ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - บทที่ 238 ชีวิตหลังการอภิเษกสมรส
ท่านหมอได้ยืนยันการคาดเดาของจิ้งอ๋อง อี๋เซียงนั้นหากใช้เพียงอย่างเดียวนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ปัญหาอยู่ที่ข้าวต้มปลาที่สาวใช้นำมาส่ง ตามที่หมอกล่าวแล้ว ปลานั้นก็คงเป็นปลากะพงขาว อี๋เซียงและปลากะพงขาวไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ หากว่าใช้ร่วมกัน กลิ่นหอมพิเศษจะหลั่งออกมาจากร่างกาย คนทั่วไปได้ดมกลิ่นนั้นแล้วไม่เป็นปัญหาใหญ่กระไร แต่หากสตรีมีครรภ์ได้กลิ่นก็จะมีผลทำให้คลอดบุตรก่อนกำเนิดได้
หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อก่อนเสด็จแม่เคยตักเตือนตนว่า หลี่อี้หรานนั้นมิได้เป็นมิตรนัก แต่ทว่าเส้นทางแห่งการแก้แค้นนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นตลอดทาง จนทำให้นางลืมคำตักเตือนของเสด็จแม่ไป
หยุนชางอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น ใช่แล้ว อำนาจของตระกูลหลี่ที่อยู่เบื้องหลังหลี่อี้หรานนั้นยังคงอยู่ในแคว้นหนิง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกำจัดทิ้ง ถึงแม้จะไม่ได้กล่าวถึงตระกูลหลี่ มาพูดแค่หลี่อี้หราน เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ตอนนั้นท่านตาเป็นมหาราชครู หลี่อี้หรานแทนที่เสด็จแม่และได้เป็นพระชายาเอกของเสด็จพ่อในขณะที่ท่านเป็นองค์รัชทายาท จากนั้นก็กลายมาเป็นพระราชินี และทุกวันนี้ วังหลังเป็นสถานที่เช่นไร? หยุนชางถอนหายใจ นับตั้งแต่เสด็จพ่อของนางขึ้นครองบัลลังก์จนมาถึงวันนี้ เหม่ยเหรินในวังหลังนั้นมีนับไม่ถ้วน มีไม่ถึงร้อยคนก็คงมีอยู่หลายสิบคน เพียงแต่ว่า หากไม่ใช่เพราะหยุนชางได้เกิดใหม่ เกรงว่าฮองเฮาคงจะได้รับความเคารพอยู่ที่สูงส่งไปตลอด แม้ว่าตอนนี้นางจะไม่สามารถครองวังหลังมาได้ แต่อย่างน้อยนางก็สามารถได้รับชื่อเสียงที่ดีในพระราชวังและในสายตาของประชาชน
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ยี่สิบกว่าปีผ่านมา เสด็จพ่อนั้นมีพระราชธิดาแค่เพียงสองคน นั่นก็คือตนและหัวจิ้ง แม้ว่าในเรื่องนี้จะมีฝีมือของจิ้งอ๋องอยู่ด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลี่อี้หรานก็วางแผนมามากพอสมควรเช่นกัน
“อำนาจของตระกูลหลี่ได้ยั่วยุมาถึงจวนจิ้งอ๋องของข้าแล้ว ดูเหมือนว่าตาแก่มหาเสนาบดีหลี่นั่น จะไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นเป็นใครมาจากไหน” จิ้งอ๋องเล่นจี้หยกที่คาดไว้ตรงเอว ขัดจังหวะการคิดของหยุนชางไป
หยุนชางหันมามองไปที่จิ้งอ๋อง ก็เห็นว่าเขาเอนกายลงบนเบาะนุ่ม ก้มหน้าลงเล็กน้อย สีหน้าค่อนข้างผ่อนคลาย ท่าทีที่ผ่อนคลายเช่นนี้ ทำให้หยุนชางอดคิดและเกิดหวั่นไหวไม่ได้ แม้ว่าจะอภิเษกสมรสกันมาสามวันแล้ว แต่นางกลับรู้สึกเหมือนฝันอยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งที่นางตื่นจากความฝัน นางมักจะรู้สึกว่า ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้กลายเป็นพระสวามีของตนได้อย่างไร
