ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - บทที่ 382 ท่านฮูหยินจ้าว
เฉี่ยนอินทำปากจู๋พร้อมกับมองค้อนหยุนชาง นางเงียบไปไม่นานก็พูดขึ้นมาอีกว่า “เกือบลืมไปเลยเพคะ ก่อนพระชายาจะเสด็จมา สายลับที่พระชายาสั่งให้ไปสืบประวัติท่านฮูหยินจ้าวได้ส่งข่าวมาว่า ที่มาที่ไปของท่านฮูหยินจ้าวยังคงคลุมเครือ ดูเหมือนว่านางจะเป็นหญิงที่แม่ทัพจ้าวไปช่วยเหลือมาจากชายแดน แต่ตอนที่นางเข้ามาอยู่ในจวนจ้าว นางจำอะไรไม่ได้เลย แม้กระทั่งชื่อแซ่ของนางก็ได้แม่ทัพจ้าวเป็นคนตั้งให้เพคะ”
“จริงหรือ?” หยุนชางลืมตาขึ้นมาด้วยความอยากรู้ สิ่งที่นางเคยคาดคิดไว้ในใจเริ่มเด่นชัดขึ้นมาทุกที
เมื่อเฉี่ยนอินเห็นว่าในที่สุดหยุนชางก็สนใจนางแล้ว ก็รีบเจื้อยแจ้วต่อไปว่า “แม่ทัพจ้าวพึงพอใจในตัวท่านฮูหยินจ้าวไม่น้อย เขาพยายามดูแลนางเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เห็นว่าเขาถึงกับกุเรื่องมาโกหกนางว่า เขาและนางเป็นสามีภรรยากันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขายังกำชับให้ทุกคนในจวนพูดเช่นนี้ให้เหมือนกันให้หมด ท่านฮูหยินจ้าวที่สูญเสียความทรงจำไปจึงปักใจเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆเพคะ……”
หยุนชางไม่คิดมาก่อนเลยว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ นึกย้อนไปตอนที่นางได้พบกับท่านฮูหยินจ้าวครั้งแรกที่ตำหนักของหัวจิ้ง นางดูอายุไม่มากแถมยังยิ้มแย้มแจ่มใส ใครเลยจะรู้ว่านางจะถูกหลอกลวงเช่นนี้ได้
แม่ทัพจ้าวหลงรักท่านฮูหยินจ้าวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะยามออกรบหรือยามไปสมาคมกับมิตรสหาย เขาจะพาท่านฮูหยินจ้าวติดตามไปด้วยทุกหนทุกแห่ง ท่านฮูหยินจ้าวเองก็มีจิตใจห้าวหาญ นางสนอกสนใจเรื่องการศึกสงคราม มีความสามารถในการวิเคราะห์แผนการทำศึก นานวันเข้า ก็เป็นที่ยอมรับของเหล่าแม่ทัพคนอื่นๆ เมื่อนางตั้งครรภ์ นางก็กลับมาดูแลครรภ์ภายในจวนจ้าว จนนางได้ให้กำเนิดจ้าวอิงเจี๋ย เมื่อจ้าวอิงเจี๋ยลืมตามาดูโลกยังไม่ทันครบปี แม่ทัพจ้าวก็ได้เสียชีวิตในสนามรบ หลังจากนั้นเป็นต้นมา ท่านฮูหยินจ้าวจึงขึ้นมาดูแลกิจการต่างๆ นางแสดงฝีมือด้านการทำศึกมากมาย แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังทรงชื่นชมในความสามารถของนาง
หยุนชางพยักหน้า นางคิดไปถึงเมื่อตอนที่ท่านฮูหยินจ้าวเข้าวังมาเพื่อขอพบลูกชายของนาง พลันในใจของหยุนชางก็รู้สึกสงสารนางขึ้นมาอีกครั้ง
“แม่ทัพจ้าวให้การอบรมและฝึกปรือจ้าวอิงเจี๋ยมาเป็นอย่างดี เมื่ออายุได้ 5 ขวบ จ้าวอิงเจี๋ยก็ได้ลองประลองฝีมือแล้ว เขาจึงได้รับคำเรียกดังเช่นพ่อของเขา จนเขาได้กลายมาเป็นแม่ทัพจ้าว ท่านฮูหยินจ้าวได้รับบาดเจ็บจากสนามรบ สุขภาพไม่สู้ดีนัก นางจึงกลับมาพักรักษาตัวที่จวนจ้าว ไม่ออกปฏิบัติภารกิจอีกเลยเพคะ” น้ำเสียงของเฉี่ยนอินเองก็ฟังดูเศร้าอย่างไม่รู้ตัว สักพักนางก็ทำเสียงร่าเริงพูดขึ้นมาว่า “หม่อมฉันรู้สึกว่าอุปนิสัยของท่านฮูหยินจ้าวและพระชายามีส่วนที่เหมือนกันไม่น้อยเลยเพคะ”
หยุนชางมิได้พูดอะไรต่อ เมื่อเห็นว่าเรื่องราวของท่านฮูหยินจ้าวยังไม่กระจ่างชัดแจ้ง นางจึงพยายามคาดเดาเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ
“จริงสิ สายลับยังบอกอีกว่า ระหว่างที่พวกเขาได้ไปเก็บข้อมูลมาจากบ่าวไพร่คนเฒ่าคนแก่ในจวนจ้าว พวกเขาได้พบกับสายลับของท่านอ๋อง ดูเหมือนว่าจะถูกส่งมาด้วยเรื่องเดียวกันเพคะ……”
หยุนชางรีบมองไปที่เฉี่ยนอินด้วยความใคร่รู้ “เจ้าว่าอะไรนะ พวกเขาได้พบกับสายลับของท่านอ๋องหรือ? คนพวกนั้นก็ไปตามสืบเรื่องราวของท่านฮูหยินจ้าวเช่นเดียวกันหรือนี่?”
เฉี่ยนอินเห็นท่าทีของหยุนชางดูผิดปกติ ดูไม่ออกเลยว่านางกำลังคิดสิ่งใดอยู่ เฉี่ยนอินจึงเอ่ยขึ้นว่า “เพคะ เป็นสายลับของท่านอ๋อง แต่ว่าพระชายาวางพระทัยเถิดเพคะ สายลับของท่านอ๋องไม่เห็นคนของเราหรอกเพคะ ว่าแต่ ท่านฮูหยินจ้าวก็เป็นแค่ภริยาแม่ทัพคนหนึ่งเท่านั้น ท่านอ๋องและพระชายาจะสืบเรื่องของนางมาทำไมกันล่ะเพคะ?”
แต่หยุนชางกลับไม่ได้ยินคำถามหลังสุดของเฉี่ยนอินเสียแล้ว นางกำลังคิดหนัก ที่นางต้องการสืบเรื่องท่านฮูหยินจ้าวก็เป็นเพราะภาพวาดของจักรพรรดิแคว้นเซี่ยภาพนั้น หยุนชางเองเคยได้พบกับท่านฮูหยินจ้าวแล้ว นางจึงรู้ว่าหน้าตาของท่านฮูหยินจ้าวดูคล้ายกับอดีตฮองเฮาแคว้นเซี่ยในภาพวาด จึงได้ให้คนไปสืบประวัติท่านฮูหยินจ้าว แต่ว่าจิ้งอ๋อง ไม่รู้ว่าเขามีเหตุผลอะไรถึงได้……
ใช่แล้ว……หยุนชางนึกออกแล้ว ตอนอยู่ที่ค่ายทหารนอกเมืองซีอี ตอนนั้นหนิงหัวจิ้งอยู่ในวังหลวง จ้าวอิงเจี๋ยเป็นตายไม่มีผู้ใดรู้ ท่านฮูหยินจ้าวขอมาเยี่ยมเขาด้วยตัวเอง จิ้งอ๋องจึงได้พบกับท่านฮูหยินจ้าวแล้ว
หรือจิ้งอ๋องเองก็คิดเหมือนกันว่าท่านฮูหยินจ้าวหน้าตาคล้ายคลึงกับอดีตฮองเฮาแคว้นเซี่ย?
ศักยภาพของสายลับจิ้งอ๋องก็หาได้ต่างกันกับศักยภาพของสายลับของนาง นางกำลังคิดหนัก จิ้งอ๋องคงจะทราบเรื่องที่นางและเฉี่ยนอินคุยกันแล้วกระมัง?
แม้แต่นางเองยังสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล จิ้งอ๋องเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกัน หากนางเดาไม่ผิด ท่านฮูหยินจ้าวก็คงจะเป็นแม่แท้ๆของจิ้งอ๋อง ซึ่งก็คืออดีตฮองเฮาแห่งแคว้นเซี่ย ฮวาหลิง……
แต่ไม่รู้ว่าหลังจากที่ฮวาฮองเฮาตกหน้าผาแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง เหตุใดจึงหนีออกมาหลังจากที่ให้กำเนิดจิ้งอ๋องแล้ว แล้วเหตุใดนางจึงสูญเสียความทรงจำและได้มาพบกับแม่ทัพจ้าว?
ตอนนี้หากจิ้งอ๋องได้ทราบเรื่องนี้แล้ว เขาจะยัง……ยังจำท่านฮูหยินจ้าวได้อยู่หรือไม่? แต่ท่านฮูหยินจ้าวจำอะไรไม่ได้เลย นางลืมเรื่องราวทุกอย่างในอดีตไปหมดแล้ว ตอนนี้นางก็แต่งงานใหม่ไปแล้ว และยังมีลูกด้วยกันอีก 1 คน
หยุนชางนึกไปถึงตอนที่อยู่หอพระในตำหนักองค์หญิง ท่านฮูหยินจ้าวเคยบอกว่า ท่ามกลางบรรดาเจ้านายทั้งหลายในพระราชวัง คนที่นางยกย่องชื่นชมมากที่สุดก็คือจิ้งอ๋อง พอกลับมาคิดทบทวนอีกทีในเวลานี้ นี่คงจะเป็นสายใยระหว่างแม่ลูกสินะ
หยุนชางครุ่นคิดเรื่องพวกนี้จนมึนงงไปหมด เมื่อสรงน้ำเสร็จแล้ว นางก็เอนหลังลงบนเตียง ในสมองของนางยังคงวนเวียนเรื่องของจิ้งอ๋อง ท่านฮูหยินจ้าว และภาพวาดภาพนั้น
คิดไปคิดมาก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลาฟ้าสลัว หยุนชางควานไปด้านข้างก็ได้สัมผัสกับที่นอนที่เย็นเฉียบ นางตกตะลึง นี่จิ้งอ๋องออกไปทั้งคืนยังมิได้กลับมาเลยหรือนี่?
นางลุกพรวดขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง แล้วก็ได้พบกับเงาคนเงาหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ หยุนชางเพ่งสายตามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รู้สึกโล่งใจ ที่แท้ก็จิ้งอ๋องนั่นเอง
ไม่รู้ว่าจิ้งอ๋องนั่งอยู่ตรงนั้นมานานเท่าใดแล้ว หยุนชางเห็นว่าเขาไม่เคลื่อนไหวร่างกายเลยแม้แต่น้อย
“ท่านอ๋องเพคะ?” หยุนชางเอ่ยเรียกขึ้นมาเบาๆ
เงานั้นยังคงแน่นิ่ง หยุนชางเรียกเสียงดังขึ้นกว่าเดิม จิ้งอ๋องจึงค่อยๆหันมาแล้วเอ่ยปากถาม “เจ้าตื่นแล้วหรือ?”
เสียงของเขาแหบแห้ง
หยุนชางเป็นกังวลขึ้นมาทันที นางลุกจากเตียงแล้วรีบเดินเข้าไปหาจิ้งอ๋อง นางลูบมือของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะ มือนั้นเย็นไปถึงขั้วหัวใจ หยุนชางแตะไปที่ใบหน้าของจิ้งอ๋อง ก็เย็นเฉียบไม่แพ้กัน
นางรู้สึกร้อนรุ่มภายในใจ นางดึงแขนจิ้งอ๋อง “เหตุใดจึงมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะเพคะ? ดูสิ ตัวของท่านเย็นไปหมดแล้ว ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำอย่างไร? รีบมานอนห่มผ้าเร็วๆสิเพคะ”
จิ้งอ๋องนิ่งเงียบ แต่ก็ยอมตามหยุนชางมานั่งที่เตียง แต่เขากลับไม่ยอมนอนลงไป “ข้าตัวเย็นเช่นนี้ ข้าไม่อยากให้ความเย็นแพร่ไปที่ตัวเจ้า เจ้ารีบนอนเถอะ ข้างนอกอากาศหนาว”
แต่หยุนชางกลับหอบผ้าห่มมาคลุมให้จิ้งอ๋อง แล้วนั่งอิงกายของจิ้งอ๋องไว้ ทั้งสองต่างคนต่างเงียบ สักครู่หนึ่ง หยุนชางก็ได้ตัดสินใจพูดออกมา “ท่านอ๋องเพคะ ท่าน…ส่งคนไปสอดแนมท่านฮูหยินจ้าวหรือเพคะ?”
จิ้งอ๋องรู้สึกอึ้งเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการไว้ ทว่าหยุนชางนั้นก็พอจะมองออก นางพูดต่อไปว่า “หม่อมฉันมิได้ส่งคนไปสะกดรอยตามท่านนะเพคะ แต่เป็นเพราะว่าคนที่หม่อมฉันส่งให้ไปสืบประวัติท่านฮูหยินจ้าวได้พบกับสายลับของท่านเช่นเดียวกันน่ะเพคะ”
เมื่อจิ้งอ๋องได้ฟังดังนั้นแล้วก็ยิ้มให้กับหยุนชาง แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้หยุนชางรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก “นี่เจ้าทายถูกอีกแล้วหรือนี่?”