ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 36 เดตแรก
ตอนที่ 36 เดตแรก
คุณนายท่านจ้องมองลูกสาวอย่างกระอักกระอ่วน “ผู้ หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานพูดออกมาอย่างนี้ได้ยังไงกัน
“โธ่แม่คะ แม่น่ะคนในยุคเจ็ดศูนย์ ตอนนี้เด็กประถมก็เริ่มมี ความรักกันแล้ว อย่างที่หนูพูดไปนั่นแหละ ถ้าแม่ยังจ้องมา ที่หนูก็ลืม ๆ มันไปซะเถอะค่ะ ไม่อยากพูดด้วยแล้ว นี่มันช่อง ว่างระหว่างวัยชัดๆ”
น้องสามีลุกขึ้นและกล่าวว่า “พี่สะไภ้ไปกันเถอะค่ะ ไม่ งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วจะไม่มีใครช่วยคุณได้แล้วนะคะ
ผลินยกรอยยิ้มอ่อนโยน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไปเถอะ อย่างไรเสียมันก็ไม่เหมาะเท่าไร
“งั้นฉันไปก่อนนะคะ”
“ค่ะ”
รอจนน้องสามีออกไปแล้ว แม่สามีก็ถอนหายใจหนัก “เธอไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวไปทำงานสาย
ผลินไม่อยากเห็นคนแก่ผิดหวัง แต่เธอเองก็ไม่สามารถ ทำอะไรได้ “คุณแม่คะ ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่นะคะ แต่การมีลูกไม่จําเป็นต้องรีบก็ได้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การที่จะนําพาเขาออกมาจากเงาของอดีต”
ระหว่างเดินทางไปโรงเรียน ผลินคิดแล้วคิดอีก เตือนด้ว เองอย่างชัดเจนเมื่อคืนนี้ว่าจะไม่ปล่อยให้ปยุตตกหลุมรัก เธอ แต่สิ่งที่เธอทำเมื่อเช้านี้ทำไมเธอถึงบอกกับเค้าว่าเธอ ป่วยเป็นโรคกลัวที่แคบ ทำไมต้องสัญญาออกมาจากหัวใจ กับคุณแม่ว่าจะไม่มีวันจากไป
ถ้อยคำที่พูดออกมาเหล่านั้น และเมื่อมีการตัดสินใจ
เหล่านั้น เธอยังคงจำมันได้ ความตั้งใจเดิมของการแต่งงาน เวลาในหนึ่งวันผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว หลังเลิกเรียน
ตอนบ่าย ผลินและชื่นใจเดินเคียงข้างกันออกมาจาก โรงเรียน เธอเดินก้มหน้าด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ โดยที่ชื่นใจ ที่อยู่ด้านข้างก็ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมา “ว้าว นี่มันไม่เลวเลย นะ”
“อะไรเหรอ”
เธอเอ่ยถามอย่างไร้ความรู้สึก
“ดูนั่นสิ”
หันมองตามชื่นใจ ทันใดนั้นดวงตาของผลินก็พลันเบิก กว้าง เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ “นั่นคุณปยุตเหรอ”
“ใช่สิ นั่นสามีเธอเอง เธอไม่รู้จักหรือไง!”
