ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 254 ของขวัญของซูวาน
ฉินเฉิงยิ้มไม่ได้พูดอะไร
คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา พวกเขาไม่เข้าใจการต่อสู้ของจอมยุทธ์
ฉินเฉิงไม่ได้สนใจ ถ้าพวกเขาถูกโจรสลัดสกัดเอาไว้ ก็คงต้องสมน้ำหน้า
ทางเข้างานประมูล ผู้คนเข้ามาเรื่อยๆ ทุกคนดูหยิ่งผยองพองขน
จะมีการโค้งคำนับเมื่อพบคนที่มีสถานะสูงกว่า และเฉยเมยเมื่อพบคนที่มีสถานะต่ำกว่า
“หนิงตง ทำอะไรอยู่กับเจ้าหนุ่มนี่” ขณะนั้นหยวนเหมิงก็มานั่งลงข้างหนิงตง
หนิงตงเหลือบมองเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยหยวนก็มาหรือนี่”
หยวนเหมิงถอนหายใจ “ขนาดนายยังมา ฉัน็ต้องแน่นอน!”
หลังจากนั้น หยวนเหมิงก็กระซิบบอกหนิงตงว่า “นายควรอยู่ห่างเจ้าหนุ่มที่ไว้นะ รู้ไหม”
หนิงตงยิ้มและพูดว่า “โอเค ฉันรู้แล้ว ขอบคุณนายน้อยหยวนที่เตือน”
แม้ว่าเสียงของพวกเขาจะเบา แต่ฉินเฉิงก็ได้ยินชัดเจน
ทำให้เขาเห็นว่า หนิงตงเป็นคนที่ไม่ได้เชื่ออะไรใครง่ายๆ เขามีจุดยืนเป็นของตัวเองอย่างชัดเจน
แน่นอนว่าฉินเฉิงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ เขามางานประมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือเพื่อสร้อยรักชั่วนิจนิรันดร์
ฉินเฉิงจะต้องนำสร้อยนี้กลับไปให้ได้
“หืม?”
ฉินเฉินจับญาณของตัวเอง
แม้ว่าจะเพียงชั่วครู่ แต่ฉินเฉิงก็รับรู้ได้!
รู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่าง ทำให้ฉินเฉิงประหลาดใจ
“ดูเหมือนว่ามีคนกำลังจับตาดูการประมูลครั้งนี้อยู่” ฉินเฉิงคิดกับตัวเอง “พูดให้ถูกคือ เขากำลังจับตาดูเรือสำราญลำนี้”
ฉินเฉิงเงียบ เขาใช้ญาณเพื่อพยายามหาบุคคลนี้อย่างเงียบๆ
แต่น่าเสียดาย อีกฝ่ายมีวิธีในการปกปิดตัวตน ฉินเฉิงจึงไม่จึงไม่เจอตัวเขา
การประมูลเริ่มขึ้นในไม่ช้า ของชิ้นแรกถูกประมูลในราคากว่าร้อยล้าน
“ไม่เสียแรงที่เป็นการประมูลขนาดใหญ่ ในปินโจวไม่น่าจะมีการประมูลแบบนี้” ฉินเฉิงพึมพำ
ซูวานพยักหน้าและกล่าวว่า “ราคาของชิ้นแรกๆยังเป็นร้อยล้าน ราคาของชิ้นหลังๆคงจะสูงมากๆ ”
“ฮ่าๆ มันก็แค่ร้อยล้านเอง ” หยวนเหมิงอดหัวเราะเยาะไม่ได้ “ซูวานไปอยู่ปินโจวซะนาน เลยเหมือนคนที่โน่นซะแล้วมั้ง”
ซูวานไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของหยวนเหมิง
แต่ยิ่งซูวานเมินเขามากเท่าไหร่ เขายิ่งได้ใจ
“ดูสิ เป็นจอมยุทธ์มันจะช่วยอะไรได้? ” หยวนเหมิงชี้ให้เห็น “ในยุคนี้ เงินคือราชา!”
“นายอย่าพูดมากนักเลย” ฉินเฉิงเหลือบขมวดคิ้วแล้วมองเขา
หยวนเหมิงจึงไม่กล้าพูดต่อ
ถ้าที่นี่ไม่ใช่จิงตู ตระกูลหวังกับตระกูลหยวนคงมาไม่ถึงเกาะหนานโจวแน่ๆ
“ของชิ้นต่อไปที่จะทำการประมูลคือคริสตัลสีทองล้ำค่า” ขณะนั้นพิธีกรได้ประกาศ “ตอนนี้ที่เหมืองคริสตัลสีทองปิดลง ในตลาดจึงหามันแทบไม่ได้ คริสตัลทองนี้จึงถือเป็นของล้ำค่าในโลก เป็นของที่เหมาะจะนำไปเป็นของขวัญแต่งาน ราคาเริ่มต้นที่ 200ล้าน !”
หลังจากเสียงจบลง ผู้คนก็พากันซุบซิบ
“ตอนนี้มีคริสตัลสีทองไม่มากนัก” หนิงตงพยักหน้าเล็กน้อย “ก้อนใหญ่มาก สองร้อยล้านคุ้มจริงๆ”
“ฉินเฉิง นายไม่ซื้อมันให้ซูวานหรือ?” หยวนเหมิงเงยหน้าขึ้นถาม “ซูวานสวยขนาดนี้ นายจะไม่ลังเลเลยหรือ?”
