ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 61 เปิดแผลปมในใจของเขา
ตอนที่61 เปิดแผลปมในใจของเขา
ปยุตได้กลับมาถึงบ้านช่วงหัวค่ำ และแสร้งทำเป็นถาม ผลินอย่างไม่ตั้งใจว่า : “วันนี้คุณไปที่ไหนมา ?
ฉันไปพบญาติที่เพิ่งมาจากต่างถิ่น คุณโทรศัพท์มาหาฉัน “ ใช่มั้ยล่ะ ? ”
ปยุตรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่า ผลินจะตอบ คำถามอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อืม ใช่แล้วล่ะ เขาเป็นคนพูดว่าโทรผิด
“เวลานั้นฉันอยู่ห้องน้ำ เขามายืมเงินและฉันไม่ให้เขายืม ดังนั้นเขาจึงโกรธกระฟัดกระเฟียดพูดไปในสายโทรศัพท์ว่า คุณโทรผิดแล้ว
“อ๋อ ความจริงเป็นอย่างนี้นี่เอง
ปยุตได้ยินดังนั้นก็คลายความโกรธ และยิ้มกับเธออย่าง อบอุ่นแล้วพูดว่า : “ก่อนที่จะถามคุณผมกังวลใจว่าคุณจะ โกหกผม คุณรู้มั้ย ผมจะโกรธมากที่สุดหากมีใครพูดโกหก ผม”
“เป็นไปได้อย่างไร”
เขาลูบหัวไหล่ของเธอเบาๆ พร้อมกับพูดออกมาอย่าง จริงใจและหนักแน่นว่า : “ขณะนี้ผมคิดเสมอว่าคุณเป็นคนใน ครอบครัวเดียวกับผม ดังนั้นจำไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ก็ตามอย่าโกหกผม มิฉะนั้นผมจะผิดหวังเป็นอย่างมาก
“อืมตกลง”
แม้คราวนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ความรู้สึกของผลินไม่ได้ ผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยิ่งกลัดกลุ้มเพิ่มขึ้นอีก เธอแอบคิดในในว่า ทาตฤต้องเป็นตัวอันตรายต่อความ สัมพันธ์ระหว่างเธอกับปยุตอย่างแน่นอน
ในคืนนี้เอง ผลินยืนเหม่อลอยเฝ้าครุ่นคิดอยู่ริมหน้าต่าง ทั้งคืน หลังจากที่เธอได้คิดทบทวนไปมาหลายรอบ ก่อนที่ แสงแห่งรุ่งอรุณจะสาดส่องเข้ามา เธอก็ได้ตัดสินใจอย่าง เด็ดเดี่ยว
เธอจะไม่ยอมใช้ชีวิตตกต่ำต่อไปอีกแล้ว เธอต้องการ ถีบตัวเองขึ้นมาจากเงามืดให้จงได้ อีกทั้ง ต้องช่วยปยุต
ด้วย
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เธอได้ไปที่หลุมฝังศพของ แม่ของเธอ นําดอกลิลลี่ซึ่งเป็นดอกไม้ที่แม่ของเธอชื่นชอบ เป็นอย่างมากขณะมีชีวิตอยู่วางไว้หน้าป้ายหลุมฝังศพ มีอยู่ปี หนึ่ง ดอกลิลลี่นี้เอง ธนวันได้ใช้ดอกลิลลี่ 1 คันรถนี้แหละ มัดใจแม่ของเธอไว้ จากนั้นทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานไป ตลอดทั้งชีวิต
