ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 41 ผู้หญิงไม่ดี
ตอนที่ 41 ผู้หญิงไม่ดี
“ไปมองในกระจกก่อนนะคะ”
ผลินยืมสิ่งที่เขาเคยพูดมาใช้ ชายตาอย่างเหยียดหยาม พร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นชา
“แล้วที่คุณทำหน้าไม่พอใจคืออะไร ผมไปติดหนี้คุณหรือ
ไง”
ปยุตเลิกคิ้วและเอ่ยถาม ยังคงรู้สึกตะขิดตะขวงกับ ท่าทางที่เธอดูถูกเหยียดหยาม นี่มันค่อนข้างน่ารำคาญ เพราะลึก ๆ แล้วเขา หวังว่าเธอจะหึง
ยิ่งไม่สนใจคนอื่นมากเท่าไรก็ยิ่งอยากให้คนอื่นสนใจ มันเป็นจิตวิทยาขั้นรุนแรงที่สุดของผู้ชายทั่วไปที่ได้รับบาด เจ็บ
“ฉันโกรธเพราะคุณโง่ที่เชื่อในสิ่งที่ชุดาพูด วันหนึ่งถูก ขายโดยคนอื่นแถมยังนับเงินให้คนอื่น”
ตอนที่ออกมาจากห้องนั้นยังไม่ได้กลับไปโดยทันที แต่ ซ่อนอยู่หลังประตูนั่น ดังนั้นจึงได้ยินที่เธอบอกว่ายังไม่ได้ ทายาให้เธอเลย
“แล้วคุณล่ะ ฉลาดนักหรือไง คุณกล้าพูดไหมว่าไม่ได้ถูก คุณธนวันขายให้บ้านเรา
“ใช่ ฉันถูกขาย แต่ฉันขายได้พันแปดร้อยล้าน ซึ่งสำหรับ คุณน่ะ ไม่จำเป็นเลยที่ต้องขายถึงจำนวนตัวเลขเท่านี้”
“คุณ…
ใบหน้าของปยุตเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนี้ กล้าที่จะท้าทายเขา ดูเหมือนว่าเมื่อคืนมันจะเบาไปหน่อย
เขากำลังจะทำให้เธอได้รู้รสชาติที่แท้จริงอีกครั้ง พลัน โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ก้มลงมองหมายเลข เธอรับ โทรศัพท์พลางเดินเข้าไปในห้องลับ “สวัสดีค่ะ”
สายที่เข้ามาเป็นของธนวัน หัวข้อสนทนาที่แยกออกจาก กันไม่ได้ไปตลอดกาลเลยก็คือคำว่าผลประโยชน์
“ยายลิน นี่พ่อนะ
“โทรมาดึกขนาดนี้มีอะไรเหรอคะ” ที่จริงแล้วเธอรู้แก่ใจดี
และนั่น เธอเดาได้ถูกต้อง
“ไม่มีอะไรสำคัญหรอก เกี่ยวกับเรื่องการเสนอราคาของ บริษัท เจ.เอส. ทรัพยสานน่ะ มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่จะทำให้ มีแนวโน้ม ในการชนะการประมูลครั้งนี้”
ผลินเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ปฏิเสธ และตอบออกมา แผ่ว “ได้ค่ะ ฉันจะถามให้ แต่แค่ถามนะคะ ไม่รับประกันว่า คุณจะได้คำ ตอบที่ต้องการ คุณปยุตผู้ผู้ชายที่คุณรู้จัก เป็นคนที่แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานชัดเจน
เมื่อได้ยินว่าเธอตกลงก็รู้สึกว่ามีความหวังกับโอกาสมาก ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานหรือส่วนตัว สำหรับภรรยาที่นอนเตียง เดียวกันมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเรื่องปิดบัง
“ดี ๆ ต้องไหว้วานเรื่องนี้กับลูกสาวแล้ว ยายสิน แกเป็น ลูกสาวที่ดีของพ่อจริง ๆ
คำพูดของเขาช่างน่าขยะแขยง มีทั้งความไม่จริงและ ไม่รู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเขาไม่ใช่ พ่อที่ดีของเธอ ดังนั้นเธอก็ไม่ใช่ลูกสาวที่ดีของเขา
ถ้าความรักในครอบครัวสามารถวัดได้ด้วยผลประโยชน์ ถ้าอย่างนั้นระหว่างพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีความรัก
ผลินไม่ได้ถามปยุตเรื่องการเสนอราคาจริง ๆ และเธอ เชื่อว่าพ่อก็ต้องโทรหาเขาแล้วเหมือนกัน แต่ถูกเขาปฏิเสธ ดังนั้นแล้วเขาจึงกลับมาหาเธออีกครั้ง
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเธอจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี
แผนของเธอจะเริ่มดำเนินการทีละน้อย ต้องให้เจ็บปวด ไปทีละน้อย ให้กับผู้ที่ได้ทำมันไว้ทั้งหมดกับเธอ
ในช่วงบ่ายวันศุกร์ไม่มีเรียนเธอจึงกลับบ้านเร็ว เมื่อถึง บ้านก็ตามหาชุดาทันทีพร้อมกับการตำหนิอย่างรุนแรง “มัน ไม่สำคัญว่า เธอจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน แต่ต้องควบคุมความประพฤติตัวเองให้ดี อย่าคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองแล้วจะ ทําอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ”
ชุดาไม่ใช่โคมไฟประหยัดเชื้อเพลิงที่ต้องทนทุกข์กับ ความคับข้องใจแบบนี้ ใบหน้าของเธองอา “เธอหมายถึง อะไร ฉันไปทําอะไร
“เธอกล้าพูดไหมล่ะว่าตอนที่เราไม่ได้อยู่บ้านเธอไม่ได้ เดินเพ่นพ่านน่ะ
“ฉันเดินเพ่นพ่านแล้วยังไง เธอมาเดือดร้อนอะไร คุณนาย ท่านให้ฉันคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง แล้วเธอมาเอะอะ โวยวายอะไร”
“ฉันจะไม่พูดอะไรเลยถ้าเธอแค่เดินเพ่นพ่าน แต่เธอไม่ได้ รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องของคนอื่น ย้ายมองของคนอื่น ทำให้ฉันซึ่งเป็นพี่สาวต้องเสียหน้า ให้คนอื่นเอาไปพูดลับ หลังได้ว่าตระกูลเจริญมาศของเราไม่มีการศึกษา! ”
“ใครพูดอย่างนั้น ฉันเข้าไปในห้องใคร ย้ายของของใคร
ชุดารู้สึกอับอายจนกลายเป็นโทสะ เพราะไม่เคยถูกใส่ร้าย ทั้งที่ไม่ได้ทำผิด
“มันไม่สำคัญว่าใครจะพูด สิ่งที่สำคัญคือมีคนมาบอกกับ ฉัน ที่นี่คือสถานที่แบบไหน ที่นี่คือเคหาสน์นภา ที่ร่ำรวย ที่สุดในเมืองบี คนรับใช้ที่นี่มีมากกว่าตระกูลเจริญมาศถึง สิบเท่า ด้วยสายตามากมาย เธอคิดว่าเธอจะโกหกแล้วไม่ยอมรับผิดได้อย่างนั้นเหรอ”
ใครเป็นคนบอกเธอให้มันมายืนยันต่อหน้าฉันมีแต่คนโง่ เท่านั้นแหละที่จะยอมรับผิดทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
เธอปากแข็งไปเถอะ ยังไงก็ตามฉันเคยเดือนเธอแล้ว ถ้า หากว่าเธอมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คุณนายท่านจะเป็นคน ไล่เธอออกไปเอง ถึงตอนนั้นเธอคงจะสูญเสียท่านไม่ไหว
ชุดแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด มือเท้าสะเอวแล้ววิ่งไป ยังบันได ฉันจะไปถาม ใครที่มันเลวกล้าพูดจานินทาลับ
“หยุดเดี๋ยวนี้”
ผลินพูดอย่างเย็นชา “เธอไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่นั้น เหรอ ตอนนี้คุณนายท่านยังไม่รู้ แต่ถ้าเธอและอะโวยวาย แบบนี้ทั้งครอบครัวก็จะรู้ ถึงแม้ว่าแม่สามีของฉันจะมองหน้า เธอ แต่หัวใจรู้สึกไม่พอใจ ไม่มีใครชอบที่จะถูกรบกวนใน บ้านของตัวเองโดยคนแปลกหน้า
ประโยคนี้ทำให้ชุดาสงบลง เธอหยุด แต่ก็ไม่สามารถกด เสียงลงได้ “จะให้ฉันต้องทนกับความอยุติธรรมนี้งั้นเหรอ”
