พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 891 โจมตีอาณาเขตเงินตรา
อาณาเขตเงินตราคืออาณาเขตที่ร่ำรวยที่สุดในโลกดังนั้นไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกซอกทุกมุมของอาณาเขตเงินตราจึงมีแต่ความเจริญและความหรูหรา
อันที่จริงแล้วผู้คนที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตเงินตราทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกของสำนักเงินตรา
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าอาณาเขตเงินตราจะร่ำรวยและเหล่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้จะมีความเป็นอยู่ที่หรูหราแต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาที่มีต่อกันกลับหาความจริงใจได้ยากมาก
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากเรื่องเงินและผลประโยชน์ล้วนๆ
กลางเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในอาณาเขตเงินตรา มีชายหญิงคู่หนี่งกำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง
“พวกเราแต่งงานกันมา5ปีแล้วพวกเราควรนอนห้องเดียวกันเตียงเดียวกันไม่ใช่รึไง!?” หญิงสาว ตวาดถามเสียงดัง
ชายหนุ่มยิ้มและตอบกลับ “หากเจ้าอยากนอนร่วมเตียงเดียวกันกับข้า มันก็ไม่มีปัญหา! แต่ว่าเจ้าจะต้องจ่ายมาให้ข้า1หมื่นเหรียญผลึกวิญญาณก่อนข้าถึงจะยอมนอนร่วมเตียงเดียวกับเจ้า!”
หญิงสาวรู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากมีลูกกับข้าไม่ใช่เหรอไง? แถมตอนนี้ตระกูลของเจ้าก็กำลังต้องการทายาทข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้ากลับเล่นตัวแบบนี้?”
ชายหนุ่ม ตอบกลับทันที “เพื่อแต่งงานกับเจ้าข้ายอมจ่ายค่าสินสอดให้เจ้าหนึ่งล้านเหรียญผลึกวิญญาณและพอแต่งงานกันเสร็จไม่ใช่แค่เจ้าจะไม่ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีแต่เจ้ากลับวางกฎว่าถ้าหากข้าอยากร่วมเตียงกับเจ้า ข้าต้องจ่ายให้เจ้าอีกคืนละ2หมื่นเหรียญผลึกวิญญาณ! และพอมาตอนนี้เจ้ากลับมาบอกว่าเจ้าเต็มใจอยากร่วมเตียงกับข้าโดยไม่คิดเงินเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เหรอว่าแท้จริงแล้วเจ้ามีแผนอะไร?”
“แผนอะไร? ข้าไม่มีแผนอะไรทั้งนั้นตอนนี้ข้าแค่อยากมีลูกก็แค่นั้นเอง!” หญิงสาวตอบกลับ
ชายหนุ่มหัวเราะด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “ที่เจ้าอยากมีลูกจนตัวสั่นก็เพราะว่าพ่อของข้ารับปากกับเจ้าว่าเขาจะให้เจ้า10ล้านเหรียญผลึกวิญญาณหากเจ้าให้กำเนิดลูกชายให้กับตระกูลข้าได้ต่างหาก! นังสารเลวเจ้าคิดจะหลอกใช้ข้าทำเงินโดยที่เจ้าไม่มีความคิดจะแบ่งเงินให้ข้า ในเมื่อเจ้ามีสันดานโลภขนาดนี้งั้นข้าขอบอกเอาไว้เลยว่าถ้าเจ้าไม่จ่ายให้ข้า ข้าจะไม่มีวันร่วมเตียงกับเจ้าแน่นอน!”
หญิงสาว ตะคอกกลับอย่างเหลืออด “ในเมื่อเจ้าไม่ให้ความร่วมมืองั้นข้าจะไปหาผู้ชายคนอื่น!”
“เอาเลย!” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ตามข้อตกลงที่เราทำร่วมกันไว้หากเจ้านอกใจข้าเจ้าจะต้องจ่ายค่าผิดสัญญาให้ข้า1พันล้านเหรียญผลึกวิญญาณ ถ้าเจ้าแน่จริงเจ้าก็ไปหาผู้ชายคนอื่นได้ตามสบายเลย!”
หญิงสาวจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มด้วยสีหน้าเดือดดาลอยู่พักใหญ่จากนั้นนางถอนหายใจและพูดขึ้นด้วยสีหน้าขุ่นเคืองว่า “ถ้างั้นข้าจะให้เจ้าคืนละ5พันตกลงไหม?”
“1หมื่นถ้วนขาดตัวห้ามขาดแม้แต่1เหรียญ” ชายหนุ่ม เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหนักแน่น “อันที่จริงราคา1หมื่นนี้ถือว่าข้าใจดีมากแล้วนะเพราะเจ้าก็น่าจะรู้ตัวว่าต่อให้ข้าเรียกเจ้ามากกว่านี้เจ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมจ่าย!” เขายิ้มอย่างเป็นต่อ ไอรีนโนเวล
หญิงสาว จ้องไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาอาฆาตอยู่สักพักจากนั้นนางถอนหายใจอีกครั้งและพูดเสียงอ่อย “ก็ได้! หนึ่งหมื่นก็หนึ่งหมื่นไอ้คนหน้าเลือด! เร็วเข้ารีบตามข้าไปที่ห้องได้แล้ว!”
“เชิญเจ้าเดินนำไปเลย!” ชายหนุ่มหัวเราะร่า
“……”
เหตุการณ์เช่นนี้หากเกิดขึ้นที่อื่นมันคงนับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นอย่างมาก
แต่สำหรับในอาณาเขตเงินตราเรื่องเช่นนี้มันนับได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่หลายๆตระกูลเป็นกัน
ในเวลาเดียวกัน ณ พระราชวังอันหรูหราหลังโตซึ่งตั้งอยู่ใจกลางอาณาเขตเงินตรา ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่อันงดงามพร้อมกับมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยจำนวนมากกำลังรายล้อมป้อนอาหารเข้าปากของเขาด้วยท่าทางที่เย้ายวน
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เจ้าสำนักเงินตรา เต๋าเทียนเซียะ
“เอาล่ะเอาล่ะ ข้าพอใจกับการบริการของพวกเจ้ามากจริงๆ พวกเจ้าทุกคนจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญผลึกสวรรค์คนละ1เหรียญ!” เต๋าเทียนเซียะ พูดขึ้นพลางโยนเหรียญผลึกสวรรค์ให้กับพวกนางคนละ1เหรียญจนครบทุกคน
“ขอบคุณท่านเจ้าสำนักเต๋า!” เหล่าหญิงสาวหัวเราะกันอย่างร่าเริง
เมื่อแจกเหรียญผลึกสวรรค์ครบ เต๋าเทียนเซียะโบกมือส่งสัญญาณให้หญิงสาวทั้งหมดออกไปแต่ก่อนที่เขาจะทันได้ลุกขึ้นนั่งตัวตรง เขากลับสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางเขาลุกยืนอย่างฉับพลันและแสดงสีหน้าเคร่งเครียด
“ใครกันที่สามารถทำให้พลังวิญญาณผันผวนได้ขนาดนี้?” เต๋าเทียนเซียะ ขมวดคิ้ว
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ออกคำสั่งให้คนของเขาออกไปตรวจสอบ เขากลับสัมผัสได้ว่าจู่ๆม่านพลังที่เกิดขึ้นจากมหาค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ที่สำนักของเขาอุตส่าห์ลงทุนใช้ทรัพยากรไปเป็นจำนานมากมันกลับถูกทำลายจนเกิดเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้เขาแน่ใจได้ในทันทีว่าผู้มาเยือนนั้นไม่ได้มาแบบเป็นมิตร!
