ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 91 เสียใจกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญ (1)
ตอนที่ 91 เสียใจกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญ (1)
มันเผา มักจะเป็นในช่วงฤดูหนาวถึงจะขายดี ดังนั้นผลินจึง ต้องวิ่งหาจนค่อนเมือง B ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงกว่าจะหาร้าน ขายมันเผาได้ในที่สุด
เธอชี้ไปที่มันเผาด้วยความตื่นเต้น “พ่อค้าคะ ให้ฉันสามหัว
ค่ะ”
“ได้ครับ”
เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ผลินกลับมาพร้อมกับมันเผาร้อน เมื่อ เตรียมที่จะโบกรถ ทันใดนั้นก็มีรถตู้วิ่งเข้ามาตรงหน้าเธอ ก่อนที่ เธอจะได้ทันรู้ตัว ชายสองคนในชุดดำก็พาเธอเข้าไปในรถ มัน เผาในมือร่วงหล่นลงกับพื้น และกลิ้งออกไปไกลมากจาก ตำแหน่งนั้น
“พวกนายเป็นใคร
เธอถามอย่างตกใจ อยากจะดิ้นรน แต่แขนทั้งสองข้างถูก ชายสองคนกักเอาไว้แน่น
“พวกเราเป็นใครคุณไม่จําเป็นต้องรู้ เมื่อคุณไปถึงคุณก็จะรู้ ทุกอย่างเอง”
คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นภรรยาของคุณปยุต ทรัพย สานนะ ถ้าพวกคุณลักพาตัวฉัน เขาจะไม่ปล่อยพวกคุณไปแน่”
ผู้ชายคนหนึ่งยกรมฝีปากอย่างเลือดเย็น “พวกเราไม่สนใจ ว่าคุณเป็นใคร พวกเรารับเงินเพื่อสงเคราะห์คนว่าจ้าง ถ้าเอาแต่ จะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัวแล้วจะสร้างถนนได้ยังไง”
“เท่าไร คนที่จ้างพวกคุณมาลักพาตัวฉันให้คุณเท่าไร ฉันให้ พวกคุณสองเท่า แล้วปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”หึ คุณหนู ขอโทษนะ ถึง แม้ว่าเราจะชอบเงิน แต่เราไม่สามารถให้ความสำคัญกับเงิน มากกว่าชื่อเสียงได้หรอก คุณก็แค่เชื่อฟังแล้วอยู่เงียบ ๆ อย่า มารบกวนพวกเรา หุบปากคุณไปซะ
ผลินเห็นว่าเงินนั้นไม่สามารถซื้อสองคนนี้ได้ ก็เริ่มที่จะคิด ทบทวน เธอมักจะระมัดระวังทั้งคำพูดทั้งการกระทำ และไม่ได้ เคยขัดใจใคร แล้วใครกันที่จะเกลียดเธอจนถึงขั้นลักพาตัว
คิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ทันใดนั้นก็นึกได้ถึงคนคนหนึ่ง
และเมื่อความจริงปรากฏ ลางสังหรณ์ของเธอก็ถูกต้อง 100% เมื่อชายชุดคําสองคนพาเธอไปยังอาคารที่ชำรุดทรุด โทรม อย่างที่คาดไว้ เห็นศัตรูคนเดียวของเธอ
ผลิน เธอคงไม่คาดคิดไว้สินะว่าจะมาตกอยู่ในเงื้อมมือของ ฉันเร็วขนาดนี้”
ธินิดาเดินเข้าไปหาเธอด้วยใบหน้าที่น่ากลัว และชุดาก็ ปรากฏตัวขึ้น เธอกัดฟันพูดกับแม่ของเธอ “แม่ อย่าพูดเรื่องไร้ สาระกับมัน ครั้งล่าสุดมันทำให้พวกเราขายหน้ายังไง วันนี้เรา จะต้องคืนให้มันเป็นสองเท่า!”
“แน่นอนว่าต้องเอาคืน วันนี้ฉันต้องเอาคืนกับความอัปยศที่ฉัน ได้รับมาหลายปี “ความอัปยศที่คุณได้รับมาหลายปีงั้นเหรอ นั่นฉันต้องเป็นคน พูดไม่ใช่หรือไง”
เพียะ!
