ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 238 คุณควรไตร่ตรองให้ดี
ฉินเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แน่นอนว่าเขารู้ว่าถังหยิงกำลังคิดอะไรอยู่
“ผู้อาวุโสหยูตำรงตำแหน่งอยู่ที่ ตำหนักเทพโอสถมาตั้งหลายปี สร้างชื่อเสียงให้ ตำหนักเทพโอสถมาไม่น้อย ถึงแม้ว่าวันนี้จะถูกลดขั้นไปแล้ว แต่เธอก็ยังเป็นคนที่มีคุณสมบัติและทรงเกียรติที่สุดคนหนึ่ง” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวออกมา
“เธอมีเกียรติ? ฮ่าฮ่า หยูฉงชือคนนี้ใจร้ายโดยเนื้อแท้ เธอจะไปมีเกียรติได้อย่างไร?” ในตอนนั้น จู่ๆผู้อาวุโสอันก็พูดออกมา
“พูดอีกอย่าง ใครบางที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินเฉิง? แบบนี้ไม่ได้หมายความว่ายกคะแนนโหวตให้กับถังหยิงไปฟรีๆหรอกเหรอ?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉินเฉิงก็หันหน้าไปหาผู้อุโสอัน และส่งสายตาขอบคุณไป
ถังหยิงพูดออกมาว่า “ถ้าพูดแบบนั้น การที่ท่านเจ้าสำนักขยายเวลาออกให้ฉินเฉิง แบบนี้จะถือว่าเป็นการโกงหรือไม่?”
“ห๊ะ!”
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นอดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้นมา
กล้าถามถึงความรับผิดชอบจากท่านเจ้าสำนัก เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?
ท่านเจ้าสำนักเงยหน้าขึ้น และมองไปที่ถังหยิง
จากนั้นพ่นลมหายใจออกมา และพูดว่า “ได้ งั้นเอาตามที่นายพูด”
“ท่านเจ้าสำนัก นี่มัน….” ผู้อาวุโสอันกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ถูกท่านเจ้าสำนักห้ามเอาไว้
หยูฉงชือเดินมาถึงท่ามกลางผู้คน สีหน้าของเธอดูตื่นตระหนก
ตอนนี้สามารถพูดเลยได้ว่าชีวิตของทั้งสองคนกำลังอยู่ในกำมือของเธอ
“ผู้อาวุโสหยู เชิญลงคะแนน” ถังหยิงยิ้มและพูดออกมา
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่ายังไงเขาก็จะได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งของผู้อาวุโสอย่างแน่นอน
ส่วนแววตาของหยูฉงชือนั้นซับซ้อน เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเฉิงและก็แอบเหลือบไปมองซูวาน
หลังจากนั้นร่างกายของเธอก็สั่นเล็กน้อย พูดออกมาว่า “ฉันไม่ลงคะแนนได้ไหม?”
“แน่นอนว่าไม่ได้” ผู้อาวุโสใหญ่พูดออกมา
หยูฉงชือกัดฟันแน่น จากนั้นสูดลมหายใจเข้า และพูดออกมาว่า “คะแนนนี้ฉันให้ฉินเฉิง”
อะไรนะ? หยูฉงชือโหวตให้ฉินเฉิง?
ขนาดฉินเฉิงเองยังตกตะลึง
หยูฉงชือเปลี่ยนไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้! ใจคนยากที่จะเปลี่ยน และยิ่งเป็นคนอย่างเธอยิ่งยากเข้าไปใหญ่!
หรือว่าเธอถูกซูวานทำให้ตกใจ?
“ผู้อาวุโสหยู คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม” ถังหยิงถามออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง พร้อมกับกำหมัดแน่น
หยูฉงชือพยักหน้าและพูดออกมาว่า “ไม่ได้ล้อเล่น ฉันโหวตให้ฉินเฉิงจริงๆ”
หลังจากพูดจบเธอก็หันหลังและเดินออกไป
“หยูฉงชือ!” ถังหยิงกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่ไหว จู่ๆเขาก็ยกมือขึ้นและโจมตีไปที่หยูฉงชือ!
เขาไม่กล้าลงมือกับท่านเจ้าสำนัก ดังนั้นเขาจึงเอาความโกรธทั้งหมดไปลงกับหยูฉงชือ!
