ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 263 หนานหวางบทที่ 263 หนานหวาง
ระบบกันเสียงของห้องนี้ยอดเยี่ยมมาก และคนส่วนใหญ่ที่อยู่บนเรือลำนี้เป็นคนธรรมดา ดังนั้นหยวนเหมิงจึงไม่กลัวถ้าหากซูวานจะตะโกนออกไป
เมื่อมองกลับไปที่ใบหน้าของซูวาน ใบหน้าของเธอไม่มีอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใด
หยวนเหมิงกลืนน้ำลาย เขาทนไม่ไหวแล้ว ส่งเสียงแปลกๆออกมาและพุ่งเขาไปหาซูวานทันที!
“ควับ!”
ในตอนนั้นซูวานโบกมือออกไป พลังปราณที่ถูกปล่อยออกมาเหมือนกับใบมีดที่แหลมคม!
หยวนเหมิงผงะ เขารู้สึกได้แค่ว่ามีความหนาวเย็นเข้ามาปกคลุมที่เป้ากางเกงของเขา จากนั้นก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่รุนแรง!
“อ้า……!” หยวนเหมิงคุกเข่าลงทันที ขากำเป้าและตะโกนอย่างสิ้นหวัง “ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย!!! น้องชายของฉัน!!”
ซูวานพ่นลมหายใจออกมา และพูดออกไปว่า “ระบบกันเสียงของห้องนี้ดีมาก ต่อให้นายตะโกนให้คอแตกก็ไม่มีใครได้ยินหรอก แถมประตูนายก็เป็นคนล็อคเอาไว้ด้วยตัวเอง อยากจะหนีออกไปก็คงทำไม่ได้”
ใบหน้าของหยวนเหมิงน่าเกลียดมา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นคนขุดหลุมฝังตัวเอง!
ฉินเฉิงค่อยๆยืนขึ้น จากนั้นก็สวมเสื้อผ้าชั้นนอกเพิ่มเข้าไปและพูดออกมาว่า “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง”
หลังจากนั้นฉินเฉิงก็เดินออกไปนอกห้อง
เธอนั่งลงบนโซฟา ความเย็นในร่างกายของเธอค่อยๆลดลง จากนั้นเธอก็กลับมาเป็นคนธรรมดาอีกครั้ง
ถึงแม้จะบอกว่าไม่ใช่ร่างจริงของเธอ แต่พลังของเธอนั้นก็ยังน่ากลัวอยู่ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พลังของสุดยอดจอมยุทธ แต่ก็มีความแข็งแกร่งมากกว่าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่
แน่นอน ขีดจำกัดของร่างนี้มีเยอะมาก การที่ใช้พลังออกมาหนึ่งครั้ง มันก็ยิ่งทำให้อายุของร่างน้อยลงด้วย
……
สุดท้ายหยวนเหมิงก็ได้รับการช่วยเหลือ
บางทีอาจจะบอกได้ว่ายังไม่ถึงเวลาตายของเขา ชายหัวล้านบังเอิญเดินผ่านมาพอดีจึงได้ยินเสียงตะโกนของเขา
แต่ทางด้านของหยวนเหมิงก็ขายหน้าไม่น้อย เกือบทุกคนบนเรือเห็นฉากนี้! และแต่ละคนก็วิ่งเข้ามาถามว่าเขาเป็นอะไร
“หยวนเหมิงไปโดนอะไรมา? ทำไมถึงมีเลือดออกมาที่เป้ากางเกง?”
