พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 848 พ่อลูกพบกัน
เมื่อประกาศความตายให้กับนายน้อยมิติเรียบร้อยแล้ว นางก็เบนสายตาของนางไปที่หลิงตู้ฉิงทันทีและพูดว่า “เจ้าเองก็ต้องการทักษะของเขาด้วยใช่ไหมเมื่อกี้? ถ้างั้นเจ้าก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่บ่มเพาะเต๋าแห่งมิติด้วยใช่ไหม? ไหนเจ้าลองใช้ทักษะของเจ้ามาให้ข้าดูซะดี ๆ อย่าให้ข้าต้องลงมือบังคับเจ้าเพราะว่าผลลัพธ์ที่เจ้าจะต้องเผชิญนั้นมันคงไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะชอบแน่นอน!”
ในทางกลับกัน นายน้อยมิติที่อยู่ด้านหลังของนางกลับรู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครดูถูกเขาถึงขนาดนี้มาก่อน แถมผู้หญิงคนนี้กลับพูดกับเขาหน้าตาเฉยว่าเขาตายไปแล้วหลังจากที่นางดีดนิ้ว? นางอยากจะทำให้เขาหัวเราะจนตายงั้นเหรอถึงเล่นมุกนี้กับเขา?
แต่แล้วก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร จู่ ๆ ดวงวิญญาณของเขาก็ระเบิดออกและตามมาด้วยหลุมดำก็ปรากฏขึ้นจากแรงระเบิดของดวงวิญญาณของเขาเอง ส่งผลให้ทั้งร่างกายและเศษเสี้ยวทั้งหลายของดวงวิญญาณของเขาถูกหลุมดำดูดเข้าไปจนหมดสิ้น และจากนั้นหลุมดำก็ค่อย ๆ สลายหายไป
บรรดาผู้คนที่ดูเหตุการณ์อยู่เมื่อเห็นภาพเช่นนี้พวกเขาต่างก็รู้สึกกลัวจนขาสั่น
นี่มันทักษะการฆ่าแบบไหนกัน? แค่เพียงดีดนิ้วก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงตายได้แล้วงั้นเหรอ?
ในทางกลับกัน หลิงตู้ฉิงกลับพยักหน้าด้วยความพึงพอใจกับทักษะที่หลิงฟ่างหัวเพิ่งใช้ไปเมื่อครู่
เขาบอกได้ทันทีว่า หลิงฟ่างหัวเอาแนวคิดของวิชากรงเล็บกระชากวิญญาณมารวมกับทักษะพลังมิติของนางโดยการกำหนดพิกัดมิติเชื่อมไปที่ดวงวิญญาณของนายน้อยมิติ จากนั้นนางจึงควบแน่นพลังมิติให้เป็นกลุ่มก้อนจนหนาแน่นและทำให้มันไม่เสถียรจนมันสามารถระเบิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ก่อนที่จะส่งมันเข้าไปฝังไว้ในดวงวิญญาณของนายน้อยมิติ จากนั้นนางก็แค่รอให้พลังมิติของนาง ซึ่งเป็นเหมือนระเบิดเวลาระเบิดออก ซึ่งภาพผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น
แน่นอนว่าในสายตาของคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่รู้เบื้องหลังของทักษะนี้ มันจึงยิ่งทำให้ตัวตนของหลิงฟ่างหัวยิ่งเหนือล้ำและพิสดารมากขึ้นไปอีก
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเขาเองกลับหันมาแยกเขี้ยวใส่เขา หลิงตู้ฉิงจึงรู้สึกขบขันอยู่ในใจและตอบกลับไปว่า “แล้วถ้าข้าไม่แสดงให้เจ้าดู เจ้าจะใช้ทักษะเมื่อครู่นี้ฆ่าข้ารึเปล่า?”
“พูดแบบนี้แสดงว่าเจ้าอยากตายมากสินะ!” หลิงฟ่างหัวพ่นลมหายใจ “ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสเจ้าได้แสดงทักษะของตัวเองเพื่อซื้อชีวิตของตัวเจ้าเองแท้ ๆ แต่เจ้ากลับยอกย้อนกับข้า ดังนั้นข้าไม่ดูทักษะก็ได้ เจ้ามันก็เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับหลุดพ้นสามัญ ซึ่งไม่น่าจะเข้าใจอะไรในกฎแห่งมิติมากมายนัก ต่อให้ข้าดูทักษะของเจ้าไปมันก็เสียเวลาของข้าอยู่ดี ในเมื่อเป็นแบบนี้เจ้าก็อย่าอยู่ต่อไปอีกเลย!”
หลังจากพูดจบ หลิงฟ่างหัวดีดนิ้วอีกรอบเพื่อฆ่าหลิงตู้ฉิง
แต่น่าเสียดายที่รอบนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นางสัมผัสได้ในทันทีว่าช่องทางมิติที่นางสร้างขึ้นเพื่อจะเชื่อมไปที่ดวงวิญญาณของหลิงตู้ฉิงนั้นมันไม่สามารถเชื่อมไปถึงได้ ซึ่งมันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาขวางกั้นอยู่
“หืม?” หลิงฟ่างหัวหรี่ตามองไปที่หลิงตู้ฉิงทันที “เจ้านี่น่าสนใจจริง ๆ!”
