พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 679 สายลมบอกเหตุ
ในลานกว้างหน้าตำหนักฟีนิกซ์ตอนนี้มีผู้คนมากมายนั่งรอการบรรยายของหลิงตู้ฉิงด้วยความตื่นเต้น ซึ่งจำนวนของผู้คนที่มาฟังการบรรยายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน
ผู้คนเหล่านี้ทั้งหมดล้วนถูกคัดเลือกมาจากเหล่าผู้อาวุโสของภูเขาฟีนิกซ์ ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นเหล่าตัวตนที่เปรียบเสมือนสันหลังของภูเขาฟีนิกซ์
ทุก ๆ คนต่างได้รับการแจ้งมาว่าจะมีตัวตนที่เหนือล้ำจะมาบรรยายเต๋าให้พวกเขาฟัง ดังนั้นพวกเขาจึงรออย่างใจจดใจจ่อด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม
แน่นอนว่าหวงเซียะก็คือหนึ่งในเหล่าผู้คนที่รอฟังการบรรยายเต๋า
ในตอนนี้หวงเซียะได้อ่านเรื่องราวของหลิงตู้ฉิงทั้งหมดแล้ว ซึ่งมันทำให้นางรู้สึกขนลุกในตัวตนของหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างมาก
นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงแดนกระดูกขาวและเหล่าตัวตนที่ถูกฝังอยู่ที่นั่น นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่นางเฝ้าฝันถึงมาตลอดคือคนเดียวกับที่เคยสังหารเหล่าชีวิตมานับพันล้านชีวิต
ในระหว่างที่หวงเซียะกำลังคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย หลิงตู้ฉิงก็เดินออกมาจากโพรงต้นเพลิงสวรรค์พร้อมกับหลิงไช่หยุนและหวงซี จากนั้นเขาเรียกให้บรรดาคนครอบครัวของเขามานั่งฟังการบรรยายเต๋าอยู่ใกล้ ๆ
ในตอนนี้หลิงไช่หยุนได้ทะลวงระดับการบ่มเพาะมาอยู่ที่ขอบเขตนภาระดับ 14 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งอีกก้าวเดียวนางจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอย่างเต็มภาคภูมิ
บรรดาผู้คนที่เห็นเช่นนี้ต่างก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออก เพราะสิ่งที่นางทำเพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะมีเพียงแค่การนอนอย่างเดียวเท่านั้น
หลิงตู้ฉิงมองไปยังฝูงชนที่แน่นขนัดด้วยสายตาพึงพอใจ จากนั้นเขาก็เริ่มการบรรยายเต๋าในทันที
แน่นอนว่าการที่มีคนฟังการบรรยายเยอะขนาดนี้ หลิงตู้ฉิงก็ยิ่งได้ผลประโยชน์อย่างใหญ่หลวง จากระดับการบ่มเพาะขอบเขตนภาระดับ 3 ของเขาในตอนนี้ เมื่อยิ่งเขาบรรยายเต๋าไปเรื่อย ๆ ระดับการบ่มเพาะของเขาก็พุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
อันที่จริงในตอนแรกที่หลิงตู้ฉิงปรากฏกายขึ้นและเมื่อผู้คนเห็นว่าผู้บรรยายเต๋าในครั้งนี้กลับเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา พวกเขาก็รู้สึกไม่ยอมรับเป็นอย่างมาก แต่เมื่อยิ่งพวกเขาฟังมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจและให้การยอมรับในตัวหลิงตู้ฉิงมากเท่านั้น
หลิงตู้ฉิงทำการบรรยายนานกว่าครึ่งเดือน จากนั้นเขาจึงหยุดลงและเดินออกไปเตรียมตัวออกจากอาณาเขตฟีนิกซ์ในทันที ปล่อยให้บรรดาผู้คนที่มาฟังการบรรยายแยกย้ายกันกลับไปเองเพื่อเก็บตัวบ่มเพาะ
หวงซีออกไปส่งหลิงตู้ฉิงถึงทางเข้าแดนกระดูกขาวด้วยท่าทีไม่อยากให้เขาจากไป “กลับมาหาข้าไว ๆ ด้วยนะ!”
