ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - บทที่ 387 สืบคดีด้วยกัน
จักรพรรดิหนิงมิได้ตรัสอะไร หยุนชางครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “และสิ่งอื่นที่ต้องตรวจสอบคือทหารยามและผู้คุม กุญแจห้องขังของพี่หญิงไม่เสียหาย มีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้นคือ บุคคลนั้นมีกุญแจอยู่บนตัวของเขา ผู้ที่มีกุญแจ มีเพียงทหารยามและผู้คุม แม้ว่าไม่ใช่พวกเขา แต่ก็จะต้องเป็นคนรับกุญแจจากพวกเขา”
จักรพรรดิหนิงพยักหน้า “มีกับดักในคุกหลวงมากมาย แต่เมื่อดูที่เกิดเหตุ กับดักเหล่านั้นไม่ได้ถูกแตะต้องเลย เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียด”
หยุนชางตอบรับ แต่ยังมีท่าทีที่กังวลอยู่ในใจ จักรพรรดิหนิงถอนหายใจ “กำลังเป็นห่วงชิงเหยียนอยู่หรือ?”
“เพคะ” หยุนชางตอบเบาๆ เงียบไปครู่หนึ่ง แต่จู่ๆ ก็หัวเราะ “หลังจากที่หม่อมฉันกลับมาที่วัง ก็ถูกปองร้ายมาโดยตลอด จากประสบการณ์ของหม่อมฉันที่ถูกปองร้ายมา เกรงว่าต่อไปจะมีหลักฐานผุขึ้นมามากมาย หลักฐานมากมายที่ไม่เป็นผลดีต่อท่านอ๋อง สถานะตัวตนปัจจุบันของท่านอ๋อง มันค่อนข้างอึดอัด…”
หยุนชางพึมพำ แต่คำพูดที่เหลือ นางไม่สามารถพูดต่อหน้าจักรพรรดิหนิงได้ ปัจจุบันจิ้งอ๋องเป็นจิ้งอ๋องแห่งแคว้นหนิง แต่จักรพรรดิหนิงจะไม่ยอมให้อำนาจที่แท้จริงแก่เขาอีกต่อไป ขุนนางที่เคยเป็นฝ่ายกับเขาในราชสำนัก จะต้องชั่งใจกันใหม่ เขายังเป็นบุตรชายของเซี่ยหวนอวี่ แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้กลับไปที่แคว้นเซี่ย ตัวตนของเขายังไม่ได้รับการประกาศให้โลกรู้ มีบางอย่างเกิดขึ้นในเวลานี้ แทบจะบังคับให้จิ้งอ๋องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
หยุนชางรู้ว่า ตามหลักแล้วนางก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยตาม ดังนั้นนางจะต้องไม่สามารถเข้าร่วมในการตรวจสอบได้ แต่นางก็มิได้ฝืน กลับไปที่วังจิ่นซิ่วเพื่อพบจิ่นกุ้ยเฟย แล้วออกจากวังอีกครั้ง
หลังจากกลับถึงจวนจิ้งอ๋องแล้ว นางก็รีบสั่งให้องครักษ์ลับไปตรวจสอบ นอกจากนี้ นางยังส่งคนไปสืบหาแบบแผนผังการสร้างศาลต้าหลี่ และหาข้อมูลของผู้กระทำผิดที่ถูกคุมขังในศาลต้าหลี่มาตรวจสอบด้วย
เป็นเวลาบ่ายที่จิ้งอ๋องกลับมายังจวน เมื่อหยุนชางเห็นเขาเข้ามา ก็วางเอกสารในมือลง และเดินไปหาจิ้งอ๋องและถามว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม”
จิ้งอ๋องส่ายหัว แล้วดึงมือของหยุนชาง “เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดอย่างไรบ้าง?”
หยุนชางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดอะไร องครักษ์ลับของเขาต้องรู้อยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รายงานเขา แต่ว่าทำไม ทันทีที่ท่าทีเปลี่ยนไป นางก็ไปนั่งบนเบาะพร้อมกับจิ้งอ๋องและกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพกล่าวว่า เซี่ยโหเหยียนเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และถูกไฟคลอกหลังจากตาย และศพหญิงสาวคนนั้นไม่ใช่หนิงหัวจิ้ง…”
จิ้งอ๋องกล่าวว่า “อืม” และพูดช้าๆ “ในเมื่อศพหญิงสาวไม่ใช่หนิงหัวจิ้ง ก็ให้คนตรวจสอบตัวตนของศพหญิงสาวผู้นั้นให้ละเอียด ข้าได้ยินมาว่ามีผู้ถูกคุมขังในคุกรวมสิบแปดคน กลับตายไปทั้งหมดสิบแปดคน แต่จู่ๆก็มีศพหญิงสาวปรากฏขึ้น ลองใช้ข้อมูลนี้ตรวจสอบดู มันก็จะพบอะไรบางอย่างได้อย่างแน่นอน”
หยุนชางตอบรับ เมื่อครู่นางลืมเรื่องนี้ไป
หยุนชางจึงบอกจิ้งอ๋องอย่างละเอียดถึงทิศทางที่นางต้องการสืบหา จิ้งอ๋องฟังแล้ว พยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก
ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง จิ้งอ๋องเหลือบมองที่เอกสารบนโต๊ะก่อนพูดว่า “เจ้ากำลังดูเอกสารของคุกหลวงอยู่หรือ”
หยุนชางพยักหน้า “ข้าอยากรู้ว่าใครสร้างกับดักในคุกหลวง ผู้คนถูกขังอยู่ในคุกหลวงมีใครบ้าง” เดิมที่กับดักในคุกหลวงยังดีๆอยู่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะอะไร แสดงว่าบุคคลนั้นต้องคุ้นเคยกับกับดักในคุกหลวงมาก
“ผู้สร้างกับดักในคุกหลวง…” จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว “ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่คนของแคว้นหนิง”
ไม่ใช่คนของแคว้นหนิง? หยุนชางขมวดคิ้ว สงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร
“อีกอย่าง หลังจากที่เจ้าจากไปก่อน ข้าพบว่าปริมาณของน้ำมันตุงที่ใช้นั้นค่อนข้างมาก กลิ่นของมันแม้จะใช้เวลานานมากก็ไม่จางเลย ข้ารู้สึกแปลกๆ ประเดี๋ยวเจ้าไปคุกหลวงตรวจสอบกับข้าหน่อยเถอะ” หยุนชางกล่าวอย่างแผ่วเบา
จิ้งอ๋องพยักหน้าและเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดเบาๆ “หลังจากเรื่องนี้จบลง เจ้าไปที่แคว้นเซี่ยกับข้านะ”
ไปแคว้นเซี่ย? หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองจิ้งอ๋อง แต่เห็นว่าไม่มีสีหน้าพิเศษใดๆบนใบหน้าของเขา แววตาของเขาค่อนข้างว่างเปล่า หยุนชางไม่รู้ว่าจิ้งอ๋องได้เจรจากับเซี่ยหวนอวี่อย่างไร แต่นางก็เข้าใจด้วยว่า บางสิ่งถูกกำหนดไว้แต่แรกแล้ว จะมาถึงในไม่ช้าก็เร็ว เพียงแค่มาเร็วไปหน่อย
นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ แต่ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่จิ้งอ๋องต้องการ ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุดในเรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพียงว่าเขาแข็งแกร่งมาตลอด และไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอของเขาต่อหน้านาง ดังนั้นจึงแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่เป็นไร
“ได้” หยุนชางหัวเราะเบาๆ “ตามคำกล่าวที่ว่า แต่งกับไก่ก็ตามไก่ แต่งกับสุนัขก็ตามสุนัข(เมื่อออกจากเรือนแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะลำบากสักแค่ไหน ก็ต้องรู้จักปรับตัวอยู่กับสามีและครอบครัวสามีให้ได้) ในเมื่อแต่งงานกับเจ้าแล้ว แน่นอนว่าจะเคียงข้างเจ้า”
เมื่อฟังคำพูดล้อเลียนของหยุนชาง ใบหน้าที่เคร่งเครียดของจิ้งอ๋องก็คลายลงเล็กน้อย และเขายื่นมือไปโอบกอดหยุนชาง ในที่สุดใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มจางๆ ยัยเด็กคนนี้นี่นะ
ทั้งสองพักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพาเฉี่ยนอินออกจากจวน มุ่งหน้าไปยังคุกหลวง ผู้พิพากษาสูงสุดแห่งศาลต้าหลี่เข้าวังและยังไม่กลับมา มีเพียงรองผู้พิพากษาแห่งศาลต้าหลี่เท่านั้นที่อยู่ที่นั่น เมื่อครู่หยุนชางและจิ้งอ๋องตามจักรพรรดิหนิงเสด็จมา ด้วยกัน และทหารยามข้างนอกก็เคยได้พบแล้ว รองผู้พิพากษาแห่งศาลต้าหลี่ก็ไม่ได้สงสัยฐานะตัวตนของพวกเขาแม้แต่น้อย แต่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ข้าน้อยได้ยินมาว่า ท่านอ๋องและพระชายาเพิ่งเสด็จกลับไป แต่ทว่าเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?”
หยุนชางยิ้มและส่ายหัว “เดิมมาตรวจสอบในคุกได้พบอะไรบางอย่าง ตอนนั้นคิดไม่ออกว่าคืออะไร หลังจากที่ข้ากลับไป ข้าก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็คิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น จึงกลับมาดู”
รองผู้พิพากษาแห่งศาลต้าหลี่ซึ่งดูเหมือนอายุยี่สิบกว่าเห็นรอยยิ้มของหยุนชาง งุนงงไปชั่วขณะ จากนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นเชิญพระชายาตามสบาย เมื่อครู่ให้ใต้เท้าสั่งให้ข้าน้อยจัดการอะไรบางอย่าง เกรงว่าจะไม่สามารถติดตามท่านอ๋องและพระชายาได้ ทหารยามที่อยู่หน้าประตูเหล่านี้ท่านอ๋องและพระชายาสามารถเรียกใช้ได้ตามต้องการขอรับ”
หยุนชางยิ้มแล้วตอบว่า “เช่นนั้น ก็ไม่ขอรบกวนใต้เท้าแล้ว ใต้เท้าไปทำงานต่อเถิด”
หลังจากที่รองผู้พิพากษาแห่งศาลต้าหลี่จากไป หยุนชางก็ไม่ได้เรียกใช้ทหารยาม แต่เดินเข้าไปในคุกหลวงกับจิ้งอ๋อง ศพที่ถูกไฟคลอกนั้นยังไม่ได้จัดการ มีกลิ่นเหม็นไหม้อยู่ทุกหนทุกแห่ง กลิ่นของน้ำมันตุงเจือจางกว่าแต่เดิมเล็กน้อย แต่ก็ยังมีกลิ่นติดอยู่ที่ปลายจมูก
หยุนชางขมวดคิ้ว “ท่านอ๋องสังเกตเห็นไหมว่าน้ำมันตุงนี้มีมกลิ่นที่หนักกว่าน้ำมันตุงทั่วไป และเมื่อได้สูดดมก็รู้สึกอุดอู้ในใจ”
จิ้งอ๋องยืนครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “น้ำมันตุงนี่ผสมกับของบางอย่าง”
หยุนชางได้ยินคำนั้น นางก็เรียกเฉี่ยนอินที่อยู่ด้านหลัง เอาภาชนะไปที่มุมต่างๆเพื่อดูว่ายังมีน้ำมันตุงที่ยังไม่ถูกเผาไหม้หรือไม่ ถ้ามีก็ให้ตักมันมา นำไปตรวจดูว่ามีอะไรแปลกๆอยู่ในน้ำมันตุง
หยุนชางเดินไปที่ประตูห้องขังของเซี่ยโหเหยียนอีกครั้ง ร่างของเซี่ยโหเหยียนถูกนำออกไปแล้ว บางทีอาจถูกส่งไปยังจุดพักม้าแล้ว หยุนชางเดินเข้าไป พบชิ้นส่วนสีดำเล็กปรากฏขึ้นในบริเวณที่ร่างกายของเซี่ยโหเหยียนนอนเสียชีวิต ขมวดคิ้วและนั่งลง หยิบชิ้นส่วนชิ้นหนึ่งใส่มือ ดมดูแล้ว ดูเหมือนจะเป็นกลิ่นของเนื้อหลังจากที่ถูกเผาย่าง แต่มันก็มีกลิ่นหอมเล็กน้อย
หยุนชางขมวดคิ้ว เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นเนื้อของเซี่ยโหเหยียนหลังจากถูกเผา?
จิ้งอ๋องดึงหยุนชางลุกขึ้น โยนชิ้นส่วนสีดำทิ้ง ดึงผ้าเช็ดหน้าในแขนเสื้อของหยุนชางออกมา แล้วเช็ดมืออย่างละเอียด “ไม่ดูเลยว่าที่นี่คือที่ไหน เห็นอะไรก็ต้องไปจับต้อง นี่มันข้อเสียของเจ้า?”