ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 296 รนหาที่ตาย
มันราวกับว่าพวกเค้าเห็นผี พวกเค้าหนีออกจากห้องกันอย่างทุลักทุเล
ผู้อาวุโสใหญ่ที่ยืนอยู่ที่ประตูก็ดูงุนงง เค้าเอามือลูบไปที่มือของเค้าแล้วพูดว่า: “นี่เกิดอะไรขึ้น? วิ่งหนีอะไรกัน! มีอะไร!”
พวกลูกศิษย์พวกนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปสนใจผู้อาวุโส ในตอนนี้เอง ในความคิดของพวกเค้ามีแค่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ หนี หนีออกไปจากสำนักฉินให้เร็วที่สุด!
คิ้วของผู้อาวุโสก็ขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ เค้าถอนหายใจออกมาแล้วเดินเข้าไปที่ห้องนั้น
ฉินเฉิงที่อยู่ในห้องก็กำลังขยับร่างกายของเค้า เค้าไม่ได้ขยับร่างกายมาแล้วหลายวัน ตัวเค้าเองก็รู้สึกเหน็บชาเล็กน้อย
“หมัดของปราช์และกายาศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับการรวมเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้หมัดของนักปราช์ก็ได้รับการฝึกฝนมาจนถึงขั้นที่สามแล้ว” ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมาเบาๆว่า “ถ้าให้เวลาฉันอีกซักพัก มันจะต้องพัฒนากลายเป็นนักสู้ที่ยิ่งใหญ่”
ในตอนนี้เอง ผู้อาวุโสก็เดินเข้ามา
หลังจากที่เค้ามองเห็นฉินเฉิงที่อยู่ในห้อง สีหน้าของเค้ามันก็เปลี่ยนไปในทันที
“แก…กะ กะ แก!” ผู้อาวุโสถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เค้าพูดติดอ่าง
ฉินเฉิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “แกเป็นใคร?”
ผู้อาวุโสก็กลืนน้ำลายแล้วพูดว่า: “ผม… ผมก็แค่มาเก็บกวาด นี่มันวันตรุษจีน มาเก็บกวาดแล้วก็จะกลับไปฉลองปีใหม่…”
“เก็บกวาด?” ฉินเฉิงเลิกคิ้วขึ้น “ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่มาเก็บกวาด?”
ผู้อาวุโสแทบจะร้องไห้ เค้าพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา: “ผมมาเก็บกวาดจริงๆ ถ้าไม่มีอะไร อย่างงั้นผมขอตัวนะครับ”
หลังจากพูดจบ เค้าก็วิ่งหนีไป
ฉินเฉิง ถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา เค้าก้าวออกไปแล้วตรงเข้ามาหาผู้อาวุโสในทันที ในตอนนี้เอง มือของเค้าก็คว้าไปที่คอของผู้อาวุโสแล้วยกตัวเค้าขึ้น
เมื่อเห็นฉากที่เละเทะในสำนักฉิน สีหน้าของฉินเฉิงก็เย็นชาลงในทันที
“แกเป็นใคร? โกหกทำไม? แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นใครเป็นคนทำ?” น้ำเสียงของฉินเฉิงมันก็เย็นชาลงอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้อาวุโสพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งจะร้องไห้: “นี่…นี่มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม มันคือ… มันคือเจ้าสำนักหวงที่เป็นคนทำ! เค้าอยู่ที่ประตูแล้ว เค้าต้องการข่มเหงรังแกเจ้าสำนักหยาน!”
สีหน้าของฉินเฉิงก็เย็นชาลง มือของเค้าก็สั่นขึ้นมาในทันที มันทำให้หัวของผู้อาวุโสแตกแแกเป็นเสี่ยง!
หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็รีบตรงไปที่ประตูทางเข้าสำนักฉิน
ในตอนนี้เอง ที่ด้านนอกประตู พวกลูกศิษย์ก็กำลังวิ่งหนี
เจ้าสำนักหวงก็ด่าขึ้นมา: “พวกแกวิ่งอะไรของแกวะ? ทำอย่างกับไม่เคยเห็นอะไรไปได้!”
ลูกศิษย์คนหนึ่งก็พูดด้วยความตกใจว่า: “ท่าน…ท่านเจ้าสำนักหวง ฉินเฉิงไม่ได้ไปไหน เค้ายังอยู่ที่นี่! ผมพึ่งเห็นเค้า! รีบหนีกันเถอะครับ!”
