ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 284 บ่อน้ำพุ
เลือดสีแดงเลอะเต็มเสื้อผ้าของฉินเฉิง
เมื่อเห็นแบบนี้ ฉาวหว่าจึงรีบไปประคองฉินเฉิง เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “น้องชาย เกิดอะไรขึ้น? ใครทำให้นายเป็นแบบนี้ ฉันจะไปจัดการกับมัน”
ฉินเฉิงยกมือขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง แล้วกล่าวว่า “ร่ายกายของฉันมีปัญหา ฉันพักสักประเดี๋ยวก็ดีขึ้น”
ฉาวหว่าพูดอย่างไม่เชื่อสายตาว่า “จริงหรือ? ถ้านายต้องการอะไรก็บอกพี่มาได้ ”
ฉินเฉิงเช็ดเลือดจากมุมปากของเขาแล้วก็ยิ้ม “ฉันสบายดี”
แต่ในใจฉินเฉิงกลับซ่อนเร้นบางอย่างเอาไว้
เขารู้ดีว่า ว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาไปช่วยคุณปู่ซู นี่เป็นการกระทำที่ละเมิดลิขิตสวรรค์ จึงมีผลกระทบอย่างที่เห็น
แต่อาการแบบนี้เป็นเพียงชั่วครู่ แต่มันอาจเกิดขึ้นอีก ซึ่งทำให้ฉินเฉิงกังวลอย่างมาก
ถ้ามันเกิดขึ้นตอนต่อสู้กับซูหยู่หล่ะ?
“น้องชาย อย่าดื่มเลย รีบไปหาที่พักเถอะ” ฉาวหว่ารีบพูดออกมา
เห็นได้ชัดว่าถึงแม้ฉาวหว่าจะดูมีท่าทางนักเลง แต่เขามีจิตใจที่ดี เหมาะที่จะไว้ใจเขา
นี่คือเหตุผลที่ซูวานขอให้เขาปกป้องฉินเฉิงอย่างลับๆ
ขณะที่เขาพูด พี่น้องคนที่สองของตระกูลหยานก็เดินเข้ามา
หยานหยุนผู้พิทักษ์อาวุโสยังคงมีสีหน้าบูดบึ้ง ยังเก็บแรงสังหารที่ยังไม่ได้ใช้ออกมาไว้
“นั่งลงก่อน” หยานหานพูดอย่างเคร่งขรึม
หลังจากที่หยานหยุนนั่งลง เขาก็จ้องไปที่ฉินเฉิง
ถ้าสายตานี้ฆ่าคนได้ ฉินเฉิงคงต้องตายแล้ว
“ฉินเฉิง ทางที่ดีนายอย่ายุ่งกับตระกูลซูเลย” หยานหยุนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดอย่างเย็นชา
“โอเค ไม่พูดถึงเรื่องนี้ละ ตั้งแต่วันนี้ ฉันกับนายจะไม่ยุ่งเรื่องฉินเฉิงกับตระฏุลซู” หยานหานกล่าวอย่างเย็นชา
หยานหยุนถอนกายหายใจออกมา โดยไม่พูดอะไร
ฉินเฉิงยังคงไม่เข้าใจ เพราะความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ยังไม่พอที่จะเผชิญหน้าตระกูลซูอีกเหรอ
ทำไมผู้พิทักษ์อาวุโสถึงพูดให้วิตกแบบนี้?
“ฉันไม่กินแล้ว” หยานหยุนดูเหมือนไม่อยากนั่งกับฉินเฉิง
เขายืนขึ้นและมองไปที่หยานหานแล้วพูดว่า “พี่ อยู่ให้ห่างจากเจ้านี่ ถ้าตระกูลซูโกรธขึ้นมา ใครก็ช่วยไม่ได้ ”
หยานหยุนพูดจบก็เดินจากไป
หยานหานดูหมดหนทาง เขาส่ายหัวและพูดว่า “กินต่อเถอะ”
เหล้าและอาหารมาพร้อมทุกอย่าง
ฉินเฉิงหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาและมองไปที่หยานหานแล้วกล่าวว่า “พี่หยานหาน ฉันมีคำถามจะถามสักหน่อย”
“ถามมาสิ” หยานหานและฉินเฉิงชนแก้วกัน
ฉินเฉิงพูดความสงสัยในใจ หลังจากที่หยานหานได้ฟัง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “อันที่จริง ฉันไม่แน่ใจนัก หยานหยุนบอกฉันแค่ว่า นายจะถูกตระกูลซูคุกคาม”
“คุกคาม?” ฉินเฉิงเงียบ การคุกคามที่เขาพูดถึงมันคืออะไรกันแน่?
