พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 681 เผชิญหน้าก่อนรบ
แผนการของสันเขาหมื่นอสูรก็คือการกำจัดผู้นำของฝั่งตรงข้ามก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพวกมันค่อยจัดการกับเหล่าคนที่เหลืออย่างช้า ๆ
สำหรับในสายตาของพวกมันนี่ไม่ใช่สงครามแม้แต่น้อย
พวกมันไม่เชื่อว่าฝั่งตรงข้ามที่ไม่ใช่ขุมกำลังมหาอำนาจจะสามารถต้านทานการโจมตีของอสูรขอบเขตจักรพรรดิได้แม้เพียงครั้งเดียว
แต่แล้วในทันทีที่มือของอสูรขอบเขตจักรพรรดิพุ่งเข้ามาใกล้หลิงยี่เทียน หมัดหนึ่งก็ถูกชกออกมาจากด้านหลังของหลิงยี่เทียนเข้าปะทะโดยตรงกับมือของอสูรขอบเขตจักรพรรดิ
หลังจากกการปะทะ เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นพร้อมกับร่างของอสูรขอบเขตจักรพรรดิกระเด็นถอยไปไกลนับ 10 เมตร
การปะทะครั้งทำให้เหล่าอสูรถึงกับขมวดคิ้ว
หากเทียบกันในเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย อสูรอย่างพวกมันนั้นแน่นอนว่าแข็งแกร่งกว่ามนุษย์หลายเท่า แต่ว่าผลจากการปะทะครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าอสูรขอบเขตจักรพรรดิกลับตกเป็นรอง?
“ใครกัน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!” อสูรขอบเขตจักรพรรดิตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
ในตอนแรกมันคิดว่าศึกครั้งนี้จะเป็นเรื่องง่าย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะคิดผิด?
บรรดาอสูรระดับสูงทั้งหลายต่างจ้องไปทางฝั่งของอาณาจักรจันทราอย่างไม่กระพริบตา พวกมันอยากรู้ว่าเป็นใครกันที่ให้การสนับสนุนอาณาจักรเล็ก ๆ แห่งนี้
ทางฝั่งของอาณาจักรจันทรา ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิผู้หนึ่งได้ก้าวออกมาและพูดว่า “ชายชราผู้นี้ก้าวออกมาแล้ว เจ้าจะเอายังไงต่อ?”
“คนจากสันเขาทรราช?” แววตาของอสูรขอบเขตจักรพรรดิฉายประกายประหลาดใจทันที
มันเดาจากพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งของฝั่งตรงข้าม มันจึงรู้ว่าคนที่มันเพิ่งปะทะด้วยคือคนที่มาจากสันเขาทรราช
“ข้าเทียนตงแห่งสันเขาทรราช!” ผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเทียนตะโกนแนะนำตัวขึ้น
โอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋งถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าก็สงสัยมาตั้งนานว่าทำไมอาณาจักรเล็กจ้อยแห่งนี้ถึงได้อาจหาญต่อต้านเผ่าอสูรของข้า ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้าสันเขาทรราชสินะที่เป็นผู้สนับสนุนพวกมัน? อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็ได้ยินมาว่าพวกเจ้าสันเขาทรราชได้เข้าไปเยือนอาณาจักรจันทราและขอเป็นพันธมิตร ซึ่งข้าเองก็คิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันกลับเป็นความจริงงั้นสินะ? แต่ก็ช่างเถอะต่อให้พวกเจ้าสันเขาทรราชจะสนับสนุนพวกมัน ข้าก็ไม่สนใจใครก็ตามที่บังอาจสังหารเผ่าพันธุ์ของข้า พวกมันจะต้องตายทั้งหมดรวมไปถึงพวกเจ้าด้วย!”
อสูรขอบเขตจักรพรรดิที่เมื่อครู่เพิ่งโจมตีไป มองไปที่เทียนตงด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดว่า “ต่อให้เจ้าจะให้การสนับสนุนอาณาจักรจันทรา แต่ไม่ว่าจะยังไงสุดท้ายแล้ววันนี้อาณาจักรจันทราจะต้องราบเป็นหน้ากลอง!”
เมื่อพูดจบ อสูรระดับสูงที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าขอบเขตราชันทั้งหมดก็ค่อย ๆ ก้าวออกมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแล้วเมื่อนับรวมกันพวกมันมีมากกว่า 10 ตน
อสูรขอบเขตราชันและจักรพรรดิมากกว่า 10 ตนมองไปที่เทียนตง และพูดว่า “พวกข้าจะไว้หน้าเจ้าในฐานะที่เจ้าเป็นลูกหลานของสวรรค์ โดยการให้โอกาสเจ้าหลีกทางไปซะ ไม่เช่นนั้นต่อให้เจ้าจะเป็นคนของสันเขาทรราชพวกข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ตายลงไปพร้อมกับพวกอาณาจักรจันทรา!”
เทียนตงยิ้มเย้ย จากนั้นเขาตอบกลับว่า “พวกเจ้าเอาแต่พูดกับข้ามากมายอยู่ได้ ข้าคิดว่าพวกเจ้าเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว ข้าไม่ใช่คนที่พวกเจ้าควรจะเจรจาด้วย คนที่พวกเจ้าควรจะเจรจาก็คือองค์ฝ่าบาทผู้ปกครองอาณาจักรจันทรา ไม่ใช่ข้าผู้นี้ที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ”
หลิงยี่เทียนพยักหน้าและพูดว่า “ทั้งโลกต่างร่ำลือกันว่าพวกเจ้าสันเขาหมื่นอสูรนั้นมีความแข็งแกร่งที่เป็นเลิศ ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกเจ้าที่ข้าเห็นในวันนี้ข้าคิดว่ามันก็ไม่เห็นเหมือนอย่างที่เขาลือกันสักเท่าไหร่ เจ้าคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้าแค่นี้จะสามารถทำอะไรอาณาจักรจันทราของข้าได้งั้นเหรอ? พวกเจ้าดูถูกความแข็งแกร่งอาณาจักรของข้ามากไปหน่อยแล้ว! ทุกคน ข้าขอมอบไอ้พวกอสูรระดับสูงพวกนี้ให้พวกท่านจัดการ!”
เมื่อหลิงยี่เทียน พูดจบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันและจักรพรรดิของทางฝั่งหลิงยี่เทียนก็ค่อย ๆ ก้าวออกมาทีละคน ๆ จนครบ ถึงแม้ว่าจำนวนของพวกเขาจะมีน้อยกว่าพวกอสูรอยู่ 2 คน แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาไม่ได้ด้อยกว่าเลยแม้แต่น้อย
ทางฝั่งของเหล่าอสูรเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ สีหน้าของพวกมันก็กลายเป็นจริงจังขึ้นในทันที
อาณาจักรเล็ก ๆ แบบนี้มีกำลังรบมากขนาดนี้ได้ยังไง? และที่สำคัญพวกผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่ก้าวออกมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่คนของสันเขาทรราชทั้งหมดด้วยซ้ำ
พวกผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เป็นใครกัน?
ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของทั้งสองฝั่งต่างประจันหน้ากันด้วยท่าทีเคร่งขรึม
ในระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายกำลังประจันหน้ากันอยู่ บรรดากองกำลังอื่น ๆ ที่กำลังเฝ้ามองก็รู้สึกหวาดผวาไปตาม ๆ กัน
สีหน้าของเหล่าผู้คนจากอาณาจักรนภาจรัสแสง อาณาจักรอ้าวเทียนและอาณาจักรมังทะยานล้วนแล้วแต่กลายเป็นซีดเผือด
เมื่อไหร่กันที่อาณาจักรจันทราแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้?
อาณาจักรจันทราที่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันและจักรพรรดิรวมกันแล้วมากกว่า 10 คน กองกำลังขนาดนี้พวกเขาจะไปสู้อะไรได้ยังไง?
แค่เพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเพียงคนเดียวก็สามารถทำลายล้างอาณาจักรของพวกเขาได้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แล้วแบบนี้พวกเขาจะเอาอะไรไปต่อกร?
โชคของพวกเขายังดีที่มีพวกอสูรไปลองกับพวกอาณาจักรจันทราก่อนจนอาณาจักรจันทราจำเป็นต้องหยิบเอาไพ่ลับของตัวเองออกมา ไม่เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาที่พวกเขารบกับอาณาจักรจันทราโดยที่ไม่รู้อะไร พวกเขาคงตายโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนอะไรเข้าไป
ในตอนนี้สิ่งที่พวกเขาหวังเอาไว้ก็คือ พวกเขาอยากจะให้อาณาจักรจันทราและสันเขาหมื่นอสูรรบกันจนตายไปให้หมดทั้งสองฝั่ง เพื่อที่สุดท้ายแล้วจะได้ไม่มีใครมาขัดขวางพวกเขาอีก
แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นเคล็ดวิชาต่าง ๆ ที่ทางฝั่งผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรจันทราเริ่มโคจรใช้เพื่อเตรียมรับศึก ความหวังต่าง ๆ ของพวกเขาก็พังทลายลงทันที พวกเขารีบตะโกนขึ้นกับคนของตัวเอง “เก็บสมบัติที่อยู่ในคลังของเราให้หมด และแจ้งให้ประชาชนทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมที่จะอพยพ!”
อาณาจักรนภาจรัสแสง อาณาจักรอ้าวเทียนและอาณาจักรมังทะยาน ต่างตัดสินใจแบบเดียวกันทั้งหมด
เหตุผลเป็นเพราะตอนนี้พวกเขาได้เห็นแล้วว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรจันทรานั้นมาจาก 3 ขุมกำลังมหาอำนาจ ซึ่งมีทั้งสันเขาทรราช สำนักเต๋าสวรรค์และสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์!