เจ้าสำนักหวงตกตะลึง เค้าขมวดคิ้วและพูดว่า: “ที่เธอพูดมันเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ?”
“ผมเห็นมากับตา!” ลูกศิษย์ก็พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
สีหน้าของเจ้าสำนักหวงก็เปลี่ยนไปในทันที เค้าปล่อยหยวนรัวหยูแล้วหันหลังเตรียมที่จะวิ่งหนี
“ไหนๆก็มาที่นี่แล้ว ทำไมจะต้องรีบออกไปด้วยหละ?” ในตอนนี้เอง เสียงของฉินเฉิงก็ดังขึ้นมาจากที่ด้านหลัง
ร่างของเจ้าสำนักหวงก็ตัวแข็งทื่อในทันที
“ฉิน…ฉินเฉิง ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด…” เจ้าสำนักหวงหันกลับมาแล้วพูดขึ้นมาอย่างขมขื่น
“เรื่องเข้าใจผิด?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “ทุบทำลายสำนักของฉัน ทำร้ายรองเจ้าสำนักของฉัน ตอนนี้ก็จะมาบอกว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด?”
เจ้าสำนักหวงก็สงบสติอารมณ์ลง: “ฉินเฉิง นี่มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ไม่ต้องห่วง สำนักหลิงตง… ไม่สิ ผมจะชดใช้ให้กับการสูญเสียทั้งหมดของสำนักฉินเอง!”
“แกจะชดใช้อย่างงั้นเหรอ?” สีหน้าของฉินเฉิงเย็นชา “ชดใช้มันด้วยชีวิต”
สีหน้าเจ้าสำนักหวงก็เปลี่ยนไป เค้าถอยหลังสองสามก้าวแล้วพูดว่า: “ฉินเฉิง อย่าให้มันมากนักนะ! จะทำอะไรก็ปล่อยให้ตัวเองได้มีทางรอดทีหลังด้วย!”
“ทางรอด?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “ในตอนที่แกทุบทำลายสำนักฉินของฉัน แกได้คิดถึงเรื่องนี้บ้างไหม?”
หลังจากที่พูดจบ แสงสีทองก็เป็นประกายขึ้นมาในอากาศ!
เจ้าสำนักหวงก็รีบยกมือขึ้นเพื่อสกัดกั้น แต่พลังมหาศาลที่ตบเข้าไปที่ด้านข้างของเค้า มันก็ทำให้เค้าลอยกระเด็นออกไปในทันที!
ในตอนที่เค้าเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นที่แปด ฉินเฉิงสามารถเหวี่ยงเจ้าสำนักหวงออกไปได้โดยตรง แต่ตอนนี้เค้าก็ได้ก้าวขึ้นมาสู้ขอบเขตของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นที่เก้าแล้ว การจะฆ่าเจ้าสำนักหวงคนนี้มันก็เหมือนกับการเชือดหมูเชือดไก่ก็เท่านั้น!
เจ้าสำนักหวงเสียหน้าเป็นอย่างมาก ร่างกายครึ่งหนึ่งของเค้ามันก็เต็มไปด้วยเลือด
เค้าลุกขึ้นจากพื้นแล้วตะโกนออกมาว่า: “ฉินเฉิง แกมันจอมหลอกลวง แกกับฉันมันต้องตายกันไปข้างนึง! แกตาย ฉันรอด แบบนี้เท่านั้นที่จะเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล”
“แล้วถ้าแกตาย ฉันรอดหละ?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “แกคิดว่าแกเป็นคนกำหนดอย่างงั้นเหรอ?”
เจ้าสำนักหวงก็กัดฟัน จากนั้นกำไลข้อมือมันก็ปรากฎขึ้นมาในมือของเค้า!
ทันทีที่กำไลข้อมือนี้ปรากฏขึ้นมา บรรยากาศรอบๆมันก็รุนแรงขึ้นมาในทันที!
มันเป็นฤดูหนาวที่หนาวมาก แต่ในตอนนี้มันก็ทำให้คนรู้สึกร้อนเล็กน้อย!
“นี่มันก็ของมีค่าสินะ” ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมา
“สิ่งนี้คือกำไลข้อมือเพรชพระสูตร ฉันได้มันมาโดยบังเอิญ พลังของมันไม่มีใครในโลกนี้สามารถสู้ได้ ฉินเฉิง แกบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะ?” เจ้าสำนักหวงก็เขย่ากำไลข้อมือแล้วพูดอย่างเย็นชา
ฉินเฉิงเยาะเย้ย: “ยังมีลูกเล่นอะไรอีกไหม? เอาออกมาให้หมดในคราวเดียวสิ”
เจ้าสำนักหวงก็ตะโกนขึ้นมา: “ฉินเฉิง แกไม่ต้องบ้าให้มันมาก สิ่งนี้มันสามารถฆ่าแกได้! อย่าบังคับให้ฉันต้องทำ!”
กำไลข้อมือเพรชพระสูตรนี้จะค่อยๆพังลงทุกครั้งที่ใช้งาน ดังนั้นก่อนที่มันจะสลายไป เจ้าสำนักหวงก็เลยไม่ค่อยอยากที่เอาของสิ่งนี้ออกมาใช้บ่อย
แม้กระทั่งตอนนี้ เค้ายังพยายามโน้มน้าวฉินเฉิงให้ล้มเลิกความคิด
ฉินเฉิงเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “ถ้านี่มันคือท่าไม้ตายของแก วันนี้แกไม่มีวันรอดพ้นจากความตายไปได้แน่”
เจ้าสำนักหวงกัดฟันแล้วพูดว่า: “เอาล่ะ! แกบังคับฉันเองนะ!”
หลังจากพูดจบ เค้าก็กัดนิ้วจนเลือดไหลออกมา
โลหิตก็ตกบนกำไลข้อมือเพชรพระสูตร ทันใดนั้นเอง กำไลนี่มันก็ส่งเสียงร้องออกมาในทันที บรรยากาศโดยรอบมันก็ร้อนระอุขึ้นมา!
“อืม อุ่นเครื่องได้ไม่เลวเลยนิ” ฉินเฉิงก็บ่นขึ้นมา
เจ้าสำนักหวงก็ตะโกนขึ้นมา: “ไอ่** แกตายแน่!”
หลังจากพูดจบ เจ้าสำนักหวงก็หมดแรงแล้วโยนกำไลข้อมือเพชรพระสูตรในมือไปทางฉินเฉิง!
กำไลข้อมือเพชรส่องประกายระยิบระยับในอากาศ อากาศมันก็รวมตัวขึ้นมาในทันที!
“ระวัง!” หยานรัวหยูก็ตะโกนขึ้นมา
สีหน้าของฉินเฉิงก็เย็นชาลง เค้าเรียกพลังงานของเค้าออกมาแล้วหมัดของเค้ามันก็ส่องประกายแสงสีทอง!
หลังจากนั้น ทั่วทั้งร่างของเค้าก็เปล่งแสงสีทองออกมา สิ่งนี้ก็คือกายาศักดิ์สิทธิ์!
“พอดีเลยจะให้ลองใช้มันกับแก” ฉินเฉิงสูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชา “หมัดของนักปราชญ์!”
ด้วยเสียงตะโกนที่ดังขึ้นมานี้เอง ฉินเฉิงก็ปะทะกับกำไลข้อมือเพชรพระสูตรนี้แบบตัวต่อตัว!
“รนหาที่ตายจริงๆ!” เจ้าสำนักหวงก็ดีใจมากเมื่อเห็นสิ่งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าใช้กำไลข้อมือเพชรพระสูตร ดังนั้นเค้าเองก็รู้จักสิ่งนี้เป็นอย่างดี!
“ตูม!”
ฉินเฉิงกำหมัดแล้วใช้กำปั้นด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง ในตอนที่มันกำลังจะเข้าปะทะกันนี้เอง ท้องฟ้าทั้งหมดก็กลายเป็นพื้นที่สีขาวอันกว้างใหญ่!
แสงที่เปล่งออกมาจากกำไลข้อมือเพชรพระสูตรนี้มันก็ถูกทำลายลงด้วยหมัด! รังสีของแสงทั้งหมดแตกสลายหายไป!
“ตุบ!”
จากนั้นมือที่บอบบางก็คว้ากำไลข้อมือเพรชพระสูตรเอาไว้อย่างนุ่มนวล
มือนี้เป็นของฉินเฉิง!
“สิ่งนี้มันเป็นของฉัน” ฉินเฉิงคว้าสร้อยข้อมือเพชรพระสูตรแล้วยิ้มออกมา
หยานรัวหยูอ้าปากค้าง แววตาของเธอมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความชื่นชม
“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน!” สีหน้าของเจ้าสำนักหวงก็เปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้าด้วยความตื่นตระหนกจากก้นบึ้งหัวใจ