ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - บทที่ 239 จิ้งอ๋องแก้แค้นเวินหยูอวี้
เสียงของจิ้งอ๋องหยุดกะทันหัน ราวกับว่าเขาตกใจกับความคิดของตัวเอง ผ่านไปอยู่นานเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไร ไม่คาดคิดว่าตนจะมีความคิดเช่นนี้ หรือว่าตนนั้นเริ่มจะคิดไม่ดีต่อหยุนชางเสียแล้ว?
หยุนชางไม่รู้ว่าจิ้งอ๋องคิดอะไรอยู่ นางขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสับสน ไม่ให้เรียกว่าเสด็จอา แล้วให้เรียกว่าอะไรหรือ?
พระสวามี? คุณสามี?
หยุนชางตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ หากเป็นชาติที่แล้ว ตนนั้นใช้คำเหล่านี้กับโม่จิ้งหรานได้ เพราะตอนนั้นนางรักโมจิ้งหรานจริงๆ และนางได้อภิเษกสมรสกับคนที่ตนชอบ แน่นอนว่าเรียกแบบไหนหวานที่สุดนางก็คงเรียกเช่นนั้น?
แต่ทว่าจิ้งอ๋องนั้น…
เรียกว่าชิงเหยียนดีหรือไม่?
หยุนชางตะลึงอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่ญาติจริงๆ แต่จิ้งอ๋องก็เป็นรุ่นที่อาวุโสกว่านาง เรียนเช่นนี้มักทำให้ตนรู้สึกว่าตนไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ไม่เคารพผู้อาวุโส
หยุนชางลังเลอย่างมาก จิ้งอ๋องก็เช่นกัน เขาไอเบา ๆ ยืนขึ้นและกล่าวว่า ” ยังมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ได้จัดการ ข้าไปห้องหนังสือก่อนนะ”
หยุนชางกำลังเหม่อลอย จึงไม่ได้สนใจว่าเขากำลังพูดอะไร เพียงแต่พยักหน้าตอบรับไป
เช่นนี้ดีกว่า เรียกท่านอ๋องดีกว่า เมื่อหน้านี้นางเห็นว่าพระชายาซุ่นชิ่งก็แทนซุ่นชิ่งอ๋องเช่นนี้เช่นกัน มีความเคารพเล็กน้อยไม่แปลกแยก แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมมากเกินไป หยุนชางคิดในใจ นางเงยหน้าขึ้นและกำลังจะปรึกษากับจิ้งอ๋อง แต่กลับพบว่าจิ้งอ๋องไม่ได้อยู่ที่เบาะนั่งแล้ว หยุนชางตะลึงเล็กน้อย เขาไปแล้วหรือ?
ในเมื่อจิ้งอ๋องไปแล้ว หยุนชางก็ไม่อยากที่จะกังวลและลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงสั่งให้คนไปตามตัวหนิงเฉี่ยนมา ถึงอย่างไรจิ้งอ๋องก็ตกลงแล้ว ว่านางจะมีเวลาครึ่งชั่วโมงต่อวันที่จะคุยกับสายลับ
ไม่นานหนิงเฉี่ยนก็มาถึง เมื่อเห็นหยุนชาง สีหน้าของนางก็เผยความติดตลกเล็กน้อย ” ข้าน้อยคิดว่าทั้งชีวิตนี้อาจจะยากที่จะได้พบนายหญิงอีกแล้วเจ้าค่ะ ทหารคุ้มกันของจวนจิ้งอ๋องช่างเข้มงวดอย่างมากเจ้าค่ะ หากมิใช่เพราะว่ายังได้รับสารจากเฉี่ยนอินอยู่บ้าง ข้าน้อยเกือบจะบุกเข้ามาในจวนจิ้งอ๋องเพื่อช่วยนายหญิงแล้วเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่านายหญิงมีชีวิตที่มีความสุขอย่างมากนะเจ้าคะ เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วที่เจอกัน รอบนี้นายหญิงงดงามขึ้นอย่างมากเจ้าค่ะ เห็นเช่นนี้แสดงว่าท่านจิ้งอ๋องคงดีต่อนายหญิงอย่างมาก เพียงแต่ว่า…” หนิงเฉี่ยนมองไปที่หยุนชางพร้อมอมยิ้ม “ปกป้องแน่นหนาเกินไปเจ้าค่ะ”