แม่ วันนี้ลูกมาสารภาพต่อหน้าแม่ แม่ให้อภัยลูกด้วยนะ ค่ะ เป็นเพราะผู้ชายคนหนึ่ง ที่ทําให้ลูกคิดที่จะละทิ้งความ แค้นของแม่……. ผลินได้คุกเข่าลง พร้อมกับใช้นิ้วมือลูบเบาๆลงบนรูปภาพ ที่ดูเศร้าสร้อยของแม่เธอ พูดว่า “แม่จะต้องผิดหวังในตัวลูก เป็นอย่างมาก เธอเห็นแก่ตัวอย่างนี้ได้ยังไง เพียงเพื่อ ตนเองแล้วกลับลืมความลำบากที่แม่ได้รับมาในอดีต ลูก ขอโทษท่านแม่ ขอโทษมากจริงๆ ลูกไม่สามารถที่จะหลอก ใช้เขาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการแก้แค้นครั้งนี้ หรือว่า ตั้งเริ่มต้น เขาเป็นตัวซวยของฉัน ฉันค่อยๆเตือนตัวเอง ต้องการทำให้เข้าเชื่อใจในตัวเธอ จากนั้นยืมมือของเขา ทำลาย ธนวัน แต่ว่าจนกระทั่งถึงวันนี้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไร เลย เพราะว่าฉันคิดไม่ถึง ผู้ชายคนนั้นเหมือนกับฉัน มี บาดแผลในใจอย่างแสนสาหัส ซึ่งเป็นเพราะว่าเราทั้งสอง เป็นเหมือนกัน ฉันจึงทนไม่ได้ที่จะทำร้ายเขา ใครบ้างที่มี ประสบการณ์อย่างฉัน ลิ้มรสการถูกเฉือดเฉียนเข้าไปที่ หัวใจ…
หยาดน้ำตาของผลินได้ไหลพล่างพลออกมา การแก้ แค้นให้กับมารดาเป็นความปราถนาตั้งแต่เล็กจนโตของเธอ เธอวางแผนมานานนับปีเพื่อที่จะทำให้ความปราถนานี้สำเร็จ แต่ขณะนี้เธอได้ละทิ้งความตั้งใจนี้อย่างทันทีทันใด อย่าพูด ถึงเลยว่ามารดาของเธอจะคิดอย่างไร แม้แต่ตัวของเธอยัง ไม่มีทางยอมให้อภัยตัวเองเสียด้วยซ้ำ
เดิมทีไม่เคยเข้าใจเลยว่าเพราะเหตุใดแม่ถึงได้ชื่นชอบ พ่อมาก ในวันนั้นเอง ปยุตได้บอกกับเธอว่า : เพราะว่าฉัน ไม่เหมือนคนปกติ ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะสามารถใช้ชีวิตได้ อย่างปกติสุข เพราะประโยคนี้เองเธอถึงได้เข้าใจแม่ของ นาง ความรัก จะมาโดยไม่มีสัญญาณใดๆและ ทำให้คน ตาบอดได้เสมอ ไร้เหตุผล ความรักก็คือความรัก ไม่ว่า จะต้องขึ้นช้างลงม้า ตกน้ำลุยไฟ ลำบากตรากตรำถึงเพียง ไหน รักก็คือรัก
เธอโค้งคำนับสามครั้งและลุกขึ้นเดินจากไป ร่างกายที่มี ความมุ่งมั่น บอกกับเธอว่ายี่สิบสี่ปีที่ผ่านมา เป็นครั้ง ที่แรกที่ต้องการความกล้าหาญ ใช้ชีวิตที่แตกต่างจากเดิม
เดินไปในเส้นทางที่แปลกใหม่ ทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยทำ
หลังจากลงมาจากเขาเธอได้ไปที่ร้านขายขนมเค้ก เพื่อ ไปสั่งขนมเค้กให้ปยุต ถึงแม้ตั้งแต่เมื่อคืนวานจิตใจของเธอ โศรดเศร้ามาก แต่ว่าเธอยังไม่ลืม วันนี้เป็นวันเกิดของปยุต
สั่งขนมเค้กเสร็จแล้ว ก็ไปเดินเล่นห้างสรรพสินค้าในบริเวณ ใกล้เคียงเพื่อเตรียมซื้อของขวัญสักชิ้นมอบให้กับเขา
ระหว่างทางกลับบ้าน เธอได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ คืน นี้จะสารภาพความจริงทุกอย่างกับปยุต ถึงจุดมุ่งหมายครั้ง แรกของเธอ และความรู้สึกในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปหลังจากได้ พบกับเขา
