ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 16 จึงจอกเจ้าเล่ห์
ตอนที่16 จึงจอกเจ้าเล่ห์
ชุดาเข้ามาหาธินิดาอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วแผดเสียงดังลั่น”คุณเป็น แม่ของฉันหรือเปล่า”
ธินิดาตกใจกับคำถามไร้สาระ รีบปิดปากของเธอเพราะกล้วว่าเสียง จะไปถึงปยุตที่อยู่ห้องนั่งเล่น ขมวดคิ้วและเอ่ยดุ”ลมอะไรหอบมาเนี่ย ถ้าฉันไม่ใช่แม่ของแกแล้วใครมันจะเป็นแม่ของแกกัน”
“ฉันคิดว่าคุณเป็นแม่เลี้ยงของฉันเสียอีก พ่อจะให้ฉันแต่งงานกับ ตระกูลทรัพยสาน ถ้าไม่ใช่เพราะคุณสร้างปัญหา ตอนนี้นังจึ้งจอกนั่น จะได้มีโอกาสมาลอยหน้าลอยตาใส่ฉันแบบนี้เหรอคะ”
ชุดายิ่งพูดก็ยิ่งโกรธจนกระทืบส้นรองเท้าส้นสูงเสียงดัง” มันกลับมา ปรากฏตัวเพื่อทำให้ฉันอับอาย!”
“อะไรนะ ทำให้อับอาย มันทำให้เธออับอายยังไง”
ธนิดาท้าวเอว ด้านที่ดุร้ายถูกเปิดเผย
“มันบอกว่าฉันสินค้าที่ฉันแบบนี้ คุณปยุตไม่มีทางชายตาแล! วูวู้ว..
“นังสุนัขจิ้งจอกนั่นมันมารยาร้อยเล่มเกวียนแม้แต่กับคุณนายท่าน ที รอวันที่แกจะกลายเป็นผู้หญิงที่ทอดทิ้ง ดูซิว่าคุณนายท่านจะ จัดการกับเธอยังไง”
“ทิ้งอะไร คุณปยุตทำดีกับมัน คุณแม่ไม่เห็นเหรอคะ มันเก่งกว่าแม่ ของมันเสียอีก คุณแม่ให้ความสุขที่ควรจะเป็นของฉันกับมัน ฉัน เกลียดคุณ!”
สุดท้ายชุดาก็ตวาดก้องแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป
ธินิดาตกตะลึงอยู่เป็นนานสองนาน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ลูกสาวที่มี ค่าของเธอตกหลุมรักปยุต แต่กิริยาท่าทางที่ปยุตมีต่อผลินต่างหากที่ ทำให้เธอนั้นรู้สึกหดหูใจมาก ความตั้งใจของเธอคือต้องการการโยน นังเด็กนั่นลงไปในหลุมไฟ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าหลุมไฟนั้นแท้ที่จริงคือ หลุมทอง ทำให้นั่งจึ้งจอกกกลายเป็นนกฟีนิกซ์สีทอง!
จะมีอะไรน่าเศร้าไปกว่านี้อีกไหม ไม่ใช่แค่ชุดาหรอกที่เกลียดเธอ แม้แต่เธอก็ยังเกลียดตัวเองเลย
ความเกลียดชังนับพัน แต่ละชนิดของความเสียใจ สามารถระงับ ได้ชั่วคราวที่ก้นบึ้งของหัวใจ ปยุตเป็นคนที่เขาไม่สามารถทำให้ขุ่น เคืองได้ ถ้าความสัมพันธ์กับทรัพยสานเป็นไปในทางที่ดี หลังจากนี้ ธุรกิจของตระกูลเจริญมาศก็ไม่น่ากังวล
อาหารมื้อกลางวันพร้อมแล้ว ปยุตนั่งในตำแหน่งที่เป็นสัญลักษณ์ ของวีไอพี ผลินนั่งข้าง ๆ เขา ชุดานั่งลงตรงข้างกับผลิน คนรับใช้ค่อย ๆ ละเมียดละไมวางชุดอาหารลงบนโต๊ะ ธนวันน่าไวน์ชั้นดีออกมาแล้ว เอ่ย “วันนี้ไม่เมาไม่กลับนะลูกเขย”
ปยุตนั้นเป็นนักดื่มแอลกอฮอล์ตัวยง หกสิบดีกรีไม่สามารถทำให้ เขาขมวดคิ้วเลยแม้แต่น้อยและยังคงมีสติพอที่จะตักอาหารให้ผลิน “นี่ ของโปรดของคุณ ทานเยอะ ๆ สิ
ประกายตาของผลินบังเกิดความแปลกใจขึ้นมาชั่วแวบ เธอจ้องมอง ไปยังเนื้อปูตุ้นที่ปยุตตักให้เธอด้วยความประหลาดใจ มีเครื่องหมาย คำถามผุดขึ้นมาในหัว เขารู้ได้ยังไงว่าเธอชอบทานมัน
เธอกับเขานั้นดูเหมือนว่ายังไม่คุ้นเคยกันในระดับที่จะรู้ถึงความ ชอบของกันและกันด้วยซ้ำ และปยุตก็ไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะให้ความ สนใจกับความชอบของผู้หญิง…
เธอกำลังสับสน ปยุตยังคงดื่มต่อไป แต่ก่อนที่เธอจะสับสนไป มากกว่านี้เธอก็ตระหนักได้ว่านั่นคงเพราะปยุตดื่มจนเมาแล้ว “หยุดดื่มเถอะค่ะ ต้องขับรถกลับบ้านนะคะ”
เหมือนกับคู่รักทั่วไป เธอคว้าแก้วของเขาแล้วลุกขึ้นด้วยความกังวล และเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้แก่เขา
เมื่อนั่งลง แม้จะไม่ได้มองก็รู้สึกได้ถึงสายตาจากฝั่งตรงข้ามที่ เหมือนกับต้องการนั่นเธอออกเป็นชิ้น ๆ
จมจ่อมอยู่กับเนื้อปูและชามข้าวเย็นชีด ผลินไม่สามารถเข้าถึงคน อย่างปยุตที่เหมือนเป็นโรคจิตเภท เวลาที่ดีนั้นก็ดีใจหาย แต่เวลาที่ ร้ายก็เลวร้ายเหลือทน
เขาอาจจะเห็นว่าความคิดภายในใจของเธอเริ่มบิดเบี้ยว ปยุตจึง โน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่ต้องกังวล เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผมรู้ว่าคุณชอบอะไรได้ยังไง ก็แค่สิ่งที่คุณชอบคือสิ่ง ที่ผมเกลียดก็แค่นั้น มันง่ายมาก”
ความหมายคือเพราะว่าเขาเกลียดมัน เพราะฉะนั้นแล้วเพียงแค่นั้น เขาก็สามารถรู้ได้