ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - บทที่ 311 เจ้าจะเป็นภรรยาของข้าตลอดไป
หลังจากนั้นไม่นาน เฉี่ยนอินก็นำน้ำอุ่นเข้ามาเทลงในถังไม้ที่วางอยู่หลังฉากกั้น หยุนชางเดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปแล้วถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นก็นั่งลงในอ่าง เฉี่ยนอินเดินเข้ามา แล้ววางเสื้อผ้าสะอาดที่เตรียมไว้บนเบาะ จากนั้นก็หยิบผ้าขึ้นมาและขัดตัวให้หยุนชาง แต่ตัวนางนั้นเอนกายไปใกล้หยุนชาง และพูดด้วยเสียงที่เบาจนได้ยินกันเพียงสองคนว่า “ท่านอ๋องเป็นห่วงมาทั้งคืนนะเพคะ ท่านสั่งสายลับมาถามไถ่สามสี่ครั้งแล้วเพคะ”
หยุนชางตะลึง ก่อนที่นางจะออกไป นางบอกกับจิ้งอ๋องว่านางแค่ออกมาดูสถานการณ์ แต่นางมิได้บอกว่าจะไปที่ไหน และนางไม่ได้กลับมาทั้งคืน ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเป็นห่วง หยุนชางรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา นางอมยิ้ม มีคนคอยคิดถึงเป็นห่วงตลอดนั้น ช่างเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยนะ
หลังจากอาบน้ำ เฉี่ยนอินก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วออกจากกระโจม หยุนชางเดินไปหาจิ้งอ๋องและหยิบหนังสือในมือของเขาออก จิ้งอ๋องเงยหน้าขึ้นมามองหยุนชาง หยุนชางก็อมยิ้มขึ้นมา
” ข้าขอโทษ ที่ทำให้เป็นห่วง”
จิ้งอ๋องมิได้กล่าวกระไร เพียงแต่มองไปที่หยุนชางด้วยสายตาที่ลึกซึ้งเล็กน้อย หยุนชางยื่นมือออกแล้วจับมือจิ้งอ๋อง มือของจิ้งอ๋องเย็นเล็กน้อย หยุนชางจึงนวดมือให้เขาเหมือนที่เขาเคยทำ จากนั้นจึงกล่าวว่า ” ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ได้เวลาพักผ่อนแล้ว”
จิ้งอ๋องเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงลุกขึ้นยืน และปล่อยให้หยุนชางจูงมือพาเขาไปนั่งลงข้างๆ เบาะ หยุนชางยื่นตำราพิชัยสงครามออกมา เพียงแต่สนามรบและตำราพิชัยสงครามนี้มันต่างกันมากเกินไป “ในสนามรบนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ข้าไม่กล้าที่จะประมาท ฉะนั้นจึงได้เห็นถึงความสำคัญของมันเช่นนี้ ท่านอ๋องคงไม่รู้ตัวว่าท่านอ๋องนั้นยอดเยี่ยมเช่นไร ก่อนหน้านี้ที่ข้าอภิเษกสมรสกับท่านอ๋อง ก็เพียงเพราะอยากร่วมมือกับท่านอ๋องเพื่อจัดการกับตระกูลหลี่เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ ตระกูลหลี่ได้แตกสลายไปแล้ว แต่ข้ากลับ… หญิงสาวที่อยากครอบครองท่านอ๋องนั้นมีมากจนเกินไป แต่ด้วยความที่ข้าเป็นองค์หญิง จึงได้ครองตำแหน่งพระชายาไป…”
อาจเป็นเพราะสายตาของจิ้งอ๋องนั้นลึกซึ้งเกินไป เมื่อหยุนชางกล่าวคำเหล่านี้ นางรู้สึกลำบากเล็กน้อย หลังจากหยุดไปครู่เดียว นางจึงกล่าวต่ออีกว่า “อันที่จริงแล้ว ข้าไม่มีความฝันใดๆ ข้าหวังเพียงแค่อยากจะเข้มแข็งกว่าเดิม ปกป้องคนที่ข้าต้องการปกป้อง เพื่อไม่ให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ คนที่ข้าต้องการปกป้องนั้นก็มีไม่มาก มีเสด็จแม่ เสด็จพ่อ ท่านตา และเฉินซี แต่ตอนนี้ ข้ากลับต้องคิดอีกว่า ข้าต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ จึงจะมีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านอ๋อง บางทีในอนาคต ท่านอ๋องอาจมีตำแหน่งหรืออำนาจที่สูงกว่าตอนนี้ ฉะนั้นข้าจึงต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น จึงจะไม่เป็นตัวถ่วงและภาระของท่านอ๋อง”
จิ้งอ๋องก้มหน้าลง แต่เขากลับอมยิ้มขึ้นมา เขายื่นมือออกไปดึงหยุนชางมาข้างๆ ตน น้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “เจ้าดีมากแล้ว” หลังจากพูดเช่นนั้นไป เขาก็กอดหยุนชางไว้ในอ้อมกอด “ในเมื่อเจ้าคิดอยากจะทำสิ่งเหล่านี้ เจ้าก็ไปทำเถิด แต่จำไว้ว่า เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี หากว่าเจอปัญหาอะไร อย่าลืมบอกข้า อย่าได้แบกรับปัญหาไว้เพียงคนเดียว เจ้าจะเป็นภรรยาของข้าตลอดไป”
ประโยคสุดท้ายนั้นดูพูดออกมาอย่างกะทันหันเล็กน้อย แต่กลับเหมือนเป็นคำสัญญา หยุนชางตกตะลึงแล้วพยักหน้าและตอบด้วยเสียงต่ำๆ ว่า “ตกลง”
จิ้งอ๋องจุ๊บที่หน้าผากหยุนชางเบา ๆ แล้วจึงกล่าวว่า “พักผ่อนเถิด”
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนเตียงและเข้าไปในผ้าห่ม นางมองไปที่จิ้งอ๋องพร้อมรอยยิ้ม จิ้งอ๋องเอามือแตะศีรษะของหยุนชาง จากนั้นก็ดับไฟลงแล้วนอนลงเช่นกัน
ในความมืดมิดนั้น หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อย อันที่จริงทั้งนางและจิ้งอ๋องนั้นไม่ได้หลงใหลในความรักมาเท่าไหร่นัก นางเป็นเช่นนี้เพราะประสบการณ์บางอย่างในชาติก่อนทำให้นางไม่กล้าที่จะทุ่มเทมากนักกับความรัก ส่วนเขานั้นเป็นเช่นนี้อาจเพราะนิสัยเย็นชาที่มีมาตั้งแต่ยังเด็ก ฉะนั้นอภิเษกสมรสมานานเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงเฉยเมยเล็กน้อย เพราะทั้งสองนั้นอภิเษกโดยมีจุดประสงค์บางอย่าง แต่คราวนี้หลังจากที่จิ้งอ๋องมาที่เมืองคังหยางแล้ว นางรู้สึกได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนนั้นดูเปลี่ยนไป เพียงแต่ว่ามันเปลี่ยนไปในทางที่ดี ทั้งสองเริ่มคิดถึงอีกฝ่ายและเริ่มเป็นห่วงกัน…
ทั้งสองอภิเษกสมรสกันแล้ว เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้อง บางที ทั้งสองอาจจะต้องเกื้อหนุนและอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิต หากว่าสามารถเป็นดั่งคู่สามีภรรยาธรรมดานั้นก็คงจะดี
หยุนชางคิดเช่นนี้แล้วก็ผล็อยหลับไป
เมื่อท้องฟ้าค่อยๆ สว่าง จิ้งอ๋องตื่นขึ้นมาก่อน วันนี้เขาจะต้องเดินทางไปที่เมืองจิ้งหยาง ตอนนี้ที่เมืองจิ้งหยางยังคงมีปัญหาที่รอเขาไปแก้ไข จิ้งอ๋องหันกลับไปมองหยุนชางที่อยู่ข้างๆ ตน เขาหวั่นไหวเล็กน้อย หยุนชางกำลังหลับสบาย อาจเป็นเพราะบนเตียงนั้นร้อนเล็กน้อย จึงทำให้ใบหน้าของนางแดงเล็กน้อย จิ้งอ๋องอมยิ้ม แล้วยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าของหยุนชาง และนานกว่าจะดึงมือกลับมา แล้วจึงยกผ้าห่มออกยืนขึ้นแล้วสวมเสื้อผ้า
อาจเป็นเพราะนางรู้สึกได้ว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ นั้นลุกขึ้นแล้ว หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อยและลืมตาขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นจิ้งอ๋องกำลังสวมใส่เสื้อผ้า หยุนชางผงะเล็กน้อย “ตอนนี้เป็นเวลากี่ยามแล้ว”
จิ้งอ๋องเงยหน้ามองไปที่หยุนชาง “ตอนนี้ยามซื่อแล้ว”
หยุนชางงุนงง “เจ้าจะไปอีกแล้วหรือ?”
จิ้งอ๋องพยักหน้าและสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ” ใช่ หากข้ายังไม่รีบไป ก็คงไปถึงเมืองจิ้งหยางก่อนมืดมิได้” เขาเงยหน้าขึ้นและเอามือแตะไปที่ศีรษะของหยุนชางอีกครั้ง “เจ้านอนพักต่ออีกสักหน่อยเถิด เมื่อคืนนอนดึกเกินไป”
หยุนชางตอบด้วยเสียงต่ำ เมื่อรู้สึกว่าจิ้งอ๋องกำลังดึงมือกลับไป นางจึงคว้ามือของจิ้งอ๋องไว้อย่างรวดเร็ว จิ้งอ๋องมองไปที่หยุนชางด้วยความสงสัย หยุนชางก้มหน้าลง และไม่สามารถเห็นสีหน้าของนางได้ จิ้งอ๋องยิ้มและกล่าวว่า “เดินทางไปมาระหว่างเมืองคังหยางและเมืองจิ้งหยางใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เจ้าสั่งให้สายลับมาแจ้งข้าก็ย่อมได้”
หยุนชางตอบรับแต่ก็ไม่ปล่อยมือ นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนแล้วจึงเอ่ยปากกล่าวว่า “หากเจ้าต้องการ เจ้าก็ยอมรับฮวากั๋วกงเถิด สิ่งเหล่านั้นเป็นของเจ้าอยู่แล้ว แล้วข้าจะอธิบายต่อเสด็จพ่อเอง อันที่จริงหลายปีที่ผ่านมานี้ ข้าและท่านตาได้เตรียมการเรื่องต่างๆ มาไม่น้อยเช่นกัน เราได้เลือกคนที่มีความสามารถมาฝึกทักษะต่างๆ มีทั้งทหารและขุนนาง แม้ว่าพวกเขาอาจไม่ยอดเยี่ยมเท่าเจ้า แต่ก็สามารถรับผิดชอบหน้าที่ตนเองได้ แคว้นเซี่ย………” หยุนชางหยุดชะงัก กล่าวต่ออีกว่า “ข้าได้วางกำลังพลไว้ในแคว้นเซี่ยอยู่ส่วนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้ามิได้คิดกระไรมากนัก ได้วางกำลังพลเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งมีไม่มาก แต่เมื่อข้าทราบว่าเจ้า………จากนั้น ข้าจึงส่งตัวหนิงเฉี่ยนไป”
“ตอนนี้หนิงเฉี่ยนเป็นถึงนางสนมที่จักรพรรดิแคว้นเซี่ยทรงโปรดปราน อีกทั้งกองกำลังของเราค่อยๆ เข้าไปอยู่ในเมืองหลวงแคว้นเซี่ยแล้ว แม้แต่ในพระราชวังก็ยังมีคนของเราที่เข้าไปโดยใช้อำนาจของหนิงเฉี่ยน แม้ว่าตอนนี้ทุกๆ อย่างอาจจะยังไม่พร้อมเท่าที่ควร แต่หากเวลาผ่านไปนานๆ มันก็สามารถช่วยเจ้าได้” หยุนชางยิ้มเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นและจ้องมองเขาด้วยสายตาที่แน่วแน่
“หากว่าเจ้าต้องการ ก็อย่าได้ลังเล ข้าจะสนับสนุนเจ้าเสมอ” หยุนชางยิ้มและกล่าว น้ำเสียงของนางอ่อนโยนอย่างมาก ทำให้จิ้งอ๋องไม่สามารถเมินเฉยได้ จิ้งอ๋องเอ่ยปากจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่รู้สึกว่าตนพูดไม่ออก เขาทราบถึงความกังวลของหยุนชางมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้นางกลัวว่าตนจะชิงบัลลังก์ของจักรพรรดิหนิง ต่อมาเมื่อได้ทราบเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้ว นางก็กลัวว่าเขาจะทิ้งทุกอย่างในแคว้นหนิงแล้วกลับไปที่แคว้นเซี่ย และกลายเป็นศัตรูของแคว้นหนิง แต่ตอนนี้นางกลับพูดเช่นนี้ออกมา…
จิ้งอ๋องเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงดึงหยุนชางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดในทันที และทันใดนั้นก็มีความรู้สึกรุนแรงเกิดขึ้นในใจเขา เขาอยากกอดนาง อยากจูบนาง อยากที่จะ……ทำให้นางกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของตน
ผู้หญิงคนนี้ช่าง…