ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 39 เขาคือปาอ๋อง
ตอนที่ 39 เขาคือปาอ๋อง
ในที่สุดปยุตก็หมดความอดทน ชำเลืองมองผลิน เธอ เข้าใจในทันทีและกระแอมไอเสียงเบา “ชุดา มันดึกแล้วนะ พี่เขยของเธอทำงานหนักมาทั้งวันแล้ว เธอกลับไปที่ห้อง และพักผ่อนเถอะ
แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไป ชุดาพยัก หน้าอย่างไม่เต็มใจ และเดินออกจากห้องไปอย่างไม่เต็มใจ เช่นกัน
เพื่อหลีกเลี่ยงการเยาะเย้ยจากปยุต จึงเดินนำชุดาออก ไป แล้วผลินก็วิ่งกลับไปที่ห้องของเธอ แต่เพียงไม่นานเธอ ก็กลับออกมาอีกครั้ง เดินเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าปยุตเงียบ ๆ “มีอะไรอีก” ปยุตขมวดคิ้ว
“ถ้าจะขอยืมใช้ห้องน้ำคุณจะโอเคไหมคะ…”
“ถ้าผมบอกว่าไม่ คุณจะหาเหตุผลอะไรมาโน้มน้าวผมอีก ล่ะคราวนี้”
“คงจะไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณไม่โอเค ฉันก็ จะไม่อาบน้ำ”
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องอาบ
เขายักไหล่อย่างอารมณ์ดีและตรงไปยังห้องน้ำ
“อ๊ะ…เดี๋ยวค่ะ” ผลินรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำก่อนและพูดว่า “คนดีจะทำในสิ่งที่เขาต้องการ วันที่มีอากาศร้อนอย่างนี้ไม่ สามารถพูดได้หรอกค่ะว่าจะไม่อาบ มันไม่ถูกต้องนะคะที่จะ ไม่อาบน้ำ”
เมื่อพูดจบก็ปิดประตู ไม่เสี่ยงชีวิตกับปาอ๋องอย่างเขาอีก ต่อไป
“ออกมาเดี๋ยวนี้ ผมให้เวลาคุณสามนาที ถ้าไม่อย่างนั้นมี เรื่องแน่
“ฉันขอโทษ ฉันถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว…
-ตึงตึงตึง
ปยุตกระแทกประตูอย่างแรง ใบหน้าของเขาเป็นสีเขียว ด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนี้เลี้ยงไม่เชื่องเสียจริง ให้เธอ สามคะแนนสำหรับการย้อมสีให้ห้องนี้เป็นสีเทา ให้เธอหนึ่ง เมตรสำหรับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงลงมาสร้างปัญหาครั้ง แล้วครั้งเล่า มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะจัดการ นอนบนเตียง ของเขาเมื่อต้องการ เข้ามาในห้องของเขาเมื่อต้องการ แม้แต่ห้องน้ำที่เขาเกลียดคนที่มาสัมผัสมันที่สุดเธอก็ยังจะ เข้าไปอาบน้ำ
ยิ่งน่าผิดหวังมากเข้าไปอีกเมื่อเขาไม่สามารถทำอะไร เธอได้ อย่างน้อยที่สุดจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้พยายามที่จะ กำจัดเธอเลย
ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะตายไปกี่ครั้งแล้ว