หยานหานก็ไม่รู้ ฉินเฉิงจึงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม
หลังจากกินเสร็จ ฉินเฉิงก็ไปจากจิงตู
เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน ก็จะปีใหม่ ห่างจากที่นัดกับซูหยู่ อีกสามเดือน
ถึงตอนนั้นเองฉินเฉิง สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นจอมยุทธได้หรือไม่
การเป็นจอมยุทธ ขั้นจินตัน ร่างกายจะต้องรับยาเม็ดทองคำ
ช่วงนี้ถือเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อก้าวเข้าสู่ขั้นจินตัน มันต้องฝ่าฟันอีกเยอะ
และทุกครั้งก็มักจะล้มเหลว
“ฉันเป็นต้องการเพื่อจะบรรลุ ไม่ใช่เพื่อการต่อสู่ ” ฉินเฉิงพึมพำกับตัวเอง “เมื่อก้าวเข้าสู่ขั้นจินตัน ฉันก็จะมีอายุเป็นพันปี เทียบกับจอมยุทธไม่ได้”
ฉินเฉิงมีความมั่นใจว่าถ้าเขาเข้าสู่ขั้นจินตัน เขาก็แทบจะเป็นอมตะ
ถึงตอนนั้น ไม่ว่าจอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน หรือกองกำลังทหารยุคใหม่ ก็ทำอะไรฉินเฉิงไม่ได้
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉินเฉิงใช้เวลาเดินทางมาเดือนกว่าแล้ว
ในช่วงเวลานี้ ฉินเฉิงเดินทางไปเกือบทั่วตอนเหนือ เพื่อค้นหาสำนักที่อยู่ภายใต้ตระกูลซู
ตระกูลซูเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ สำนักที่อยู่ภายใต้เขา ล้วนเป็นสำนักที่ดีที่สุด สำนักที่เป็นชั้นรองไม่ได้อยู่ในสายตาของตระกูลซูเลย
ในวันนี้ เมื่อฉินเฉิงผ่านเมืองหยิน ก็ได้ยินเสียงเอะอะ
คนหนุ่มสาวจำนวนไม่ถ้วนรวมตัวกันที่หน้าสำนักแห่งหนึ่ง
มีอักษรตัวใหญ่เขียนไว้ที่หน้าสำนักแห่งนี้ว่า สำนักหลิงตง
สำนักหลิงตงมีบ่อน้ำพุที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตามทีบันทึกไว้ มีอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดทั้งปี แช่เพียงครั้งเดียว ก็สามารถรักษาโรคได้สารพัด
สำนักหลิงตงใช้บ่อน้ำพุร้อนนี้เพื่อเริ่มต้น และฝึกฝนจอมยุทธมาแล้วหลายร้อยคน จอมยุทธระดับสูงอีกหลายสิบคน ทางสำนักจึงใช้บ่อน้ำพุนี้เพื่อเป็นหนทางสู่การเป็นจอมยุทธ
ฉินเฉิงแตะคางของเขาและ: “บ่อน้ำพุร้อนนี้มีมนต์ขลัง บางทีอาจมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ด้านล่าง”
แม้ว่าทุกวันนี้จะไม่เหมาะสำหรับการฝึกฝนแล้ว แต่ก็ยังมีรูปแบบโบราณที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งได้นำประโยชน์มากมายมาสู่คนรุ่นหลัง
หากสวรรค์สรรค์สร้างมาแล้ว มันคือความวิเศษที่แสนจะบรรยาย
ฉินเฉิงหันจับแขนของชายหนุ่มแล้วถามว่า ” พี่ชาย ถามหน่อยสิ ทำไมวันนี้สำนักหลิงตงมันครึกครื้นนัก”
ชายหนุ่มตอบฉินเฉิงว่า “วันนี้สำนักหลิงตงเปิดให้คนหนุ่มสาวที่อายุต่ำกว่า 30 ปีสามารถไปแช่บ่อน้ำพุได้ ปล่อยฉันก่อน และอย่ามาถ่วงเวลาของฉัน!”
“เปิดให้แช่?” ฉินเฉิง อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อยแล้วหัวเราะ
เขากำลังกังวลว่าจะเข้าไปที่บ่อน้ำพุนั่นอย่างไร ตอนนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี
ดังนั้น ฉินเฉิง จึงรีบตามคนหนุ่มสาวเหล่านี้ไปที่ประตูสำนักหลิงตง
ที่ประตู มีคนหนุ่มสาวมากมายรออยู่ที่นี่ หน้าสำนัก มีผู้อาวุโสใหญ่สามคนมองลงมาที่ทุกคน
ฉินเฉิงกวาดสายตาไปที่ผู้คน ส่วนใหญ่เป็นนักต่อสู้ และพวกเขาต้องการอาศัยบ่อน้ำพุนี้เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเขา
คนเกือบ 10,000 คน มารวมตัวกันที่ประตู
เจ้าสำนักหลิงตงเป็นผู้หญิงในวัยประมาณสามสิบ เธอชื่อหยานรัวหยู ซึ่งเป็นจอมยุทธชั้นหนึ่ง
“เจ้าสำนัก ผู้ที่เข้าร่วมพิธีในบ่อน้ำพุในวันนี้มีเกือบ 10,000 คนแล้ว” ผู้อาวุโสคนหนึ่้งประสานมือรายงานกับหยานรัวหยู
หยานรัวหยูพยักหน้า ใบหน้าของเธอดูตื่นเต้น
“เจ้าสำนัก นี่เป็นพิธีที่บ่อน้ำพุครั้งที่สามสิบแล้ว คงจะเพียงพอที่ให้ท่านได้ก้าวข้ามไปอีกขั้นแล้ว” ใครบางคนพูดด้วยรอยยิ้ม
หยานรัวหยูพยักหน้า “หลังจากพิธีจบลง ต้องปิดให้เร็วที่สุด มิฉะนั้น บ่อน้ำพุนี้อาจตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น”
บ่อน้ำพุแห่งนี้สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ มีบางสิ่งอยู่ภายใต้บ่อน้ำนี้
แต่หยานรัวหยูพยายามหลายวิธี แต่ก็ไม่สามารถดูดซับสำหรับพลังจิตวิญญาณนี้ ต่อมา เธอบังเอิญค้นพบว่ามีพลังจิตวิญญาณสามารถดูดซับแก่นแท้ของร่างกายของชายหนุ่มเพื่อสร้างความก้าวหน้าได้
ความลับนี้ สำนักหลิงตงใช้เวลาเป็นไว้เป็นเวลาสิบปีเต็ม ในสิบปีนี้ทำให้เกิดพลังอันมหาศาลที่ทำให้ก้าวข้ามไปอีกขั้นได้