พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 992 โลกที่ใกล้จะแตกสลาย
เมื่อผ่านดวงแสงเข้าไปมันก็เหมือนกับว่าหลิงตู้ฉิงได้หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง
เมื่อเข้าไปด้านในแม่น้ำมหาดาราเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงจึงปล่อยบรรดาภรรยาและลูก ๆ ของเขาออกจากโลกของตนเอง
คนอื่น ๆ เมื่อออกมาจากโลกของหลิงตู้ฉิง พวกเขาก็สำรวจสภาพแวดล้อมรอบด้านทันที ซึ่งพวกเขาเห็นว่าพื้นที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้มันคือทุ่งราบอันกว้างใหญ่ไพศาล และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขากลับรู้สึกไม่ต่างอะไรกับตอนอยู่ในโลกเบื้องบน
ทำไมพวกเขาถึงได้รู้สึกว่าที่นี่มันไม่ต่างอะไรกับโลกเบื้องบนเลย?
“ท่านพ่อ ตอนนี้พวกเราเข้ามาในแม่น้ำมหาดาราแล้วจริง ๆ เหรอ?” หลิงไช่หยุนถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขามองไปที่สภาพแวดล้อมรอบกายโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ
“ท่านพ่อ ทำไมข้ารู้สึกว่าที่นี่มันต่างอะไรกับโลกเบื้องบนที่พวกเราอาศัยอยู่เลยแบบนี้ละ?” หลิงว่านถิงเอ่ยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงก็ยังไม่ตอบกลับอะไรอีก แต่เขามองไปที่หลิงเทียนหยุนแทนด้วยสายตาคาดหวัง
หลิงเทียนหยุนขมวดคิ้วพลางจับสัมผัสพลังเต๋าที่อยู่รอบกายเขาอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาส่ายหัวและพูดว่า “ที่นี่ไม่ใช่โลกเบื้องบนแน่นอน ไม่สิ มันไม่ใช่โลกใด ๆ เลยที่พวกเราเคยอยู่มาก่อน แถมข้ายังสัมผัสได้ว่าโลกนี้มันค่อย ๆ เริ่มจะล่มสลายอีกต่างหาก?”
ด้วยการที่เขามีเต๋าเป็นพันอยู่ในร่างกาย ดังนั้นหลิงเทียนหยุนจึงสามารถบอกอะไรได้มากกว่าคนอื่นเป็นปกติ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “เทียนหยุนเจ้าพูดถูกแล้ว ที่แห่งนี้คืออีกโลกหนึ่งเลย และโลกนี้ก็ใกล้จะแตกสลายเต็มที!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึงโดยเฉพาะมี่ไล นางรู้สึกตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกเพราะนางเข้าใจในความหมายของคำพูดหลิงตู้ฉิงมากกว่าคนอื่น ๆ
ส่วนคนอื่น ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจความหมายเท่ากับมี่ไล แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งมากกว่าเดิมก็คือที่นี่อันตรายมากกว่าที่พวกเขาคิด!
หากโลกนี้แตกสลายขึ้นมาพวกเขาจะรอดได้ยังไง?
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นต่อ “โลกนี้กำลังจะแตกสลายในอีกไม่ช้าและสวรรค์ได้ละทิ้งโลกแห่งนี้ไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ยังคงเหนี่ยวรั้งไม่ให้โลกนี้แตกสลายก็คือเจตจำนงการเอาตัวรอดของโลกใบนี้ล้วน ๆ และมันจะทำทุกอย่างเพื่อหล่อเลี้ยงตัวมันให้มันอยู่รอดไปได้นานกว่าเดิม”
“ฉะนั้นหากใครต้องการที่จะได้อะไรจากที่นี่ไป คนผู้นั้นจะต้องมอบบางสิ่งบางอย่างตอบแทนในราคาที่เท่าเทียมกันหรือมากกว่าให้กับโลกใบนี้ได้ไปหล่อเลี้ยงตัวมันเอง ซึ่งน่าเสียดายที่กฎข้อนี้คนแทบทั้งหมดนั้นไม่รู้กันและการที่ไม่รู้เช่นนี้คนหลายคนจึงตายลงเพราะไม่ทำตามกฏ หวังแต่จะเก็บเกี่ยวอย่างเดียวจนมากเกินพอดี และเมื่อถึงเวลาที่โลกนี้ทวงราคาคืน หากพวกเขาเก็บเกี่ยวไปเล็กน้อยมันก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามากเกินไปราคาที่พวกเขาต้องจ่ายก็คือชีวิตของตัวเอง!”
