พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 718 ที่แท้ก็เป็นเจ้า!
ตัดสินจากการกระทำของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจงใจที่จะฆ่าหยูปิงไปพร้อม ๆ กับหลิงตู้ฉิง และแน่นอนว่าเซียงกวนก็อยู่ในระยะการโจมตีของเขาด้วยเช่นกัน
หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างพึงพอใจ และตะโกนว่า “ข้ารอเจ้าอยู่ตั้งนานแล้ว!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็เขวี้ยงง้าวเทวะพินาศจำลองเข้าไปปะทะกับการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิในทันที ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งสำนัก
ส่วนทางด้านนั้นเซียงกวนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าเขาและหลิงตู้ฉิงจะต้องถูกโจมตีแน่นอนก็ทำหน้าที่ดูดซับแรงระเบิดจากการปะทะ ทำให้พวกเขาทั้งคู่รวมไปถึงหยูปิงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
ในความเป็นจริง หลิงตู้ฉิงรู้ดีว่าเขาและเซียงกวนไม่มีอำนาจพอจะคลายผนึกของพวกสมาชิกตำหนักดับเซียนได้แน่นอน สิ่งที่เขาพูดกับเซียงกวนไปนั้นมันเป็นแค่การแสดงเพื่อล่อให้เป้าหมายของเขามาติดกับดัก
“น้องหยูห้าวหลง ข้าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงยอมไปเข้าร่วมกับตำหนักดับเซียน แบบนี้?” เซียงกวนถามขึ้นด้วยสีหน้าผิดหวัง
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิที่เพิ่งลงมือไปที่ชื่อหยูห้าวหลง ตอบกลับด้วยสีหน้าเดือดดาลว่า “อย่างข้าเนี่ยนะเข้าร่วมกับตำหนักดับเซียน? ข้าแค่ต้องการสังหารไอ้เด็กตระกูลหยูของข้าที่เข้าร่วมกับตำหนักดับเซียน เพื่อป้องกันไม่ให้มันเอาความลับของสำนักเราไปส่งต่อให้กับตำหนักดับเซียนรู้ก็เท่านั้น!”
หลิงตู้ฉิงไม่ได้สนใจในคำแก้ตัวของหยูห้าวหลงเลยแม้แต่น้อย เขาถามสวนไปทันที “เจ้ามีตำแหน่งเป็นอะไรในตำหนักดับเซียน? เทพมรณะ หรือ ผู้พิพากษา? แต่ข้าคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าที่อยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ ต่อให้เจ้าเป็นผู้พิพากษา เจ้าก็น่าจะเป็นผู้พิพากษาอันดับต้น ๆ ใช่ไหม?”
หยูห้าวหลงตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ข้าเป็นถึงบรรพบุรุษของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ ทำไมข้าจะต้องไปเข้าร่วมกับตำหนักดับเซียนให้ชีวิตของข้ายุ่งยากด้วยกัน ไร้เหตุผลสิ้นดี!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ช่างเถอะ ๆ ต่อให้เจ้าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับว่าเป็นคนของตำหนักดับเซียนรึเปล่า แต่ไม่ว่าจะยังไงวันนี้ข้าก็จะฆ่าเจ้าอยู่ดี!”
หยูห้าวหลงหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า น่าขำสิ้นดี! เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบเจ้าเนี่ยนะที่จะฆ่าข้า? ถ้าไม่มีอาวุธแปลก ๆ นั่นในมือ ต่อให้ข้ายืนอยู่เฉย ๆ เจ้าก็ไม่มีวันทำอะไรข้าได้และอย่าลืมว่าในมือของข้าก็มีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นอย่าได้มาทำตัวโอหังต่อหน้าข้าแบบนี้ มันไม่มีประโยชน์หรอก!”