“ประเด็นคือ ไม่มีใครทำผิดต่อเธอ
“เธอไม่เชื่อฉันเหรอ ฉันเป็นน้องสาวของเธอนะ ฉัน
สาบานกับพระเจ้าว่าฉันไม่ไ ข้าไปในห้องของใครหรือขายของของใครด้วย
ผลินยิ้มเยาะ “มันสายไปแล้วที่จะมายอมรับว่าเป็นน้อง สาวของฉัน จากสิ่งที่ฉันได้รู้เกี่ยวกับเธอก็คือเธอคงไม่ได้ รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนอะไรกับความผิดหรอกเธอเป็นคน แบบนั้นไม่ใช่เหรอ”
ตาใบหน้าดำมืด ฉันกลัวว่าเธอต่างหากจะเป็นคนที่ใส่ ร้ายฉัน ฉันคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีใครเกลียดฉันมากกว่า เธอ
“ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร ยังไงก็ตามมันไร้สาระ เธอจะทำ
อะไรมันก็ไม่มีความหมาย เธอยอมรับแล้วใช่ไหม
สลินกำลังจะเดินเข้าห้อง แต่ก็ถูกหยุดไว้โดยสายตาที่ โกรธเคืองของชุด
“ฉันไม่ยอมรับ มันก็แค่สิ่งที่เธอคิดเองเออเอง เธอขยับ ร่างกาย เดินเข้าไปในห้อง ซูคาตามเข้ามาอย่างไม่ลดละ เพื่อต้องการให้ยอมรับมัน มันเป็นเธอที่ทำผิดต่อเธอ
ผลินรู้สึกรำคาญจึงตะคอกกลับไปด้วยความไม่พอใจ “หยุดกวนฉันได้แล้ว เธอคิดว่าทุกคนไม่มีการมีงานทำว่าง ทั้งวันเหมือนเธอหรือไง พูดแบบแย่ที่สุดก็คือเธอมันไม่แตก ต่างจากขยะเลยแม้แต่น้อย นอกจากจะใช้เงินของพ่อแม่ แล้วก็ไม่สามารถช่วยแบ่งปันความทุกข์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของ ครอบครัวได้เลย วันทั้งวันเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแต่ ก็ไม่เคยทำสิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรทำเลย ปัญหาทั้งหมดที่มีฉันต้องเป็นคนแก้ไขมัน ถ้าฉันไม่ได้ขายตัวเองพ่อก็ไม่ได้ เงินไปจ่ายหนี้ธนาคารหรอก ตอนนี้ก็เหมือนกัน พ่อต้องการ งานประมูลของบริษัท เจ.เอส.ทรัพยสาน เขาก็มาหาฉัน ทั้ง ที่ฉันเกิดมาจากนักเต้นแต่ถ้าเทียบกันแล้วฉันดีกว่าเธออีก ไม่ใช่หรือไง”
ตั้งแต่ชุดาเกิดมาเธอก็เป็นสมบัติล้ำค่าในมือ แต่กลับ มาถูกดูถูกว่าเป็นขยะ เธอโกรธจัดจนเหมือนเป็นบ้า ตีโพย ตีพาย “อย่าเอาทองป้ายบนใบหน้าของเธอ เธอคิดว่าเธอ เป็นผู้ช่วยชีวิตงั้นเหรอ เธอคิดว่าโลกจะไม่หมุนถ้าไม่มีเธอ หรือไง เป็นแค่นางจิ้งจอกน้อยที่ถูกสอนโดยนางจิ้งจอก ตัวเก่า ถ้าวันนั้นแม่ของฉันไม่ได้ขัดขวางไว้ เธอคิดว่าตัวเอง มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาอยู่ที่นี่กับฉัน ในวันนี้เธอก็ยังเป็นแค่ คนต่ำต้อยที่ถูกฉันเหยียบย่ำ…
“ไม่ต้องรู้สึกไม่พอใจ ถ้ามีความสามารถจริงก็แค่แสดง ให้ฉันเห็นสักนิดสิ ถ้าเธอสามารถช่วยพ่อได้ในสิ่งที่เขา ต้องการ ถ้าอย่างนั้นก็บอกฉันอีกทีสิว่าโลกจะไม่หมุนโดย ไม่มีฉัน ไม่อย่างนั้นนั่นคือทั้งหมดที่ฉันคิด ถ้าตระกูลเจริญ มาศไม่มีฉันก็ไม่มีทางมีชีวิตอยู่ได้หรอก”
การพูดถึงความสำเร็จของผลินทำให้ชุดาโกรธจนเลือด ขึ้นหน้า แล้วพูดออกมาโดยไม่คิด “ดี งั้นเธอรอดูเลย ฉันจะ ทำให้เธอเห็นเอง”
“จะรอดู”