ใบหน้าของหยุนชางแดงก่ำ นัยน์ตาของนางมองต่ำลง และเสียงของนางก็ค่อนข้างเหม่อลอย “ภายในจวนท่านอ๋องนั้นได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนามาโดยตลอด และเป็นการยากอย่างยิ่งที่จะเข้ามาแม้ในวันปกติ แน่นอนว่าฮองเฮาทราบเรื่องนี้ ฉะนั้นจึงได้เลือกเวลาเป็นวันพิธี นางได้รับผิดชอบเตรียมการงานอภิเษกสมรส และหลายๆอย่างในงาน หากคิดจะลงมือย่อมทำได้ง่ายกว่า สาวใช้คนนั้นก็เข้ามาเพราะสวมรอยเป็นสาวใช้ติดตัวของเหยียนเอ๋อร์ อีกทั้งนางวางแผนเรื่องนี้ได้ชัดเจนรอบคอบอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องแป้ง ข้าวต้มปลาหรือเสด็จแม่ เครื่องแป้งนั้นไม่แปลก เป็นสิ่งสำคัญในการแต่งหน้าในงานพิธี แต่นางคาดเดาได้ว่า ข้าเหนื่อยมาทั้งวัน เมื่อถึงห้องหอคงจะมีการสั่งให้บ่าวนำอาหารมาส่ง และยังทราบว่าข้าอภิเษกสมรสแล้ว เสด็จแม่คงต้องมาพูดคุยกับข้าอย่างแน่นอน ข้าเกรงว่าแม้แต่เวลาที่เสด็จแม่มานั้นก็คงเป็นไปตามแผนของนางเช่นนั้น”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยุนชางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ไม่น่าแปลกใจเลยที่…….นางมีเล่ห์เหลี่ยมเพียงนี้…..” ไม่น่าแปลกใจที่นางสามารถครองตำแหน่งพระราชินีมาหลายปี และไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้ว่าเสด็จแม่จะได้รับความโปรดปรานจากเสด็จพ่ออย่างมาก แต่สุดท้ายกลับน่าสงสารเช่นนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่สุดท้ายตนนั้นสามารถใช้เหล้าพลีชีพตัวเองโดยไม่หวาดกลัวใดๆ นางแสร้งทำเป็นว่ารักตนอย่างมากมาตั้งแต่เด็ก นางได้รับทั้งชื่อเสียงด้านคุณธรรมและได้วางแผนสำหรับหลายสิ่งหลายอย่างในอนาคตไว้ หลังจากที่ตนเสียชีวิตไปเมื่อชาติที่แล้ว คงไม่มีใครคาดคิดว่าเป็นฝีมือของฮองเฮากระมั้ง
“ให้ข้าจัดการเรื่องนี้เถิด ตอนนี้เจ้าเป็นพระชายาของข้า และธุระของเจ้าก็เป็นของข้าโดยธรรมชาติ อีกทั้ง มหาเสนาบดีหลี่และฮองเฮาเมินเฉยต่อข้าราวกับว่าข้าไม่มีตัวตน เช่นนั้นก็ถึงเวลาที่ตั้งโดนสั่งสอนแล้วล่ะ” จิ้งอ๋องลุกขึ้นจากเบาะนุ่ม แล้วเดินไปยืนตรงหน้าหน้าต่าง แล้วมองออกไปด้านนอก
หยุนชางตกตะลึงและเริ่มเหม่อลอยอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตนคิดมากเกินไปหรือเปล่า ดูเหมือนว่าหลังจากกลับจากภูเขากิเลนแล้ว ท่าทีที่จิ้งอ๋องที่มีต่อตนนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาสุภาพเล็กน้อย หลังจากกลับมาจากภูเขากิเลนแล้ว เขากลับบ้าอำนาจมากขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ยอมให้ตนไปพบสายลับ บังคับให้ตนนั้นไม่ทำงานหนักเกินไป และตอนนี้แม้แต่สิ่งที่นางควรจัดการด้วยตนเองเขาก็รับไปจัดการทั้งหมด”
“เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงนี้ และมีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับข้า แต่ข้ากลับเป็นอิสระมากขึ้นซะงั้น” หยุนชางพึมพำกับตัวเอง
จิ้งอ๋องได้ยินเช่นนี้ ก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมาที่ดวงตา ” บางทีเจ้าอาจกังวลมากเกินไปกระมั้ง? แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ข้ามีเรื่องต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
“ว่าอย่างไรนะ? เรื่องกระไรหรือ?” หยุนชางตาเป็นประกาย และหันไปมองจิ้งอ๋องอย่างกระตือรือร้น
ลักษณะเช่นนี้ทำให้จิ้งอ๋องนึกถึงสัตว์ตัวเล็กบางชนิดขึ้นมา เช่น…เหมือนกับกระต่ายตอนที่เห็นแครอท