ไม่แปลกเลยที่อาณาจักรเล็ก ๆ แบบนี้จะกล้าสังหารเหล่าอสูรจากสันเขาหมื่นอสูรไปมากมาย ที่แท้พวกเขาก็มี 3 ขุมกำลังมหาอำนาจหนุนหลังอยู่!
ทางด้านของบรรดาอสูรจากสันเขาหมื่นอสูรตอนนี้สีหน้าของพวกมันกลายเป็นน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
ไอ้อาณาจักรบ้านี่กลับมี 3 ขุมกำลังมหาอำนาจหนุนหลัง!
ไอ้พวกมนุษย์เหล่านี้จงใจล่อพวกมันออกมางั้นเหรอ? เรื่องทั้งหมดมันคือแผนการหลอกให้พวกมันส่งกำลังออกมาจากสันเขาหมื่นอสูรใช่ไหม?ไอรีนโนเวล
พวกมันไม่คิดอีกแล้วว่านี่คือการรบธรรมดา เพราะพวกมันไม่เชื่อว่าอาณาจักรเล็ก ๆ แบบนี้จะมี 3 ขุมกำลังมหาอำนาจหนุนหลังโดยที่ไม่มีแผนใด ๆ
หากเป็นอาณาจักรที่มี 3 ขุมกำลังมหาอำนาจหนุนหลังแบบนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม ตามปกติแล้วอาณาจักรแบบนี้มันจะต้องมีอำนาจเหนือล้นจนสามารถครอบครองได้ทั้งอาณาเขตไปแล้วแบบสบาย ๆ หรือไม่ก็ต้องมีกองกำลังของตัวเองที่แข็งแกร่งพอประมาณ แต่เท่าที่ดูตอนนี้แล้วบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสูงทั้งหมดของอาณาจักรจันทรามันเป็นของ 3 ขุมกำลังมหาอำนาจทั้งหมดเลย?
ในตอนนี้พวกมันเริ่มที่จะกังวลว่า ฝั่งตรงข้ามจะต้องวางกับดักล่อพวกมันมาแน่นอน
“นายน้อย โปรดระวัง!” อสูรขอบเขตจักรพรรดิตนหนึ่งพูดกับโอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋ง
“นายน้อย บางอย่างในตอนนี้มันไม่ถูกต้อง มีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอีกกลุ่มคอยจับตาดูเราอยู่ตอนนี้!” อสูรขอบเขตจักรพรรดิที่เคยลงมือโจมตีเปิดฉากเอ่ยขึ้น
นี่เป็นเพราะหลังจากที่เหล่าอสูรเห็นความผิดปกติของอาณาจักรจันทรา พวกมันทั้งหมดก็ช่วยกันแผ่เจตจำนงของตัวออกไปเป็นวงกว้างเพื่อตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือมีใครดักซุ่มโจมตีพวกมันหรือไม่ ซึ่งพวกมันก็เจอจริง ๆ พวกมันพบว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงคอยจับตาดูพวกมันอยู่ไม่ไกล ซึ่งสิ่งนี้ยิ่งทำให้พวกมันเครียดมากเข้าไปใหญ่
โอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋งพูดขึ้นด้วยสีหน้ามืดหม่น “ออกไปพบกับกลุ่มที่จับตาดูเราอยู่ และถามพวกเขาว่าพวกเขาเป็นใคร”
“นายน้อยพวกเราคงไม่ต้องไปหาพวกเขาหรอก พวกเขากำลังมาหาพวกเราแล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงพูดของอสูรขอบเขตจักรพรรดิที่อยู่ข้าง ๆ มี่ตั้วตั้วก็เดินเข้ามาพร้อมกับอสูรทมิฬสงครามตนหนึ่ง เมื่อเขาเดินมาถึงด้านหน้าโอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋ง มี่ตั้วตั้วก็พูดขึ้นทันที “ข้าเป็นคนที่มีบ้านเกิดอยู่ที่อาณาจักรจันทรา ดังนั้นเมื่ออาณาจักรจันทรามีปัญหาหาข้าจึงจำเป็นต้องยื่นมือเข้าแทรกแซง แต่ข้าเป็นเพียงพ่อค้า ข้าไม่ชอบการต่อสู้หรือฆ่าฟัน ที่ด้านข้างของข้าคือผู้อาวุโสมี่ฮงจากเผ่าอสูรทมิฬสงคราม ซึ่งมีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ หากท่านยอมตกลงให้อสูรขอบเขตมหาจักรพรรดิของท่านยืนดูอยู่เฉย ๆ ข้าก็จะส่งข่าวให้ทางฝั่งอาณาจักรจันทราไม่ส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของพวกเขาออกมาเช่นกัน และจากนั้นพวกท่านทั้งสองฝ่ายก็จงตัดสินกันด้วยกองทัพของพวกท่านเอง เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปเกินจำเป็น แต่ถ้าหากท่านไม่ยอมรับข้อเสนอของข้า ข้าจะให้อาวุโสเผ่าอสูรทมิฬสงครามท่านนี้เข้าร่วมกับฝั่งอาณาจักรจันทราเพื่อสู้กับพวกท่าน!”