พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 981 หมดเวลา
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างสงบหมดแล้ว ง้าวเทวะพินาศรีบวิ่งเข้ามาหาและถามขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้นทันที “เจ้านายเป็นไงบ้างสำเร็จรึเปล่า?”
มันเคยติดตามหลิงตู้ฉิงไปทั่วทุกสารทิศมาแล้ว ดังนั้นมันจึงรู้ว่าหลิงตู้ฉิงนั้นตั้งใจจะทำอะไร มันจึงหวังว่าเจ้านายของมันจะทำได้สำเร็จ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “สำเร็จอย่างสมบูรณ์!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงเผยโลกจำลองของเขาที่ด้านในดูราวกับว่าเป็นโลกจริง ๆ ซึ่งสิ่งมีชีวิตสามารถอยู่อาศัยได้ให้กับง้าวเทวะพินาศได้เห็น
ง้าวเทวะพินาศพุ่งเข้าไปในโลกจำลองของหลิงตู้ฉิงทันที จากนั้นมันก็บินออกสำรวจไปทั่วโลกจำลองอันกว้างใหญ่ของหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงยิ้มและจากนั้นเขาเก็บโลกจำลองของเขาเข้าไปในร่างและค่อย ๆ เดินออกไปหาภรรยาของเขาที่อยู่ด้านนอก
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงเดินออกมา จ้าวเหมิงลู่ และคนอื่น ๆ รีบบินเข้ามาหาทันที “สามีเป็นไงบ้าง ท่านทะลวงระดับสำเร็จไหม?”
ในทางกลับกัน มี่ไลเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ผลลัพธ์เป็นตามที่ท่านคาดหวังรึเปล่า?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ข้าคิดว่ามันเป็นงั้น! อันที่จริงผลลัพธ์ของมันออกจะเหนือความคาดหมายของข้าไปสักหน่อยด้วยซ้ำ เอาล่ะพวกเรารบกวนพวกสำนักเบญจธาตุมานานแล้ว พวกเรารีบออกไปเจอกับพวกเขาหน่อยจะดีกว่า ป่านนี้พวกเขาคงกังวลจนแทบจะขาดใจตายกันแล้ว”
บรรยากาศของสำนักเบญจธาตุตอนนี้เป็นแบบที่หลิงตู้ฉิงพูดจริง ๆ ตอนนี้พวกเขาอยู่กันอย่างไม่เป็นสุขเลย กังวลว่าเมื่อไหร่หลิงตู้ฉิงจะออกมาสักทีเพราะทุกวันที่ผ่านไปมันหมายถึงว่าเวลาแห่งการแข่งขันใกล้จะหมดลง และพวกเขายังไม่มีผู้สำเร็จเต๋าเลย!
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงปรากฏกายขึ้น เซียะซิงอี้รีบเดินเข้ามาหาทันทีด้วยรอยยิ้มขมขื่นและพูดว่า “ผู้อาวุโส การบ่มเพาะของท่านออกจะอึกทึกครึกโครมดีจริง ๆ จนหลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครในพวกเราที่สามารถอยู่กันอย่างเป็นสุขได้เลย”
“ข้าต้องขอโทษพวกเจ้าด้วยก็แล้วกันที่ทำให้ลำบากมานาน” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น “เอาล่ะตอนนี้เจ้ารีบไปทำให้คนของเจ้าสำเร็จเต๋าได้แล้ว ไม่งั้นหากข้าสำเร็จเต๋าก่อนคนของเจ้าจะไม่มีโอกาสได้สำเร็จเต๋าแน่นอน ส่วนพวกเจ้าทั้งคู่เมื่อถึงเวลาข้าจะไปหาร่างหลักของพวกเจ้าเองเพื่อมอบรางวัลตอบแทนให้กับพวกเจ้า”
“ขอบคุณผู้อาวุโส!” เซียะซิงอี้และติงหงรีบโค้งตัวขอบคุณ
พวกเขาทั้งคู่ลงมาโลกเบื้องล่างนานกว่ามากกว่า 1,000 ปีแล้ว ตอนนี้พวกเขาจึงอยากทำให้คนในโลกเบื้องล่างของสำนักพวกเขากลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าให้เสร็จไว ๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้กลับขึ้นไปบนโลกเบื้องบนสักที
หลังจากนั้นไม่นานผู้สำเร็จเต๋าสองคนของสำนักเบญจธาตุก็ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ในขณะเดียวกันร่างของเซียะซิงอี้และติงหงก็หายไปเรียบร้อย เหลือแต่เศษเสี้ยวของจิตสำนึกของพวกเขาที่ยังคงเหลืออยู่
ร่างแยกของพวกเขาถูกทำให้กลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์และมวลพลังเต๋า และหลอมรวมเข้ากับร่างของผู้ที่ถูกเลือกให้กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าไปหมดแล้ว
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เศษเสี้ยวจิตสำนึกที่ยังเหลืออยู่ของเซียะซิงอี้และติงหง จากนั้นเขาพูดว่า “เจ้าจะขึ้นไปกับข้าหรือว่าเจ้าจะไปกับคนของสำนักพวกเจ้า?”