ผลินยักไหล่และมองดูเวลา แล้วชี้ไปที่ประต “แต่ตอนนี้เธอต้องออกไปจากที่นี่ เพราะฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ฉันจะรอดู ว่าใครกันจะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย
ชุดามองเธอด้วยความโกรธเกรี้ยว เปิดประตูแล้วเดิน ออกไป
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วผลินก็ไปที่ห้องข้าง ๆ อีกครั้ง พูด กับผู้หญิงที่ยังโกรธอยู่ข้างใน “ฉันลืมเดือนเธอไปอย่าง ไม่ ว่าเธอจะไปห้องไหน ก็ห้ามไปที่ห้องหนังสือของพี่เขยเด็ด ขาด เขามีเอกสารสำคัญมากมาย ถ้าเธอกล้าที่จะเข้าไป เหยียบ ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ รวมถึงฉันด้วย
“ไปให้พ้น ไม่ต้องมาทำตัวเป็นแมวร่ำไห้แก่หนูแสร้งทำ เป็นเมตตาสงสารจอมปลอม!” ชดาบ้าคลั่งขว้างหมอนใส่ เธอ จนไปตกอยู่ในมือของผลินพอดี เธอจึงโยนมันกลับไป “ถ้าเธอรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่นี่ ประตูข้างล่างจะเปิด ให้เธอตลอดเวลา ออกไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของเธอ ได้เลย ไม่มีใครห้าม
ดวงตาที่เย็นชากำลังรับชมการแสดงอย่างชัดเจน ชุ ดากัดฟันด้วยความเกลียดชัง เธอจะไม่มีวันถูกผู้หญิงคน นี้หลอกเป็นอันขาด คิดว่าเธอไม่รู้หรือไงว่ามันก็แค่การ เปลี่ยนวิธีที่จะไล่เธอออกไปจากที่นี่
เสียงของรองเท้าส้นสูงดังอย่างต่อเนื่อง เธอเริ่มเดิน ไปเดินมาในห้อง ครู่หนึ่งเธอมีความคิดที่อยากออกไปจาก สถานที่บ้า ๆ นี่จริง ๆ แต่ก็ไม่สามารถกลืนลมหายใจชั่วร้ายของเธอได้ อีกอย่างเธอก็ได้สาบานไว้แล้วเดินจากไป แบบนี้ มันก็จะทำให้ต้องถูกนางจิ้งจอกน้อยดูถูกมากขึ้น ไม่ เธอจะไม่เป็นเต่าหัวหด ทุกคนในโลกนี้หัวเราะเยาะเธอได้ แต่ผลินไม่ได้ ถ้าหากเธอต้องแพ้ให้กับคนที่ถูกเธอเหยียบ เธอยอมตายเสียดีกว่า
แล้วตอนนี้ล่ะ จะไปขอร้องหยุคขอย่างไรดี เขาเป็นชา กับเธอ เธอไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆ ว่าปอดจะฟังคำขอร้อง ของเธอและให้โอกาสเธอพิสูจน์ตัวเอง
ภายนอกหน้าต่างมิดแล้ว ซูดากังวลจนผมจะกลายเป็นสี ขาว คนรับใช้ขึ้นมาเรียกเธอลงไปทานอาหาร เธอปฏิเสธไป ด้วยข้ออ้างว่าไม่ค่อยสบาย สอบถามเกี่ยวกับว่าพี่สาวและพี่ เขยกลับมาหรือยัง คนรับใช้ก็ตอบว่ายัง
เมื่อคิดถึงคำเตือนของผลิ่นก่อนที่จะออกไปว่าอย่าง เข้าไปในห้องหนังสือของปยุต ก็มีความคิดขึ้นมาว่าบางที อาจจะมีสิ่งที่เธอต้องการอยู่ในห้องหนังสือแห่งนั้น
เมื่อตัดสินใจแล้ว เธอจึงแอบเข้าไปในห้องหนังสือที่อยู่ ฝั่งตรงข้าม ก่อนหน้านั้นเธอยังไม่เคยก้าวเข้าไปในห้องใต ๆ เลย
ในห้องหนังสือนั้นมืดมากจนไม่เห็นแม้แต่นิ้วทั้งห้า เธอ เงอะงะอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่จะหาสวิตซ์เจอแล้วกดเปิด มัน ไม่มีเวลามากนักที่จะมองไปรอบ ๆ รับเริ่มมองหาเอกสาร ที่เกี่ยวกับการประมูลทันที
สวรรค์ย่อมตอบแทนคนที่ตั้งใจจริง เมื่อในเวลาที่เธอ หมดหวังที่จะหา เวลานั้นเธอก็พบมันที่ในลิ้นชักกลางโต๊ะ แผนการประมูลถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