คุณท่านเวทนและภรรยาของนายท่านเวทน ออกไปข้าง นอกตั้งแต่เช้าตรู่ ขณะที่ผลินกลับมาถึง ในบ้านไม่มีใคร เธอได้ไปหาพ่อบ้านเพื่อสอบถาม : “ลุงหลิว แล้วนายท่าน และคุณนายล่ะ ? ”
พ่อบ้านตอบคำถามอย่างนอบน้อมว่า : “นายท่านและ คุณนายไปร่วมงานศพของท่านประธานบริษัทอี.เอฟ ประมาณช่วงบ่ายถึงจะกลับมาขอรับ
“อ๋อ โอเค”
เธอผงกศรีษะและเดินขึ้นไปบนห้อง หลังจากเดินถึง ห้องพักเธอก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อส่ง ข้อความ : “ช่วงบ่ายจะกลับมาประมาณกี่โมงค่ะ ? ”
ปยุตได้ส่งข้อความกลับมาสั้นๆว่า : “มีเรื่องรึ ? “
“แน่นอน ”
“เรื่องอะไรรึ ? ”
“เป็นความลับ”
เขาได้ส่งข้อความกลับมาสองคำที่แสดงความรู้สึก
เฉยเมยว่า : “จะพยายาม
หลังจากนั้น ผลินรู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่รู้ว่าปยุตจะยก โทษให้เธอหรือไม่ หากเขาได้รู้จุดมุ่งหมายครั้งแรกของเธอที่ แต่งงานกับเขา และที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอไม่แน่ใจว่าในใจ ของเขายังมีเธออยู่หรือไม่
บ่าย4 โมงเย็น เธอไปร้านขายขนมเค้ก ขนมเค็กได้เตรียม เสร็จเรียบร้อยแล้ว บนหน้าเค้กสีขาวนวลบริสุทธิ์ดั่งหิมะ ได้ เขียนอักษรภาษาอังกฤษคำว่า LOVE ด้วยแยมผลไม้ไว้อย่าง ชัดเจน
เค้กพร้อมแล้ว ของขวัญก็จัดเตรียมไว้แล้ว เธอกลับไป คฤหาสน์นภา ที่ด้วยความรู้สึกที่สับสนอึดอัดยังไงบอกไม่ถูก พ่อแม่สามียังไม่กลับมา น้องสามีก็ยังไม่กลับมา อีกทั้งยุต เองก็ยังไม่มีแม้แต่เงา
เธอได้รออยู่ที่ห้องรับแขกอยู่พักใหญ่ ทำให้รู้สึกเธอรู้ สึกเบื่อๆ ก็เลยเดินไปห้องครัวเพื่อจัดเตรียมอาหารค่ำให้กับ ทุกคนด้วยตนเอง ตั้งแต่เธอแต่งงานเข้ามาในครอบครัว ของสามี เธอไม่เคยเข้าครัวทำกับข้าวสักครั้ง ไม่ใช่เพราะ ว่าเธอเกียจคร้านหรือทำกับข้าวไม่เป็น เพียงแต่ว่าแม่สามี ไม่อนุญาตให้ทํา
แม่สามีพูดว่า ภรรยาที่แต่งเข้าตระกูลทรัพยสานและ บุตรสาวทุกคนจะต้องได้รับความรักและเอ็นดู ดังนั้นขณะที่ เธออยู่ในครอบครัวนี้ ก็ตกอยู่ในสถานะเดียวกับน้องสามีเช่น เดียวกัน
“นายหญิงน้อยท่านออกไปก่อน ทางนี้ปล่อยให้พวกเรา จัดการ กวาเจ้าค่ะ”
สาวใช้ที่ดูแลเรื่องสำรับอาหาร เดินมาเห็นเธอสวมผ้ากัน เปื้อน ขมักขะเม่นอยู่กับการล้างและหั่นผักจึงรีบเร่งเข้าไป ห้ามปราม
“ไม่เป็นไร วันนี้ให้พวกเจ้าหยุด1 วัน กลับไปพักผ่อนเถอะ” “ไม่ได้เจ้าค่ะ ถ้าหากนายหญิงใหญ่รู้แล้วล่ะก็ พวกข้าน้อย จะถูกตำหนิและถูกลงโทษได้เจ้าค่ะ….…..
