พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 790 ผีเสื้อเริงระบำ
ทุกคนที่อยู่ในสนามรบต่างมองหลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตื่นตระหนก
หากหลิงตู้ฉิงสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุดของตำหนักเซียนมืดด้วยการประชันความแข็งแกร่งอย่างเปิดเผย พวกเขาคงจะรู้สึกว่าหลิงตู้ฉิงนั้นมีความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขาม
แต่เมื่อครู่หลิงตู้ฉิงกลับเปลี่ยนร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุดให้กลายเป็นรังไหม ซึ่งการกระทำแบบนี้มันน่าสยดสยองและอยู่เหนือจินตนาการที่พวกเขาจะคาดคิดได้
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง ในเวลานี้เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับอาการตื่นตระหนกของเหล่าผู้คนทั้งหลายแม้แต่น้อย เขาหันความสนใจไปที่การทำลายล้างกองทัพอาณาจักรอ้าวเฟิงด้วยทะเลเลือด
เหล่าทหารของอาณาจักรอ้าวเฟิงถูกคลื่นของทะเลเลือดกลืนกินโดยที่ไม่สามารถต่อต้านใด ๆ ได้เลย เมื่อร่างของพวกเขาจมอยู่ในทะเลเลือด พวกเขารู้สึกว่าตนเองไม่สามารถควบคุมร่างกายได้แม้แต่น้อย และเลือดของพวกเขาก็ถูกดูดออกจากทางทวารทั้งเจ็ดอย่างรวดเร็ว
แค่เพียงพริบตาเดียว ทหารของอาณาจักรอ้าวเฟิงมากกว่า 1 ล้านนายก็เหลือแต่ร่างที่มีแค่หนังหุ้มกระดูกและไร้วิญญาณ ส่วนทะเลเลือดที่เหลือขนาดแค่ 3 ใน 10 หลังจากเปลี่ยนชายชราจากตำหนักเซียนมืดให้กลายเป็นรังไหม ตอนนี้ขนาดของมันก็กลับมาเป็น 2 ใน 3 จากตอนเริ่มแรก
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของหมู่บ้านกระบี่โลหิตและสำนักไร้ขอบเขตจึงรีบตะโกนขึ้น “ทุกคนโจมตีไปที่ชายผู้นั้น ฆ่าเขาให้เร็วที่สุด! ตอนนี้ทะเลเลือดของมันฟื้นฟูกลับมาเป็น 2 ใน 3 แล้ว หากทะเลเลือดของมันฟื้นฟูจนมีขนาดเท่าเดิมพวกเราจะไม่มีทางต่อกรกับมันได้แน่นอน!”
“และไอ้พวกอาณาจักรอ้าวเฟิงหน้าโง่ ทำไมพวกเจ้าถึงไม่รีบสั่งให้ทหารของพวกเจ้าถอนกำลังออกไป? นี่พวกเจ้าโง่กันจนไม่รู้เหรอว่าตอนนี้พวกเจ้ากำลังทำให้มันแกร่งขึ้น! ให้ทหารของพวกเจ้าถอยไปซะ ส่วนพวกเจ้าที่อยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิออกมาช่วยพวกข้าโจมตีไปที่มัน!”
เมื่อเห็นว่าทะเลเลือดของหลิงตู้ฉิงฟื้นฟูขึ้นด้วยอัตราที่น่าตกตะลึง หมู่บ้านกระบี่โลหิตและสำนักไร้ขอบเขตก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
หากพวกเขายังคงสู้แบบนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่สามารถทำลายป่าภูตนางฟ้าได้ แต่ตัวของพวกเขาเองนั่นแหละที่จะเป็นคนถูกทำลายซะเอง
ดังนั้นหนทางแก้ไขของพวกเขาในตอนนี้คือการฆ่าหลิงตู้ฉิง ซึ่งเป็นผู้ควบคุมทะเลเลือดให้ตายไปซะ
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของอาณาจักรอ้าวเฟิงเมื่อได้ยินทางฝั่งของทั้งสองสำนักตะโกนด่าเช่นนี้ พวกเขาก็ได้สติจากอาการตกตะลึงในทันที จากนั้นพวกเขาจึงรีบสั่งการออกไป “กองทหารทั้งหมดถอย! ส่วนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันขึ้นไปมารวมกลุ่มกับพวกข้า เตรียมตัวฆ่าไอ้ปีศาจร้ายตนนี้ด้วยกัน!”
