ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 84 ความลับไม่มีในโลก ( 3 )
ตอนที่84 ความลับไม่มีในโลก ( 3 )
เธอนั่งตรงนั้นอย่างมึนงงไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ทันใดนั้นพ่อเธอกลับมาถึงบ้าน เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกตัว จากนั้นธามันก็ถามเธออย่างแปลก ใจว่า “ ตกตะลึงเรื่องอะไร มองไม่เห็นพ่อกลับเข้ามา หรือไง ไม่รีบยกน้ำชามาให้พ่อล่ะ”
สติของเธอเริ่มกลับคืนมา และพยักหน้าตอบรับ “อ่อ พ่อกลับมาแล้วหรือค่ะ”
“ไปชงน้ำชามาให้หน่อยซิ”
“อ๋อ ได้ค่ะ”
เธอลุกขึ้นยืนตัวแข็งทื่อ เดินเข้าไปห้องครัวชงน้ำชา แก้วหนึ่งยื่นให้พ่อเธอ ธามันดื่มน้ำชาเข้าไปเพียงอึกเดียว ก็บ้วนทิ้งทันที พูดว่า “ลูกคิดจะลวกปากพ่องั้น”
เธอแสดงความขอโทษอย่างสำนึกผิด “ขอโทษคะ ขอโทษคะ ลูกจะไปชงมาใหม่อีกครั้ง”
“ไม่ต้องแล้ว ”
เขาถลึงตาใส่บุตรสาวอย่างไม่พอใจ เดินไปนอกห้อง เรียกป้าเอี่ยม “ ป้าเอี่ยม มาชงให้ผมหน่อยซิ”
เดินกลับมานั่งลงที่โซฟา มองเห็นบุตรสาวตาจ้องมอง
แผ่นซีดีที่วางอยู่บนโต๊ะ ก็ยื่นมือไปหยิบแล้วพูดว่า “ นี้เป็น ของอะไรทำให้ลูกนั่งนิ่งเหมือนกับคนไร้วิญญาณ”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
ปาณีตกใจมากรีบแย่งแผ่นซีดีกลับมา ท่าทางของเธอ ยิ่งเป็นอย่างนี้ ธารินก็ยิ่งสงสัยมากยิ่งขึ้น
“เป็นสิ่งของอะไรกันแน่ ล้ำค่าขนาดนั้นเชียวเรอะ”
มองเห็นพ่อของจะเธอเดินเข้ามา ด้วยความหวาด กลัวของเธอ จึงไม่ลังเลที่จะหักแผ่นซีดีนั้นออกเป็น2ท่อน
แล้วพูดว่า
“พังหมดแล้ว ไม่ต้องดูแล้ว”
ธารินโกรธจนควันออกหัว กระทืบเท้าพูดว่า “เงินใช้ จ่ายเดือนนี้หักครึ่งหนึ่ง”
ช่วงหัวค่ำทุกคนกลับมาถึงบ้าน คนในครอบครัวทุกคน นั่งรับประทานอาหารค่ำอยู่ในห้องอาหาร ปาณีมองไปที่ สีหน้าของพี่สะใภ้ด้วยจิตใจที่สับสน ผลินเดิมก็เป็นคน พูดน้อย ปยุตก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครอื่นที่พูดมากกว่า ปาณีไปได้อีกแล้ว แต่ว่าค่ำนี้เธอไม่พูดไม่จาสักคำ นาย หญิงใหญ่อดไม่ได้ที่จะแปลกใจแซวไปว่า “วันนี้ลูกสาว ของเรา เป็นใบ้แล้วใช่มั้ย”
ทุกคนหันไปมองปาณีด้วยสายตาเดียวกัน เธอถลึงตา พูดว่า “ทุกคนมองหนูเรื่องอะไรคะ หนูก็มีช่วงเวลาที่จะ ไม่พูดไม่จาบ้างได้หรือไม่”
“เหอะ อย่างนั้นพระอาทิตต้องขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว ล่ะ”
คุณท่านเวทน เลิกคิ้ว พูดขึ้นว่า “แต่ว่าเมื่อช่วงบ่าย แผ่นซีดีที่ลูกหักทิ้งไปเป็นอะไรกันแน่ ดูท่าทางลูกทั้ง ตกใจทั้งลุกลี้ลุกลน” ผลินฟังแล้วถึงกับสะดุ้ง เหมือนกับว่าคำพูดนี้ได้ย้อน ถามเธอ เธอมองไปที่น้องสะใภ้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างตรง
เครียด
รอค่าตอบของเธออย่างอึดอัด