ธินิดาใช้มือตบไปอย่างแรง บนใบหน้าของผลินขึ้นรอยห้า
นิ้ว
“นั่งสารเลว อยากตายสินะถึงได้กล้าต่อต้านฉัน วันนี้ฉันจะให้ แกได้ลิ้มรสความเจ็บปวด แกไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไงที่ต้องอยู่ ใต้ชายคาบ้านและต้องโค้งคำนับให้
แม่ ให้ฉันจัดการเอง
ชุดาไปข้างหน้าพร้อมกับหักข้อนิ้วมือ พยายามใช้แรง ทั้งหมดที่มีตบลงไป ผลินมองเห็นเหมือนแสงวาบของดาวศุกร์ ริมฝีปากมีโลหิตสีแดงสดไหลออกมา แขนของเธอถูกชายชุด กําจับควบคุมไว้อย่างแน่นหนาเหมือนปลาตัวหนึ่งบนเขียงที่จะ ถูกพวกเธอฆ่าเท่านั้น
แม่และลูกสาวเริ่มกระทำการเช่นคุณตบฉันตบ ต่างผลัดกัน อย่างเพลิดเพลิน ผลินกัดริมฝีปากแน่น เพราะบาดแผลในหัวใจ ถูกนำมากระทำอย่างป่าเถื่อนอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกเจ็บ ปวด
“ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าการที่ยั่วแม่แก่น่ะผลที่ตามมามันจะเป็น ยังไง กล้าดียังไงให้คนมาทำลายบ้านฉัน รนหาที่ตายชัด ๆ!”
ชุดารอจนแม่พูดจบ ก็ยกขาถีบไปที่ท้องของผลิน “บอกว่า พวกเราเป็นหนี้ แกนั่นแหละเป็นหนี้ฉันนังบ้า
“ลูกสาว ทำแบบนี้ดูจะเบากับมันเกินไปหน่อยนะ เราน่าจะมีวิธี การที่รุนแรงมากกว่านี้”
“แม่ อะไรคือวิธีการที่รุนแรงล่ะ”
ธนิดาเชิดคางขึ้น “ไปเอาอาวุธที่ฉันเอามาด้วยมาให้ฉัน
ชุดาวิ่งออกไปที่รถ ดึงอาวุธที่แม่เอามาออกจากด้านหลังรถ
มันเป็นแส้หนัง “อันนี้เหรอ”
“ใช่”
ธินิดารับไป ยิ้มให้ผลิน ใช้แส้นั้นลากไปมาบนใบหน้าของ เธอ “จุ๊ ๆ ดูผิวเนื้อนุ่มเนียนนี่สิ สวยและมีเสน่ห์เหมือนนังพรธวัล แม่จิ้งจอกของแกไม่มีผิด แม่ของแกไม่ได้ใช้ผิวเนื้อ ยั่วยวน สามีของฉันหรอกเหรอ ถ้าวันนี้ฉันเฆี่ยนแส้ลงไปบนใบหน้าของ แก ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าต่อไปจะมีผู้ชายคนไหนถูกนังปีศาจ จิ้งจอกอย่างพวกแกหลอกลวงเอาได้อีก
บนใบหน้าของผลินเต็มไปด้วยรอยแดงม่วง มีเหงื่อแห่ง ความอดกลั้นผุดขึ้นบนหน้าผาก เธอจ้องมองผู้หญิงที่โหดเหี้ยม ตรงหน้า ก่อนที่จะกัดฟันแล้วพูดว่า “ถ้าคุณกล้าแตะต้องฉัน คุณ ปยุตจะไม่มีวันปล่อยคุณแน่”
ຮ່າ ໆ ໆ ໆ ໆ
สองคนแม่ลูกหัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจ ชุดาหัวเราะ หนักกว่า “คุณปยุตน่ะนะ ตอนนี้แกยังจะหวังว่าเขาจะมาช่วยแก ได้อีกเหรอ ผลิน แกนี่มันช่างไม่เจียมตัว แกหลอกคุณปยุตแบบ นั้น เขาไม่โยนลงทะเลเป็นอาหารปลาก็ดีเท่าไร ยังจะสนอีกเห รอว่าแกจะอยู่หรือตาย ฮ่า ๆ อยากจะหัวเราะให้ตาย…
“ บางทีถ้าคุณปยุตรู้ว่าพวกฉันจัดการกับแก น่าจะขอบคุณ พวกเรามากกว่า”