เมื่อพูดจบ นางจึงใช้ทักษะเดินทางผ่านมิติทันที เพื่อตั้งใจว่าจะไปปรากฏกายขึ้นตรงหน้าหลิงตู้ฉิง และใช้ระดับการบ่มเพาะของนางที่แข็งแกร่งกว่าบดขยี้เขาให้ตาย
แต่น่าเสียดายที่หลังจากนางกำลังจะหายตัวเดินทางผ่านมิติ นางก็สัมผัสได้ว่ามิติรอบ ๆ กายนางตอนนี้มันเหมือนถูกผนึกเอาไว้ และหรือให้นางจะฝืนเดินทางผ่านมัน มันก็ไม่เสถียรเป็นอย่างมาก และผลลัพธ์มันอาจจะกลายเป็นว่านางอาจจะหลุดไปที่สถานที่อื่น ซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่านางจะหลุดไปที่ไหน ดังนั้นนางจึงรีบยกเลิกทักษะของนางทันที
ในความเป็นจริงตอนนี้หลิงฟ่างหัวได้อยู่ในอาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิงเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าพลังแห่งกฎทุกอย่างที่นางต้องการใช้ล้วนถูกบิดเบือนโดยหลิงตู้ฉิงทั้งหมด
ในเวลาเดียวกัน หลิงฟ่างหัวในตอนนี้รู้สึกทั้งสับสนและหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
ระดับการบ่มเพาะของชายผู้นี้ห่างจากนางตั้ง 2 ระดับ นางไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชายผู้นี้ถึงได้แข็งแกร่งได้ขนาดนี้?
“ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้!” หลิงฟ่างหัวตวาดขึ้น
ในตอนนี้นางไม่คิดจะใช้ทักษะที่เกี่ยวกับพลังแห่งกฎอีกต่อไปแล้ว นางจะเปลี่ยนวิธีเป็นการใช้ทักษะพเนจรไร้จำกัดในการโจมตีแทน เพราะนางมั่นใจว่าคู่ต่อสู้ของนางไม่มีวันตามความเร็วของนางได้ทัน!
แต่แล้วเมื่อนางพุ่งตัวเข้าไปหาฝั่งตรงข้าม นางก็ได้รู้ตัวว่านางคิดผิดถนัดเพราะชายปริศนาที่นางอยากจะฆ่าให้ตายกลับพุ่งถอยหลังหลบหลีกการโจมตีของนางได้แบบสบาย ๆ ซะอย่างนั้น!
เมื่อเห็นเช่นนี้นางหยุดลงทันที และตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตะลึงว่า “ท่านพ่อ นั่นท่านใช่ไหม?”
ในโลกใบนี้มีคนอยู่แค่ไม่กี่คนที่รู้วิชาพเนจรไร้จำกัดและคนที่สามารถใช้มันหลบการโจมตีของนางได้ง่าย ๆ ขนาดนี้แถมยังสามารถลบพลังมิติของนางได้โดยที่นางไม่สามารถต่อกรอะไรได้เลยนั้นมีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นที่นางคิดออก ซึ่งก็คือพ่อของนางเอง
แต่ถึงแม้ว่านางจะนึกออกแค่คนเดียว นางก็ยังคงรู้สึกไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า ดังนั้นนางจึงตะโกนถามขึ้นก่อน
หลิงตู้ฉิงหัวเราะในทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกจับได้แล้ว “ไม่เลวเลย ๆ เจ้าพัฒนาไปมากจริง ๆ!”
หลิงฟ่างหัวทำหน้ามุ่ยและตะโกนขึ้นทันที “ท่านพ่อท่านตุ๋นข้าซะเปื่อยเลยจริง ๆ รอบนี้! ท่านรู้ไหมว่าท่านทำให้ข้านึกว่าบนโลกนี้มีอัจฉริยะที่เทียบเทียมเท่ากับท่านเกิดขึ้นมาอีกคน!”
สีหน้าของหลิงตู้ฉิงเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที และพูดว่า “ฟ่างหัว เจ้าจงจำเอาไว้ว่าในโลกใบนี้มีอีกหลายสิ่งที่เจ้าจะประมาทไม่ได้ ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งในระหว่างที่เจ้าท่องโลกอยู่ เจ้าอาจจะเจออัจฉริยะที่ทัดเทียมกับพ่อจริง ๆ ก็ได้ และเมื่อถึงเวลานั้นแล้วเจ้าประมาทศัตรูมันจะเป็นเจ้าเองที่จะกลายเป็นฝ่ายสูญเสีย”
“เรื่องนั้นข้ารู้แล้วท่านพ่อ! แต่ท่านอย่าลืมสิว่าข้ามีทั้งเฒ่าหยูและผู้อาวุโสต้วนมู่คอยระวังหลังให้ข้าอยู่!” หลิงฟ่างหัวหัวเราะ “ว่าแต่ท่านพ่อมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ? ข้าไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าจะได้มาเจอท่านในอาณาเขตด้อยพัฒนาแบบนี้”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “อย่าว่าแต่เจ้าเลย พ่อเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเจ้าที่นี่เหมือนกัน! เจ้ามาทำอะไรแถวนี้กันล่ะ?”