เต๋าเทียนเซียะ ด้วยสีหน้าเย็นชาจากนั้นเขาตะโกนขึ้นเสียงดังว่า “ทุกคนจงฟังข้า มีใครบางคนกำลังรุกรานพวกเราและตอนนี้พวกมันได้ทำลายมหาค่ายกลที่มีไว้ปกป้องอาณาเขตของพวกเราเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหลังจากขับไล่ผู้รุกรานออกไปเสร็จเมื่อไหร่ทุกๆคนจะต้องจ่าย5หมื่นเหรียญผลึกวิญญาณเพื่อเป็นค่าซ่อมแซมมหาค่ายกลและยิ่งไปกว่านั้นหากพวกเจ้าไม่ช่วยกันออกไปขับไล่ผู้รุกรานและปล่อยให้คนพวกนั้นสร้างความเสียหายต่อไป เมื่อจบเรื่องพวกเจ้าจะยิ่งต้องจ่ายมากกว่านี้อีก!”
“นี่มันบ้าอะไรกัน!? จู่ๆพวกเราทุกคนจะต้องเสียเหรียญผลึกวิญญาณ5หมื่นเหรียญงั้นเหรอ!?” แทบจะทุกคนอุทานขึ้นด้วยความเดือดดาล
“ไอ้พวกเวรที่ไหนมันบังอาจบุกเข้ามาปล้นพวกเราแบบนี้กัน? ข้าขอสู้ตายกับพวกมันดีกว่าให้พวกมันมาปล้นข้าแบบนี้!”
“บังอาจปล้นข้า พวกสารเลวนั่นต้องตายทั้งหมด!”
จากนั้นบรรดาผู้คนที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตเงินตราทั้งหมดต่างลุกฮือและรีบหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาถือไว้และบินตรงไปดักทางกลุ่มของพวก หลิงตู้ฉิง เพื่อเตรียมพร้อมสู้ตายทันทีและด้วยความร่ำรวยที่พวกเขาเหนือกว่าทุกคนบนโลกใบนี้ ในบรรดาอาวุธนับล้านชิ้นที่ปรากฎขึ้นในมือของพวกเขามันมีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์มากกว่า200ชิ้นที่ถูกนำออกมาใช้ส่วนจำนวนของอาวุธระดับจักรพรรดินั้นมีอีกไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนชิ้น
อีกทางด้านหนึ่ง เย่เจียงไห่ ทำลายม่านพลังของอาณาเขตเงินตราได้อย่างไม่ยากเย็นนักด้วยพลังเพลิงของเขาและเมื่อทำลายม่านพลังจนเป็นรูโหว่ขนาดยักษ์เสร็จ เขาจึงนำคนอื่นๆและ หลิงตู้ฉิง บุกเข้าไปด้านในอาณาเขตเงินตราทันที
แต่เมื่อเข้าไปถึงด้านในอาณาเขตเงินตราและได้เห็นว่าบรรดาผู้คนของอาณาเขตเงินตรานั้นร่ำรวยขนาดไหน เย่เจียงไห่ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยสีหน้าหม่นหมองและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ข้านึกว่าข้านั้นรวยแล้ว แต่พอได้มาเห็นกับตาแบบนี้ว่าไอ้คนพวกนี้มันรวยแค่ไหน ข้าล่ะอายแทบแทรกแผ่นดินหนีจริงๆ เทียบกับคนพวกนี้ข้ากลายเป็นยาจกไปเลย!”
อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์มากกว่า200ชิ้นนั้นเป็นจำนวนที่เขาไม่เคยฝันว่าตำหนักของเขาจะมีมันถึงเลย!
หลิงตู้ฉิง มองไปที่เหล่าผู้คนของอาณาเขตเงินตราและพูดว่า “ก่อนจะลงมือพวกเจ้าให้ข้าผนึกมิติของอาณาเขตเงินตราทั้งหมดก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้หลบหนีออกไปรวมไปถึงไม่ให้คนจากภายนอกใช้ประตูเคลื่อนย้ายเดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพวกเขาได้และจากนั้นพวกเจ้าทุกคนจงฆ่าคนเหล่านี้ให้หมดอย่าเหลือและเมื่อจบศึกเมื่อไหร่ข้าจะแบ่งทรัพย์สมบัติของคนเหล่านี้ให้กับพวกเจ้าตามผลงาน!”