“เอาล่ะ พวกเจ้าห้ามทำอะไรนอกเหนือจากที่ข้าบอกเด็ดขาด หากอยากได้สิ่งไหนจงรอคำอนุญาตจากข้าก่อนพวกเจ้าค่อยลงมือ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนต่างพยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง
แต่แล้วไม่นานหลังจากที่พวกเขาคุยกัน ร่างหลายร่างก็ปรากฏขึ้นตรงบริเวณไม่ห่างจากพวกเขามากนัก
แน่นอนว่ากลุ่มคนที่เพิ่งปรากฏกายก็คือกลุ่มคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ และพวกเขาทุกคนต่างมีระดับการบ่มเพาะเดียวกัน ซึ่งก็คือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญ
“ฝ่าบาท นี่ท่านเข้ามาแล้วงั้นเหรอ?”
“องค์หญิงพวกข้าตามหาท่านซะทั่วเลย!”
“…. …”
บรรดาลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงต่างเดินเข้าไปคุยกับผู้ติดตามของตัวเองเพื่อทำให้คนของพวกเขาใจเย็นลง ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญของฝ่ายอื่น ๆ ที่เพิ่งเข้ามาเหมือนกันและไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิง พวกเขาก็บินแยกย้ายกันไปคนละทิศทางตามทางของตัวเองโดยไม่ได้พูดอะไร
“เอาล่ะพวกเจ้าทั้งหมดตามข้ามา!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยสั่งขึ้น
นอกเหนือจากภรรยาและลูก ๆ ของเขา บรรดาคนอื่น ๆ ต่างไม่มีใครขยับตามที่หลิงตู้ฉิงสั่งเลยสักคน แม้แต่ผู้ติดตามของลูก ๆ เขาก็ไม่ขยับด้วยซ้ำ คนอื่น ๆ ต่างมองไปรอบกายหาสมบัติที่อาจหลบซ่อนอยู่แถวนี้ด้วยสายตาเปล่งประกาย
แน่นอนว่าบางคนก็หาสมบัติเจออย่างรวดเร็ว และใช้สมบัติเหล่านั้นในการทะลวงระดับของตัวเองทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้ บรรดาผู้ติดตามของลูก ๆ หลิงตู้ฉิงก็เริ่มแสดงสีหน้ากังวลอยากออกไปตามหาสมบัติกันเต็มแก่
“ฝ่าบาท พวกเราจะไม่ตามหาสมบัติกันเหรอ?”
“องค์หญิง หากพวกเราไม่รีบออกไปเก็บสมบัติกันตอนนี้มันอาจไม่มีอะไรเหลือให้พวกเราเก็บอีกเลย!”
“นายน้อย พวกเรามีโอกาสเข้ามาที่นี่แค่ครั้งเดียว หากพวกเราพลาดโอกาสนี้พวกเราจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป!”