เธอไม่ได้ไม่รู้จัก เธอแค่ไม่อยากจะเชื่อ ปยุตปรากฏตัว
ขึ้นที่หน้าประตูโรงเรียนของเธอ นี่มันช่างเหลือเชื่อ
ปยุคสวมแว่นตาดำ มือทั้งสองข้างกอดอกยืนพิงรถ และ เพราะเขาหล่อมาก นั่นจึงดึงดูดความสนใจต่อนักเรียนสาว หลายคน
เมื่อเห็นพวกเธอเดินมาเขาก็เอื้อมมือไปเปิดประตูด้าน ข้าง ผลินเหลือบมองเขา ไม่ได้สอบถามอะไรก็เข้าไปนั่ง ข้างใน
“ไม่ไปด้วยกันเหรอครับ”
ปญฺตถามชื่นใจ ชื่นใจส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะไม่เป็นไร บ้านฉันอยู่แถวนี้เอง
เธอขยิบตาให้ผลินอย่างมีความหมายและเดินจากไป
รถสตาร์ตเครื่องยนต์ ผลินทนไม่ได้กับบรรยากาศที่น่า เบื่อจึงแกล้งถาม “ที่นี่เป็นทางผ่านเหรอคะ”
“อืม”
เขาตอบแผ่วเบา คนคนหนึ่งที่แสนจะเย่อหยิ่ง ถึงแม้ว่า จะเป็นความตั้งใจ ก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน
เมื่อมันผ่านไปสักพัก ผลินก็พูดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเตือน เขา “ผิดทางแล้วค่ะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนะคะ
“แล้วใครบอกว่าจะกลับบ้าน
“ถ้าไม่กลับบ้านแล้วจะไปไหนคะ” เธอถามออกมาอย่าง หงุดหงิด
ปยุตมองเธออย่างเฉยเมย และพูดขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์ “กลัวอะไร ไม่พาคุณไปขายหรอกน่ะ
ลมกลางคืนในฤดูร้อนปะทะบนใบหน้า เหมือนความรู้สึก ที่ได้สัมผัสกับผ้าไหมเรียบลื่น ทั้งนุ่มและอบอุ่น
ผลินไม่คาดคิดว่าปยุตจะพาเธอมาที่ร้านอาหารข้าง ทางในตลาดกลางคืนท่ามกลางฝูงชนที่มีเสียงอึกทึก ครึกโครมมากมายเช่นนี้ เธอกะพริบตาพลางสอบถามอย่าง ว่างเปล่า “มาทำอะไรที่นี่คะ”
“ถามอะไรไร้สาระ แน่นอนก็ต้องมาทานอาหารน่ะสิ”
ปยุตเป็นผู้นำส่วนเธอก็เป็นผู้ติดตาม เลือกที่นั่งที่ดู สะอาดสะอ้านและนั่งลงด้วยท่าทีสบาย ๆ
“ทั้งสองท่านจะทานอะไรดีคะ”
พนักงานในผ้ากันเปื้อนถามพลางส่งเมนูเก่า ๆ มาให้
“คุณสั่งสิ
ปยุตผลักเมนูมาตรงหน้าเธอ สามารถรักษามารยาทของ การเป็นสุภาพบุรุษในสถานที่แบบนี้มันไม่ง่ายเลย
ผลนไม่ปฏิเสธ สั่งอาหารประเภทเนื้อมาสองจาน ประเภทผักอีกสองจาน แล้วจึงปิดเมนู ขอบคุณค่ะ แค่นี้ แหละ”
“ได้คะ รอสักครู่นะคะ”
รอจนพนักงานเดินออกไปจู่ๆ เธอก็หัวเราะขึ้นมา ปยุต ขมวดคิ้ว “หัวเราะอะไร
แค่ไม่คิดว่าคุณจะมาที่นี่เพื่อทานอาหารน่ะค่ะ”
“มันแปลกหรือไง เรื่องราวในโลกใบนี้ ไม่ได้เป็นแบบที่ คุณคิดทุกอย่างเสมอไปหรอกนะ”
เธอยักไหล่ “ก็แค่คิดว่ามันออกจะเหลือเชื่อน่ะค่ะ”
“กลัวว่าจะสาปแช่งผมในใจว่าขี้เหนียวน่ะสิ เป็นสามีที่รวย แต่กลับพามาทานอาหารราคาถูก ในใจไม่รู้สึกว่ามันไม่สม เหตุสมผลหรือไง”
“ไม่หรอกคะ”
ผลินส่ายหน้าและยิ้ม “เมื่อเทียบกับโรงแรมระดับห้าดาว หรือร้านอาหารที่มีชื่อเสียงแล้ว ร้านอาหารข้างทางในตลาด กลางคืนแบบนี้เป็นสถานที่ที่ฉันเดตกับคุณปยุต ทรัพยสาน ครั้งแรก แน่นอนว่ามันน่าจดจําค่ะ”
แก่ให้ถูกหน่อย นี่ไม่ใช่เดต คุณกับผมไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วนี่มันคืออะไรกันล่ะคะ ทำไมเราถึงต้องมา นั่งอยู่ที่นี่ตอนนี้”