“หึหึ ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นขันทีไปแล้ว”
“รีบหยิบมันขึ้นมาเร็ว ไม่แน่ว่าบางทีอาจจะต่อมันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งก็ได้”
“ต่อได้ก็บ้าแล้ว บนเรือมีอุปกรณ์ผ่าตัดที่ไหน”
โชคดีที่บนเรือยังมีหมอที่ช่วยหยุดเลือดให้กับหยวนเหมิง จึงสามารถรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้
“หมอครับ ผมยังมีหวังที่จะมีลูกได้อีกหรือเปล่าครับ?” หยวนเหมิงถามด้วยท่าทางอ้อนวอน พร้อมกับกำแขนของหมอไว้
หมอส่ายหน้า ถอนหายใจและพูดออกมาว่า “น้องชายของคุณยังไม่มีเลย แล้วจะไปมีลูกได้อย่างไง?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น หยวนเหมิงก็หน้ามืดและหมดสติไปทันที
……
ผ่านไปพริบตาเดียว ฉินเฉิงก็ฝึกวิชามาได้ 5 วันแล้ว
5 วันที่ผ่านมานี้ไม่ได้มีเสียงดังหรือเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในห้องของฉินเฉิงเลยแม้แต่น้อย แต่ร่างกายของเขาก็กำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ
เขากับนักต่อสู้คนอื่นๆนั้นไม่เหมือนกัน การผสมผสานระหว่างพลังแห่งจิตวิญญาณกับร่างกายของฉินเฉิงนั้นสมบูรณ์แบบ และความเข้ากันของมันนั้นก็เหลือเชื่อมาก!
ทุกขั้นที่เขาพัฒนาขึ้นจะทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งราวกับไม่มีขีดจำกัด
ส่วนทางด้านของเกาะหนานโจว หนานหวางกำลังอารมณ์ไม่ดี
เขาเป็นผู้นำที่ไร้คู่คัดค้านในเกาะหนานโจว ทุกคนต่างให้ความเคารพเขา
“เรือสำราญนั่นยังไม่กลับเข้ามาอีกเหรอ?” บนตึกสูงของเกาะหนานโจว หนานหวางยืนอยู่ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขารีบอธิบายออกมาทันที “พวกเขาได้ติดต่อพวกเรามาแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงของการเดินทางกลับ”
ชายวัยกลางคนคนนี้ชื่อ หร่วนหยู เขาคือเจ้าของกิจการประมูล และเหตุผลที่เขาสามารถก้าวมาที่ตำแหน่งนี้ได้ นั่นก็เป็นเพราะหนานหวาง
หนานหวางมองไปที่เขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น และพูดออกมาแบบดุๆว่า “นายรู้ไหมว่าบนเรือลำนั้นมีใครอยู่บ้าง? พวกเขาเป็นลูกหลานของตระกูลชื่อดังที่มาจากจิงตู ถ้าหากพวกเขามาตายอยู่บนเรือลำนั้น อย่าว่าแต่นายเลย ฉันเองก็คงไม่รอด!”
หร่วนหยูคุกเข่าลงกับพื้นทันที เขาพูดออกมาด้วยความอ้อนวอน “ฉัน…ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่ามันจะเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น ฉันรับประกันว่าพวกเขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย!”
“ตามที่ฉันรู้มา บนเรือลำนั้นมีชายหนุ่มที่ชื่อฉินเฉิงอยู่ด้วย เขาเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง….” ในตอนนั้นเหมือนกับว่าหร่วนหยูคิดอะไรบางอย่างได้ เขารีบอธิบายออกมากับหนานหวางทันที
“ฉินเฉิง?” หนานหวางขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่แปลกสำหรับเขา
“ฉันจะบอกนายเอาไว้ให้ ถ้าหากมีใครบนเรือเป็นอะไรไปแม้แต่คนเดียว ธุรกิจการประมูลของนายก็ไม่ต้องมีแล้ว” หนานหวางพูดออกมา
หร่วนหยูที่คุกเข่าอยู่ไม่กล้าตอบโต้ เขาทำได้แค่ก้มหน้าลงเท่านั้น
และในตอนนั้นเลขาของเขาก็เดินเข้ามา
ในมือของเธอถือโทรศัพท์อยู่ เอนตัวและพูดว่า “หนานหวาง โทรศัพท์ของคุณคะ”
หนานหวางขมวดคิ้ว “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง ว่ามีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
เลขาคนนั้นพูดออกมาด้วยความลำบากใจ “แต่ว่า….โทรศัพท์สายนี้มาจากจิงตู”
หนานหวางถอนหายใจ เขาจับไปที่หน้าผากของตัวเอง เขารู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก
“ดูเหมือนว่าข่าวเรื่องนี้จะกระจายออกไปแล้ว”
ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามเก็บข้อมูลเรื่องนี้เอาไว้ไม้ให้แพร่กระจายออกไปราวกับว่าคนที่เกาะหนานโจวไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะควบคุมคนบนเกาะหนานโจวได้ แต่เขาจะสามารถควบคุมคนที่อยู่บนเรือได้เหรอ?