นางไม่สามารถจากไปกับหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ได้ เนื่องจากนางยังต้องอยู่คอยชี้แนะหลิงไช่หยุนในการเป็นนายเหนือหัวที่ดีของภูเขาฟีนิกซ์ และนางตั้งใจว่าจะใช้โอกาสนี้ในการเก็บตัวบ่มเพาะไปด้วยเช่นกัน
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องห่วงอีกไม่นานข้าจะกลับมา ไม่ว่าจะยังไงข้าต้องรีบกลับมาจัดการกับปัญหาของแดนกระดูกขาวอยู่แล้ว ส่วนเจ้าเองก็คอยชี้แนะเหล่าผู้คนที่ฝึกเคล็ดวิชาส่งคืนยมโลกให้ดี เมื่อถึงเวลาที่ข้ากลับมาอีกครั้งพวกเขาจะมีประโยชน์แน่นอน”
หวงซีพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง เมื่อไหร่ที่ท่านกลับมาพวกเขาจะพร้อมแล้วอย่างแน่นอน”
“เอาล่ะ ถ้างั้นข้าไปก่อนนะ!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยคำลา จากนั้นเขาก็นำกลุ่มคนของเขาบินเข้าไปยังแดนกระดูกขาว
หวงซีมองกลุ่มของหลิงตู้ฉิงจนจากไปลับตา จากนั้นนางจึงพาเหล่าคนของนางกลับไปที่ภูเขาฟีนิกซ์เพื่อเตรียมการต่าง ๆ ตามที่หลิงตู้ฉิงเคยสั่งเอาไว้
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง ในเวลานี้กำลังบินอยู่เหนือแดนกระดูกขาวด้วยอาการทอดถอนหายใจ
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการกระทำในอดีตของเขาจะกลายเป็นการสร้างสิ่งที่ชั่วร้ายที่สามารถดำรงอยู่มาได้ถึงปัจจุบันเช่นนี้
แต่แน่นอนว่าเขาก็ได้คิดวิธีแก้ไว้แล้ว โดยการทิ้งเคล็ดวิชาส่งคืนยมโลกให้กับบรรดาคนของภูเขาฟีนิกซ์ได้ฝึกฝนมันเพื่อใช้ในการจัดการกับแดนกระดูกขาว
เคล็ดวิชาส่งคืนยมโลกนี้เป็นวิชาที่หลิงตู้ฉิงคิดขึ้นเองโดยใช้จุดเด่นของ 2 วิชารวมกัน ซึ่งวิชาแรกก็คือหนึ่งในบทสวดของคัมภีร์มัตตัยที่หลิงตู้ฉิงเคยใช้ในการเปิดประตูยมโลกเพื่อดูดพลังแห่งความตายออกจากร่างของหวงซี และอีกวิชาหนึ่งก็คือคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแน่นอนว่าอำนาจของมันนั้นคือของแสลงโดยตรงของเหล่าวิญญาณปีศาจและภูตผี
ที่ด้านข้างหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ เฟิงปิงในตอนนี้ก็มองลงไปที่แดนกระดูกขาวด้วยอาการทอดถอนหายใจเช่นกัน
สถานที่แห่งนี้ตั้งแต่ในอดีตก็เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงของภูเขาฟีนิกซ์ ซึ่งในปัจจุบันมันก็ยังคงเป็นภัยคุกคามอยู่เหมือนเดิม
เฟิงปิง ซึ่งยอมรับการลงทัณฑ์ของหลิงตู้ฉิงแต่โดยดีโดยการไปรับคำสั่งของหลิงยี่เทียนที่ทะเลชางหมาง เขารอจนหลิงตู้ฉิงบรรยายเต๋าเสร็จ จากนั้นเขาจึงพากลุ่มคนของภูเขาฟีนิกซ์จำนวนหนึ่งติดตามมาด้วยเพื่อคอยคุ้มกันกลุ่มของหลิงตู้ฉิงให้เดินทางผ่านแดนกระดูกขาวได้อย่างราบลื่น
หลังจากเดินทางผ่านแดนกระดูกขาวเป็นที่เรียบร้อย เฟิงปิงก็พูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “องค์เหนือหัว ข้าคงต้องแยกจากท่านตรงนี้เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลชางหมางตามที่ท่านสั่ง ข้าอยากรู้ว่าท่านมีอะไรจะกำชับข้าอีกครั้งหรือไม่?”
หลิงตู้ฉิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาพูดว่า “เข้าจงบอกกับยี่เทียนด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามเขาออกมาจากอาณาเขตนภาเป็นอันขาดถึงแม้ว่าเขาจะรวบรวมทุกอาณาจักรให้มาเข้าร่วมกับเขาได้สำเร็จทั้งหมดแล้วก็ตาม ให้เขารอข้ากลับไปก่อนเท่านั้น”
“น้อมรับบัญชา! ข้าจะส่งข้อความนี้ไปถึงลูกชายขององค์เหนือหัวแน่นอน!” เฟิงปิง รีบตอบกลับ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เอาล่ะเจ้าไปได้แล้ว!”
หลังจากที่เฟิงปิงจากไป หลิงฟ่างหัวก็ถามขึ้นว่า “ท่านพ่อพวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “สถานที่ถัดไปที่พวกเรากำลังจะมุ่งหน้าไปก็คือสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจี!”
“สำนักเทพปีศาจเก้าอเวจีอยู่ที่ไหนเหรอท่านพ่อ?” หลิงเทียนหยุนถามขึ้น
โม่หยูถังที่อยู่ด้านข้างรีบชิงตอบแทนทันที “นายน้อยเทียนหยุน สำนักเทพปีศาจเก้าอเวจีของข้าอยู่ใกล้กับภูมิภาคซ่งหยวน ซึ่งมันอยู่ห่างจากที่นี่พอสมควร มันน่าเสียดายจริง ๆ ที่สำนักของข้าไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภูเขาฟีนิกซ์ ไม่เช่นนั้นพวกเราก็คงสามารถใช้ประตูเคลื่อนย้ายของภูเขาฟีนิกซ์ตรงไปถึงสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจีได้เลย”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นอะไรหรอก พวกเราค่อย ๆ เดินทางไปก็ได้ พวกเรามีเวลาเหลือเฟืออยู่แล้ว”
แต่แล้วในทันทีที่หลิงตู้ฉิงพูดจบประโยค สายลมที่แผ่วเบาสายหนึ่งก็พัดผ่านที่แก้มของเขาไป
เหตุการณ์นี้ทำให้หลิงตู้ฉิงรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก และมันทำให้เขารีบกลับคำพูดของเขาเมื่อครู่ทันที “พักการไปสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจีเอาไว้ก่อน ตอนนี้เปลี่ยนเป้าหมายมุ่งหน้าไปที่อาณาเขตวายุให้เร็วที่สุด!”
“สามี เกิดอะไรขึ้น?” จ้าวเหมิงลู่รีบเอ่ยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงแสดงสีหน้าเย็นชาและพูดว่า “พวกเราจะไปที่อาณาเขตวายุเพื่อฆ่าคน!”