“นอกจากนั้นนะแม่ พวกเราน่ะช่างใจดี เสียเวลาอันมีค่านี้ทำ เพื่อสวรรค์ พระผู้เป็นเจ้าจะอวยพรให้เรามีอายุที่ยืนยาวเป็น ร้อยปี…”
“เอาล่ะ พวกเราจัดการกันเถอะ”
ธินิดายกแส้ที่มือและชำเลืองมองผลิน “ที่จริงแล้วฉันก็ทน ไม่ได้ที่จะต้องทําลายใบหน้าดั่งดอกไม้ของแกนะ ถ้าอย่างนั้น แกคุกเข่าโขกพื้นให้พวกเราแม่ลูกสามครั้ง แล้วพวกเราจะ ปล่อยแกไปเป็นไง
ผลินถุยน้ำลายใส่ใบหน้าของเธอ “พวกคุณต่างหากที่ควร จะคุกเข่า จะให้ฉันคุกเข่าให้พวกคุณน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ!!
ธนิดาโกรธเธอมาก ตะเบ็งเสียง “มัดมันแล้วส่งมาให้ฉัน
ชายชุดดำสองคนใช้เชือกมัดมือและเท้าแล้วก็หลบออกไป ธนิดายกมือขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็ฟาดแส้ลงไป ผลินกรีด ร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน เธอทำเป็นว่าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไม่ สนใจเสียงนั้นและฟาดลงไปอีกครั้ง ผิวของผลินเป็นรอยแตก ชายสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้างทนดูไม่ได้อีกต่อไป ก้าวเข้ามาและ พูดว่า “คุณนาย ฟาดลงบนตัวเธอก็พอแล้ว อย่าฟาดที่หน้าเธอ
ธินิดาเกิดความงุนงง ถามออกมาอย่างอารมณ์เสีย ” ทำไม แกรู้สึกสับสนมัวเมากับใบหน้าของนังปีศาจจิ้งจอกนี่หรือไง”
“ไม่ใช่ ก็แค่ทําในที่ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ก็จะเป็นประโยชน์ กับตัวเองมากกว่า เบา ๆ หน่อย
“โอ้ น่าขำนะ เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินคนอย่างพวกแกที่ ทำงานด้านนี้จะพูดคำพวกนี้ออกมา มันไม่เหมาะกับอาชีของ พวกแกเลยนะว่าไหม
ใบหน้าของชายคนนั้นบึ้งตึง “บอกคุณว่าไม่ให้ฟาดใบหน้าก็ อย่าฟาด ถ้าทำให้โกรธจะไม่เป็นการดีต่อตัวคุณเอง”
ชุดาเห็นเขาจริงจังไม่เหมือนล้อเล่นก็เข้ามาเกาะแขนแม่ แม่ ฟังเขาเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวเราจะตกที่นั่งลำบาก”
ธินิดากระแอมไอสองสามครั้ง “เอ่อ เอางั้นก็ได้ ฉันจะดูให้
เธอยกมือขึ้นอีกครั้ง เหวี่ยงไปทางด้านหลังและฟาดลงมาที่ หน้าอกของผลินอย่างแรง อีกครั้งและอีกครั้ง ในที่สุดผลินก็ หมดสติ ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด
เมื่อธินิดาได้ทำในสิ่งที่ต้องการแล้วจึงหยุด โยนแสลงไปบน พื้น “เอาล่ะ ไปกันเถอะ” ทันทีที่แม่และลูกสาวไปถึงตรงประตู ธนิดาก็หยุด “แม่ มี อะไรเหรอ” ชุดาถามอย่างสงสัย
“นังแพศยานี่มันกลัวที่แคบใช่ไหม”
ชุดาขมวดคิ้ว “ใช่ค่ะ”
“นั่นเป็นวิธีที่ดีกว่าที่จะปล่อยมันไป” ธนิดาหันไปสั่งชายสอง คนที่อยู่ด้านหลัง “ขังมันไว้ในห้องมืดฝั่งขวา แล้วล็อกประตูซะ”
