ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 92 เสียใจกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญ (2
ตอนที่ 92 เสียใจกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญ (2)
“พวกเราควรจะแจ้งตำรวจไหมครับ
ชนัยถามความคิดเห็นจากปยุค
เขาคิดกับตัวเองชั่วครู่ก่อนจะสายหน้า “รอไม่ได้อีก แล้ว ตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าใครเป็นเจ้าของรถ
ค้นหาข้อมูลเจ้าของรถอย่างรวดเร็วและพบว่าเป็น ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อไก่ เป็นคนแร่ร่อนตกงาน ปยุคพร้อม ด้วยขนัยและกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งมาที่บ้านของไก่ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง ไก่ถือขวดเหล้าในมือ เคี้ยวถั่วลิสง ในปาก จ้องไปที่โทรทัศน์เพื่อดูละครต่อต้านญี่ปุ่นเรื่อง ทหารน้อยจางกา บางครั้งมีเสียงหัวเราะเมื่อถึงบทพูดที่ เกินจริง
ปีก! กริชค ขว้างใส่หน้าเขา เขาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เห็นคนยืนอยู่ตรงหน้าก็ตะลึงด้วยความกลัว เอ่ยถาม อย่างตะกุกตะกัก ท่านทั้งหลาย มีอะไรหรือเปล่า”
ปยุตก้าวออกมายืนข้างหน้าอย่างเหี้ยม ถามเขาเน้น หนักทีละคำ “บอกฉันมา นายใช่ไหมที่เป็นคนจับผู้หญิง ไปเมื่อคืนนี ไก่เกิดความงงงวย “ผู้หญิง? ผู้หญิงอะไร”
ยังจะกล้าเสแสร้งอีกเหรอ” ชนัยต่งกรีซออกมา พ ดกับปยุค “ท่านประธาน คนแบบนี้ไม่ต้องไปพูดเรื่องไร้ สาระกับมัน แค่เอาล็อคมันออกก็จบ”
“ดูเหมือนว่าถ้าไม่เห็นแม่น้ำฮวงโหก็คงไม่รู้จักคำว่า กายสินะ”
ปยุคหันมองไปยังคนที่อยู่ข้างหลัง “กดมือมันไว้ให้ ฉัน ดัดมันสองนิ้วก่อนแล้วค่อยคุย
สองขาของไก่ทรุดลงกับพื้น แต่ชนัยจับดึงขึ้น เอา มือวางบนโต๊ะ กริ ยังไม่ทันตกถัง เขาก็ร้องไห้ออกมา อย่างหวาดกลัว “ผมบอก ผมบอก ผมบอกแล้ว…
“เข้าใจสถานการณ์แล้วก็ดี
ชนัยปล่อยเขา ไก่สารภาพด้วยความสั่นเทาไปหมด ผู้หญิงคนนั้นถูกคนของแก๊งมังกรจับไปเมื่อคืนที่ซาก ปรักหักพังของอาคารทางตอนเหนือใกล้กับแม่น้ำสลั
“ทําไมพวกเขาถึงลักพาตัวเธอ” “ผมไม่แน่ใจรายละเอียดในเรื่องนี้นะ ผมแค่ขับรถให้ พวกเขา ไม่รู้เรื่องอื่นจริง ๆ ดูเหมือนว่ามีคนจ้างพวกเขา แต่ก่อนที่ผมจะกลับได้เห็นผู้หญิงสองคนคนหนึ่งแก่ กว่ากับอีกคนหนึ่งที่อายุน้อยกว่า”
“รับขึ้นไปทางเหนือของเมือง”
ปยุคหันหลังแล้วเดินจากไป เบื้องหลังมีเสียง ตะโกนของไก่ “ท่านทั้งหลาย อย่าบอกนะว่าผมบอก พวกคุณไปแล้ว ไม่เช่นนั้นแก๊งมันกรต้องฆ่าผมแน่….
มาถึงซากตึกปรักหักพัง ปยุคเข้าไปข้างในก่อน ตามด้วยขนัย หันมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของ ผลิน เวลานั้นก็เกิดความวิตกกังวล มือปืนที่มีดวงดา เฉียบคมชี้ไปยังพื้นและพูดขึ้นว่า “ท่านประธานครับ ตรง นี้มีเลือด
เมื่อสายตาของปยุดมองตามไปตรงทิศทางของนิ้ว มือ ก็หน้าซีดเผือด ทันใดนั้นก็ตะโกน “ผลิน ผลิน ผลิน คุณอยู่ที่ไหน
ทุกคนก็ต่างออกค้นหา มองไปด้วยตะโกนไปด้วย “นายหญิงครับ นายหญิง…” ในห้องแคบ ๆ ที่มืดมิด หลายครั้งทีผลินคิดว่าตัว เองใกล้จะตาย แต่ทุกครั้งในตอนที่เกือบจะไม่ไหว ก็ จะได้ยินเสียงของแม่พูดว่า “หนูลิน นอนไม่ได้นะ อย่า หลับเด็ดขาด ฆาตกรที่ข่มเหงเราแม่ลูกยังคงลอยนวล อยู่ หนูต้องอดทน เพื่อสักวันหนึ่ง ให้พวกเขาจ่ายใน ราคาที่เหมาะสม”
“ผลิน…ลบ…สน…”
ในหมอกควัน เธอได้ยินเสียงเรียกของ ยุต พยายามพยุงร่างกาย คลานไปบนพื้นช้า ๆ ทั่วทั้งห้อง มีเพียงแสงที่ส่องมาจากทางช่องว่างของประตู และ นั่นคือแสงสว่างในตอนนี้ที่เป็นความหวังเดียวของผลิน เธอไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองต้องตายลงที่นี่ จึงใช้ความ พยายามอย่างเต็มกำลัง เธอจะต้องให้ปยุตรู้ให้ได้ว่า เธออยู่ที่นี่
ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น แม้ว่า แต่ละก้าวทุกครั้งที่ก้าวไป ทั้งร่างกายและจิตใจต้อง เจ็บปวด เธอยังคงตั้งใจที่จะตะเกียกตะกายไปที่ประตู ใช้ความพยายามเฮือกสุดท้ายเขย่าประตูที่ล็อกอยู่ อย่างแรง คนที่กำลังค้นหาอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นพอดีได้ยิน เสียงผลักประตู ก็รีบเดินไปมองผ่านรอยแยกของประตู เข้าไป ร้องเรียกด้วยความตกใจ “วันนี้ นายหญิงอยู่ในนี้ ครับ!”
เมื่อได้ยินว่าพบผลินแล้ว ทุกคนก็วิ่งเข้าไปยังห้อง มีด พวกเขาเอาเครื่องมือออกมาจากรถ นํามาปลดล็อก ประตูที่ปิดจนมันแตกออก ปยุคเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไป
ในวินาทีถัดไป ทันใดนั้นเขาก็กุมหน้าอก และค่อย ๆ ย่อตัวลงกับพื้น เอื้อมมือลงไปหาผลิน แล้ว เรามออก มาอย่างเหลือทน “ใคร ใครมันทรมานคุณแบบนี้”
หัวใจเหมือนจะระเบิด เจ็บปวดจนหายใจไม่ออก เขา ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นลินถูกทำร้ายจนผิวแตกขนาดนี้ ทนไม่ได้ที่จะต้องมาเห็น
ผลินที่อ่อนแอนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา อยาก จะขยับริมฝีปากเพื่อพูด แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ ดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำใสไหลออกมาจากหางตาหยด ลงบนมือของเขา “คุณยุต..”
ปยุคกอดเธอเอาไว้แน่นอย่างเจ็บปวด ริมฝีปากพูด ติด ดริมใบหูของเธอ “ลิน คุณพูดเลย ผมฟัง ผมฟัง
อยู่”
“ฉันเจ็บมาก…” ผลินพยามพูดออกมาได้สามคำ แต่เพียงแค่สาม ค่านั่นก็เหนื่อยจนไม่ไหว ปยุคหัวใจแตกสลาย ร้องไห้ ออกมาอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ ” น ผมขอโทษที่ไม่ ได้ปกป้องคุณ ทําให้คุณต้องถูกพวกมันทําร้ายแบบนี้ ทําให้คุณต้องถูกทําร้ายแล้วยังมาถูกขังในห้องมืด อีก!!”