พูดออกไปหมดแล้วว่าไม่มีอะไร ยังจะถามอะไรอีกน่า หงุดหงิดมั้ยเนี่ย”
เธอวางชามข้าวในมือลงบนโต๊ะ เดินขึ้นห้องไปอย่าง เสียอารมณ์
หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว ผลินเคาะประตูห้อง พักของปยุต รอจนกว่าเขาตอบรับก็ผลักประตูเดินเข้าไป ขว้ามือซ้ายของเขาถามเสียงเบาๆว่า “บาดแผลดีขึ้นหรือ ยังคะ”
ปยุตยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนว่า “บอกเธอแล้วว่าไม่ เป็นไร ทําไมถึงยังไม่สบายใจอีกล่ะ”
เธอจุมพิตไปยังหลังมือของเขา “ฉันจะสบายใจได้ อย่างไร ฉันรักปยุตด้วยหัวใจ ซึ่งมีความสำคัญมากกว่า ตนเองเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือว่าหัวใจฉันไม่ ต้องการให้คุณได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว”
นิ้วมือของปยุตสั่นเล็กน้อย โอบตัวเธอมานั่งบนตัก ก้ม ตัวลงจูบลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างป่าเถื่อน เทียบ กับการจูบอย่างรักใคร่ที่ผ่านมา ผลินไม่รู้ว่าคิดไปเอง หรือเปล่า รู้สึกจริงๆว่าเป็นการจูบที่แฝงไว้ด้วยการลง ทัณฑ์
“พี่ปยุต พวกเราไปที่ห้องนอนดีกว่ามั้ยคะ”
เธอจับไปที่ลำคอของเขา พูดเชื้อเชิญด้วยเสียงแผ่ว เบา ขณะที่เขากําลังรุกเร้าคลอเคลีย ปยุตทําเป็นไม่ ได้ยินในค่าเชื้อเชิญของเธอ สุดท้ายเขากลับใช้ฟันกัดไป ที่ริมฝีปากของเธออย่างดุดัน ผลินกรีดร้องออกมาเสียง ดัง เธอขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจถามว่า “พี่ปยุต คุณ ทำไมถึงทำรุนแรงอย่างนี้”
“ขอโทษ ทําคุณเจ็บใช่มั้ย”
“อืม”
ฉันคิดว่าเธอไม่เคยรู้สึกคำว่าเจ็บปวด “ ใจเผลอเรอไปหน่อยครับ”
ดังนั้นก็ปล่อย
เธอมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ รู้สึกว่าคำพูดของ เขามีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่กลับคิดไม่ออกว่ามีความ ผิดปกติตรงไหนกันแน่”
“โอเค ผมทํางานต่ออีกหน่อย คุณกลับห้องไปก่อน
เถอะ”
“คืนนี้ยังต้องทํางานจนดึกมั้ยคะ”
ปยุตสายตายังคงมองหน้าจอคอมพิวเตอร์พูดว่า “ยังไม่ แน่ใจ เธอไม่ต้องรอผม เข้านอนก่อนก็ได้ครับ”
“โอเคคะ”
ผลินผงกศรีษะรับอย่างเสียใจ เปลี่ยนความตั้งใจเดิน กลับไป เดินไปแค่สองก้าวหันหลังกลับมาจูบหน้าผาก ปยุตและพูดอย่างมุ่งมั่นว่า “ทุกวันเรื่องที่ฉันต้องการทำ มากที่สุด ก็คือบอกกับคุณว่า ฉันรักคุณ”
รัก ในใจของปยุตยิ้มเยาะอย่างเย็นชา ถ้า หากว่าเขาเชื่อว่ารักอีกครั้ง เขาก็คงเป็นเจ้าหน้าโง่ที่โง่เง่า ที่สุดในโลก นี้แล้วล่ะ
ชุดาส่งพัสดุEMS เป็นเวลาสามวันแล้ว กลับไม่มี ปฏิกริยาตอบสนองอะไร เธอรู้สึกแปลกใจมาก ตาม เหตุผลแล้ว เมื่อปยุตเห็นคลิปวีดิโอนั้นแล้ว ไม่สมควรที่จะ นิ่งเหมือนกับไม่รู้สึกอะไร