แน่นอนว่าหยุนชางรู้ว่าหนิงเฉี่ยนแค่แกล้งตนเท่านั้น แต่นางก็หน้าแดงขึ้นมาอยู่ดี จึงกล่าวกลับไปว่า “เจ้าเด็กบ้า เอาแต่พูดจาไร้สาระ” แต่เมื่อนึกได้ว่าวันนี้ตนมีเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง จึงกล่าวอย่างเร่งรีบว่า “อีกครึ่งชั่วโมงสายลับของจิ้งอ๋องก็จะมาไล่เจ้ากลับไปแล้ว เจ้ารีบบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ว่วงนี้มีเรื่องใหญ่กระไรเกิดขึ้นบ้างหรือ พูดเฉพาะเรื่องสำคัญก็พอ ส่วนรายละเอียดนั้น ต่อไปนี้เจ้ามาทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยๆ บอกกับข้าก็ย่อมได้”
หนิงเฉี่ยนเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ยังจะบอกว่าข้านั้นพูดจาไร้สาระอีก เขาว่ากันว่าภรรยาเข้มงวด แต่เหตุใดเมื่อนายหญิงของข้าอภิเษกจึงกลายเป็นสามีเข้มงวดซะงั้น?” หลังจากพูดจบก็เปลี่ยนสีหน้าจริงจัง และกล่าวเบาๆ ว่า ” ช่วงนี้ที่ข้าน้อยเร่งขอพบนายหญิงก็เพราะว่า ได้เกิดเรื่องมากมายที่เมืองหลวงเจ้าค่ะ”
หยุนชางไม่ได้ตอบกลับ นางทำสีหน้าจริงจังและฟังหนิงเฉี่ยนกล่าว นางก็ได้ยินมาบ้างเล็กน้อย และทราบว่าได้เกิดเรื่องใหญ่ อีกทั้งส่วนมากเป็นฝีมือของจิ้งอ๋อง เพียงแต่ว่าตอนนั้นนางยังสลบอยู่ และเมื่อฟื้นขึ้นมาก็เตรียมงานอภิเษกสมรส จึงไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องละเอียดเช่นนี้
หนิงเฉี่ยนถอนหายใจ แต่ในแววตานั้นเผยความชื่นชมออกมาเล็กน้อย นางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ “วันที่สองที่องค์หญิงลงมาจากภูเขากิเลน ภูเขานั้นก็เหตุเพลิงไหม้ขนาดใหญ่มากขึ้นมา แทบจะเผาไหม้จนภูเขากิเลนไม่เหลือชิ้นดี หมู่บ้านเถาฮกะพริบตาอยู่ใต้ภูเขากิเลนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน สถานการณ์ด้านในเป็นอย่างไรนั้นข้าน้อยยังไม่ทราบข่าวเจ้าค่ะ ทราบเพียงแต่ว่า หลังจากนั้นมาหมูบ้านเถาฮวาก็ได้หายไปแล้ว จากนั้น ลูกชายคนสุดท้องจวนหลี่ คนที่เป็นผู้บัญชาการทหารองครักษ์ นางสนมของเขาบังเอิญไปพบหลักฐานการสมรู้ร่วมคิดของเขากับแคว้นเย้หลาง ได้ข่าวว่าจดหมายที่ส่งต่อกันไปมามีมากถึงสี่สิบฉบับ รวมถึงหลักฐานทางวัตถุต่างๆ ที่ร้ายแรงที่สุดคือ งานประดิษฐ์ตัวอักษรที่องค์ชายสามแคว้นเย้หลางมอบให้เขา ซึ่งเขียนแสดงความชื่นชมต่อผู้บัญชาการหลี่ ฝ่าบาททรงพิโรธอย่างมาก ฉะนั้นจึงส่งเขาเข้าเรือนจำ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสืบสวน แต่ทว่าข้าน้อยคิดว่า สถานการณ์ตอนนี้ของเขาคงอันตรายอย่างมาก ”
หยุนชางพยักหน้า หนิงเฉี่ยนจึงกล่าวต่อ “องค์หญิงยังจำชางยางอวี้เอ๋อร์ได้หรือไม่เจ้าคะ ไม่นานที่ผ่านมานางได้เข้าจวนหลี่ไปแล้วเจ้าค่ะ ฝีมือที่นางใช้นั้นร้ายกาจมากเจ้าค่ะ ตอนนี้นางตั้งครรภ์แล้ว เวลานั้นตรงกับช่วงที่พวกนางทำการกระทำน่าอัปยศที่จวนจิ้งอ๋องพอดีเจ้าค่ะ ตอนนี้ภายในจวนหลี่นั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากเจ้าค่ะ”