“ผลิน คุณแน่มากนะ รอให้คุณออกมาก่อนเถอะ!” จะสั่ง สอนเธอให้เป็นบทเรียน เธอคงไม่รู้ สินะว่าทำไมดอกไม้ เวลาที่มันบานมันถึงมีสีที่แดงก่ำมากขนาดนั้น
ปยุตเดินไปนั่งกอดอกที่โซฟาอย่างหงุดหงิดเพื่อรอ
กระต่าย
ผลินนอนอย่างสบายอารมณ์อยู่ในอ่างอาบน้ำ ฟังเพลง แล้วเพลงเล่า รู้สึกมีความสุขมาก ไม่ใช่ว่าปยุตไม่น่ากลัวพอ แต่หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกัน เธอสามารถเข้าใจอารมณ์ของ เขาได้แล้ว ตราบใดที่เขาไม่ได้โกรธมากจนเกินไป เรื่องเล็ก น้อยเช่นอาบน้ำในห้องน้ำของเขา มันก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ ได้
แต่สุดท้ายอารมณ์ที่ดีของเธอก็มีได้ไม่นาน แล้วก็ค้นพบ เรื่องที่น่าเศร้าสลด ด้วยความที่รีบเข้ามาจึงไม่ได้เอาอะไร เข้ามาด้วยเลย แล้วเธอจะใส่อะไรออกไป
หลังจากลังเลอยู่นาน น้ำในอ่างก็เริ่มเย็นลงแล้ว เธอ ต้องดึงประตูเปิดออกด้วยภาวะหนังศีรษะที่แข็งทื่อ ยื่นแขน รากบัวออกไปแล้วสะบัดโบกไปมา “นี่ คุณปยุตคะ คุณจะ กรุณาเข้าไปในห้องของฉันและช่วยหยิบชุดนอนบนเตียง มาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”
ผู้ชายที่มีดวงตาล้ำลึกที่อยู่ห่างออกไปส่ายหน้าไปมา อย่างไม่อยากจะเชื่อ จะดีกว่าถ้าเขาได้ยินผิด ยึดดินแดนของเขาแล้วยังกล้าที่จะใช้คนอย่างเขาเหมือนคนรับใช้อีก นี่คุณเบื่อชีวิตของตัวเองแล้วใช่ไหม
ผลินคิดว่าคงไม่ได้ยินเสียงตะโกนเพราะมันนานมาก แล้ว เธอถอนหายใจอย่างหมดหนทางแล้วจึงหดแขน มอง ไปรอบ ๆ ห้องน้ำขนาดใหญ่มีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียว แต่มันเป็นของใครบางคน และถ้าเธอออกไปในเสื้อคลุม ของใครบางคน คน ๆ นั้นต้องเป็นบ้าแน่ ๆ เมื่อถึงเวลานั้น มันอาจจะกลายเป็นอาชญากรรมและทำให้ใครคนหนึ่งเป็น ฆาตกร
ตอนนี้ผลินมีทางเลือกแค่ว่าจะใส่ชุดของปยุตออกไป หรือจะออกไปทั้ง ๆ ที่เปลือยกาย และเมื่อเทียบกับการ เปลือยกาย แน่นอนว่าเธอเลือกที่จะสวมใส่เสื้อผ้าของเขา ออกไป
เสื้อคลุมอาบน้ำขนาดใหญ่ห่อร่างกายที่งดงามของเธอ เหมือนนักร้องโอเปร่าผู้ยิ่งใหญ่ เปิดประตูอย่างเงียบ ๆ ออก ไป มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องสอบสวน เมื่อไม่เห็นปยุตเธอ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รีบวิ่งไปที่ห้องของเธออย่าง สุดกำลัง แต่น่าเสียดายที่ระหว่างทางมีคนแอบซุ่มอยู่ที่มุม ห้อง
กรี๊ดด ผลินร้องด้วยความตกใจ หันกลับมาด้วยความตื่น ตระหนก มองผู้ชายที่อยู่ข้างหลังแล้วเอ่ยถาม “คุณ…คุณจะ ทําอะไร”