เศษเสี้ยวจิตสำนึกของเซียะซิงอี้และติงหงลอยไปหาหลิงตู้ฉิงทันที บ่งบอกการตัดสินใจของพวกเขาว่าเลือกอะไร
ถึงแม้ว่าพวกเขารู้อยู่แก่ใจว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนที่น่ากลัว แต่พวกเขาก็รู้ว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนที่สามารถเชื่อถือในคำพูดได้ และยิ่งไปกว่านั้นตัวตนระดับหลิงตู้ฉิงจะมารังแกเด็กรุ่นหลังอย่างพวกเขาทำไม?
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด พวกเขาจึงตัดสินใจตามหลิงตู้ฉิงขึ้นไปโลกเบื้องบนจะดีกว่า ด้วยวิธีนี้พวกเขามั่นใจได้แน่นอนว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาดูดเศษเสี้ยวจิตสำนึกของเซียะซิงอี้และติงหงเข้าไปในโลกจำลองของเขา
ต่อมาหลิงตู้ฉิงมองไปที่ผู้สำเร็จเต๋าทั้งสองคนของสำนักเบญจธาตุและพูดว่า “ข้าแนะนำให้พวกเจ้าทั้งสองคนจงรีบขึ้นไปโลกเบื้องบนให้เร็วที่สุด ยิ่งพวกเจ้าอยู่ที่โลกเบื้องล่างนานมากเท่าไหร่ ผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้าก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น”
จากนั้นเขาหันไปพูดกับเสี่ยหนานเทียนและสีเป่ยเซียะต่อ “ในเมื่อพวกเรามีวาสนาได้มาพานพบกัน ดังนั้นข้าจะมอบประโยชน์ให้กับพวกเจ้าอีกสักเล็กน้อย”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงโบกมือส่งกลุ่มควันสีเขียวไปยังเสี่ยหนานเทียนและส่งกลุ่มควันสีทองไปทางสีเป่ยเซียะ
เมื่อกลุ่มควันสีเขียวลอยเข้าไปในร่างของเสี่ยหนานเทียน เขารู้สึกได้ทันทีว่าใบไม้ที่เขาได้รับมาจากต้นเทวะศาสตรานั้นทรงอำนาจขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่า แถมใบไม้ได้หลอมรวมเข้าไปหนึ่งเดียวกับร่างของเขาแล้วอีกต่างหาก
ทางด้านของสีเป่ยเซียะ กลุ่มควันสีทองส่งผลให้เต๋าในร่างกายนางมั่นคงมากกว่าเดิมแถมยังทำให้ร่างกายของนางแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกระดับ
“ขอบคุณผู้อาวุโส!” เสี่ยหนานเทียนและสีเป่ยเซียะรีบเอ่ยขึ้น
หลิงตู้ฉิงโบกมือ “ไม่แน่พวกเราอาจได้เจอกันอีกที่โลกเบื้องบน!”