ยุดร้องไห้อย่างขมขื่น มันผ่านมาสามสิบปีแล้ว จากครั้งแรกที่ร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น ที่ร้องไห้เพื่อผู้หญิง
“ลินของผม คุณจะต้องเจ็บมากแค่ไหน คุณจะสิ้นหวัง มากขนาดไหน กลัวมากเท่าไร ทำอะไรไม่ถูกขนาด ไหน ฮือ..ฮือ..ฮือ…”
ปยุต ร้องออกมาเหมือนใจจะขาด จนถึงตอนนี้เขาก็ เข้าใจ ว่าอะไรคือความเจ็บปวดที่แท้จริง
ความเจ็บปวดที่แท้จริงก็คือ เมื่อคุณเห็นคนที่คุณรัก มากที่สุดถูกทรมานอย่างเจ็บปวดจนเนื้อตัวม่วง มีแต่ เลือดเป็นรอยแผล และคุณไม่สามารถแบ่งปันความเจ็บ ปวดของเธอได้เลย
ชนัยเองก็มีน่าตาไหลออกมาด้วย เขาติดตามป ยุดมาหลายปี ไม่เคยเห็นเขาแตกสลายขนาดนี้ เจ็บ ปวดขนาดนี้ เศร้าโศกขนาดนี้ ทุกคนต่างร้องไห้ ถึง จะเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ภายใต้ความ แข็งแกร่งนั้น ทว่าหัวใจก็ยังคงเป็นก้อนเนื้อที่อ่อนนุ่ม ธรรมดา
“ท่านประธานครับ อย่าเศร้าไปเลย นายหญิงบาดเจ็บ สาหัส ต้องรีบนําส่งโรงพยาบาล”
ชนัยก้าวออกไปเดือน เมื่อนั้นปยุคถึงได้ตื่นขึ้นมา จากความเศร้าโศก อุ้มผลินขึ้น รีบไปยังรถที่จอดอยู่ข้าง นอก เร็วเข้า ขับรถไปเร็ว ๆ
ชนัยรีบสตาร์ตรถ มุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางของเมือง เมื่อครึ่งทางผ่าน ก็มองไปที่กระจกหลัง ยังคงเห็นปยุต มองผลินแล้วน้ำตาไหล อดสงสัยไม่ได้ว่า ครั้งนี้ เขา อาจจะได้สัมผัสกับความรู้สึกที่แท้จริงเข้าแล้ว
อย่างที่หนังสือได้บอกไว้ ที่ผู้หญิงร้องไห้ เป็น เพราะการยอมแพ้ แต่ถ้าผู้ชายร้องไห้ นั่นเป็นเพราะ ความรักที่แท้จริง
“ลิน รอเดี๋ยวนะ เราจะไปถึงที่นั่นในไม่ช้านี้แล้ว จะไม่ ต้องเจ็บแล้วนะ” ปตกดจูบลงบนหน้าผากของผลินซ้ำแล้วซ้ำอีก นํ้าตา แลดลงบนแก้มของเธอ ผลิบที่แม้จะมึนเบลอ ก็ ยังรู้สึกถึงน่าตาร้อนของปยุตชัดเจน ถึงเธอพูดไม่ได้ แต่ก็ปลอบเขาด้วยหัวใจ “อย่าเศร้าไปเลย ฉันไม่เป็นไร คุณปยุต คุณเปรียบว่าฉัน ผลินคนนี้เป็นแมลงสาบ เพราะฉะนั้นแค่นี้ มันไม่ทำให้ฉันล้มลงหรอก”
ไปถึงโรงพยาบาล ผลินถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน หมอตกใจเมื่อเห็นบาดแผลที่บาดเจ็บจนน่ากลัวของเธอ คิดว่าคนทําต้องมีหัวใจที่โหดเหี้ยมมากขนาดไหน ถึง ได้กระทําการ โหดร้ายถึงเพียงนี้
ปยุคสูบบุหรี่มวนต่อมวน ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีเดียว ที่จะระงับหัวใจที่เป็นห่วงของเขาได้ ขนัยห้ามปรามเขา “ท่านประทานครับ ร่างกายของคุณยังไม่หายดี สูบบุหรี่ ให้น้อยลงหน่อยเถอะ นายหญิงจะไม่เป็นไรแน่
“ฉันต้องการให้นายหาข้อมูลมาให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะ เป็นไปได้