เธอคิดทบทวนมีความเป็นไปได้แค่เพียงอย่างเดียวคือ แผ่นซีดีนั้นถูกผลินพบเจอเสียก่อนและทำลายทิ้งเสียแล้ว เธอแผดเสียงอย่างโกรธเคือง ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไป คฤหาสน์นภา
ถึงยังไงเธอสำรองข้อมูลไว้แล้ว ครั้งแรกไม่สำเร็จ ลองอีกสักครั้ง เธอไม่เชื่อว่าไม่มีสักครั้งจะไม่สําเร็จ
รปภ.ของคฤหาสน์นภาน้องสาวของนายน้อยหญิงเป็น อย่างดี ก็ปล่อยให้เธอเดินเข้ามา เธอเดินเข้ามาถึงห้อง รับแขกอย่างหยิ่งยโส มองเห็นนายหญิงใหญ่นั่งอยู่บน โซฟา ทักทายว่า
“คุณป้า สวัสดีคะ”
จู่ๆดนุชาได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง หันหลังกลับ ไปมองอย่างแปลกใจ เห็นคนที่เดินเข้ามาเป็นชุดา เธอตก ตะลึงขึ้นชั่วขณะ แย้มยิ้มออกมาอย่างเปิดเผยว่า “โอ้ ที่แท้เป็นน้องสาวของผลินนี่เอง มานั่งลง”
ชุดานั่งลงตรงข้ามเธอ พูดอย่างรวบรัดตัดความว่า คุณป้า ครั้งนี้ที่หนูมานั้นต้องการจะให้คุณดูของสิ่งหนึ่ง” “
“เป็นของอะไร”
เธอหยิบแผ่นซีดีออกจากกระเป๋าพูดว่า “ของชิ้นนี้ หลังจากดูเสร็จแล้ว คุณก็จะเข้าใจคนที่คุณคิดว่าเข้าใจ มากที่สุด”
เธอนําแผ่นซีดีใส่เข้าไปในเครื่องเล่น DVD ครู่เดียว คลิปวีดีโอก็เปิดออกมา ภาพของผลินขึ้นมาในทันที แววตาของนายหญิงใหญ่ถึงตกตะลึง แต่ว่าประเดี๋ยว เดียวก็นิ่งสงบลง ดูคลิปวีดิโอตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเงียบๆ
“เป็นยังไงบ้างคะคุณป้า เซอร์ไพรส์มากใช่มั้ยคะ”
นายหญิงใหญ่สงบนิ่งยังไม่เอ่ยปากออกมา และลุกขึ้น มาหยิบแผ่นซีดี ถามกลับโดยแสดงสีหน้าเรียบเฉยว่า แผ่นต้นฉบับอยู่ที่ไหน”
“อืม แผ่นต้นฉบับอะไรหรือคะ”
“แผ่นต้นฉบับดั้งเดิม ในราคาเท่าไหร่ว่ามา
บอกราคามาเถอะ ต้องการขาย
ทันทีที่ชุดาได้ยินคำพูดนั้นก็มีบางอย่างรับไม่ได้จึงพูด ต่อว่า “ท่านป่าเข้าใจผิดแล้วค่ะ สะใภ้ของคุณป้าเป็น คนหลอกลวง เขาหลอกลวงลูกชายของท่านป่า ท่าน ไม่โกรธเคืองยังช่วยเหลือเธอทำลายหลักฐานอีกอย่างนั้น หรือคะ”
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องของครอบครัวฉัน เธอไม่ควรสอด บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ เธอต้องการเงินเท่าไหร่ ”
“ท่านป้าคิดว่าหนูจะมาแบล็กเมล์ป้าหรือคะ หนูไม่ ต้องการเงินทอง หนูต้องการก็คือให้พวกท่านลงโทษ คนหลอกลวงคนนั้น”
“ไม่ต้องการเงินนั้นก็ไสหัวไปให้พ้นเดี๋ยวนี้ จากนั้น จําไว้เลยนะว่า หากกล้านำคลิปนี้กระจายออกไปแล้วล่ะก็ ฉันจะให้เธอได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม ชุตาโมโหอย่างมาก ลุกขึ้นยืนแผดเสียงดัง ภาพพจน์ แสร้งเป็นสุภาพสตรีจอมปลอมก็ได้เผยออกมา ” ไม่เคย เห็นหญิงสูงวัยที่แปลกประหลาดอย่างคุณจริงๆ”