ทางด้านของสำนักห้าวเทียนนั้นยังไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ไป๋หลีเหวินเซี่ยงก็รู้สึกอยากจะลงมือแล้วเช่นกัน แต่มันติดอยู่ตรงที่ผู้เชี่ยวชาญของหอการค้าเชื่อมสวรรค์กลับโบกมือห้ามเขาไว้และพูดว่า “พวกเราได้สิ่งที่พวกเราต้องการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นวันนี้พวกเราควรจะพอแค่นี้ ไม่อย่างนั้นหากพวกเราลงมือโจมตีไป พวกเราอาจจะติดร่างแหหายนะนี้ไปด้วย”
ไป๋หลีเหวินเซี่ยงพยักหน้า จากนั้นเขาจึงสั่งแค่เพียงให้คนของเขาคอยเตรียมพร้อมอยู่ในค่ายไม่ให้เคลื่อนไหวออกไปด้านนอก ทั้ง ๆ ที่ในใจเขาอยากรู้เป็นอย่างมากว่าหอการค้าเชื่อมสวรรค์ต้องการที่จะได้อะไรจากเรื่องนี้กันแน่ ส่วนตัวของเขาเองที่ได้รับภูตนางฟ้ามากว่า 50,000 ตนนั้น เขาเองก็รู้สึกว่าการมาครั้งนี้ก็ไม่ได้เสียเที่ยวอะไร
ส่วนทางฝั่งของเหล่าภูตนางฟ้า จักรพรรดินีภูตนางฟ้าเมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะถูกรุม นางจึงรีบสั่งการคนของนางทันที “สนับสนุนคุณชายผู้นั้น รั้งตัวพวกผู้เชี่ยวชาญฝั่งตรงข้ามให้ได้มากที่สุดเพื่อรอจนกว่าทะเลเลือดจะฟื้นฟูเต็ม 10 ส่วน!”.ไอลีนโนเวล.
เมื่อพูดจบ จักรพรรดินีพร้อมทั้งคนของนางก็พุ่งตัวเข้าไปตะลุมบอนกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของหมู่บ้านกระบี่โลหิตและสำนักไร้ขอบเขต
แต่น่าเสียดายด้วยจำนวนที่แตกต่างกันมาก มันจึงยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกจำนวนมากที่หลุดไปหาหลิงตู้ฉิงได้
เมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญฝั่งตรงข้ามจำนวนมากดาหน้ากันเข้ามา หลิงตู้ฉิงหัวเราะและโยนยั่นต์สั่งสวรรค์ที่เขาเตรียมเอาไว้นานแล้วออกไปและพูดว่า “จงไปฆ่าให้ได้มากที่สุดเพื่อเผ่าภูตนางฟ้าของเจ้า!”
ยันต์สั่งสวรรค์ที่หลิงตู้ฉิงโยนออกไปนั้นก็คือยันต์สั่งสวรรค์ที่ภายในผนึกผีเสื้อยักษ์ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเหล่าภูตนางฟ้าเอาไว้!
ยันต์สั่งสวรรค์ขาดออกเป็นสองส่วนทันทีเมื่อมันหลุดออกจากมือของหลิงตู้ฉิง จากนั้นผีเสื้อสีเทาร่างยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นขวางระหว่างหลิงตู้ฉิง และบรรดาผู้เชี่ยวชาญฝั่งตรงข้ามที่กำลังพุ่งตัวเข้ามา
เมื่อผีเสื้อปรากฏกายขึ้น มันสยายปีกออกจากนั้นก็กระพือปีกขึ้นลงและบินวนไปวนมารอบกายของผู้เชี่ยวชาญฝั่งศัตรูราวกับว่ามันกำลังเต้นระบำให้กับพวกเขาได้ชม
“ผีเสื้อยมโลกเริงระบำ!” อสูรขอบเขตมหาจักรพรรดิกรีดร้องเสียงหลง จากนั้นมันรีบหมุนตัวกลับและหนีไปในทันที
ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตราชันและจักรพรรดิเมื่อเห็นผีเสื้อปรากฏขึ้น พวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวจนมือไม้สั่นและเตรียมที่จะหาจังหวะหนีไปเช่นกัน
จะมีก็แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของหมู่บ้านกระบี่โลหิตที่ยังคงยืนหยัดอยู่ และตะโกนขึ้นต่อหน้าผีเสื้อยักษ์ว่า “เจ้ามันก็แค่เศษเสี้ยวของเจตจำนงที่หลงเหลืออยู่ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้างั้นเหรอ? หากเป็นเจ้าตัวจริงปรากฏขึ้น ข้าคงจะยอมถอยให้แต่ตอนนี้เจ้าตายไปแล้ว ดังนั้นข้าจะขอลบเศษเสี้ยวเจตจำนงสุดท้ายของเจ้าออกไปจากโลกนี้ด้วยน้ำมือของข้าเอง!”
จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าไปต่อสู้กับผีเสื้อทันที
ในเวลานี้จึงเหลือแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของทางฝั่งอาณาจักรอ้าวเฟิงที่ยังว่างอยู่ แต่พวกเขาเองก็ยังไม่กล้าลงมือเหมือนกัน เพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่าแค่กำลังของพวกเขาเพียงอย่างเดียวจะสามารถต้านทานทะเลเลือดของหลิงตู้ฉิงไหวหรือเปล่า
“พวกเราจะไม่ลงมือจริง ๆ งั้นเหรอ?” ไป๋หลีเหวินเซี่ยงถามขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญของหาการค้าเชื่อมสวรรค์ตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ตามข้อมูลที่ข้ามี ชายผู้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาและเขายังมีวิธีการที่น่ากลัวซ่อนไว้อีกมาย ดังนั้นหากท่านไม่เชื่อที่ข้าพูด ท่านจะลองดูก็ได้ แต่ว่าเมื่อไหร่ที่ท่านลงมือ ข้าจะถือว่าความร่วมมือที่พวกเรามีทั้งหมดในวันนี้จบกันและพวกท่านจะต้องแบกรับผลที่ตามมาเองเพียงฝั่งเดียว หอการค้าเชื่อมสวรรค์จะไม่ช่วยท่านแบกรับกับหายนะที่ท่านก่อ”
ไป๋หลีเหวินเซี่ยงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาไม่เข้าใจว่าหอการค้าเชื่อมสวรรค์จะกลัวอะไรนักหนากับชายคนเดียว
เขาคิดว่าหลิงตู้ฉิงน่าจะไม่มีไพ่ลับอะไรอีกแล้วนอกซะจากทะเลเลือดที่ในตอนนี้เขากำลังใช้งานอยู่ แถมทะเลเลือดในตอนนี้ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนในตอนแรก ดังนั้นตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะสังหารชายผู้นั้นหรือยังไง?
และในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็เห็นรถมังกรที่ถูกลากด้วยมังกรและฟีนิกซ์บินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เขาทำให้เขาต้องขมวดคิ้วแน่นก็คือกลุ่มภูตดินกลุ่มหนึ่งที่บินคุ้มกันอยู่รอบ ๆ นั้นมีถึง 10 ตนที่เขามองไม่เห็นระดับการบ่มเพาะของพวกมัน!
ต้องรู้ไว้ว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุด ดังนั้นหากเขามองระดับการบ่มเพาะไม่เห็นมันก็แปลว่าภูตดินทั้ง 10 ตัวนั้นล้วนมีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิทั้งหมด
ในเวลาเดียวกัน ซวนหยวนตู่ซึ่งเป็นผู้นำขบวนก็สั่งให้รถมังกรหยุดลงก่อนจะเข้าเขตสนามรบ จากนั้นเขาตะโกนไปหาหลิงตู้ฉิงว่า “ท่านผู้ส่งสาสน์ พวกเรามาช่วยท่านแล้ว!”
ทันทีที่ซวนหยวนตู่พูดจบ ภูตดินขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด 2 ตนก็พุ่งไปประกบซ้ายขวาหลิงตู้ฉิงทันทีเพื่อคุ้มกัน ซึ่งแน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญกองกำลังอื่น ๆ ก็เห็นเหมือนกันว่ากำลังเสริมของหลิงตู้ฉิงที่มาใหม่นั้นเป็นภูตดินที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิถึง 10 ตน ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจได้ทันทีว่าจะต้องทำอะไรต่อ
“ถอย!!!!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของอาณาจักรอ้าวเฟิงตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันในทันที และจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็รีบบินหนีไปโดยไม่สนใจกองทัพของพวกเขาที่ยังเหลือทหารรอดชีวิตอยู่อีกหลายล้านคนแม้แต่น้อยว่าหลังจากนี้เหล่าทหารจะต้องเผชิญกับชะตากรรมอะไรบ้าง!