“ก็บอกไปแล้วว่ามาทานอาหาร อย่าบอกนะว่าถ้าไม่มี ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเราก็ไม่สามารถ ทานข้าวด้วยกันได้ งั้นผมขอถามหน่อยว่าคุณกับนายไวภพมีความสัมพันธ์กัน ยังไง”
“ฉันกับไวภพเป็นเพื่อนกัน ถ้าพูดอย่างนี้ คุณจะให้ฉันเป็น เพื่อนไหมล่ะคะ”
ผลินถามอย่างเจ้าเล่ห์ ผู้ชายที่รังเกียจผู้หญิงเช่นเขา คงเป็นเรื่องยากที่จะให้กลายเป็นเพื่อน
“ผมสาบานว่าจะไม่เป็นเพื่อนกับผู้หญิงอีกตลอดชีวิต แต่ ยกเว้นคุณในวันนี้แค่วันเดียว”
ปยุตยื่นมือของเขาออกมา “ยินดีด้วยนะ นับจากนี้เป็นต้น ไป คุณกลายเป็นเพื่อนต่างเพศที่ไม่ซ้ำใครของผมแล้ว”
“นี่มันน่าตื่นเต้นมากเลยค่ะ เพื่อนต่างเพศที่ไม่ซ้ำใคร ฉัน คิดว่าฉันควรจะซื้อหวย มันเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลใหญ่”
ผลินหัวเราะออกมาอย่างไม่คิดอะไรมาก ที่จริงแล้วมัน ชัดเจนในใจ ที่ปยุตจะเป็นเพื่อนกับเธอนั้นแค่ขอบคุณที่เธอ ไม่ได้เลือกที่จะจากไปเมื่อเขามีปัญหา สำหรับเขาแล้วมันก็คือการรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง
“เพื่อฉลองการเป็นเพื่อนของเรา ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เราต้อง ดื่ม”
เธอหันไปตะโกนสั่งพนักงาน “ขอเบียร์ให้เราสิบขวด
ด้วยค่ะ”
“มันไม่เยอะเกินไปหรือไง”
นั้น
ปยุตจ้องพลางคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่าดื่มได้มากขนาด
“ไม่เยอะหรอกค่ะ ถ้าผู้ชายตัวใหญ่ไม่สามารถดื่มเบียร์ได้ สิบขวดนั่นก็ไม่ใช่ผู้ชาย
หึ เขายกยิ้มอย่างไร้อารมณ์ “นี่เป็นครั้งแรกที่คุณมาที่นี่
หรือเปล่า”
“คุณคิดว่าไงคะ”
ปยุตจ้องมองเธอขึ้นลง ที่จริงแล้วตั้งแต่แต่งงานจนถึง ตอนนี้ เขาแทบจะไม่เคยมองเธอตรง ๆ เลย
“มันควรจะเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าครอบครัวของคุณจะไม่ใช่ ครอบครัวเศรษฐี แต่ก็ถือว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวย เทียบบน ไม่เท่า เทียบล่างมีเหลือ
“ถ้าคุณรู้สึกว่าลูกสาวของครอบครัวแบบนั้นจะไม่มาสถาน ที่แบบนี้ว่ามันดูไม่ถูกต้องล่ะก็ ที่นี่น่ะ ฉันมาบ่อยกว่าลูกสาว ของคนจนเสียอีกค่ะ”
ดวงตาของผลินพร่ามัว ในสายตาสลัว เธอดูเหมือนจะ เห็นตัวเองตอนอายุเจ็ดขวบ ตัวเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตามแม่ของเธอไปล้างจานที่มีคราบไขมันติดอยู่ซึ่งไม่ สามารถล้างได้
“มันเป็นไปได้เหรอ”
หน้าของปยุตเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เชื่อว่า ผลินจะมาที่นี่บ่อย ๆ เพื่อทานอาหาร ไม่ว่ายังไงก็ยังเป็น ครอบครัวที่ร่ำรวย
เมื่อตระหนักถึงความผิดปกติของตัวเอง ผลินรีบปรับตัว แล้วพูดขึ้น “มีอะไรแปลกมากนักเหรอคะ คนรวยอย่างคุณ ยังสามารถมาที่นี่ได้ มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับลูกสาวของ ธุรกิจขนาดเล็กที่จะมา
“อย่ามาเปรียบเทียบกับผม ผมเป็นผู้ชาย คุณเป็นผู้หญิง ว่ากันว่าผู้ชายต้องยากจนและผู้หญิงต้องร่ำรวย ผมมาที่นี่ เพื่อสิ่งที่พระเจ้าต้องการ แต่มันแปลกมากที่คุณมาที่นี่”
ความไม่ปกติก็คือความปกติ เพราะชีวิตของผลินไม่ได้ เป็นปกติมาตั้งแต่เริ่มต้น