พวกเขาจัดการอุ้มผลินเข้าไปในห้องมืดเล็ก ๆ ฝั่งขวาของ ซากปรักหักพังของอาคาร หลังจากโยนเธอเข้าไป ก็เกิดเสียง คลิก ประตูถูกล็อกอย่างไร้ความปราณี
ความมืดที่ไร้สรรพสิ่ง มันเป็นภาพที่น่ากลัวที่สุดสําหรับผลิน เธอรู้สึกตัวขึ้นหลังจากที่หมดสติไปเป็นเวลานาน เมื่อเห็นความ มีดโดยรอบก็พลันตกใจและหลับตาลง หยาดนํ้าตาไหลรินออก มาจากดวงตา ร่างกายที่เจ็บปวด หัวใจกลับยิ่งเจ็บมากกว่า เธอ ไม่กล้าลืมตา เธอพยายามบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ “ผลิน เธอจะมา ตายแบบนี้ไม่ได้ เธอต้องรอดกลับไปมีชีวิตที่ดี ต้องมีชีวิตที่ดี เพราะว่าคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวด พวกเขาทั้งหมดยังมีชีวิต สบายดีอยู่”
น้ำตายิ่งรินไหลลงผสมกับเลือดบนตัวเธอ ในเวลาแบบนี้ ทำไมถึงได้คิดถึงแม่มากมายนัก ถ้าแม่ได้รู้ ได้เห็นเธอตอนนี้ หัวใจก็คงเจ็บปวดมาก สิบปีแล้ว ผู้ที่เคยเหยียบย่ำเธอก็ยังคง เหยียบย่ำเธออยู่ นอกจากตกหลุมรักปยุต เธอก็ไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลงเลย ปาณีใช้เวลากว่าสามชั่วโมง ก็ไม่พบร่องรอยของพี่สะไภ้ ตอนนั้นเองปยุตก็ได้ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา สั่งให้ ชนัยพาคนออกไปค้นหาทั้งเมืองทันที จนเมื่อรุ่งอรุณมาถึง ชนัย ก็กลับไปที่โรงพยาบาล
“เป็นยังไงบ้าง”
ปยุตสอบถามอย่างเร่งด่วน
“ตามที่ชายวัยกลางคนขายมันเผาทางภาคใต้ของเมืองบอก ก็ คือนายหญิงถูกจับตัวไปโดยรถคันหนึ่ง เธอเพิ่งซื้อมันเผาสาม หัวและเดินกลับไป หลังจากนั้นก็ถูกคนลากเข้าไป และมันเผาก็ ร่วงตกลงบนพื้นครับ”
“รถอะไร มีเบาะแสอะไรบ้าง
ยังไม่มีเบาะแสอะไรเลยครับ ต้องรอตำรวจทางหลวงตรวจดู หมายเลขทะเบียนรถจากกล้องวงจรปิดครับ
ปยุตที่หน้าตาซีดเซียวกระชากผ้าห่มของเขาออก และรีบ เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดคนไข้อย่างรวดเร็ว ชนัยถามอย่างสงสัย “ท่าประธาน คุณจะทำอะไร”
“ฉันจะไปตามหาเธอ”
“ไม่นะครับ ร่างกายของคุณยังไม่หายดี หมอสั่งให้พักผ่อน คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของนายหญิง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ผมเอง” “ฉันโอเคแล้ว”
ปยุตยืนยันที่จะออกจากโรงพยาบาล ชนัยเห็นเขาตัดสินใจ แล้วจึงจําต้องปล่อยให้เขาไป พวกเขาขับรถไปยังกอง บังคับการตำรวจจราจร ดึงเอาภาพจากกล้องวงจรปิดของถนน หมิงหยางในคืนนั้นมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็เจอรถตู้สีขาว เลขทะเบียน 7738 จับผลินขึ้นรถตู้ไป