จิ้งอ๋องอมยิ้ม ” เจ้าทราบดีว่า ข้าไม่ค่อยอาศัยอยู่ในจวนนี้ ฉะนั้นจึงละเลยที่จะดูแลมาตลอด เมื่อก่อนนี้ข้าไม่สนใจมากนัก แต่ตอนนี้ข้ามีนายหญิงแล้ว คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการติอต่อสานสัมพันธ์กับผู้อื่น จวนที่รกร้างเช่นนี้ค่อนข้างไม่สะดวกเท่าไหร่ ข้าไม่ช่ำชองเรื่องเหล่านี้มากนัก ฉะนั้นจึงต้องรบกวนเจ้าแล้วกัน”
“…………”
หยุนชางเบะปาก คิดว่าจะมีเรื่องกระไรเสียอีก แต่กลับเป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ หยุนชางถอนหายใจ อันที่จริง เรื่องนี้มอบหมายให้พ่อบ้านจัดการก็ได้
ดูเหมือนว่าจิ้งอ๋องจะรู้ว่านางกำลังคิดกระไรอยู่ จึงยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า ” หากคิดๆ แล้ว สำหรับคนในพระราชวัง เรื่องจวนที่อยู่อาศัยนั้นอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ก็มักจะกำหนดหลายสิ่งที่สำคัญได้ เช่น เท่าที่ข้าทราบมา เมื่อไม่กี่วันก่อน ในงานเลี้ยงรวมเหล่าฮูเหริน ฮูเหรินของรองสำนักกวงลู่ ได้เกิดความขัดแย้งกับฮูเหรินของต้าซือหม่า เนื่องจากแย่งต่างหูกัน หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนรายงานว่ารองสำนักกวงลู่นั้นใช้อำนาจส่วนตัวอย่างไม่เป็นธรรม ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครั้งราชวงศ์ก่อนถูกทำลาย ก็มีรายงานว่าตอนนั้นองค์ชายห้ารอดพ้นจากความตายได้ เพราะอุโมงค์ที่ซ่อนอยู่ในจวนของเขา ชางเอ๋อร์ สิ่งของบางสิ่งที่ดูเล็กน้อยไม่สำคัญมาก แต่ความจริงแล้วอาจไม่เป็นอย่างที่เจ้าเห็นอย่างผิวเผินก็เป็นได้”
สีหน้าของหยุนชางจึงจริงจังขึ้นเล็กน้อย ชาติที่แล้วนางเป็นภรรยาของโม่จิ้งหราน และแน่นอนว่านางทราบเป็นอย่างดีเกี่ยวกับลานหลังบ้าน หากพูดเพียงประโยคเดียว นั้นก็คือ อย่าได้เมินเฉยต่อผลที่จะตามมาของคำพูดที่อีกฝ่ายกล่าว แม้ว่านางจะไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบภายในจวนมาก่อน แต่นางก็เข้าใจว่าสิ่งที่จิ้งอ๋องกล่าวมานั้นเป็นความจริง นอกจากนี้ จิ้งอ๋องคงสร้างศัตรูไว้อีกมากมาย
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยุนชางก็ระมัดระวังและพยักหน้า “ช่วงนี้ข้าว่างพอดี ฉะนั้นประเดี๋ยวจะช่วยดูแลให้ แต่ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับเสด็จแม่ของข้า และข้าหวังว่าเสด็จอาจะบอกกับข้าก่อนที่จะตัดสินใจทำการอันใด หากมีเหตุการณ์ใดก็ให้ข้าได้รับรู้ เพราะท้ายที่สุดนั้น…………….” คำพูดสุดท้ายนี้หยุนชางไม่ได้กล่าวออกมา อันที่จริงลึกๆ ในใจของนาง นางหวังว่าจะได้ฆ่าศัตรูด้วยมือตัวเอง แต่นางก็ทราบดีด้วยสถานการณ์ปัจจุบันมันซับซ้อนเกินไป จึงเกรงว่านางในตอนนี้ยังไม่สามารถควบคุมมัน
หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อย “ข้ารู้สึกว่า ติดตามเสด็จลุงแล้วได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างเลยเพคะ และยังสามารถทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้น เสด็จอาก็คงหวังว่า อย่างน้อยข้าจะสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่หรือไม่เพคะ?”
จิ้งอ๋องอมยิ้มและพยักหน้า ” ตกลง ข้าจะรับปากกับเจ้า เพียงแต่ว่า ต่อไปนี้เจ้าไม่เรียกข้าว่าเสด็จอาได้หรือไม่? ข้าฟังแล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้น……..” ข้ารู้สึกเหมือนว่าข้ากำลังทำผิดศีลธรรม