“วางใจเถอะ ฉันจะไปอธิบายให้กับนายหญิงใหญ่ทราบเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเจ้า เป็นเพราะฉันเองที่ต้องการเข้า ครัวเตรียมอาหาร
สาวใช้เห็นเธอมีความตั้งใจจริงจัง ไม่สามารถห้ามปราม ได้เลย เพียงคอยเป็นลูกมือช่วยเหลือเธออยู่ข้างๆเท่านั้น
กล่าวได้ว่า ผลินอยู่ที่บ้านของสามีเปรียบเสมือนของล้ำค่า แต่อยู่ที่บ้านของนางเองเปรียบเสมือนหญ้าไร้ค่าต้นหนึ่ง เท่านั้น ในครอบครัวสามีอาหารสามมื้อล้วนมีคนรับใช้จัด เตรียมให้ ที่บ้านของนางกลับกัน นางเป็นคนรับใช้ของทั้ง ครอบครัว
เหล่าคนรับใช้ นึกไม่ถึงเลยว่า ฝีไม้ลายมือการทําอาหาร ของนางนั้นดีมาก ท่าทางผัดกับข้าวดูทะมัดทะแมงและมี ทักษะความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารอย่างยอดเยี่ยม เพียงไม่ถึงชั่งโมง อาหารค่ำที่หอมกรุ่นและดูหรูหรา ได้จัด เตรียมได้อย่างเสร็จสมบูรณ์
หลังจากพ่อบ้านหลิว ได้ฟังคนรับใช้มารายงาน ก็รีบเร่ง เดินไปยังห้องรับแขก ชำเลืองไปมองดูเค๊กที่วางอยู่บน โต๊ะแล้วพูดกับ ผลินว่า : “นายหญิงน้อย นายน้อย
เขา……”
คำพูดของเขาไม่ทันจะสุดเสียง คุณท่านเวทน
นาย หญิงใหญ่ คุณปาณี คุณปยุต คนในครอบครัวทุกคน ล้วนเดินกลับมากันพร้อมหน้าเหมือนดั่งได้นัดหมายกันไว้
“ท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านกลับมากันแล้วหรือค่ะ”
ผลินกล่าวทักทายพร้อมกับยื่นมือช่วยจัดแจงเสื้อนอก ของแม่สามี
“อืม เหนื่อยมากจริงๆ
คุณท่านเวทน ได้กลิ่นอาหารแล้วพูดว่า : “หอมมาก อาหารค่ำวจัดเตรียมเสร็จแล้วใช่มั้ย ? ”
“ใช่แล้วค่ะท่านพ่อ”
ผลินผงกศรีษะยิ้มเล็กน้อยพร้อมเหลือบมองไปยังปยุต แล้วพูดว่า : “เป็นสํารับอาหารที่ลูกได้จัดเตรียมด้วยตนเอง เพื่องานเลี้ยวฉลองวันเกิดและอวยพรให้ทุกคนอายุมั่นขวัญ ยืน”
ด้วยคำพูดประโยคนี้ของนาง ทำให้สีหน้าของทุกคน เปลี่ยนสีในทันที ทันใดนั้นน้องสามีได้เดินพุ่งเข้ามาหา นางในทันที พร้อมกับพูดข้างหูผลินอย่างลุกลนว่า : “พี่สะใภ้ ฉันได้พูดกับคุณไปทั้งหมดแล้วไม่ใช่รึ ? เหตุใดยังจะมากวน น้ำให้ขุ่นอีกล่ะ ? ”
คุณได้พูดอะไรกับพี่หรือค่ะ ? “ผลินรู้สึกงงๆไม่เข้าใจ ปาณีตบหัวเบาๆแล้วพูดว่า : “วันนั้นฉันคิดจะพูดกับพี่เรื่อง นี้ แต่ไม่รอให้ฉันพูดจบพี่ก็เดินหายไป ! ”
“เกิดอะไรขึ้นล่ะ”
“เธอขมวดคิ้ว พร้อมกับรู้สึกว่ามีลางสังหรณ์อะไรที่ไม่ดีบาง อย่างเกิดขึ้น
ปยุตลุกขึ้นยืนพรวดพราด เดินไปยังโต๊ะกินข้าว หยิบเค้ก ที่วางอยู่บนโต๊ะ โยนทิ้งลงไปบนพื้นอย่างจัง ทำให้เก๊ก เละเทะไปหมด แม้กระทั่งตัวอักษรภาษาอังกฤษ คำว่า LOVEที่เขียนด้วยแยมผลไม้บนเค๊ก ไม่เหลือร่องรอยอะไรอีก
เลย
คุณทำอะไรบ้าไปแล้วรึ ? ” “
เธอผลักตัวปยุตอย่างโกรธเคือง ตามองดูสิ่งที่เธอตั้งใจ มอบให้ กองอยู่ใต้เท้าของเขาอย่างปวดใจ
“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่าไม่ต้องการจัดงานวันเกิด ทำไมคุณยังคิดถึงตัวเองเป็นใหญ่ทำอะไรตามอำเภอใจอย่าง นี้?!”