“ก่อนหน้านี้ข้าไปแวะที่หอการค้าเชื่อมสวรรค์มาและบังเอิญได้ยินข่าวของไอ้นายน้อยมิติผู้นี้ ข้าก็เลยมาตามหาตัวมันที่นี่เพื่อที่จะดูทักษะของมันเพื่อเอามาพัฒนาตัวของข้าเอง” หลิงฟ่างหัวอธิบาย “แต่ก็ดีเลยที่ข้าเจอท่านที่นี่ หลังจากนี้ข้าจะได้ติดตามท่านไปดูเรื่องสนุก!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ต่อจากนี้พ่อจะเดินทางไปที่ทำเนียบราชันมนุษย์ ส่วนตัวเจ้าเองเจ้าควรจะเดินทางไปตามทางของเจ้าเองจะดีที่สุด หากเจ้าเอาแต่ตามพ่อไปเรื่อย ๆ เจ้าจะไม่มีวันแข็งแกร่งขึ้นได้เลย เจ้าจะต้องใช้ประสบการณ์การต่อสู้กับคนอื่น ๆ เหมือนกับวันนี้ที่เจ้าเผชิญมาขัดเกลาตัวเจ้าเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเจ้าไม่ต้องตามพ่อมา เจ้าจงแยกไปหาประสบการณ์ของตัวเจ้าเองซะ!”
หลิงฟ่างหัวครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นนางพยักหน้าและพูดว่า “เอางั้นก็ได้ท่านพ่อ ข้าจะไปตามหาเหล่าผู้คนที่เชี่ยวชาญในพลังมิติมาประลองกับข้าเพื่อขัดเกลาตัวข้าเอง ว่าแต่พวกคนด้านล่างนั่นพวกเขาเป็นคนครอบครัวเดิมของท่านใช่ไหม? ท่านอยากให้ข้าช่วยอะไรรึเปล่า?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “พวกเขายังไม่ต้องการให้ช่วยอะไรในช่วงเวลาเร็ว ๆ นี้หรอก อาณาเขตหนานหัวแห่งนี้นั้นนับได้ว่าตั้งอยู่ในจุดกึ่งกลางของดินแดนที่มีแต่เผ่ามนุษย์อาศัยอยู่ ดังนั้นที่นี่จึงปลอดภัยเป็นอย่างมากจากการถูกรุกรานจากเผ่าอื่น ๆ อย่างน้อย ๆ ก็ในช่วงระยะเวลานี้ เอาไว้รอให้ยี่เทียนมาดูแลพวกเขาด้วยตัวเองก็แล้วกัน เพราะถ้าหากพวกเราลากให้พวกเขามาเข้าร่วมด้วยตอนนี้ ด้วยระดับความแข็งแกร่งของพวกเขามันคงไม่ต่างอะไรกับให้พวกเขาไปตายเปล่า ๆ”
“ในเมื่อท่านพ่อตัดสินใจแบบนี้ ถ้างั้นข้าจะแกล้งทำเป็นว่าข้าไม่เคยเห็นพวกเขาก็แล้วกัน!” หลิงฟ่างหัวยิ้มและเอ่ยขึ้น “เอาล่ะท่านพ่อข้าขอตัวไปก่อนนะ!”
“ไปเถอะ พ่อเองก็จะไปจากที่นี่แล้วเช่นกัน!” หลิงตู้ฉิงโบกมือร่ำลาลูกสาวของเขา
“อืม!” หลิงฟ่างหัวพยักหน้า จากนั้นนางหันไปหาหยูเจิ้นไห่ และพูดว่า “เฒ่าหยู เจ้าช่วยเอาศพของเขาไปด้วยที ข้าคิดว่าเขาจะต้องมีสมบัติที่มีประโยชน์อยู่ในตัวมากแน่นอน!”
หยูเจิ้นไห่รีบทำตามคำสั่งทันที เขารีบบินไปเก็บศพของนายน้อยมิติมา จากนั้นเขาก็บินตามหลิงฟ่างหัวเข้าไปในประตูมิติที่นางเปิดขึ้น และจากนั้นพวกเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ในเวลาเดียวกัน ตอนนี้สีหน้าของทุกคนที่มองเหตุการณ์อยู่ต่างกลายเป็นซีดเผือด เนื่องจากตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าผู้เชี่ยวชาญระดับนภาครามที่พวกเขาเคยมองว่าไร้เทียมทานนั้นไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับโลกภายนอก เพราะหลินจ้านเผิงนั้นไม่มีปัญญาที่จะต่อกรใด ๆ กับนายน้อยมิติเลย
แต่ในทางกลับกัน นายน้อยมิติซึ่งแข็งแกร่งกว่าหลินจ้านเผิงกลับถูกฆ่าตายภายในชั่วพริบตาโดยหญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งมันทำให้พวกเขาได้เข้าใจอย่างหนึ่งว่าโลกภายนอกนั้นมันโหดร้ายเกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้ซะอีก!