พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 928 อาณาจักรจันทราโดนบุก
เมื่อเห็นว่าหวงซีสังหารเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายภายในระยะ 1,000 ลี้ได้ในพริบตา ขวัญและกำลังใจของกองทัพพันธมิตรก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก
นี่มันดูว่างานนี้มันจะไม่ยากอย่างที่คิด!
หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นท่าทางที่แสดงออกของเหล่าผู้คนเขารีบตะโกนขึ้นทันที “อย่าได้ประมาทเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายพวกนี้แม้แต่น้อย นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น พวกเจ้าทุกคนจงสู้ให้เต็มความสามารถที่สุดและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากพวกเจ้าทำได้ดีพอพวกเจ้าจะรอดจากศึกนี้ และชื่อของพวกเจ้าจะถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์”
หลิงตู้ฉิงจำเป็นต้องเตือนพวกเขาพร้อมกับปลุกขวัญและกำลังใจไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งอันที่จริงหลิงตู้ฉิงไม่อยากจะเปิดเผยต่อพวกเขาว่าแท้จริงแล้วที่จุดกึ่งกลางของแดนกระดูกขาวนั้นยังมีวิญญาณปีศาจร้ายที่แข็งแกร่งซ่อนตัวอยู่ ซึ่งที่นั่นจะเป็นตัวบ่งบอกว่าพวกเขาจะสูญเสียมากหรือน้อย!
หลังจากหวงซีกวาดล้างเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายออกไปจนหมดในระยะ 1,000 ลี้ ซวนหยวนก็เข้ามาทำหน้าที่ทันที ซึ่งก็คือการขจัดพลังวิญญาณแห่งความตายที่หนาแน่นจนเห็นได้เป็นหมอกสีดำอย่างชัดเจนให้หมดไปเพื่อคืนสภาพแวดล้อมเดิมที่มันควรจะเป็นให้กลับมา
ในเวลาเดียวกัน กองทัพพันธมิตรก็ค่อย ๆ เดินหน้าเพื่อคอยสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง
หลิงว่านจุนสั่งให้กองทัพมังกรทั้งห้าแสนนายกลายเป็นมังกรตัวขนาดมหึมา และด้วยการเกื้อหนุนจากปราณมังกรจักรพรรดิที่มีอยู่ในตราประทับหยกของหลิงยี่เทียนและ ธงรบโลหิตจักรพรรดิ ความแข็งแกร่งของมังกรยักษ์จึงพุ่งขึ้นไปแตะที่ขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด
อย่างไรก็ตาม กองกำลังองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์กลับเหนือล้ำยิ่งกว่าซะอีก เมื่อพวกเขารวมร่างกันเป็นฟีนิกซ์ร่างยักษ์พลังของพวกเขานั้นก็กลายเป็นไม่ต่างอะไรกับผู้สำเร็จเต๋าแม้แต่น้อย
ส่วนทางด้านของกองทัพประจำการของภูเขาฟีนิกซ์ด้วยจำนวนที่มีถึง 10 ล้านนาย แถมสวมใส่อุปกรณ์ทั้งหมดที่มีคุณสมบัติธาตุแสง พวกเขาจึงมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในการกำจัดเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย
นอกเหนือจากเหล่ากองกำลังที่สู้รวมกันเป็นกลุ่มก้อน ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่พึ่งพาทักษะของตัวเองเพียงอย่างเดียวในการจัดการกับเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย
อี้ลั่วเอ๋อใช้ผีเสื้อยมโลกเริงระบำเปิดประตูยมโลกดูดเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายกลับไปสู่ยมโลกด้วยความเร็วเหนือบรรยาย
สาเหตุที่นางสามารถเปิดประตูยมโลกได้โดยไม่มีผลข้างเคียงอีกแล้วนั้นเป็นเพราะคทาในมือของนางที่นางถืออยู่
คทานี้คือสมบัติแห่งชะตาชีวิตของนาง ซึ่งหลิงตู้ฉิงเป็นคนสร้างให้และที่หัวคทานั้นมีอัญมณีที่ถูกสร้างขึ้นจากอักขระฑูตยมโลกที่เจ้าแห่งยมโลกเคยมอบเอาไว้ให้นาง
หรือถ้าจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือตราบใดที่นางถือคทานี้ นางจะมีสิทธิ์อำนาจเหมือนของฑูตยมโลกทุกประการและสามารถส่งดวงวิญญาณร้ายเหล่านี้กลับยมโลกไปได้อย่างใจนึกโดยที่พวกมันไม่อาจขัดขืนได้
แต่คทานี้ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน เพราะอย่างไรก็ตามอี้ลั่วเอ๋อก็ไม่ใช่ฑูตยมโลกที่แท้จริง ดังนั้นการใช้คทาเพื่อสั่งให้เหล่าวิญญาณร้ายกลับไปสู่ยมโลกมันจึงต้องใช้พลังวิญญาณของนางเอง ซึ่งเมื่อไหร่ที่พลังของนางหมด นางก็จะต้องพักเพื่อให้พลังของนางฟื้นฟูจากนั้นนางถึงจะสามารถเริ่มโจมตีได้ต่อ
ส่วนทางด้านของตงฟางจุน การรบครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะสามารถฆ่าได้อย่างใจนึกโดยที่ไม่ต้องปราณีใด ๆ ทั้งสิ้น เขาโคจรร่างกระบี่ของเขาจนถึงขีดสุดและใช้เจตจำนงกระบี่ทุกรูปแบบที่เขาฝึกฝนมา รวมไปถึงทุกเพลงกระบี่ของวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ที่เขารู้เพื่อทำลายเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย
ในทุกวินาทีที่ตงฟางจุนฆ่าล้างเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย ระดับการบ่มเพาะของเขาจะพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนในตอนนี้เขาได้ทะลวงขึ้นมาอยู่ที่ระดับสวรรค์สมบูรณ์เรียบร้อย ซึ่งหลังจากจบศึกนี้แน่นอนว่าระดับการบ่มเพาะของเขาจะต้องไม่ต่ำกว่าขอบเขตราชันเป็นแน่แท้ และเมื่อถึงเวลานั้น เขาอาจจะได้ความทรงในชาติก่อนที่เขาเป็นเทพกระบี่กลับมา
ส่วนทางด้านของหลิงตู้ฉิง ตอนนี้เขายังคงกวาดตามองไปรอบ ๆ แดนกระดูกขาวเพียงอย่างเดียวยังไม่ได้ลงมือทำอะไร
ในสถานที่ลึกเข้าไปในแดนกระดูกขาว มีวิญญาณปีศาจร้ายขนาดมหึมาหลายตนกำลังจ้องเขาและผู้เชี่ยวชาญระดับสูงคนอื่น ๆ อยู่เช่นกัน รอเวลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะโจมตีพวกเขา
แต่แล้วในระหว่างที่หลิงตู้ฉิงกำลังบุกตะลุยแดนกระดูกขาวอยู่นั้น อสูรเสือตัวขนาดมหึมา ซึ่งมีความสูงถึง 100 เมตรและยาวกว่า 500 เมตร และขนของมันต่างเป็นโลหะสีเงินมันวาวทั้งหมดก็กำลังบินมุ่งหน้าไปที่อาณาจักรจันทราด้วยความเร็วที่มากกว่าอสูรขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดจะมีได้หลายสิบเท่า
อสูรเสือตัวนี้คือหนึ่งในสองอสูรขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญที่ถูกส่งลงมายังโลกเบื้องล่าง เสี่ยวจินหู่!