“ฟู้วววว!”
ในตอนนั้นท่านเจ้าสำนักยกมือขึ้น ออร่าสีฟ้าของเธอก็พัดถังหยิงกระเด็นออกไปด้านนอก
ถังหยิงล้มลงท่ามกลางฝูงชน เขากระอักออกมาเป็นเลือด
คนที่อยู่รอบๆของถังหยิงรีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันทีและพูดออกมาเบาๆว่า “ถังหยิง นายกล้าก่อเรื่องต่อหน้าท่านเจ้าสำนักได้อย่างไร? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?”
ถังหยิงกัดฟันแน่น เขากำลังพยายามเก็บอารมณ์และสีหน้าของเขา
“พอแค่นี้เถอะ ฉันขอประกาศอย่างเป็นทางการ ตำแหน่งของผู้อาวุโสยังคงตกเป็นของฉินเฉิงต่อไป” ท่านเจ้าสำนักพูดออกมา
หลังจากนั้นเธอก็หันไปหาถังหยิงและพูดออกมาว่า “นายยังมีปัญหาอะไรอีกไหม?”
ถังหยิงกัดฟัน พยายามปิดกั้นความโกรธเอาไว้และพูดออกไปว่า “ไม่มีครับ”
“อ่า งั้นก็เอาเป็นว่าแบบนี้” พูดจบท่านเจ้าสำนักก็หาวออกมา “ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพักก่อน”
หลังจากที่ท่านเจ้าสำนักเดินออกไป ถังหยิงก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของฉินเฉิง
เขากัดฟันและพูดออกมาว่า “ฉินเฉิง นายมันคนเจ้าเล่ห์”
ฉินเฉิงขมวดคิ้วและพูดออกมาว่า “ฉันไปทำอะไรนายตอนไหน?”
ถังหยิงพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น “นายอย่าคิดว่ามีท่านเจ้าสำนักอยู่ด้วยแล้วนายจะทำอะไรก็ได้ ฉันจะบอกนายเอาไว้ ฉันกับนายไม่จบแค่นี้แน่!”
“เอ๋?” ฉินเฉิงพยักหน้า “ถ้าหากนายยังไม่พอใจ พวกเราออกไปลองกันข้างนอกสักหน่อยก็ได้นะ”
พูดจบพลังปราณในร่างกายของฉินเฉิงก็ระเบิดออกมาทันที
ใบหน้าของถังหยิงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และเขาก็ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
ในใจของเขาโกรธมากที่เขาไม่สามารถเอาชนะฉินเฉิงในเรื่องของการกลั่นยาได้ แต่ทางด้านของการต่อสู้เองเขาก็ทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้แค่อดทนกับความเจ็บปวดเอาไว้!
“นายมันคิดไปเอง” ฉินเฉิงมองไปที่เขาอย่างสงบแล้วพูดออกมา “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันชนะนายด้วยความใสสะอาด ก็แค่การใช้เวลานานหน่อยในการปรุงยา ถ้าหากนายต้องการท่านเจ้าสำนักก็คงไม่ปฏิเสธนายเหมือนกัน”
ใช่ การประลองของพวกเขาไม่ได้มีกฎเกณฑ์ทางเรื่องของเวลาตั้งแต่แรก
แต่เมื่อถังหยิงได้ยินคำพูดนี้จากฉินเฉิง เขาก็จ้องไปที่ฉินเฉิงด้วยความแค้น ในใจของเขาคิดจะฆ่าฉินเฉิงเป็นหมื่นๆครั้งแล้ว!
“ฉันเองก็ต้องไปพักผ่อนแล้ว” ฉินเฉิงหาวออกมา การกลั่นยาในครั้งนี้กินพลังงานไปไม่น้อย ดังนั้นตอนนี้เขาเองก็ง่วงจนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว
“ฉินเฉิง รอเดี๋ยว” ในตอนนั้นจู่ๆชูชีเชิงก็เดินเข้ามา
“คุณชู คุณมีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?” ฉินเฉิงถาม
ชูชีเชิงยิ้มและพูดออกไปว่า “ฉินเฉิง ตอนนี้นายอายุยังน้อยแต่สามารถทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ อนาคตของนายจะต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน! ฉันมีควมคิดว่าอยากจะชวนนายเข้ามาอยู่ในตระกูลชูของฉัน ไม่รู้ว่านายคิดอย่างไง?”