เดินออกไปจากตฤหาสน์นกาอย่างโกรธเคือง ยังไม่ ลดละความพยายามขับรถไปตรงไปยังบริษัทเจ.เอส.ทรัพ สถาน เธอไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครเลยที่จะไม่แยแสกับเนื้อหา ในคลิปวีดีโอนี้”
ปยุตพบเธออีกครั้ง ท่าทางไม่เป็นมิตรมากพูดว่า “เธอ มาทําบ้าอะไรอีก”
“พี่เขย ฉันมีของบางอย่างให้พี่ดู”
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ในมือถือนั้นก็คือ ต้นฉบับดั้งเดิมของคลิปวีดิโอ ปยุตชายตามองด้วย สายตาอันดุดัน ครู่เดียวในคลิปก็มีเสียงสนทนากัน ระหว่างผลินกับชื่นใจ
ชุดาอดทนอย่างใจเย็นรอให้เขาระเบิดอารมณ์ออกมา ในที่สุดเขาก็ระเบิดอารมณ์ออกมาจริงๆ แต่กลับระเบิด อารมณ์ใส่เธอเข้าอย่างจังว่า “วุ่นวายมากพอหรือยัง เธอนี่มันเจ้าคิดเจ้าแค้นจงใจจะจัดการกับพี่สาวของเธอให้ ได้ เธอต้องการทําอะไรกันแน่”
ฉันเพียงแค่ไม่ต้องการให้พี่เขยกลายเป็นเจ้าหน้าโง่ให้ “ เขาหลอกอยู่ได้”
“ฉันจะเป็นเจ้าหน้าโง่ก็เป็นเรื่องของฉัน เธอจะมาแส เรื่องคนอื่นทําไม”
ชุดาเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมพูดว่า “แม้นว่าจะ ถูกหลอกอย่างนั้น คุณเห็นอยู่ทนโท่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ พี่สาวของฉันเพียงแค่หลอกใช้คุณเป็นเครื่องมือในการแก้ แค้นครอบครัวฉันเท่านั้น การกระทำอย่างนี้คุณจะให้ อภัยไม่ได้”
“พอได้แล้ว”
ปยุตเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งลงบนพื้น โทรศัพท์มือถือ ที่เคยสวยงามก็แตกกระจายไม่เป็นชิ้นดี “รีบไปให้พ้น จากสายตาฉันเดี๋ยวนี้ ไป ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้”
ชุดาตกใจกลัวในท่าทางอารมณ์ฉุนเฉียวของเขามาก เธอทั้งโกรธทั้งหงุดหงิดหยิบโทรศัพท์ที่แตกหักบนพื้น ร้องไห้วิ่งออกไปจากสำนักงาน”
ปยุตกำมือทั้งสองจนแน่น บาดแผลเดิมที่พันผ้าก๊อซ ไว้ใกล้จะประสานกันดีกลับปริแตกอีกครั้ง เลือดไหลซิบ ออกมา แต่ว่าจุดที่เจ็บปวดนั้น กลับไม่ใช่แผลนั้น เขา มือแตะไปที่หน้าอก ความโศรกเศร้าเริ่มปรากฏออกมา เวลาผ่านล่วงเลยมาสามปีแล้วเขายังเสียใจอีกเพียงแต่ครั้ง นี้เกิดขึ้นกับอีกคนนึง
ค่ำนี้เขาไม่กลับบ้าน ผลินเฝ้ารอเขาทั้งคืน โทรศัพท์ก็ ไม่ติด รอจนฟ้าสางเขาเพิ่งจะโทรศัพท์กลับมาหาเธอ พูด ประโยคสั้นๆว่า “เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย เผลอหลับไปที่ บ้านของชนัยครับ”
เธอตอบรับเสียงเบาๆ ไม่ได้ต่อว่าอะไร ไม่ได้ สอบถาม น้ำเสียงราบเรียบ ไม่ใช่ไม่เสียใจ เพียงแต่คิด ทันทีว่าตนเองนั้นไม่มีคุณสมบัติอะไรที่ต้องมาเสียใจ”
ขณะที่ลงมาด้านบน เป็นกันเองเหมือนเดิมว่า
“ว่างคะท่านแม่
แม่สามีเดินเข้ามาถามอย่าง “วันนี้ว่างมั้ย” “ดีมาก ช่วยพาแม่ไปไหว้พระบนเขา นานแล้วไม่ได้ ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมเลย”
เธอพยักหน้ารับคำ เดินตามแม่สามีไปภูเขาหลวง