“คุณพูดอะไร เสื้อผ้าของผมสวมใส่สบายดีไหมล่ะ”
ปยุคถามเสียงเย็น เพิ่มความแข็งแรงที่มือของเขาด้วย การหักแขนของเธอทำให้เธอเจ็บปวดเหมือนกระดูกจะแตก เธอเศร้าเสียใจและร้องขอความเมตตา “ฉันรู้ว่ามันผิด คุณ ปล่อยฉันก่อน มันเจ็บจริง ๆ นะ…
“เพิ่งรู้เหรอว่ามันผิด ไม่ทำเป็นเก่งแล้วหรือไง”
ยิ่งเขาออกแรงมากขึ้น ผลินก็ยิ่งกรีดร้องดังขึ้น “อ่า…. เขายังคงลงแรง เธอก็ยังคงกรีดร้องต่อไป “อ้าว…
สงสัยเหลือเกินว่าแขนจะหักไปแล้วหรือเปล่า “คุณปยุต คะ อย่าทำแบบนี้สิ ฉันเจ็บจนจะตายอยู่แล้วนะ
เสียงของเธอสั่นอย่างอ้อนวอน แต่คนที่มีหัวใจเหล็กก็ ยังคงลงโทษเธอต่อไป พลิกแขนเธอออกแล้วเขาก็ยกเธอ ขึ้นพาดบ่าของเขา และหมุนตัวเก้าสิบองศาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของผลินเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาว สีขาวเปลี่ยนเป็น สีดำ และหัวใจก็กำลังหยุดเต้น
ทักษะการทรมานของปยุตนั้นเป็นเลิศ ยกขึ้นกลาง
อากาศแล้วทุ่มลงไปบนเตียง จับมือเธอไขว้หลังและกด อย่างแรง ผลินไม่ใช่แค่ปวดแขน แต่ปวดไปทั้งตัว เธอ กัดฟันและร้องออกมาเสียงแหลม “อ๊ะ…………..
กับการลงแรงอย่างต่อเนื่องของเขา เสียงของเธอก็ เปลี่ยนไปทุกครั้ง บางครั้งเหมือนประทัดที่กำลังระเบิด บางครั้งก็เหมือนเหมืองที่กำลังถูกไฟไหม้ แต่ไม่ว่าจะ เปลี่ยนแปลงอย่างไร มันก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเสียงกรีดร้องนี้ไปได้
ไม่มีใครรู้ว่าในเวลานี้ นอกประตูที่ปิดสนิท มีคนคนหนึ่งที่ กำลังทนทุกข์ทรมานอย่างมาก คนคนนั้นก็คือชุดา เธอต้องการที่จะเห็นคนที่เธอรักอีกครั้งในรูปแบบของ
ชื่อที่อยู่ในมือถือของเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าเมื่อกำลังจะเคาะ
ประตู ต้องมาได้ยินเสียงกรีดร้องที่ทำให้หน้าแดง
ใช้ฟันกัดแทะเล็บที่นิ้วมืออย่างต้องการระบายความ เกลียดชัง ทุกคนจะต้องพังพินาศ คนที่เธอรักทำแบบนั้นกับ คนที่เธอเกลียด การกรีดร้องครวญครางอย่างไร้ยางอาย เช่นนั้นเพราะจงใจจะยั่วโมโหเธอใช่ไหม!
เสียงกรีดร้องของผลินเดี่ยวดังเดี๋ยวเบา ซูดายกมือขึ้น ปิดหูของเธอด้วยความเจ็บปวดและกระทืบเท้าอย่างบ้าลัง “ทั้งสองคนจะทำกันไปถึงเมื่อไหร่
อยู่ในบ้านต้องร้องไห้ขื่นขม มีชีวิตอยู่นอกบ้านเสียยังจะ ดีกว่าต้องตาย
ทันใดนั้นก็มีมือข้างหนึ่งมาแตะไหล่ของเธอ เธอหัน กลับไปด้วยความสับสน ขมวดคิ้วถาม “เธอเป็นใคร”
“ประโยคนี้ควรเป็นฉันที่ต้องถามหรือเปล่า นี่มันบ้านของ ฉัน!”
