ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 281 หยั่งเชิง
ฉินเฉิงไม่สามารถทำทุกอย่างได้ ไม่อย่างนั้นในอนาคต เขาคงจะทำอะไรในจิงตูได้ลำบาก
แต่ถ้าจะให้ฟรีๆเลย มันคงจะไม่ยุติธรรมกับคนที่รออยู่ ดังนั้นฉินเฉิงจึงทำได้เพียงเท่านี้
“ได้ ไม่มีปัญหา!” ชางยี่ชิงพูดก่อน
สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเงิน
และราคาที่ฉินเฉิงเสนอนั้นก็ไม่สูงนัก เพียง 1 ล้านเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้ชางยี่และคนอื่น ๆรู้สึกประทับใจ
หลังจากส่งมอบสิ่งที่เรียกว่า “ยาแก้พิษ” ไปแล้ว ไฮไลท์ต่อไปคือการประมูลยาเม็ด
ยาครั้งนี้ธรรมดามาก แต่มีกลับมีผลลัพธ์มหัศจรรย์กับคนธรรมดา อย่างน้อยๆก็สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะปราศจากโรคภัยภายในสิบปี
สำหรับคนเหล่านี้แล้ว สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นราคาที่พวกเขาเรียกจึงค่อนข้างสูง ยาเม็ดเพียงสิบกว่าเม็ดมีราคาถึงสามถึงสี่ร้อยล้านหยวน
หลังจากการประมูลจบดลง ฉินเฉิงออกมาคำนับต่อหน้าทุกคน “ทุกคน จุดประสงค์ของการประมูลของฉันในวันนี้ ความจริงแล้วคืออยากขอให้ทุกคนช่วยฉัน”
เมื่อเขาขอให้ช่วย ทั้งโรงประมูลก็เงียบลงในทันใด
“ให้ช่วยหรอ ได้สิ” คุณชายหวางพยักหน้าเบา ๆ “แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่านายให้ช่วยอะไร หากเป็นเรื่องเล็กเราจะช่วยเต็มที่ แต่ถ้าขอให้เรารับมือกับตระกูลซู มันก็คงเป็นไปไม่ได้”
“คำพูดของคุณชายหวางถูกต้อง” ชางยี่พยักหน้าเล็กน้อย “พวกเราก็พอช่วยได้ พวกเราได้บุ่มบ่ามต่อตระกูลซูไปแล้ว”
คุณชายหวางไม่เกรงใจ ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันขอบอกก่อน ฉันไม่กลัวพวกตระกูลซู สถานการณ์ในจิงตูในตอนนี้ไม่ดี ไม่มีใครอยากไปรุกรานคนอื่น ทุกคนต้องการรักษาความมั่นคงและการทำเงินไว้”
“ใช่ ใครกันล่ะจะไม่ต้องการให้บริษัทของตัวเองเติบโตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ” คนอื่นๆก็ตามกันพูด
ฉินเฉิงยิ้มและพูดว่า “ทุกคนคิดมากเกินไปแล้ว ความขัดแย้งระหว่างตระกูลซูกับฉัน มันไม่เกี่ยวข้องกับทุกคน”
“ถ้าอย่างนั้นนายมีอะไรก็พูดมาตรงๆ” คุณชายหวางโบกมือ
ฉินเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันต้องการตั้งบริษัทในจิงตู และฉันคงต้องการการสนับสนุนจากทุกคน”
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพากันส่ายหัว
“ฉินเฉิง ฉันแนะนำให้นายยอมแพ้เถอะ ตั้งบริษัทหรอ แถมยังอยู่ในจิงตูด้วย คงไม่ดีหรอกที่จะตั้งบริษัทอยู่ภายใต้จมูกของตระกูลซู มันจะไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ก็ใช่ นายดูถูกตระกูลซูเกินไป สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลซูในจิงตูก็คือเครือข่าย บางทีพวกเขาอาจจะล้มละลายหรือแม้แต่ติดคุกได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว”
“ถึงนายจะตั้งใจตั้งบริษัทจริงๆ ก็ตาม แต่ต้องไม่ใช่ที่จิงตู ไม่ลองไปที่ไห่เฉิงดูล่ะ”
ฉินเฉิงเอามือจับคาง อันที่จริง เขาไม่ได้ตั้งใจจะตั้งบริษัทจริงๆ ส่วนเหตุผลที่พูดแบบนี้ก็เพื่อเช็คดูว่าพลังของตระกูลซูในจิงตูไปถึงไหนแล้ว
ตอนนี้ดูเหมือนว่าตระกูลซูจะมีชื่อเสียงจริงๆ
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนดังในจิงตู แม้แต่พวกเขายังคิดอย่างนั้น จะนับประสาอะไรกับตระกูลอื่น
“ฉินเฉิง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราขอตัวก่อน” คุณชายหวางลุกขึ้นมายืดเอวแล้วพูดว่า “ถ้านายอยากกิน อยากดื่ม อยากสนุกสนานในจิงตู ก็มาหาฉันได้”
“เอ้อ หรือถ้าอยากจะเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นก็ได้หมดนะ”
ทุกๆคนค่อยๆลุกขึ้นทีละคนแล้วเตรียมตัวจะออกไป
ส่วนบางคนก็แอบเอานามบัตรมาให้ฉินเฉิงจุดมุ่งหมายของพวกเรานั้นง่ายมาก นั่นคือฉินเฉิงในฐานะผู้อาวุโสในตำหนักเทพโอสถ