เสียงเคาะระฆัง หนักแน่นดังขึ้นในวัดบนเขา กลิ่น ธูปไม้จันทร์ตลบอบอวล เนื่องจากนายหญิงใหญ่ใจคอ กว้างขวางมีจิตศรัทธา ทุกครั้งที่มาที่นี่จะนำสิ่งของมีค่า มามากมาย หลวงจีนทั้งหลายในวัดก็ต้อนรับขับสู้เธอเป็น อย่างดี เธอคุกเข่าอยู่หน้าพระประธาน คำนับศรีษะ สามครั้งอย่างนอบน้อม พนมมือทั้งสองข้างอธิฐานด้วย ใจบริสุทธิ์ว่า “ขอบคุณเทพเจ้า มอบสะใภ้ที่ดีงามให้ กับลูกช้าง เธอได้ชุบชีวิตใหม่ให้กับลูกชายของลูกช้าง เทียบได้ว่าเธอได้ช่วยเหลือครอบครัวทรัพสถาน ลูก ช้างของสาบานกับเทพเจ้าว่า ในชีวิตนี้จะทำดีและให้ เกียรติต่อลูกสะใภ้ของลูกช้างอย่างแน่นอน”
ผลินอยู่ข้างๆได้ยินคำพูดของแม่สามี รู้สึกเสียใจเป็น ยิ่งนัก คิดว่าตนเองได้ทรยศต่อความรักและเอ็นดูที่แม่ สามีมอบให้
“ลูกผลิน เธอจะอยู่เคียงข้างลูกปยุตของพวกเราไปจน วันตายใช่มั้ย”
“ค่ะท่านแม่”
จะไม่ทําให้เขาต้องเสียใจใช่มั้ย”
“ค่ะท่านแม่”
“ดีแล้ว เธอคุกเข่าลงมาสาบานต่อหน้าเทพเจ้าว่า เธอจะไม่แยกทางกับสามีของเธอ และจะไม่ทำให้เขาต้อง เสียใจ” แววตาของผลินเต็มไปด้วยความแปลกใจ เธอไม่รู้ว่า แม่สามีทำอย่างนี้มีเจตนาอย่างไร แต่ก็ยังคงนั่งคุกเข่าลง สาบานตามคำพูดของแม่สามีทุกคำอีกครั้งหนึ่ง
ออกมาจากศาลาพระประธาน หลังจากที่ทั้งสองเดิน ไปจนถึงสวนดอกไม้ แม่สามีเดินรุดมาข้างเธอตามมา ด้านหลัง แม่สามีพูดว่า “เธอได้สาบานต่อหน้าเทพเจ้าแล้ว ฉันหวังว่าเธอจะยึดมั่นคำสาบานทำให้ได้ ตลอดชีวิตจะ ไม่แยกทางไม่ทิ้งขว้างลูกชายของฉัน และจะไม่ทำให้ เขาต้องเสียใจ ไม่ว่าเธอ…ต้องการแต่งงานกับเขาเพราะ เป้าหมายอย่างไรในครั้งแรก”
ผลินตกตะลึงหยุดเดิน สีหน้าตกใจกลัวจนขาวซีดพูด “ท่านแม่….” ว่า
นายหญิงใหญ่หันหลังกลับมาพูดต่อว่า ” แม้ว่าเหตุผล ” ของเธอจะเป็นอย่างไร ฉันก็จะลืมมันให้หมด เพียงหวัง ว่าจากนี้ต่อไปเธอต้องดูแลลูกชายของฉันให้เป็นอย่างดี ไม่ต้องคิดเรื่องที่ไม่สมควรคิดอีกต่อไป”
นํ้าตาของผลิมพรั่งพรูออกมาทันที พูดว่า “ขอโทษ คะท่านแม่ ทำให้ท่านแม่ต้องผิดหวัง”
ฉันไม่ผิดหวังเลย ฉันกังวลเพียงอย่างเดียวก็คือ เธอจะทอดทิ้งลูกชายของฉันไป ทุกคนย่อมมีช่วงเวลา ที่กระท่าสิ่งที่ผิด ฉันก็เชื่อมั่นเหลือเกินว่า เธอเลือก กระทำในครั้งนั้น ต้องมีเหตุผลจำเป็นของเธอ ผ่านไป แล้วก็ให้มันผ่านไป ขณะนี้ สิ่งที่เธอต้องทําก็คือรักษา คําสัญญาที่ให้ไว้ในเวลานี้ จะต้องไม่ให้ลูกชายของฉันรู้ ความลับเรื่องนี้เป็นอันขาด”
“ท่านแม่ ท่านเองก็คิดว่าลูกควรที่จะปกปิดเรื่องนี้หรือ ผลินสะอึกสะอื้นย้อนถาม
คะ “ “ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่สมควรเท่านั้น แต่จำเป็นต้องทำ”
เพราะเหตุใดหรือคะ เพราะอะไรถึงจำเป็นต้องทำ อย่างนี้ ลูกขณะนี้แทบจะทนไม่ไหวแล้วคะ…..