“……”
ขณะนี้หลายคนเริ่มจะทักท้วง
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดกับลูก ๆ ของเขาว่า “พวกเจ้าให้พวกเขาไปตามทางของพวกเขาเถอะ ปล่อยให้พวกเขากำหนดความเป็นความตายของตัวเอง หากพวกเจ้ายังคงรั้งพวกเขาเอาไว้อยู่แบบนี้มันจะเป็นผลเสียต่อพวกเราเปล่า ๆ”
หลิงว่านถิงและคนอื่น ๆ ต่างถอนหายใจ จากนั้นพวกเขาอนุญาตให้ผู้ติดตามทั้งหลายแยกย้ายกันออกไปตามโอกาสของตัวเองได้อย่างอิสระ
อันที่จริงในตอนแรกพวกเขามีเจตนาอยากจะช่วยเหลือชีวิตคนของพวกเขาเอง แต่ในเมื่อผู้ติดตามของพวกเขากลับแสดงท่าทีต่อต้านพวกเขาแบบนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยให้ไปตายหรืออยู่กันตามยถากรรม
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ค่อย ๆ พาคนของเขาออกเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ซึ่งในระหว่างทางที่พวกเขาเดินพวกเขาไม่เจอสิ่งมีชีวิตใด ๆ เลยสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาเห็นมีแค่ซากปรักหักพังมากมายที่เสื่อมไปตามกาลเวลา และต้นไม้แปลก ๆ บางต้นที่ยังคงสามารถยืนต้นได้อยู่
หลังจากเดินไปพักใหญ่ ๆ ไข่หินก็ส่งเสียงขึ้น “ตอนนี้เจ้าน่าจะอยู่บนเกาะต้นไม้วิญญาณ สถานที่แห่งนี้ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่อีกแล้ว จงบินมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก 3 ล้านลี้ ที่นั่นน่าจะมีสมบัติที่เจ้าสนใจ ส่วนสมบัติที่ข้าเคยพูดถึงก่อนหน้านี้มันไม่ได้อยู่ในภูมิภาคแห่งนี้หรอก”
“นี่เจ้าเป็นตัวบ้าอะไรกัน? ทำไมตั้งนานแล้วเจ้าถึงไม่ฟักตัวออกมาสักที?” หลิงไช่หยุนถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
ไข่หินตอบกลับทันทีเช่นกัน “ข้ายังไม่อาจฟื้นฟูร่างกายของข้าได้ในเวลานี้ สิ่งที่ข้าทำได้ตอนนี้มีแค่คงสภาพเช่นนี้เอาไว้ก่อน”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “มันไม่ได้โกหกที่มันยังต้องอยู่ในสภาพนี้เป็นเพราะมันยังหนีเคราะห์กรรมของมันไม่พ้น! เอาล่ะพวกเราบินไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วสูงสุด!”
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงและครอบครัวของเขาทั้งหมดก็ใช้พเนจรไร้จำกัดบินไปทางทิศตะวันตก
แต่แล้วเมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงที่หมายที่ไข่หินบอกเอาไว้ พวกเขาก็ได้พบว่ามีคนมาถึงที่นี่ก่อนแล้วหลายคน
สถานที่ที่ไข่หินบอกเอาไว้คือเมืองเล็ก ๆ เมื่อหนึ่งแถมในเมืองกลับมียังคงมีสิ่งชีวิตแปลกประหลาดอาศัยอยู่
สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดเหล่านี้มีรูปร่างเหมือนกับมด แต่ต่างกันตรงที่พวกมันมีร่างกายที่ขนาดใหญ่โตกว่าอย่างมหาศาลหากเทียบกับมดปกติ พวกมันมีร่างกายที่ยาวถึง 1 หรือ 2 เมตรแล้วแต่วัยของพวกมัน ส่วนความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นตัวที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในขอบเขตสวรรค์
ในระหว่างที่พวกของหลิงตู้ฉิงกำลังกวาดสายตามองไปที่เหล่ามดยักษ์ พวกมดยักษ์ก็มองกลับมาที่พวกของหลิงตู้ฉิงเหมือนกันด้วยสายตาสนใจ
แต่แล้วจู่ ๆ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญคนหนึ่งกลับโคจรพลังของตัวเองไปที่ฝ่ามือและง้างมือเตรียมที่จะบี้มดเหล่านี้ให้ตายให้หมด
หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นที่กำลังจะลงมือ จากนั้นเขาพูดกับหลิงยู่ชาน “ฆ่าเขาซะ!”
โดยไม่ต้องอธิบายอะไรต่อ หลิงยู่ชานพุ่งเข้าไปหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญที่กำลังจะโจมตีพวกมดทันที เขาสังหารผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นได้ภายในพริบตาด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว