ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 32 สิ่งสำคัญในชีวิตของการแต่งงาน
ตอนที่ 32 สิ่งสำคัญในชีวิตของการแต่งงาน
ในที่สุดผลินก็มีปฏิกิริยา มือของปยุตหายเข้าไปในชุด
นอนของเธอ
เสียงร้องปรากฏขึ้นโดยสัญชาตญาณ แต่ผู้ชายที่กด ทับเธออยู่ไม่อนุญาตให้เธอต่อต้าน มีละน้อยจนเธอไม่อาจ ต้านทานปฏิเสธ แล้วอย่างนี้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น แค่นั้น แหละ ความรักของผู้ชายและผู้หญิงที่มีต่อกันคือสิ่งสำคัญ ที่สุดในการแต่งงาน พวกเขาไม่ได้มีสัญญากันก่อนแต่งงาน ในขณะที่ยังไม่ได้วางแผนยุติการแต่งงาน มันเป็นเวลาที่จะ ทำสิ่งที่ถูกต้องระหว่างสามีภรรยา ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นคน ปกติ ผู้ชายนั้นมีความต้องการทางกายภาพและผู้หญิงก็ไม่ ต่าง มันเป็นเรื่องจำเป็นทางสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะไม่ได้มีดีอะไรมาก แต่ผิวพรรณกลับดู สะดุดตาและไม่น่ารังเกียจ
เธอเตรียมใจเอาไว้แล้ว รวบรวมความกล้าที่จะร่วมมือกับ เขา มือที่วางอยู่ข้างหมอนทั้งสองข้างค่อย ๆ เอื้อมไปที่แผ่น หลังของปยุต แต่ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงจากความต่อ ด้านเป็นความร่วมมือในทันทีทำให้ปยุตทำเรื่องไม่เหมาะ มากขึ้น เขาหยุดจูบผลินที่ริมฝีปาก แต่ฝังใบหน้าลงกับลำ คอนุ่มเซ็กซี่ของเธอแทนและกดจูบต่อเนื่องอย่างรุนแรง
หัวใจของผลินเย็นเยียบ เธอเข้าใจ ถึงผู้ชายจะจูบที่ริม ฝีปากของผู้หญิงก็ไม่ได้หมายความว่าเขารักผู้หญิงคนนั้น และถ้าเขาเลือกที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงแต่ไม่ จูบที่ริมฝีปากของเธอก็แสดงว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น
เมื่อเป็นเช่นนั้นความกล้าที่จะร่วมมือก็หายไป เธอกลับ สู้สภาวะปกติเหมือนอย่างก่อนหน้านี้ เอ่ยถามเสียงดังลั่น “คุณปยุต คุณไม่ได้เกลียดผู้หญิงแล้วเหรอคะ”
ทันใดนั้นผู้ชายที่กำลังฝังใบหน้าลงกับซอกคอของเธอ เมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็ผลักเธอออกโดยไม่เบาแรงและลุก ออกจากเตียง
ดวงตาของเขาเป็นประกายผสมปนเปไปด้วยความ สับสน หันหลังเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพียงสองก้าวก็หันกลับ ไปเตือน “อยู่นิ่ง ๆ อย่าแม้แต่ขยับ ถ้ากล้าขยับก่อนผมจะ ออกมาก็ลองดู”
ผลินทั้งรู้สึกหดหูและยุ่งเหยิง เธอไม่รู้หรอกว่าปยุตจะทำ อะไรกับเธอ แต่เธอรู้ว่าปยุตเกลียดผู้หญิงมากแค่ไหน ตอน นี้เธอเหมือนปลาที่อยู่บนเขียง ชะตากรรมเดียวก็คือการ ปล่อยให้เขาฆ่า
ครึ่งชั่วโมงของการรอคอยด้วยความกลัว ปยุตออกมา จากห้องน้ำ เขาอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาว เส้นผมของ เขามีหยดน้ำเกาะพราวเล็กน้อย
“ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะท้าทายบรรทัดฐานของคุณนะคะ แต่ มันเริ่มร้อนขึ้นแล้ว ห้องของฉันมันอึดอัดเกินไป เพราะ ฉะนั้น”
“ผมอนุญาตให้คุณอธิบายแล้วเหรอ”
ปยุตเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจเอามาก ๆ
ผลินหวาดกลัว ผู้ชายคนนี้ไม่อยากได้ยินคำอธิบายของ เธอด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าผลมันจะรุนแรงกว่าที่เธอคิด
“พรุ่งนี้เย็นกลับมาเร็วๆ แล้วออกไปทานข้าวกับผม”
“คะ?”