ถึงแม้ว่าหยูห้าวหลงจะพูดออกไปแบบนี้ แต่ในใจของเขากลับรู้สึกหวาดหวั่น เนื่องจากเขาอาวุธในมือของหลิงตู้ฉิงมันแปลกประหลาดเกินไปจนทำให้เขาไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับมันได้ไหม
ในตอนแรกเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจอยากจะลงมือแบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะเขารู้ดีว่าหากเขาลงมือเมื่อไหร่ ตัวตนของเขาจะต้องถูกเปิดเผยแน่นอน
แต่ในท้ายที่สุดสถานการณ์ทุกอย่างมันกลับบานปลายจนทำให้เขาไม่มีทางเลือกและต้องลงมือจนได้
ตัวของเขาเองนั้นเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเทพมรณะของตำหนักดับเซียนได้ไม่นาน เขาจึงยังไม่รู้ความลับของตำหนักดับเซียนมากมายนัก ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงสามารถคลายผนึกของหยูปิงได้ แถมหลิงตู้ฉิงยังสามารถมองออกว่าใครเป็นคนของตำหนักดับเซียนได้อีกต่างหาก เขาจึงเข้าใจว่าหลิงตู้ฉิงจะต้องเค้นความลับได้จากหยูปิงแน่นอน
หากหยูปิงถูกตรวจค้นดวงวิญญาณ ถึงแม้ว่าความลับของเขาจะถูกเปิดเผยมันก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เขายอมไม่ได้และกังวลก็คือความลับของตำหนักดับเซียนมันจะรั่วไหลออกไป
ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกและต้องลงมือแบบนี้ ซึ่งมันน่าเสียดายที่เมื่อเขาลงมือไปแล้วมันกลับกลายเป็นไม่ได้ผล
หลิงตู้ฉิงเรียกง้าวเทวะพินาศจำลองให้กลับมาอยู่ในมือ จากนั้นเขาพูดว่า “ต่อให้เจ้าจะเป็นคนของตำหนักดับเซียน แต่ข้าก็ยังจะให้โอกาสเจ้า หากเจ้ายอมรับมาซะดี ๆ ว่าเจ้ามีตำแหน่งอะไรในตำหนักดับเซียน ข้าสัญญาว่าข้าจะทำให้เจ้าตายแบบไม่ทรมานโดยที่เจ้ายังสามารถกลับไปเกิดใหม่ได้”
“ไร้สาระ!” หยูห้าวหลงตะคอกกลับ “ข้าบอกไปแล้วไงว่าข้าไม่ใช่คนของตำหนักดับเซียน เจ้ามีหลักฐานอะไรถึงได้มากล่าวหาข้าแบบนี้?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “เฮ้อ เจ้านี่ช่างดื้อด้านซะจริง ๆ ในเมื่อพูดแล้วไม่ฟังถ้างั้นก็ตายไปซะ!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็เขวี้ยงง้าวออกไปในทันที
ทางด้านของหยูห้าวหลงที่รู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องถูกโจมตี เขาจึงเตรียมรับมือไว้อยู่แล้วโดยการโคจรพลังของตัวเองจนถึงจุดสูงสุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาณาเขตสวรรค์ของเขาเองรอรับการโจมตีของหลิงตู้ฉิง
แต่แล้วง้าวเทวะพินาศจำลองที่ถูกเขวี้ยงออกมานั้นมันกลับพุ่งผ่านอาณาเขตสวรรค์ของหยูห้าวหลงไปได้แบบสบาย ๆ ราวกับว่าม่านพลังของอาณาเขตสวรรค์นั้นไม่มีอยู่จริง และสับเข้าที่มือขวาของหยูห้าวหลงจนหลุดกระเด็น
บรรดาผู้คนที่ดูเหตุการณ์อยู่ต่างตกตะลึงกันอีกรอบ เนื่องจากพวกเขาไม่เข้าใจกันจริง ๆ ว่าทำไมง้าวเล่มนี้ถึงสามารถทะลวงผ่านการป้องกันต่าง ๆ ได้แบบไร้เทียมทานขนาดนี้
ง้าวเล่มนี้มันคืออะไรกันแน่?