“โอเคค่ะ พูดแบบนี้อีกแล้ว รีบ ๆ ทานเถอะค่ะ อาหารจะเย็นสบหมด”
ผลินรินเบียร์แก้วใหญ่แล้วยกขึ้นดื่ม “ชนแก้ว”
เธอยกแก้วขึ้นและดื่มมัน แล้วเหล็กแก้วและดื่มอีก ปยุต ตกใจกับการกระทำของเธอ ถามขึ้นเงียบ ๆ คุณธนวันมักจะ พาลูกสาวไปงานเลี้ยงั้นเหรอ”
“ไม่นะคะ มีอะไรเหรอ”
“มันไม่ใช่วิธีฝึกการดื่มของคุณหรอกเหรอ”
“มันก็แค่เบียร์สองแก้วซึ่งเป็นปริมาณแอลกอฮอล์ปกติ คุณไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สามารถดื่มแบบนี้ได้เลยเหรอคะ”
ปยุตตอบ “ใช่ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง อาหารไม่ได้แตะมากนัก แต่พวก เขาดื่มกันเสียเป็นส่วนใหญ่ ในบรรดาพวกเขาเป็นผลินที่ หนักกว่า เธอเมาเล็กน้อย
“มันดึกแล้ว เรากลับกันเถอะ”
ปยุคยกมือขวาของเขาแล้วชี้ไปที่นาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อ
“มันอีกแล้วเหรอคะ” ผลินมองไปรอบ ๆ “ไม่มั้งคะ ยังมีคน เยอะแยะอยู่เลย
“ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนก็ยังมีคนอยู่ดีนั่นแหละ คุณจะไม่ไป จนกว่าคนจะหมดหรือไง”
“ดื่มอีกสักสองสามแก้วเถอะค่ะ วันนี้ฉันมีความสุขเป็น พิเศษ ไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานแล้ว ขอบคุณ คุณปยุตนะคะที่พา ฉันมาที่นี่ มันทำให้ฉันนึกถึงความทรงจำที่ไม่สามารถลืม ได้”
เห็นได้ชัดว่าผลินพูดด้วยความเมา แต่มันก็เจือปนไป
ด้วยความเศร้า
“อะไรคือความทรงจำที่ไม่สามารถลืมได้ หรือว่าคุณเคย ถูกผู้ชายทิ้ง”
“หยุดเลยค่ะ คุณคิดเหรอว่าทุกคนจะโชคร้ายเหมือนคุณ
ดวงตาของปยุดหม่นหมองลง ผลินเริ่มมีสติจาก
แอลกอฮอล์ “ขอโทษค่ะ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้หมายความ อย่างนั้น เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย คุณไม่ได้ยินอะไรเลย นะ”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิด อีกอย่าง… เขา จ้องมองเธอ “ผมก็ไม่อยากจะทะเลาะกับคนขี้เมานักหรอก
“ใครขี้เมา คณน่ะสิขี้เมา”
เปิดเบียร์ขวดสุดท้ายแล้วหรี่ตามองเพื่อเทลงไปในแก้ว
แต่เพราะมีอสั่นจึงหกลงบนโต๊ะเสียเกือบครึ่ง
“เอาล่ะ หยุดดื่มได้แล้ว ได้เวลาไปแล้ว”
“อย่ามาเร่งฉันเหมือนผีทวงวิญญาณสิคะ ทั้งหมดนี่เสีย เงินซื้อมานะ ดื่มให้หมดก่อนแล้วค่อยไปค่ะ”
“คุณจะไปหรือไม่ไป
เขาสูญเสียความอดทนของเขาในที่สุด การขู่เข็ญครั้ง สุดท้าย “ผมจะนับถึงสาม ถ้าคุณไม่ไปอย่าโทษผมว่าโหด ร้าย คุณก็รู้ ผมจะทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียว”
“ไม่นะคะ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว คุณจะไม่ทำอย่างนั้น แน่นอน”
นี่คือการท้าทายบรรทัดฐานของเขาสินะ ได้ ปยุตลุกขึ้น
ยืนและจากไปโดยไม่ลังเล
ออกจากสถานที่ที่วุ่นวาย เดินไปบนถนนกว้างยังที่จอด รถ เขาหยิบกุญแจรถในกระเป๋าของเขา กำลังจะดึงประตู รถ แต่มือของเขากลับลังเล ว่าตัวเองจะทิ้งผู้หญิงที่เมามาก ขนาดนั้นเอาไว้ที่นี่จริง ๆ น่ะหรือ
ต่อสู้อยู่กับความลังเลชั่วครู่ จนในที่สุดในใจก็บังเกิด ความเมตตาต่อเธอ หันหลังแล้วเดินกลับไป…