“งั้นเอามา” หนานหวางโบกมือและรับโทรศัพท์
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์มีเสียงที่ดังขึ้นอย่างเยือกเย็น “หนานหวาง?”
หนานหวางพยักหน้าและพูดออกมาว่า “คุณคือใครเหรอครับ?”
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบปัญหาเรื่องนี้ แต่กลับพูดออกมาว่า “หยวนเหมิงอยู่ที่เกาะหนานโจวใช่ไหม”
“ฉินเฉิง?” หนานหวางขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง
แค่เวลาสั้นๆแต่กลับได้ยินชื่อนี้ถึงสองครั้ง
“เหมือนจะใช่ แต่คุณคือใครครับ?” หนานหวางขมวดคิ้วและถามออกไป
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามนี้แต่กลับพูดออกมาอย่างเยือกเย็นว่า “ฉันต้องการให้นายช่วยฉันฆ่าเขา”
หนานหวางเริ่มหมดความอดทน “นายเป็นใครกันแน่ ถึงใช้ให้ฉันมาทำเรื่องแบบนี้ อย่างน้อยก็ช่วยบอกให้ฉันรู้หน่อยว่าใครเป็นคนออกคำสั่งนี้?”
อีกฝ่ายหนึ่งเงียบไป ไม่นานก็มีเสียงดังออกมาว่า “ฉันเป็นคนของตระกูลซูจากจิงตู”
เมื่อได้ยินแบบนั้นสีหน้าของหนานหวางก็น่าเกลียดขึ้นทันที
ตระกูลในจิงตูถือว่าเป็นตระกูลที่มีความพิเศษ แม้แต่ลูกหลานของคนพวกนี้หนานหวางยังไม่อยากที่จะไปมีเรื่องด้วย
แต่นี่เป็นถึงคนของตระกูลซู แน่นอนว่าเขาไม่มีทางที่จะไปยั่วยุพวกเขาแน่
“นายมีอะไรมาพิสูจน์ว่านายเป็นคนของตระกูลซู?” หนานหวางถามออกมาด้วยความสงสัย
อีกฝ่ายพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ แต่นายลองต่อต้านคำพูดของฉันดูก็ได้นะ”
หนานหวางเงียบไปพักหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ตอบออกมาว่า “ได้ ฉันรู้แล้ว”
หลังจากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์
“หลังจากที่เรือกลับมาแล้ว จับตัวฉินเฉิงเอาไว้ อย่าปล่อยเขาไปเป็นอันขาด” หนานหวางมองไปที่หร่วนหยูและพูดออกมา
หร่วนหยูขมวดคิ้วและถามออกมาว่า “แต่ว่า…ฉินเฉิงคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ด้วยลูกน้องที่อยู่ภายใต้คำสั่งของฉัน เกรงว่าคงไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะจับเขา….”
หนานหวางครุ่นคิดอยู่สักครู่และพูดออกมาว่า “งั้นฉันจะเชิญเขามาทานอาหาร”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” หร่วนหยูพยักหน้าและตอบกลับมา
คนที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือผู้พิทักษ์อาวุโส
เขาภักดีต่อตระกูลซูมาก และแม้ว่าเขาจะถูกไล่ออกจากตระกูลซู แต่เขาก็ยังต้องการขจัดปัญหานี้ให้ตระกูลซู
“หวังว่านายคงไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” ผู้พิทักษ์อาวุโสยืนอยู่ที่ริมหน้าต่างของโรงแรม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก