนอื่น ๆ รออยู่ที่นี่ไปก่อน”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็พาหลิงไช่หยุนขึ้นไปบนหลังของหวงอู่
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงพร้อมแล้ว หวงอู่จึงสยายปีกพุ่งขึ้นฟ้าไปในทันที ด้วยความเร็วอันน่ามหัศจรรย์ของนางเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวนางก็บินผ่านเหวมรณะ และมาหยุดลงที่ใจกลางของแดนกระดูกขาว
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นของคนจากภูเขาฟีนิกซ์ เหล่าวิญญาณปีศาจและภูตผีที่อยู่ในแดนกระดูกขาวต่างก็ลุกฮือขึ้นด้วยความเกลียดชัง และรีบพุ่งเข้ามาหากลุ่มของหลิงตู้ฉิง
“องค์เหนือหัว พวกเราจะทำยังไงกันต่อดี?” หวงอู่รีบถามขึ้นทันที
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ปล่อยให้พวกมันเข้ามาได้เลย!”
หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็วางไข่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาลงกับพื้น และเททองคำสีชาดถมลงไปบนไข่จนมิดท่วม
“เอาล่ะ มาเริ่มกันได้เลย!” หลิงตู้ฉิงพูดกับไข่