ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 4 การแต่งงานสายฟ้าแลบ
ตอนที่4 การแต่งงานสายฟ้าแลบ
ปยุตลุกขึ้นและออกจากห้องไป ผลินถอนหายใจอย่างโล่งอก ขยับตัวแล้ว ก้าวตามออกไป
ภายนอกบานประตู พนักงานที่พาเธอมาตอนนีได้นำหญิงสาวคนถัดไปมายืน อยู่ตรงหน้า เขามองปยุตและสอบถามด้วยความแปลกใจ
“คุณชาย คุณไม่เลือกแล้วหรือครับ”
“เธอได้รับเลือก”
มือถูกผายมาด้านหลัง ทันใดนั้นผลินก็กลายเป็นจุดสนใจ
เธอเห็นความอิจฉาและความคาดไม่ถึงในสายตาของผู้หญิงที่พลาดโอกาส เธอยังเห็นความประหลาดใจในการบรรเทาภาระอันหนักอึ้งบนใบหน้าของ พนักงานผู้รับผิดชอบทั้งสอง เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มบางเบาและไม่ได้นึกแปลกใจ กับสิ่งที่เห็น
“มิสเจริญมาศครับ ได้โปรดตามเราไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อพบคุณนายท่านด้วย ครับ”
ผลินพยักหน้ารับและหันไปมองปยุตที่ดูเย็นชาอย่างมีความหมาย แล้วจึง
ตามพนักงานผู้รับผิดชอบทั้งสองออกไป ตระกูลนี้เป็นตระกูลมหาเศรษฐี เมื่อใดก็ตามที่บุตรชายเลือกลูกสะไภ้ เมื่อ
นั้นคนเป็นมารดาก็ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน
ห้องโถงใหญ่นั้นงดงามดั่งพระราชวัง บนโซฟาหนังเนื้อดีสีน้ำเงินเข้มมีหญิง ชราที่สง่างามนั่งอยู่ ไม่ได้ดูเหมือนแม่สามีในตำนาน เธอมีรอยยิ้มที่เป็นมิตรซึ่ง หาได้ยากนักประดับบนใบหน้าของเธอ
“คุณนายท่านครับ เธอคนนี้คือคนที่คุณชายเลือกครับ”
พนักงานผู้รับผิดชอบรายงานด้วยความเคารพ เธอมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ ตรงหน้าพอางสอบถามรายละเอียด “เธอเป็นบุตรสาวของตระกูลไหน” “เรียนคุณนายท่าน ติฉันเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลเจริญมาศ ชื่อผลินค่ะ”
“ปีนี้อายุเท่าไร
“อายุยี่สิบสี่ปีค่ะ”
“ลูกชายของฉันน่ากลัวสำหรับเธอไหม”
“ไม่ค่ะ ลูกชายของท่านไม่ใช่คนที่น่ากลัว” หญิงชราเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ และถามขึ้นอย่างอารมณ์
ไม่กลัวเขาหรือ”
“ไม่ค่ะ เมื่อครู่เราคุยกันได้ดี”
“พระเจ้า นั่นช่างยอดเยี่ยมเสียจริง…”เธอจับมือของผลินมากุมไว้และเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงจริงใจ “หลังจากนี้ลูกชายของฉันจะติดต่อไปหาเธอเรื่องงาน แต่งงาน ครอบครัวของเราจะปฏิบัติต่อเธออย่างดี”
“ขอบคุณค่ะคุณนายท่าน”
ผลินออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลทรัพยสาน แสงแดดอุ่นภายนอกทำให้เธอ ต้องหลับตา พลางรำพึงในใจ : คุณแม่คะ หนูทำได้แล้วค่ะ
กลับมาอย่างมีชัย ธินิดาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เธอยกยอในความโชคดีที่ กำลังจะได้แต่งงานกับตระกูลที่ยอดเยี่ยม