นายหญิงใหญ่จับหัวไหล่ของเธอด้วยความเจ็บปวดพูด ว่า “ทนไม่ได้ก็ต้องทน เธอรู้มั้ยว่าหากเขารู้เรื่องนี้แล้ว
ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ฉันเข้าใจลูกชายของฉันมากกว่า เธอ เขาจะเจ็บปวดทุกข์ทรมานจนไม่คิดจะมีชีวิตอยู่ จากนี้ไปจะไม่สามารถมีความรักได้อีกแล้ว สามปีที่แล้ว ฉันสัมผัสกับตัวเองว่าเขาใช้ชีวิตอย่างกับคนหมดอาลัย ตายอยากเป็นอย่างไร เวลานี้เขายากที่จะสามารถผ่าน ความเจ็บปวดอย่างนี้ไปอีกได้ หรือว่าฉันอายุเข้าปูนนี้ แล้ว จะต้องเห็นเขาเป็นแบบนั้นอีกครั้งเลยหรือ”
ดนุชาร้องไห้ออกมา มองเห็นหญิงสูงวัยร้องห่ม
ร้องไห้เสียใจเพียงเพราะบุตรชาย ในใจของผลินเหมือน โดนมีดกรีด เธอโอบกอดแม่สามีไว้พูดว่า “ท่านแม่ หนูควรทำอย่างไร หนูควรทำอย่างไรดีคะ ……
แม่สามีลูกสะใภ้โอบกอดกันร่ำไห้ เศร้าโศรกเสียใจจน แทบจะขาดใจ ผลินไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เรื่องอื่นใด ที่นอกจากเรื่องของมารดาแล้วทําให้เสียใจได้มากอย่างนี้
ชีวิตคนเป็นดั่งละคร เหมือนว่าทุกอย่างได้ถูกลิขิตไว้ หมดแล้วทั้งสิ้น
กลับมาถึงบ้านก็จวนจะค่ำแล้ว ปยุตก็ยังไม่กลับมา ผลินไม่ได้พบเขามาหนึ่งวันกันหนึ่งคืนแล้ว หลังจากกิน อาหารค้า เธอโทรศัพท์ไปหาเขาถามว่า “ ยังไม่เลิกงานอีก หรือค่ะ”
“มีงานเลี้ยงสังสรรค์ มีอะไรหรือเปล่า” นํ้าเสียงของปยุตยังเป็นปกติ เธอนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง พูดต่อว่า “ไม่มีอะไรคะ คิดถึงคุณนิดหน่อย”
“ประมาณสามทุ่มกลับถึงบ้าน รอผมด้วยล่ะ”
“โอเค ดื่มสุราน้อยหน่อยนะคะ”
แม้ว่าผลินได้เตือนเขาแล้ว ปยุตกลับดื่มสุราไป จนเมามาย อีกทั้งเวลาเลยมาจนถึงสี่ทุ่มถึงจะกลับมา ผลินมองเห็นไฟหน้ารถยนต์ที่คุ้นเคยมาแต่ไกล เธอรีบวิ่ง ออกไป แต่กลับเป็นชนัยเป็นคนขับรถยนต์มา
คุณปยุต มจนเมามาย
“ชนัยเปิดประตูฝังข้างคนขับ คล้องแขนข้างหนึ่งของป
ยุตไว้จะพยุงตัวปยุตออกจากรถ หลังจากที่ผลินตกตะลึง ไปครู่หนึ่ง ก็รีบวิ่งเข้าไปพูดว่า “เดี๋ยวฉันจัดการเองคะ”
เธอหามปยุตขึ้นไปชั้นบนอย่างเหน็ดเหนื่อย หลังจาก ถึงห้องพัก ปยุตมองไปที่ผลินด้วยภาพเบลอๆพูดขึ้นว่า “ น้องผลิน เธอร้องไห้มาหรือ ทำไมตาถึงบวมอย่างนั้น”
“ทําไมคุณถึงดื่มสุราจนเมามายขนาดนี้คะ
เขาก้มหน้าสอบถามเสียงเบาๆ
” ผมดื่มสุราก็เพราะว่าอยากดื่ม เธอร้องไห้นั้นเพราะ อะไรล่ะ ก็เพราะว่าอยากร้องไห้ใช่มั้ย”
“ใช่คะ ฉันอยากร้องไห้”
“เพราะอะไรถึงอยากร้องไห้ คุณขโมยหัวใจของผมไป สําเร็จแล้ว ยังจะอยากร้องไห้เรื่องอะไรอีกล่ะ” ผลินไม่ต้องการที่จะเถียงกับเขาเรื่องนี้ พูดไปว่า “ฉัน ไปเตรียม าให้คุณอาบก่อนคะ ”
เธอรีบเดินไปยังห้องอาบน้ำ ปิดประตู น้ำตากลั้นไว้ไม่
อยู่ไหลออกมา รู้สึกลางๆว่าปยุตเหมือนกับรู้เรื่อง
ทุกอย่างแล้ว แต่ว่าไม่กล้าที่จะคาดเดาไป ลุกขึ้นมายืน
หน้ากระจก พูดตำหนิตนเองในกระจกว่า “รู้มั้ย เธอ
เวลานี้อ่อนแอขึ้นทุกวัน ก่อนหน้านี้เธอไม่มีความกล้า
หาญพอที่จะบอกความจริง แต่ว่าเวลานี้ ความกล้าหาญ
ที่จะคิดกลับไม่มีแม้แต่นิดเดียว ผลินเธอเอง ช่างไร้ค่าสิ้น
เสียงดังกึก ประตูห้องน้ำเปิดออก ปยุตถามด้วย ” ท่าทางเมามาย ” น้าเตรียมเสร็จหรือยัง
เธอรีบเช็ดคราบน้ำตาบริเวณหางตาตอบกลับไปทันที ว่า “อืม เสร็จแล้วคะ”
ปยุตเดินเข้ามา ยืนอยู่ตรงหน้าเธอถอดเสื้อผ้าออก จนหมด จากนั้นนอนลงในอ่างอาบน้ำ ผลินไม่คิดที่จะดู เขา ขณะที่ต้องการที่จะเดินออกไปนั้น เขายื่นแขนออก มาฉุดเธอลงไปในอ่างอาบน้ำทั้งตัว
ผลินกรีดร้องด้วยเสียงตกใจ อยู่ในอ่างอาบน้ำถามเขาว่า “คุณจะทําอะไรคะ”
เสื้อผ้าของเธอเปียกจนหมด คนก็นอนในอ้อมกอดของ เขาถูกเขากอดรัดไว้จนแน่นด้วยท่าทางมีเลศนัย ดิ้นก็ ดิ้นไม่ได้ ปยุตหัวเราะอย่างผิดแปลกไปพูดว่า “ที่นี่ ไม่ใช่สระว่ายน้ำ ไม่ต้องกลัว”
“คุณปล่อยฉันก่อนเถอะ ฉันยังสวมเสื้อผ้าอยู่เลย”
“ ผมจะถอดให้คุณเอง” “ไม่เอาคะ”
ผลินใช้แรงขัดขืน ต้องการสลัดให้หลุดจากการกอด รัดของเขา เขากลับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ร่างกาย ของเธอผมเห็นทุกซอกทุกมุมแล้ว หรือว่ามีอะไรบาง อย่างที่จะต้องกลัวอีก”
“ไม่ใช่คะ ฉัน……..
เธอถอนหายใจ คิดจะพูดออกไปแต่กลับไม่สามารถ พูดออกมา เพียงแค่พูดปลอบใจไปว่า “ได้คะ คุณชอบ แบบนี้ก็เอาแบบนี้ก็แล้วกัน”
ปยุตพลิกตัวเธออรีบรุดถอดเสื้อผ้าของเธออย่าง รวดเร็ว เขาถามย้ำอีกครั้งว่า “ผลิน คุณมีเรื่องอะไร ที่จะต้องการจะบอกผมหรือไม่”