ปาณีกลับมาช้าเพราะไปงานวันเกิดของเพื่อน แต่เมื่อทันทีที่เดินขึ้นมาข้างบนก็พบเข้ากับคนแปลกหน้า
“ฉันเหรอ ฉันเป็นน้องสาวของผลิน แล้วเธอล่ะเป็นใคร
“อ๋อ เป็นน้องสาวของพี่สะไภ้ ฉันเป็นน้องสาวของพี่เขย เธอ ยังไงก็เถอะ เที่ยงคืนแล้วเธอยังไม่นอน มาทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าห้องพี่ชายของฉัน”
ชุดารู้สึกอับอาย ลังเลที่จะพูด “ฉันมีบางอย่างกับพี่สาว ของฉันน่ะ”
เมื่อพูดจบก็เคาะประตู หลังจากผ่านไปสักพักประตูถึงจะ เปิดออก ผลินเอ่ยถามอย่างอ่อนแรง “มีอะไรเหรอ”
ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิง น้ำเสียงก็อ่อนแรง และสิ่ง ที่ทำให้ชุดายอมรับไม่ได้ก็คือเธอใส่ชุดคลุมของผู้ชาย “กรุณาเงียบเสียงลงหน่อย อย่าทำให้คนอื่นเหมือนเป็นคน โง่ที่ไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
ชุดาจ้องเธอด้วยความโกรธแค้น จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนี
ผลินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน ไม่เข้าใจความหมาย ของชุดา อะไรที่ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร? พวกเขาทำ อะไรกัน?
“พี่สะไภ้คะ คุณกับพี่ชาย?
ปาณีมองเธอขึ้นและลงด้วยความประหลาดใจ การ แสดงออกที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วผลินก็เกิดปฏิกิริยาตอบสนอง อธิบายตอบเหตุผลที่น่า อาย “เรากำลังเล่นกันอยู่ค่ะ…
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกคุณไปกันเถอะ ทำต่อไป เล่น อะไรก็ได้ตามที่ต้องการเลยนะคะ
น้องสามีลอบหัวเราะแผ่วเบาและหายไปด้วยความเร็วที่ ไวกว่าแสง
ผลินปิดประตูแล้วจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่บน โซฟาด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นจึงเดินนวดแขนตัวเอง ไปที่ห้อง
ปยุตก้าวตามมาอย่างรวดเร็วแล้วดึงเธอกลับไป “คุณคิด ว่ามันจบแล้วหรือไง”
“แล้วคุณจะต้องการอะไรอีก ร่างฉันจะแตกอยู่แล้วนะ!”
เขียนค้ำประกัน คราวหน้าถ้าผมไม่อนุญาตอย่ามายุ่งกับ ของของผมอีก ไม่อย่างนั้นคุณต้องชดใช้ด้วยสิ่งที่มีค่าที่สุด ของคุณ”
เขามองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็พลันถอนหายใจ “ทั้งตัวตั้งแต่บนลงล่าง ผมไม่เห็นอะไรสักอย่างที่มันมี คุณค่า”
“ใช่ค่ะ ฉันไม่มีอะไรพอที่จะชดใช้ให้ได้ ดังนั้นก็แค่ปล่อย ฉันไปเถอะ”
“กับคนที่พอเป็นแผลเป็นก็ลืมความเจ็บปวดแบบคุณน่ะมัน ต้องจัดการ จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้ยังไง” ปยุต ไปยังใบหู ของเธอ “นั่นไง ถึงแม้ว่ามันจะดูราคาถูก แต่สําหรับคุณมัน คงจะมีความหมายพิเศษบางอย่าง”