ชูชีเชิงคนนี้เป็นจิ้งจอกเฒ่า ที่เขามาพูดกับฉินเฉิงแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการแค่ความสามารถของฉินเฉิงเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่เขาต้องการมากกว่านั้นคือ ตำหนักเทพโอสถที่อยู่เบื้องหลังของเขาด้วย
เมื่อสักครู่ท่าทางของท่านเจ้าสำนักนั้นแสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสนใจและกำลังปกป้องในตัวของฉินเฉิงอยู่ ตราบใดที่เขาได้ฉินเฉิงมาอยู่ในมือ ทาง ตำหนักเทพโอสถจะต้องให้ความสำคัญกับเขามากกว่าเดิมแน่ แถมยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของตระกูลชูกับตระกูลซูอีก แบบนี้มันจะช่วยให้เขายิ่งใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฉินเฉิงเองก็ไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเขารู้ว่าชูชีเชิงกำลังคิดอะไรอยู่
ดังนั้นเขาจึงตอบไปตามนิสัยของเขาว่า “คุณชู คุณไม่รู้หรือว่าผมมีความแค้นกับตระกูลซู? แม้ว่าตระกูลชูและตระกูลซูจะเป็นคู่แข่งกัน แต่กลับทะเลาะกันอย่างลับๆมาหลายปีแล้ว ถ้าผมเข้าร่วมกับตระกูลชู นั่นเท่ากับประกาศสงครามกับตระกูลซู”
ชูชีเชิงหัวเราะออกมา “ขอแค่นายยินยอม ฉันสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของนายดีขึ้นได้”
“เป็นไปไม่ได้” ฉินเฉิงสายหัวและตอบออกมาอย่างไม่ลังเล
“อาจเป็นไปได้ว่าตระกูลซูเสนอเงื่อนไขที่นายพอใจ?” ชูชีเชิงพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจ
ฉินเฉิงเยาะเย้ยและกล่าวว่า “คุณชู คุณดูถูกตระกูลซูเกินไปหรือเปล่า ตระกูลซูถือว่าตนเองนั้นอยู่เหนือกว่าใคร เขาไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตาด้วย แล้วเขาจะยอมถอยได้อย่างไร?”
ถึงแม้จะไม่อยากจะยอมรับ แต่นี่มันก็เป็นเรื่องจริง
ที่เขาคิดอยู่ในใจคือ ขอแค่ฉินเฉิงรับปาก เมื่อถึงเวลานั้นเขาค่อยไปคุยเรื่องเงื่อนไขที่พอรับได้เพิ่มเติมก็พอ
“มันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ชูชีเชิงพูดออกมา “แล้วถ้าตระกูลซูยอมรับหละ?”
“ก็ดีสิ” ฉินเฉิงยิ้มออกมา “ขอแค่ผู้อาวุโสหญิงของตระกูลซูยอมสละตำแหน่งผู้นำให้กับซูวาน ผมก็จะตกลง”
เมื่อเสียงเงียบลง สีหน้าของชูชีเชิงก็เปลี่ยนไปทันที
พูดแบบนี้มันบ้าเกินไปหรือเปล่า? ให้ผู้อาวุโสหญิงตระกูลซูสละตำแหน่ง? นั่นมันฝันชัดๆ!
“ฉันเคยรับปากกับซูวานเอาไว้” ฉินเฉิงยิ้มออกมา “ต้องมีสักวันที่ผมจะพาเธอกลับไปที่บ้านของตระกูลซู และอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดของจิงตู”
ดวงตาที่สวยงามของซูวานมีความหวั่นไหว
จากนั้นไม่นานชูชีเชิงก็พูดออกมาว่า “ไม่มีเงื่อนไขอื่นแล้วเหรอ?”
“ไม่มีแล้วครับ” ฉินเฉิงพูดออกไปอย่างจริงจัง “ดังนั้นคุณชูควรจะกลับไปไตร่ตรองให้ดีก่อน”