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แม้แต่หยูห้าวหลงตอนนี้ก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตางุนงง
อาณาเขตสวรรค์ของเขาก็ไม่ได้ถูกทำลาย แล้วทำไมไอ้ง้าวเล่มนี้มันถึงสามารถทะลวงผ่านเข้ามาฟันแขนของเขาได้ และที่สำคัญเขากลับไม่สามารถฟื้นฟูแขนที่ถูกตัดออกไปให้งอกกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่างหาก
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเริ่มจะดูท่าไม่ดีแล้ว หยูห้าวหลงจึงตัดสินใจหนีในทันทีโดยใช้วิชาตัวเบาของตำหนักดับเซียน
แค่เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น ร่างของหยูห้าวหลงก็พุ่งหายไปจากสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิคนไหนจะมีได้ และมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ของอาณาเขตอักขระศักดิ์สิทธิ์
หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นเช่นนี้เขาหัวเราะเยาะเย้ยพร้อมกับเรียกง้าวเทวะพินาศจำลองให้กลับมาอยู่ในมือ จากนั้นเขาก็ใช้พเนจรไร้จำกัดพุ่งตามไปในทันทีเช่นกัน
หยูห้าวหลงมั่นใจเป็นอย่างมากในความเร็วที่ตัวเองมี เนื่องจากเขาสามารถเคลื่อนที่ได้ไกลถึง 10,000 กิโลเมตรภายในพริบตา เขาแน่ใจว่าไม่มีทางที่คนในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์จะสามารถตามเขาได้ทัน
แต่ว่าในขณะที่เขากำลังลำพองใจอยู่นั้น จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ด้านหลังของเขา “ต่อให้เจ้าจะหนีได้เร็วแค่ไหน ข้าก็สามารถตามเจ้าทันอยู่ดี เจ้าเชื่อไหม?”
หากเป็นก่อนหน้า หลิงตู้ฉิงคงไม่มีวันที่จะตามหยูห้าวหลงได้ทันแน่นอน แต่ในตอนนี้เมื่อเขามีพเนจรไร้จำกัด การเคลื่อนที่ระยะทาง 10,000 กิโลเมตรภายในพริบตาสำหรับเขาจึงเป็นเรื่องที่ง่ายเป็นอย่างมาก
สีหน้าของหยูห้าวหลงที่เคยลำพองใจเมื่อก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงของหลิงตู้ฉิง
เขาค่อย ๆ หันหน้ามาหาหลิงตู้ฉิง และถามว่า “นี่เจ้าตามข้าทันได้ยังไง?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “ข้าบอกแล้วไงว่าข้าคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับตำหนักดับเซียนของเจ้า เมื่อครู่วิชาตัวเบาที่เจ้าใช้มันคือวิชาวายุพริบตาใช่ไหมล่ะ ว่าแต่วิชานี้มันมีจะมีก็แต่ผู้ที่มีตำแหน่งเป็นเทพมรณะแล้วเท่านั้นถึงจะสามารถเรียนรู้ได้ ถ้างั้นข้าขอถามเจ้าสักหน่อยได้ไหมว่าเจ้าเป็นเทพมรณะหมายเลขที่เท่าไหร่?”
หยูห้าวหลงเงียบไปสักพัก จากนั้นเขาตอบกลับด้วยสีหน้าลังเล “ข้าคือเทพมรณะหมายเลข 9!”
หลิงตู้ฉิงตกตะลึงไปอยู่ชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาและพูดว่า “นี่โชคชะตาของเทพมรณะหมายเลข 9 จะต้องมายุ่งเกี่ยวกับข้าทุกคนเลยเหรอไงกัน? หลายหมื่นปีที่แล้วข้าก็ฆ่าเทพมรณะหมายเลข 9 ไปคนหนึ่ง มาวันนี้ข้ากลับได้เจออีกคนอีกแล้วนี่สวรรค์ล้อข้าเล่นหรือยังไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยูห้าวหลงรู้สึกหนาวไปทั้งร่างและถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว “ปะปะ..เป็นเจ้าเองงั้นเหรอ?”