“ฉินเฉิง นี่คือนามบัตรของฉัน” ในขณะนั้นมีชายหัวโล้นคนนึงเดินเข้ามา
หลังจากที่ฉินเฉิงหยิบนามบัตรของเขาออกมาดู พบว่าเขาคือเจิ้งเจียเหิง ประธานบริษัทเจียเหิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์
บริษัทนี้ถือได้ว่าเป็น บริษัทบันเทิงที่นอกนิยมที่สุดในขณะนี้ พวกเขาสนับสนุนดาราดังมากมายและยังปั้นดาราหน้าใหม่ รวมถึงสนับสนุนดารารุ่นใหญ่ ชูซีหยุน
จากที่เห็นชูซีหยุนมานาน ฉินเฉิงก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างชูชีเชิงและชูซีหยุนเป็นยังไง? เป็นพี่น้องรุ่นเดียวกันจริงหรือ? แต่อายุทั้งคู่ดูจะห่างกันไปหน่อย
“ฉินเฉิง ฉันเคยได้ยินชูซีหยุนพูดถึงคุณ ตอนนั้นฉันก็เคยสงสัยมาก่อน แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว” เจิ้งเจียเหิงยิ้ม “ถ้าคุณมีเวลา มาที่บริษัทของเราได้”
ฉินเฉิงพยักหน้า “ได้เลย”
บริษัทเจียเหิงเพิ่งเปิดตัวไอดอลวงใหม่ แต่ก็ได้ใช้เงินไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เจิ้งเจียเหิงเป็นกังวลเล็กน้อย
ทีมปฏิบัติการของเขาได้วิเคราะห์เหตุผลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือบุคลิกภาพ บริษัทรู้สึกว่าไม่น่ามีปัญหา ทำให้ลงทุนเงินไปกับพวกเขาทุกเดือนหลายสิบล้าน แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างกระแสได้
“มีอะไรก็โทรหาฉันล่ะ” เจิ้งเจียเหิงยิ้ม
ฉินเฉิงยิ้มและพยักหน้า
หลังจากงานประมูลสิ้นสุดลง ฉินเฉิงก็กลับไปที่โรงแรมพร้อมกับอาจารย์ซิน
นั่งกันอยู่ในโรงแรม อาจารย์ซินพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เดินหมากครั้งนี้เสี่ยงเกินไป ถ้าถูกพบเข้าคงไม่รอดแน่”
ฉินเฉิงพยักหน้า เขายืนอยู่หน้าหน้าต่างพร้อมกับถอนหายใจยาว และพูดช้าๆ ว่า “ใช่ไง ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องทำแบบนี้อีก”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบีบบังคับให้…จากตระกูลซูรับสารภาพ
นอกจากจะมีความแข็งแกร่งแล้ว เครือข่ายความสัมพันธ์ของเขายังแทรกซึมเข้าไปในทุกๆอาชีพด้วย
หรือให้พูดอีกอย่างคือ ยืนอยู่ในตำแหน่งของเย่อชิงยุนแล้ว
ฉินเฉิงมีโอกาสเพียงครั้งเดียว เขาจึงไม่กล้าเดิมพัน ดังนั้นเขาจึงต้องคิดอย่างถี่ถ้วนในทุกการเคลื่อนไหว
“อาจารย์ซิน ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้” จากนั้นฉินเฉิงก็โค้งคำนับให้อาจารย์ซิน
อาจารย์ซินโบกมือและพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้เอาวุโสตระกูลเซียงอยู่แล้ว แค่นี้ไม่เป็นไรเลย”
ฉินเฉิงจะไม่พูดขอบคุณมากมาย แต่จะตอบแทนน้ำใจของเขาคืนอย่างแน่นอน
หลังจากการประมูลสิ้นสุดลง ฉินเฉิงวางแผนที่จะออกจากจิงตู
ในตอนนี้เขาไม่สามารถอยู่ในจิงตูได้นาน มิฉะนั้น ไม่ช้าก็เร็วเขาคงจะถูกฆ่า
หลังจากไปส่งอาจารย์ซิน ฉินเฉิงไปที่โรงแรมเฉิงหนานอีกครั้ง ไปพบหยูเหม่ยเหริน
หยูเหม่ยเหรินแต่งตัวเซ็กซี่เหมือนเคย ไม่ว่าจะไปที่ไหน ต้องเป็นที่สนใจ
ครั้งนี้ก็ไม่เว้น ทันทีที่เธอปรากฏตัว เธอก็ดึงดูดสายตานับไม่ถ้วนไม่รู้ว่ามีกี่คนที่มองหยูเหม่ยเหรินจนน้ำลายแทบสอ
แต่เมื่อหยูเหม่ยเหรินเดินนั่งไปที่โต๊ะของฉินเฉิง ทุกคนก็ไม่พอใจ
“หมาเด็ดดอกฟ้า!” ใครบางคนพึมพำ
ฉินเฉิงไม่สนใจ เขายิ้มและมองที่หยูเหม่ยเหรินแล้วพูดว่า “นั่งลงสิ”
“คิดจะออกจากจิงตูหรอ” ยูเหม่ยเหรินถาม
ฉินเฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะอยู่ที่จิงจูต่อไป ฉันก็ทำอะไรไม่ได้มาก”
ยูเหม่ยเหรินจิบไวน์และพูดอย่างแผ่วเบา “ไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว ชื่อเสียงนายในปัจจุบันเกือบจะเท่ากับคนใหญ่คนโตในจิงตูแล้ว”
ฉินเฉิงโบกมือและหยุดพูดเรื่องไร้สาระ เขามองไปที่หยูเหม่ยเหรินแล้วพูดว่า “เตรียมของพร้อมหรือยัง?”