ดูไปแล้วปยุต มีสีหน้าโกรธเคืองมากกว่าผลินเสียอีก คุณคิดจะทำอะไรสักเรื่อง เป็นไปได้มั้ยที่จะปรึกษาคนอื่น เสียก่อนว่าเต็มใจหรือไม่ ?
คุณมีความสุขใช่มั้ยที่แขวะปมในใจของคนอื่น ? ” หลังจากปยุตระบายความรู้สึกออกมา แล้วก็เดินจากไป ชั่วประเดี๋ยวน้ำตาของผลินก็ได้เอ่อท่วมสองตา แต่ด้วยทิฐิ ของเธอจึงกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา จากนั้นพ่อสามีก็เดิน รีบเข้ามาแล้วพูดว่า
ลูก ขอโทษด้วยที่ทำให้ลูกต้องลำบากใจ ลูกอย่าไปทำ หนิลูกปยุตเลยนะ ว่าไปแล้วในวันนี้เองก็เป็นวันที่ปยุต ได้ รับความอัปยศมากที่สุดวันหนึ่งและเป็นวันที่ยากที่จะลืมเลือน ไปได้”
เพราะเหตุใดหรือค่ะ ? ” “
เธอสะกดกั้นความเจ็บปวดในใจเกือบจะร้องไห้ออกมา และถามอย่างสะอึกอิ้น
น้องสามีได้ตอบคำถามแทนพ่อของเขาอย่างหดหู่ว่า : “เพราะว่า ในวันนี้เอง เป็นวันที่หญิงสาวชื่อจันทรได้ทอดทิ้ง พี่ปยุตไป 3 ปีที่แล้ว จันทรตอบรับที่จะแต่งงานกับพี่ปยุค และสัญญาว่าจะเป็นเจ้าสาวที่งดงามที่สุดในวันเกิดของพี่ป ยุต แต่ว่าใครจะคาดคิด ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้….
ผลินรู้สึกประหลาดใจเป็นยิ่งนัก เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น จริงๆ เมื่อก่อนเป็นเพราะเธอคนนั้น ครั้งนี้ก็ยังเป็นเพราะเธอ อีก
“หลังจากนั้นมา 3 ปีแล้วที่พี่ปยุตไม่เคยจัดงานวันเกิดแม้สัก ครั้งเดียว พวกเราต่างรู้และเข้าใจดี จึงแสร้งว่าวันนี้เป็นวันน ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่พยายามพูดคำว่า “วัน เกิด” สองคำนี้ต่อหน้าพี่ปยุตอีกเลย เกรงว่าจะเปิดปมในใจ ของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขอโทษด้วยค่ะ ท่านพ่อท่านแม่ ลูกไม่รู้เลยว่า สามปีก่อน จะเกิดเรื่องน่าหดหู่อย่างนี้ ทำให้พี่ปยุตต้องเจ็บช้ำใจ ยก โทษให้ลูกด้วยนะค่ะ
ผลินกล่าวคำขอโทษและพ่อสามีก็ได้ปลอบใจเธอพูดว่า : “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของลูก คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด พวกเราไม่ คิดที่จะตำหนิเธอเลย
ผลินคุกเข่าลงบนพื้น ค่อยๆเก็บเค้กที่กองอยู่บนพื้นกลับ เข้ากล่อง เมื่อเธอมองเห็นแยมผลไม้สีแดง ที่เคยเป็นตัว อักษรคำว่า LOVE กลับเละเทะไม่เหลืออะไร ในที่สุดหยาด น้ำตาของเธอได้ไหลรินออกมาอย่างสะกดกั้นไว้ไม่อยู่
ให้คนรับใช้เก็บกวาด พวกเรากินข้าวกันเถอะ
แม่สามีและน้องสาวของสามี ช่วยกันผยุงตัวผลินขึ้นมา อย่างรักใคร่เอ็นดู นั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะกินข้าว ทุกคน ล้วนแปลกใจและตกตะลึงกับอาหารค่ำแสนหรูหราที่วางอยู่ ตรงหน้า แต่เพื่อที่จะไม่ให้จิตใจของเธอบอบบช้ำไป มากกว่านี้แล้ว จึงยิ้มแย้มชื่นชมในทักษะฝีมือการทำอาหารที่ ยอดเยี่ยมของเธอ
ผลินเห็น พ่อ แม่ และน้องสาวของสามีทุกคน กินอาหารที่ เธออย่างเอร็ดอร่อย เธอได้วางตะเกียบลงในทันทีและ ขยับเท้าวิ่งออกไป……