แววตาของปยุคสะท้อนถึงความเยือกเย็นโหดเหี้ยม เมื่อคิดถึงบาดแผลบนร่างกายของผลิน เขาอยากจะจับ คนร้ายมาฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ได้ครับ ผมจะตรวจสอบมันทันที”
หลังจากที่ชนีบเดินจากไปไม่นาน หมอก็ออกมา จากห้องฉุกเฉิน เขารีบวิ่งไปข้างหน้า และรีบเอ่ยถาม “ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้างครับ
ทําความสะอาดบาดแผลภายนอกให้เรียบร้อยแล้ว บาดแผลพวกนั้นไม่มีอะไรร้ายแรง แต่ต้องใช้เวลากับ การรักษาอาการบาดเจ็บภายใน
“อะไรคือบาดแผลภายในเหรอครับ”
“ผู้ป่วยทุกข์ทรมานกับการเป็นโรคกลัวที่แคบใช่ไหม
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ถูกต้องแล้ว ความทรมานทางจิตใจที่ เจ็บปวดนั้นได้รับผลกระทบมาก น่าจะเกิดจากการที่ ตนเองมีความแค้นจากการได้รับความอัปยศและการ ทารุณกรรมมาเป็นระยะเวลานาน
มือสองข้างของปยุต าแน่น เขาถามด้วยเสียงอัน สั่นเครือ “ผมขอเข้าไปเยี่ยมเธอได้ไหมครับ “มันขึ้นอยู่กับสภาพการฟื้นฟูของตัวผู้ป่วย เมื่อใดที่ บได้สติขึ้นมา เมื่อนั้นก็สามารถเข้าเยี่ยมได้
ครับ”
ผลินหมดสติไปทั้งวันทั้งคืน ปยุดเจ็บปวดทุกข์ ทรมานอยู่กับการรอคอย ในที่สุดก็เข้าใจแล้วกับที่ผลิน พูดความรู้สึกออกมาในวันนั้น “คุณรู้มั้ยว่าผมกลัวมาก แค่ไหน หลายวันมานี้ ผมกลัวมากแค่ไหนคุณรู้บ้างไหม กลัวว่าคุณจะไม่ตื่นข้นมาอีก กลัวว่าคุณจะทิ้งผมไปทั้ง ๆ แบบนี้…”
ตอนนี้ เขาก็กลัวเหมือนกัน กลัวว่าผลินจะเหมือน เช่นจันทร ท้จากเขาไป
จนถึงช่วงกลางคืน ก็โทรศัพท์จากทางโรงพยาบาล กลับไปบ้านเพื่อแจ้งข่าวของผลิน คุณนายท่านโล่งใจ ที่ลูกชายกลับมา แต่ทันใดนั้นเมื่อได้ยินว่าลูกสะใภ้ถูก ลักพาตัวไปและตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ในช่วงเวลานั้น ก็เกิดอาการรับไม่ได้จนเป็นลมหมดสติไป
เมื่อตื่นขึ้นมาคุณนายท่านก็ร้องไห้จะไปพบลูกสะใภ้ ธามันจึงปลอบเธอ อย่าเศร้าไปเลย ลูกสะใภ้ของเราไม่ เป็นไรแล้ว บ้านยุ่งเหยิงพอแล้ว คุณอย่าสร้างปัญหาอีก ได้ไหม”
โดยความหมายแล้ว เขา ภรรยาว่าไม่ควรเป็นลม แล้วทําให้ครอบครัวต้องเป็นห่วงเพิ่มขึ้นอีก
เช้าวันรุ่งขึ้น ชนัยมาที่โรงพยาบาล เหลือบมองไป ยังเตียงที่มีผลินยังไม่ได้สติ และสอบถามปยุต “ท่าน ประธานครับ ผมพาผู้ชายคนหนึ่งมาด้วย เขารู้เรื่องที่ เกิดขึ้นกับนายหญิง”
ให้เข้ามา
ปยุคจับมือของผลิน ราวกับว่าคนเดียวที่ผ่านมันช่าง
ยาวนานแสนนาน
ชนัยตะโกนไปยังประตู
“เข้ามา”
คนที่เข้ามาคือตีรณ เมื่อเขาเห็นหลานสาวนอนอยู่ บนเตียง ก็ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น ปยุตขมวดคิ้ว “คุณคือ?”
ตีรถแนะนําตัวพร้อมกับสะอื้น “ฉันเป็นลุงของยา ยลิน ซ๊อสรณ”