“แคว้นเซี่ยก็เกิดเหตุบางอย่างเช่นกันเจ้าค่ะ องค์รัชทายาทของแคว้นเซี่ยฟ้องร้องอ๋องเจ็ดต่อจักรพรรดิแคว้นเซี่ย โดยกล่าวว่าเขานั้นมีกองทหารมากเกินไป ได้กักตุนกองกำลังกว่าแสนนาย อีกทั้งยังมีอาวุธและอาหารด้วยเจ้าค่ะ ข่าวนั้นส่งมาในวันที่หกหลังจากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่ภูเขากิเลนพอดีเจ้าค่ะ อ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยจึงได้รีบออกเดินทางกลับไปที่แคว้นเซี่ยในชั่วข้ามคืนเจ้าค่ะ”
“ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใหญ่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เจ้าค่ะ แต่ว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่ง จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ก็คงไม่ใช่ แต่หากจะว่าเป็นเรื่องเล็กนั้นก็มิใช่เรื่องเล็ก แต่กลับเป็นสิ่งที่ข้าน้อยนั้นชื่นชมในตัวจิ้งอ๋องมากที่สุดเจ้าค่ะ” หนิงเฉี่ยนกะพริบตาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“หื้ม เรื่องกระไรหรือ?” หยุนชางถาม
หนิงเฉี่ยนหัวเราะ ” องค์หญิงยังจำเวินหยูอวี้ได้หรือไม่เจ้าคะ วันนั้นในงานชมบุปผชาติ คนที่ถูกลักพาตัวไปในวังเฟิ่งไหล เพราะคิดว่านางเป็นองค์หญิง?”
หยุนชางพยักหน้า ” ข้าจำได้อย่างแน่นอน” จำว่าไป เวินหยูอวี้นั้นก็เป็นคนที่น่าสนใจเช่นกันเพราะจิ้งอ๋องจะอภิเษกสมรสกับตน นางจึงเกลียดตนขึ้นมา อีกทั้งยังร่วมมือกับมหาเสนาบดีหลี่และเสด็จพ่อของตน จับตัวนางไปหนึ่งครั้ง จับตัวจิ้งอ๋องไปอีกหนึ่งครั้ง และแน่นอนว่านางต้องจำเรื่องนี้ได้ดีอย่างแน่นอน
“เวินหยูอวี้นั้นถูกลักพาตัวไปอยู่นาน แต่เมื่อหลายวันก่อนนางก็ปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูจวนเวิน นางมิได้สวมใส่เสื้อผ้าสักชิ้น ทั้งร่างกายนั้นเขียวช้ำไปหมด คนที่ทราบดีเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ก็ทราบแล้วว่านางถูกคนอื่น……… อีกทั้งลักษณะนั้นดูรุนแรงอย่างมาก เกรงว่าคงจะไม่ใช่ฝีมือของคนคนเดียว” หนิงเฉี่ยนกะพริบตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีข่าวออกมาว่า คุณหญิงเวินนั้นตั้งครรภ์และนางเป็นบ้าไปแล้ว นางไม่ยอมสวมใส่เสื้อผ้า และมักจะวิ่งแบบเปลือยกายไปทั่ว จึงกลายเป็นเรื่องน่าอับอายครั้งใหญ่ในเมืองไปเจ้าค่ะ”
หลังจากหนิงเฉี่ยนพูดจบ นางก็จ้องไปที่หยุนชางด้วยดวงตาเป็นประกาย “จิ้งอ๋องช่างมีวิธีจัดการที่ยอดเยี่ยมเสียจริง ข้าน้อยคิดว่า ท่านทำเช่นนี้ คงต้องการทำลายคุณหญิงเวินให้จบสิ้น ก่อนหน้านี้คุณหญิงเวินคนนั้นยังคิดที่จะอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องหรือฝ่าบาทอยู่เลย แต่ตอนนี้แทบทุกคนที่ทราบเรื่องราวของนาง คงไม่ต้องคิดเรื่องแต่งงานอีกต่อไปแล้ว”
หยุนชางตกตะลึงเล็กน้อย ผ่านไปอยู่นาน จึงกล่าวว่า “เขามิได้ทำเช่นนี้เพราะข้าหรอก เจ้าก็คงทราบดีว่าเวินหยูอวี้นั้นทำให้จิ้งอ๋องขุ่นเคือง เขาคงจะล้างแค้นให้ตัวเอง……” นางกล่าวอธิบายเบาๆ สุดท้ายเสียงก็ค่อยๆ หายไป
หนิงเฉี่ยนไม่ตอบโต้อะไร เพียงแต่มองไปที่หยุนชางด้วยรอยยิ้ม แววตานั้นราวกับกำลังบอกว่า ” เจ้าหลอกตัวเองไปเถอะ”