การแต่งงานกับตระกูลที่ดีนั้นไม่ได้หมายความว่าจะได้แต่งงานกับสามีที่ดี และการแต่งงานกับตระกูลที่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีจุดจบที่ดี ผลินยิ่งฟังคำ เย็นยอก็ยิ่งรู้สึกว่าทั้งหมดนี่คือการเหน็บแนม
พวกเขาต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่อย่างต่ำต้อย แต่เธอไม่ยอมให้พวกเขา สมหวังได้ง่ายๆ สักวันหนึ่ง เธอจะเหยียบทุกคนที่เคยเหยียบหัวเธอให้จมดิน
ดี “เธอ โรงแรมเจ.เอส. งานแต่งงานของตระกูลทรัพยสานถูกจัดขึ้นที่นี่
เจ้าสาวเป็นผู้หญิงที่แสนสวยงาม เธออยู่ในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ที่เสริม ให้เธอดูอ่อนโยน ที่ล็อบบี้ไม่มีแขกเหรื่อมากมายนัก แต่ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะ เป็นบุคคลสำคัญ งานแต่งงานไม่เป็นพิธีการมากนัก เจ้าบ่าวเพลิดเพลินอยู่กับ แก้วไวน์ของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะชุดแต่งงาน ก้อาจจะพาลเข้าใจผิดได้ว่านี่เป็น งานเลี้ยงบุฟเฟต์ธรรมดา
ปยุตไม่ได้อยากจัดงานแต่งงานครั้งนี้ แต่คุณนายท่านแห่งทรัพยสานยืนยัน ที่จะให้จัดมัน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานแต่งงานครั้งที่เจ็ดของลูกชายเธอ แต่สำหรับ ลูกสะไภ้นั้นมันคือครั้งแรก ฉะนั้นเธอจึงไม่อยากผิดต่อลูกสะไภ้คนที่เจ็ดของเธอ
เมื่อวานเพิ่งพบกัน วันนี้ก็มีงานแต่งงานมาแล้ว งานแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ
จริงๆ
“สวัสดีค่ะพี่สะไภ้ ฉันมาแนะนำตัวกับคุณค่ะ ฉันชื่อปาณี เป็นน้องสาวของสามี ในอนาคตของคุณค่ะ
ทันใดนั้นเอง มีเด็กสาวเรียบร้อยน่ารักปรากฏขึ้นตรงหน้าของผลิน ใบหน้า ของเธอขาวใสอมชมพู ดวงตากลมโตสดใสระยิบระยับ
“สวัสดีค่ะ”เธอยิ้มตอบและรู้สึกถูกชะตารักใคร่น้องสะไภ้ตัวเล็กคนนี้ตั้งแต่แรก
เห็น
“พี่สะไภ้ของฉันดูดีและสวยมาก ๆ เลยค่ะ ฉันหวังว่าคราวนี้มันจะนานขึ้นอีก หน่อย.”
เมื่ออีกฝ่ายซะงักไป เธอจึงเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง”ที่ว่านานขึ้นอีกหน่อย หมายความว่ายังไงเหรอคะ”
“ผู้หญิงในอดีตของพี่ชายฉันแต่งงานเข้ามาอยู่ในครอบครัวของเราไม่นานก็ หย่า ดังนั้นฉันก็เลยไม่อยากคาดหวังว่าคุณจะอยู่กับเขาไปชั่วชีวิตค่ะ แต่ก็คงจะ ดีกว่ามากถ้าระยะเวลามันจะนานขึ้นกว่าเดิมที่เคยเป็นมาน่ะค่ะ”
“ระยะเวลาของคนที่อยู่นานที่สุดนั้นนานขนาดไหนเหรอคะ” ปาณีเอียงศีรษะและขบคิด ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ ผลินก็ถูกตึงความสนใจ ไปด้วยน้ำเสียงเป็นที่ตั้งขึ้นด้านหลัง “คำถามนี้ คุณควรจะถามกับคนที่ให้คำ ตอบคุณได้ชัดเจนที่สุดนะ”
ใบหน้าที่หล่อเหลาแต่แฝงความร้ายกาจนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันน่ากลัวเฉก เช่นพายุโหมกระหน่ำที่พาให้เธอรู้สึกอีดอัดจนหายใจไม่ออก
“นานที่สุดคือไม่เกินสามเดือน ดังนั้นก็จงสนุกกับช่วงเวลานี้ให้เต็มที่เถอะ”