ส่วนอสูรที่เหลือที่ถูกส่งลงมายังโลกเบื้องล่างต่างยังคงอยู่ที่สันเขาหมื่นอสูรเพื่อคอยดูแลความเรียบร้อยของรังพวกมัน
หลังจากสันเขาหมื่นอสูรได้ลอยมาถึงแผ่นดินใหญ่ พวกมันก็โจมตีอาณาเขตทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งพวกมันก็จับตัวมนุษย์และเผ่าอื่น ๆ ได้อย่างมากมายและเอาเหยื่อของพวกมันมากลืนกินเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของตัวเอง
จากนั้นเมื่อเหล่าอสูรได้ข้อมูลมาว่าหลิงตู้ฉิงนั้นยังมีระดับการบ่มเพาะที่ไม่สูงมาก และอาศัยอยู่ที่อาณาจักรจันทรา เสี่ยวจินหู่จึงอาสาเดินทางมากำจัดหลิงตู้ฉิงให้ไปเกิดใหม่ทันที
เนื่องจากเสี่ยวจินหู่มีเป้าหมายเพียงอย่างดียวคือการจัดการกับหลิงตู้ฉิง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามันจึงไม่ได้แตะต้องอาณาเขตอื่น ๆ ที่เป็นทางผ่านเลยแม้แต่น้อย มันมุ่งหน้าตรงไปที่อาณาจักรจันทราเพียงอย่างเดียวโดยไม่ยี่หระกับสายตาของอันหวาดกลัวของเหล่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตที่มันบินผ่าน
แต่แล้วเมื่อมันบินไปถึงอาณาเขตนภา มันก็สัมผัสได้ถึงอำนาจของมหาค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ที่หลิงตู้ฉิงได้วางเอาไว้เพื่อปกป้องอาณาเขตนภาทั้งหมด ซึ่งทำให้มันต้องหยุดลงทันที
มันมองม่านพลังที่ปกป้องอาณาเขตนภาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมันโคจรพลังทั้งหมดเอาไว้ที่กรงเล็บและข่วนไปที่ม่านพลังที่ปกป้องอาณาเขตนภาทันที ส่งผลให้ม่านพลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“โชคยังดีที่ร่างแยกของข้าที่ถูกส่งลงมามีความแข็งแกร่งขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญ!” เสี่ยวจินหู่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ไม่งั้นมหาค่ายกลนี้คงแข็งแกร่งเกินกว่าที่ข้าจะทำลายได้”
เสี่ยวจินหู่วางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่าเมื่อมันทำลายม่านพลังเสร็จ มันจะเข้าไปในอาณาเขตนภาเพื่อสังหารผู้คนให้หมดก่อน จากนั้นมันถึงจะบุกไปหาหลิงตู้ฉิงเพื่อปิดงานของมัน
ด้วยความแข็งแกร่งขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญ การสังหารเหล่ามนุษย์ในโลกเบื้องล่างที่อ่อนแอ 1 อาณาเขตนั้นมันใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่อึดใจก็เสร็จเรียบร้อย
ทั้งอาณาเขตนภามันไม่กลัวใครเลยสักคนคน ที่มันกังวลมีเพียงแค่คนเดียวคือ หลิงตู้ฉิง
แต่แล้วเมื่อมันกำลังจะใช้กรงเล็บโจมตีอีกรอบ จู่ ๆ ม่านพลังที่ปกป้องอาณาเขตนภากลับเปิดออกเป็นช่องกว้างขนาดเท่าตัวมัน และจากนั้นพลังลึกลับบางอย่างกลับสูบมันเข้าไปด้านในอาณาเขตนภาโดยที่มันไม่สามารถขัดขืนได้เลยแม้แต่น้อย
เสี่ยวจินหู่ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก และพยายามอย่างสุดฤทธิ์เพื่อต้านทานอำนาจที่ตรึงร่างมันเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทุกอย่างของมันล้วนไร้ประโยชน์
ในใจของมันตอนนี้เริ่มรู้สึกสลดเรื่อย ๆ
ความแข็งแกร่งของชายผู้นั้นฟื้นมาถึงระดับนี้แล้วงั้นเหรอ? ยังไม่ถึง 1,000 ปี เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตัวเองเร็วถึงขนาดที่สยบความแข็งแกร่งระดับขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญอย่างอยู่หมัดแบบนี้ได้ยังไง? ดูเหมือนว่าการตัดสินใจของเผ่าอสูรของเขาที่ส่งพวกเขาลงมายังโลกเบื้อล่างล่างคือความผิดพลาดมหันต์!
ในระหว่างมันกำลังตื่นตระหนก ร่างของมันก็ค่อย ๆ ถูกย่อลงเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ ด้วยอำนาจแห่งพลังที่เหนือกว่ามันอย่างมหาศาล