“คะอะไร หูหนวกหรือไง”
“ไม่ค่ะ ต้องเป็นคืนพรุ่งนี้เหรอคะ”
ปยุตพยักหน้าตาย “ใช่ มีอะไร ไม่สะดวกหรือไง”
เขาคาดหวังว่าเธอจะไม่กล้าปฏิเสธ เขาพูดกับเธอต้วย ท่าทีที่สงบ ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบแทนบุญคุณ เป็นไปได้ อย่างไรที่จะไม่รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
ปยุตค่อนข้างมั่นใจ
ผลินลำบากใจ เธอมีนัดกับไวภพคืนพรุ่งนี้ วิธีที่ดีที่สุดก็ คือการกลับคำสัญญากับคนอื่น แต่ถ้าเธอปฏิเสธปอยุต คืนนี้ เขาก็จะไม่ปล่อยเธอไปใช่ไหม
ทำไมถึงไม่พูด หรือคุณไม่สะดวกจริงๆ”
ปยุตเงียบไปสักพัก แล้วหลังจากนั้นใบหน้าก็เริ่มงองำ
ผู้ชายคนนี้มีการเดินทางไปทำธุรกิจที่ยาวนานเกินไป หรืออย่างไร ถึงได้อยากให้เธอออกไปทานเข้าด้วย มันก็แค่ คืนพรุ่งนี้ แต่คืนพรุ่งนี้เธอไม่มีเวลานี่สิ
ไม่อยากติดหนี้ไวภพ ไม่สามารถยกเลิกสัญญา ดังนั้น จึงต้องปฏิเสธปยุต แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถบอกเหตุผล ที่แท้จริงได้ถ้าหากว่าไม่อยากจะสร้างความเข้าใจผิด
“มันไม่สะดวกจริง ๆ ค่ะ พรุ่งนี้ฉันมีนัดกับเพื่อนแล้ว”
“เพื่อนคนไหน”
“ชื่นใจค่ะ คุณก็เคยเห็น”
“ยกเลิกซะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นปาร์ตี้วันเกิด ฉันรู้จักกับเธอมา ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย”
“ในทุก ๆ ปี เราใช้เวลาทั้งหมดด้วยกัน”
“จริงเหรอ”
ปยุตขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อเหตุผลของเธอ
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันจะโทรหาเธอแล้วให้คุณสอบถามกับ
เธอเอง”
ผลินกดโทรออกหาชื่นใจ “ไม่ต้อง” ปยุตโบกมือไปมา อย่างไม่สบอารมณ์และจ้องมองเธอ “คุณนี่ช่างยุ่งเสียจริง ๆ เลยนะ”
“คืนพรุ่งนี้ฉันไม่ต้องไปกับคุณแล้วใช่ไหมคะ”
“ผมให้เวลาสามนาที หายไปจากสายตาของผมเดี๋ยวนี้”
ทันทีที่เขาพูดจบ ผลินก็กระโดดลงจากเตียงแล้วตรงไป ยังห้องของเธอ
ปิดประตูแล้วถอนหายใจเบา ๆ จนกระทั่งมีความเงียบ เกิดขึ้นโดยรอบ ไม่ได้ยินเสียงใด เธอไม่สามารถตื่นขึ้น จากภวังค์ได้ มันช่างน่าเหลือเชื่อ ผู้ชายที่อารมณ์ร้อนแบบ นั้น ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอเลย แม้ว่าเธอจะ ปฏิเสธเขา เขาก็ยังพยายามที่จะเข้าใจ
เมื่อดูเวลา มันเป็นตอนรุ่งสาง หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง เธอพลิกตัวไปมา ไม่สามารถนอนหลับได้อีกต่อไป ทันทีที่ หลับตาลง ภาพที่ปยุตจูบเธอก็ปรากฏขึ้นมาในหัวทันที
หลังจากคิดแล้วคิดอีกในที่สุดเธอก็เข้าใจความสงสัย ของตัวเอง ที่เขาจูบเธอไม่ใช่เพราะความรัก แต่แค่พยายาม จะแกล้งเธอ ลงโทษเธอ แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ก็ไม่สามารถซ่อนได้ ตราบใดที่เขาเป็นผู้ชายปกติ มันเป็น ไปไม่ได้ที่จะไม่มีอารมณ์ ไม่เกี่ยวกับว่ารักหรือไม่ มันเป็น แค่การตอบสนองทางสัญชาตญาณ ปยุตอาจจะรู้สึกอายใน ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นทางอ้อมที่จะให้อภัยการกระทำของเธอ
ความจริงแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ผลินจะคาดเดา ใน เช้าตรู่ ทุกคนในครอบครัวนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ปยุตลงมา ข้างล่างพร้อมกับถุงของฝาก
“พี่คะ มีของฝากมาให้พวกเราด้วยเหรอ”
ปาณีทักด้วยความประหลาดใจ กอดรัดแขนเขาอย่างเจ้า
เล่ห์
“อืม”
ปยุตปล่อยให้เธอดูตามใจ หยิบกิ๊บติดผมอันหนึ่งที่มี ลักษณะประณีตออกมาจากถุงของฝาก “แบรนด์ดาวลายอัน นี้ของเธอ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เมื่อให้น้องสาวแล้ว ต่อไปก็เป็นคุณแม่ของเขา จากนั้น คนที่สามก็คือคุณพ่อ หลังจากมอบให้คุณพ่อแล้ว สุดท้าย ทุกคนคิดว่าเป็นของผลินแน่นอน แต่ทุกคนคิดผิด ชิ้น สุดท้ายที่เขาให้คือป้าเอี่ยม
ทันใดนั้นบรรยากาศก็พลันอึดอัด น้องสามีหายใจไม่ ออกและถามขึ้นอย่างหงุดหงิด “พี่คะ แล้วพี่สะไภ้ของฉันล่ะ คะ”
ปยุตเหลือบมองผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดเบา ๆ “เธอนะ เหรอ ไม่มีหรอก”
“ทำไมถึงไม่มีให้เธอคะ เธอเป็นภรรยาของพี่นะ พี่คะ พี่ ทำเกินไปหรือเปล่า”
เมื่อเป็นดังนั้นเธอจึงคืนก็บติดผม “ถ้าของพี่สะไภ้ไม่มี ฉันก็ไม่เอาเหมือนกัน” “แล้วพวกคุณล่ะครับ อยากคืนมัน ด้วยไหม”
ปยุตถามพ่อกับแม่อย่างใจเย็น ตอนนี้เขาชินแล้ว คนใน ครอบครัวของเขาทุกคนเป็นแนวร่วมของผู้หญิงคนนั้น
คุณนายท่านมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ แล้วย้ายไป มองที่ลูกสะไภ้ “หนูลิน นี่ของขวัญของเธอจะอย่างไรเสีย ฉันก็อายุขนาดนี้แล้ว ไม่สนใจพวกของแฟชั่นพวกนี้หรอก”
ผลินรีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ ฉันก็ไม่สนใจ เหมือนกัน”
พยามยามที่จะฝืนรอยยิ้มขึ้น พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ว่ามันน่า อายแค่ไหนกับสิ่งที่ปยุตทำกับเธอตอน นี้ แต่เพื่อที่จะรักษา ความสง่างามของเธอก็แค่แกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความจริงแล้วเธอไม่สนใจจริง ๆ หรือ คำตอบคือไม่ ไม่มีใคร ที่จะชอบความรู้สึกที่ถูกมองข้าม
โชคดีที่เธอไม่ได้รู้สึกดีขึ้นกับเรื่องเมื่อคืนนี้ แล้วต้องมา ตายเพราะความผิดหวังในวันนี้
หลังจากมื้อเช้า ปยุตขึ้นไปข้างบน ผลินพูดคุยกับคนใน ครอบครัว เมื่อมันจวนจะถึงเวลางานจึงออกมา
ก้าวขึ้นบันไดด้วยความไร้เรี่ยวแรง ถ้าไม่ใช่เพราะว่า ต้องขึ้นไปเอากระเป๋า เธอก็ไม่ได้ต้องการที่จะเห็นคนที่ ทำให้เธอเสียหน้า
เปิดประตูห้องนอน เธอก้าวเดินเข้าไปเหมือนไม่มีใคร แล้วก็มีคำถามไม่พึงประสงค์ดังขึ้นด้านหลัง “คุณไม่เห็นผม หรือไงถึงได้เดินผ่านไปแบบนี้”