ฉินเฉิงเหลือบมองเขาและกล่าวว่า “ฉันไม่สนใจคริสตัลสีทองนี้”
“ไม่สนใจหรือไม่มีเงิน?” หยวนเหมิงพูดแขวะ
จากนั้นเขาก็เอนตัวไปด้านหน้าของซูวานและยิ้ม “ซูวาน เธอชอบคริสตัลสีทองนี่ไหม? ให้ฉันซื้อให้เธอไหม? ”
ซูวานยิ้มและพูดว่า “เรื่องของคริสตัลสีทองปล่อยไปก่อนเถอะ ฉันเห็นแฟนคุณไปอยู่กับนายน้อยหวังนะ”
ใบหน้าของหยวนเหมิงเปลี่ยนไป จากนั้นก็สบถว่า”เห็นฉันเป็นของเล่นหรือไง!”
“หรือว่า นายน้อยหวังจะชอบของๆคุณ” ซูวานยิ้ม
ใบหน้าของหยวนเหมิงดูเซ็ง และไม่รู้จะตอบอะไร
เขาพึมพำกับตัวเอง โดยไม่พูดอะไรออกมา
คริสตัลสีทองถูกนายน้อยหวังประมูลไปในราคา 300 ล้าน เพียงแค่นายน้อยหวังอ้าปากพูดราคา ทุกคนต่างก็เงียบปากลง
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครต้องหาเรื่องกับนายน้อยคนนี้
ฉินเฉิงรอเป็นเวลานานในการประมูลครั้งนี้ แต่ไม่มีเห็นมีของล้ำค่ามากนัก
“คนรายพวกนี้แปลกจริงๆ” ฉินเฉิงคิดกับตัวเองว่าหากมีของล้ำค่ากว่านี้ มันจะดึงดูดนักสู้หลายคนอย่างแน่นอน
ฉินเฉิงเอนกายลงบนโซฟาและหลับตาลงเพื่อรอสร้อบรักชั่นนิจนิรันดร์
การประมูลจัดอย่างยิ่งใหญ่ โซฟาที่ใช้จึงเป็นโซฟาคุณภาพชั้นหนึ่ง ที่เบาะสามารถปรับได้
หลังจากที่ฉินเฉิงปรับเบาะเสร็จ เขาก็หลับตาลงเล็กน้อย
“ฮ่าๆ ไม่สนุกเหรอ จะนอนซะแล้ว? ” หยวนเหมิงพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “เป็นไง สบายกว่าโซฟาที่บ้านนายไหม?”
ได้ยินเสียงจ้อไม่หยุดของหยวนเหมิง ทำให้ฉินเฉิงนึกถึงฉูเป่ยชวน
ถ้าฉูเป่ยชวนอยู่ที่นี่ คงเอาอะไรยัดปากหยวนเหมิงไปแล้ว
ตอนนั้นเอง นาฬิกาข้อมือผู้ชายถูกนำออกมาประมูล
ว่ากันว่านาฬิกาเรือนนี้ออกแบบโดยชาวสวิส โดยมีชิ้นส่วนที่มาจากทะเลลึก และมีชิ้นเดียวในโลก
ดวงตาของซูวานเป็นประกาย เธอดึงแขนของฉินเฉิงมา แล้วถามว่า “นายชอบนาฬิกาเรือนนี้ไหม”
ฉินเฉิงเกาหัวและพูดว่า “ปกติฉันไม่ชอบใส่อะไรพวกนี้…”
“นายนี่ นายต้องรู้จักแต่งตัวบ้าง” ซูวานกลอกตา
นาฬิกาเรือนนี้เหมาะกับฉินเฉิงจริงๆ หน้าปัดไม่ใหญ่เกินไปและวัสดุมีความแข็งมาก แม้ว่าต้องต่อสู้กับใครก็ไม่จำเป็นต้องถอดออก
ราคาเริ่มต้นของนาฬิกาคือ 30 ล้าน เห็นได้ชัดว่าราคานี้ไม่ได้ดึงดูดใคร อย่างไรก็ตาม แค่นาฬิกาของวาเชอรอง คองสตองแตงก็มีมูลค่านับล้านเช่นกัน
“32 ล้าน!” ซูวานตะโกนพร้อมยกป้ายขึ้น
ทันทีที่ซูวานยกมือ หลายคนหันกลับมามองเธอ
“คนนี้ดูคุ้นๆ”
“หญิงสาวในตระกูลซูถูกไล่จากจิงตูไง”
“ถูกไล่ไปจากตระกูลซู แต่ยังร่ำรวยขนาดนี้เลยเหรอ? น่าทึ่งมาก”
“อย่าประมาทคุณปู่ซูไป การหาเงินไม่ใช่ปัญหาเขา”
หลายคนจำซูวานได้ และพวกเขาก็พากันกระซิบ
ซูวานดูเหมือนจะไม่สนใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ สีหน้าของเธอเหมือนไม่รู้สึกอะไร