ผลินหัวใจเต้นแรง ไม่คิดว่าเขาจะเฉียบแหลมลึกซึ้งเช่น นี้ เพียงแค่แวบเดียวก็สังเกตเห็นต่างหูคู่เล็ก ๆ ที่อยู่บนใบหู ทั้งสองข้างของเธอทั้งที่มันเป็นเพียงต่างหูธรรมดา
“ไม่ได้นะ ไม่มีทางแน่”
เพราะมันเป็นของที่ระลึกที่แม่ทิ้งไว้ให้เธอ เธอใส่มันมา แปดปีแล้ว ต่างหูทุกชนิดไม่ว่าจะถูกหรือแพงเธอไม่เคยซื้อ มันเลย ในใจ ของเธอสิ่งนี้เป็นของที่มีคุณค่าที่แม่ให้กับเธอ ซึ่งแม้แต่เพชรก็ไม่สามารถแทนที่ได้
ยิ่งเธอไม่เห็นด้วย ปยุตยิ่งมั่นใจว่ามันสำคัญกับเธอ “ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ จะถอดออกเองหรือคุณจะให้ผมช่วย
มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง นี่คือวิธีที่เขาปล้นกำไลข้อมือที่คุณ แม่ให้เมื่อครั้งก่อน แต่ต่างหูไม่เหมือนกับกำไลข้อมือ ถึง แม้ว่ามันจะมีค่าเหมือนกัน แต่มันมีความหมายกับใจของเธอ ต่างกัน
“ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่ ถ้าคุณยังจะทำให้มันยาก ฉันจะร้องตะโกน”
“เอาสิ คุณตะโกนซะ พอดีเลยน้องสาวของคุณที่อยู่ห้อง ข้าง ๆ น่ะ แสดงให้เธอเห็นว่าเราสองคนไม่ได้รักกันจริง ๆ
เมื่อพูดจบปยุตก็ยื่นมือออกมา นั่นเป็นเหตุผลที่ผลินไม่
กล้าตะโกน เป็นวิธีที่แกล้งเธอได้อย่างไร้ศีลธรรม
กรงเล็บของปีศาจกำลังจะสัมผัสที่ใบหูของเธอ ผลินที่ อยู่ภายใต้ความกดดันก็พลันเกิดความคิด “อ๊ะ…เดี๋ยวก่อน นะ…อย่าเพิ่ง…”
เธอหายใจเข้าลึก ทันใดนั้นก็เผยรอยยิ้มหวานหวาน เสน่ห์ ยกแขนคล้องลำคอของเขา พูดด้วยลมหายใจที่มี กลิ่นดั่งกล้วยไม้ “ที่จริงแล้วสิ่งที่มีค่าที่สุดของฉันไม่ใช่ต่าง หูนะคะ แต่…สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับผู้หญิงคืออะไร คุณก็รู้
แน่นอนว่าการกระทำของเธอทำให้ปยุตตกใจ ยกมือขึ้น กลางอากาศแต่ก็ยังไม่ล้มลงไป
“ต้องการไหมคะ ไม่อยากได้สิ่งที่มีค่าที่สุดของฉันเหรอ
เธอยังคงหว่านเสน่ห์เขา “ถ้าคุณต้องการฉันจะให้ค่ะ ยัง ไงซะมันก็ต้องเป็นของคุณไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว”
เขาเอนตัวไปข้างหน้าอีกครั้ง ร่างกายแนบชิดกันโดย สมบูรณ์ ทั้งสองคนใกล้กันมากจนเกิดช่วงเวลาแห่งความสับสนที่ไม่คาดคิด…
. ปยุตสะบัดศีรษะแล้วผลักเธอออกไป พูดด้วยอาการ หายใจหอบ “สิบห้าวินาที หายไปจากสายตาของผมเดี๋ยวนี้
ในที่สุดเขาก็ทำได้ กลับมารังเกียจผู้หญิงอีกครั้ง เมื่อ เธอพยายามที่จะยั่วยวนเขา ดังนั้นเธอจึงประสบความสำเร็จ ในการช่วยเหลือตัวเอง
เรียกว่าธรรมะสูงหนึ่งคืบ อธรรมสูงหนึ่งศอก อย่างไร ก็ตาม การต่อสู้ในชีวิตแต่งงานระหว่างปยุตกับผลินนั้น มัน ยากที่จะบอกว่าใครสูงหรือต่ำ เช่นเดียวกับผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งจะไม่มีวันเท่าเทียมกัน