แน่นอนว่าเธอเห็น แต่เธอต้องการให้เขารู้สึกว่าเขาไม่
ได้รับความสนใจ
“มีอะไรเหรอคะ”
“ผมจะมีอะไรกับคุณ ก็แค่ไม่ชินกับท่าทางที่เหมือนคน ตาบอดของคุณเท่านั้นแหละ”
“ถ้าไม่ชินก็ไม่ต้องมองสิคะ คนใกล้ชาดติดสีแดง คนใกล้ หมึกติดสีดำ ฉันได้เรียนรู้ทั้งหมดมาจากคุณ ทำไมฉันต้อง เผชิญหน้ากับผู้ชายที่ไม่ได้มองหน้าฉันด้วยคะ”
ที ปยุตยิ้มเยาะ “ผลิน คุณกำลังโกรธผม เพราะผมไม่ได้ ให้ของฝากคุณใช่ไหม”
“ของมันหายากสินะคะ”
เธอพูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์แล้วเดินไปทางห้องของเธอ
เรออยู่ในห้องไม่กี่นาที ก็ได้ยินเสียงประตูปิดลง จึงได้รู้ ว่าปยุตออกไปแล้ว เธอเพิ่งออกมาจากประตู ลงไปข้างล่าง รอไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เธอถอนหายใจออกมา อย่างโล่งอกและกำลังจะไปโรงเรียน ทันใดนั้นก็เกิดความ คิดขึ้นบางอย่าง แกลัง ทำเป็นถามหัวหน้าคนงานรับใช้ “ลุง สิงห์ คุณชายให้คุณเปลี่ยนเตียงหรือเปล่าคะ”
“เปลี่ยนเตียง? ไม่นะครับ”
หัวหน้าคนงานรับใช้สายหน้าและตั้งคำถามอย่างสงสัย “คุณจะให้ผมเปลี่ยนเตียงของคุณชายเหรอครับ”
“เปล่าค่ะเปล่า”
ผลินรีบปฏิเสธแล้วก็พลันหัวเราะ “ฉันแค่ถามเฉย ๆ ค่ะ ไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปทำงานแล้วนะคะ”
“ครับ คุณนายน้อยเดินช้า ๆ นะครับ”
ระหว่างที่ปยุตไปบริษัท เบนสายตาไปทางที่นั่งข้างคน ขับ มันมีกล่องของขวัญสีม่วงอ่อนวางอยู่ ไม่มีใครรู้ และ คงไม่มีใครกล้าที่จะเชื่อว่าจริง ๆ แล้วเขาซื้อของฝากให้กับ ผลิน
เขาวางแผนที่จะให้มันกับเธอคืนนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะมี นัด เขาไม่สามารถที่จะทนส่งของขวัญให้เธอต่อหน้าคนในครอบครัวของเขาได้ ในความเป็นจริง เขาไม่ได้ให้ของ ขวัญกับผู้หญิงคนไหนยกเว้นแม่และน้องสาวของเขามา แล้ว นานมาก นานจนเขาเองก็หลงลืมไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การให้ของขวัญไม่ได้หมายความว่าเขามี ความรู้สึกพิเศษกับเธอ ก็แค่จิตใต้สำนึก รู้สึกว่าเธอไม่ได้น่า รำคาญ แทนที่จะหย่าและแต่งงานกับผู้หญิงที่น่าจะ เป็นการดีกว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้เกลียด
ตอนนี้เธอละทั้งโอกาสที่จะได้รับของขวัญ ดังนั้นจำเป็น หรือไม่ที่จะต้องให้ของขวัญชิ้นนี้อีกครั้ง มันเป็นสิ่งที่ต้อง คิดตอนนี้ ปยุตหยุดคิดชั่วครู่ แล้วใช้มือหนึ่งเปิดหน้าต่าง รถ พยายามจะโยนของขวัญออกไป แต่ก็ยกมือค้างไว้กลาง อากาศแล้วค่อยๆ ดึงมันกลับมา บางทีเขาน่าจะให้โอกาส เธออีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ได้รู้เลยว่าที่เขาชวนเธอ ออกไปทานอาหารค่ำคืนนี้นั้นก็เพื่อมอบของขวัญให้กับเธอ