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงพาบรรดาภรรยาของเขาบินมุ่งหน้าไปที่เขตแดนอุดรทมิฬ
“สามี ทำไมพวกเราถึงไม่ขึ้นไปโลกเบื้องบนจากอาณาเขตนภาที่เป็นบ้านของพวกเรา?” หวงซีเอ่ยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “หากพวกเราขึ้นไปโลกเบื้องบนจากอาณาเขตนภา พวกเราจะขึ้นไปโผล่จุดเดิมกับที่พวกหลิงยู่ชานปรากฏขึ้น ซึ่งในเวลานี้ถ้าข้าเดาไม่ผิดมันจะต้องมีศัตรูของข้าหลายคนที่กำลังจับตาดูสถานที่นั้นอยู่ ถ้าเราขึ้นไปมันคงมีหลายคนที่เข้ามาโจมตีพวกเราแน่นอน ซึ่งต่อให้ตอนนี้ข้าจะกลายเป็นผู้สำเร็จเต๋า แต่ถ้าหากพวกเราถูกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพโจมตี ข้าจะไม่สามารถช่วยเหลือพวกเจ้าได้เลย”
เหตุผลหลัก ๆ ที่เขาต้องทำเช่นนี้ก็เพราะศัตรูของเขาที่อยู่บนโลกเบื้องบนนั้นมีมากเกินไป และในเวลานี้เขายังไม่สามารถต่อกรอะไรกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพได้ ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือการหลบเลี่ยง
“ถ้างั้นพวกเราจะขึ้นไปโลกเบื้องบนกันที่จุดไหน?” มี่ไลเอ่ยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “จุดที่เหมาะสมที่สุดคือทางใต้สุดของเขตแดนอุดรทมิฬ ซึ่งถ้าเราขึ้นไปโลกเบื้องบนจากที่นั่นพวกเราจะไปปรากฏกายยังจุดที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำมหาดารา ซึ่งเป็นที่ที่ข้าวางแผนว่าจะเข้าไป”
เมื่อตอนที่เขาเข้าไปในเมืองศักดิ์สิทธิ์ เขาได้รับไข่หินประหลาดมาใบหนึ่ง ซึ่งต่อมาสิ่งมีชีวิตในไข่หินใบนั้นได้บอกข้อมูลกับเขาว่าในแม่น้ำมหาดารานั้นมีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่
ในเมื่อได้ข้อมูลมาเช่นนี้ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่หลิงตู้ฉิงอยากจะลองเข้าไปตรวจสอบดูและยิ่งไปกว่านั้นในแม่น้ำมหาดาราก็มีบางสิ่งบางอย่างที่หลิงตู้ฉิงต้องการอยู่แล้ว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มี่ไลแสดงสีหน้าตึงเครียดทันที “แม่น้ำมหาดาราเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลกเบื้องบน ท่านแน่ใจใช่ไหมว่าเมื่อเข้าไปแล้วพวกเราจะปลอดภัย?”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ข้าเคยเข้าไปในนั้นครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นอันตรายที่อยู่ในนั้นข้ารู้ดีว่าจะต้องจัดการกับมันยังไง ส่วนพวกเจ้า ด้วยการเตรียมการจากข้า ข้ารับประกันว่าพวกเจ้าทั้งหมดจะไม่มีปัญหาแน่นอน”
“ข้าเชื่อท่านสามี!” จ้าวเหมิงลู่เอ่ยขึ้นพลางหัวเราะ
หลังจากบินอยู่ 10 ปี ในที่สุดทุกคนก็บินไปถึงจุดหมายของพวกเขาที่ทางใต้สุดของเขตแดนอุดรทมิฬ ซึ่งมันคืออาณาเขตที่เล็กมาก ๆ แถมอาณาเขตแห่งนี้มันไม่มีผืนแผ่นดินเลย ทั้งอาณาเขตถูกปกคลุมไปด้วยน้ำสีดำราวกับว่าทั้งอาณาเขตคือทะเลสาบขนาดใหญ่
จากนั้นเมื่อทุกเข้าไปในอาณาเขตที่ปกคลุมไปด้วยน้ำสีดำ ร่างของพวกเขาทุกคนก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปยังโลกเบื้องบนและในเวลาเดียวกันนั้นสัญญาณที่บ่งบอกว่าช่วงเวลาแห่งการแข่งขันในยุคนี้จบลงก็ปรากฏขึ้น!