ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 299 การตามล่า
สีหน้าของหลิวเจิ้งหลงเปลี่ยนไปในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาดูถูกเค้าแบบนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจุดประสงค์หลักของเค้าในการมาที่นี่ก็คือการเหยียบฉินเฉิงให้จมดินต่อหน้าผู้คนทั่วโลก ถ้าหากว่าไม่มีการนัดประลอง ใครจะมาดูแล้วก็รับรองเรื่องพวกนี้?
หลิวเจิ้งหลงหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “ฉินเฉิง แกมันโอหังมากเลยนะ ถ้าหากว่าแกแน่จริง แกก็มาสู้กับฉันอย่างเปิดเผยสิ! แกกล้าไหมหละ!”
ฉินเฉิงเยาะเย้ยแล้วพูดว่า: “แกต้องการเหยียบฉันขึ้นไปใช่ไหม?”
สีหน้าของหลิวเจิ้งหลงเปลี่ยนไปอีกครั้ง ฉินเฉิงจับทางเค้าออก นี่มันก็เลยทำให้เค้ารู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“แล้วไง!” หลิวเจิ้นหรงสูดหายใจเข้าอย่างเย็นชา “แกฆ่าลูกชายตระกูลหลิวของฉัน ฉันต้องล้างแค้นนี้!”
“อย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “ถ้าคิดที่จะเหยียบย่ำฉัน อย่างงั้นก็ต้องคิดถึงผลที่จะตามมาด้วยนะ”
ทันทีที่พูดจบ ฉินเฉิงก็ก้าวออกไปแล้วเหวี่ยงหมัดเค้าอย่างรุนแรง!
คราวนี้หลิวเจิ้งหลงไม่ได้เตรียมตัวเลย เค้าเองก็ระบายความโกรธออกมาแล้วเหวี่ยงหมัดขึ้นไปในอากาศ จากนั้นมันก็ประทะเข้ากับหมัดของฉินเฉิง!
“ปัง!”
เสียงที่คมชัด จากนั้นก็เห็นแขนของหลิวเจิ้งหลงที่โน้มไปข้างหลังในท่าทีที่แปลกๆ! แขนของเค้าหักในทันที!
ฉินเฉิงฉวยโอกาสจากชัยชนะนี้ไล่ตาม เค้าคว้าปลอกคอเสื้อของหลิวเจิ้นหลงแล้วยกขึ้นไปในอากาศ พร้อมด้วยแสงสีทองที่ตบเข้าไปที่หน้า!
“ผั๊วะ!”
เสียงที่คมชัดอีกครั้ง ครั้งนี้เองใบหน้าของหลิวเจิ้งหลงก็ถูกตบเข้าไปโดยตรง เลือดพุ่งกระเซ็นออกมาจากปากของเค้า!
หยางเจี้ยนที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึง เค้าคิดไม่ถึงเลยว่าความแตกต่างของความแข็งแกร่งของทั้งสองคนนี้มันจะมากขนาดนี้!
หลิวเจิ้งหลงประหลาดใจมากยิ่งขึ้นที่จอมยุทธ์ที่เป็นที่รู้จักในฐานะอัจฉริยะไม่สามารถที่จะสู้กับฉินเฉิงที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ได้เลย!
“แก…แกก้าวขั้นเข้ามาสู่ของเขตของจอมยุทธ์แล้วอย่างงั้นเหรอ?” หลิงเจิ้งหลงพูด เค้ามองไปที่ฉินเฉิงอย่างหวาดกลัว
ฉินเฉิงก็เยาะเย้ย: “ถ้าฉันก้าวเข้าสู่ขอบเขตของจอมยุทธ์ได้แล้ว แกก็จะไม่มีคุณสมบัติที่จะมาพูดคุยกับฉันเลยด้วยซ้ำ”
“มหาเจ้าแห่งพลังปราณ!” สีหน้าของหลิวเจิ้งหลงก็ดูไม่ได้เลย
เค้าแตกต่างไปจากจอมยุทธ์ธรรมดาทั่วไป สำหรับความสามารถที่โดดเด่น การก้าวเลื่อนอันดับมันก็ไม่มีอะไรเลย
อย่างเช่น ฮั่นจิ่วเถียนจากตระกูลฮั่น เถิงอาวจากตระกูลเถิงและซูหยู่จากตระกูลซู
แต่หลิวเจิ้นหลงกลับเข้าใจผิด เค้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับอัจฉริยะเหล่านี้แล้วคิดว่าตัวเองจะสามารถบดขยี้ฉินเฉิงได้อย่างง่ายดาย!
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันนี้ หลิวเจิ้งหลงก็ตระหนักได้แล้วว่าความแตกต่างระหว่างตัวเค้ากับเด็กที่มีพรสวรรค์รุ่นเยาว์พวกนั้นอยู่ห่างไกลกันเกินไป! มันเทียบอะไรไม่ได้เลย!
หลิวเจิ้งหลงกัดฟันของตัวเองแล้ว”หวด”กระโดดทะลุผ่านหลังคาของบ้านตระกูลหยางแล้ววิ่งหนีไปอย่างสิ้นหวัง
ฉินเฉิงมองไปที่รูขนาดใหญ่บนหลังคาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “อยากจะหนี คิดว่าจะหนีได้อย่างงั้นเหรอ!”
ฉินเฉิงกระทืบเท้าทันทีแล้วกระโดดออกไปพร้อมๆกัน!
สีหน้าของหยางเจี้ยนก็ดูไม่ได้เลย เค้ารีบพูดขึ้นมาว่า: “รีบไปเก็บของแล้วรีบหนี!”
ภรรยาของเค้าก็ดูหงุดหงิด เธอหันหลังแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน
“ไม่ต้องไปหอบเสื้อผ้ามานะ!” หยางเจี้ยนตะโกน “เสื้อผ้าก็สำคัญ แต่ชีวิตสำคัญกว่า! เอาบัตรธนาคารมาแล้วรีบไปก็พอ!”
ในคืนนั้น คนสองก็รีบหนีไป พวกเค้าจองตั๋วที่เร็วที่สุดแล้วหลบหนีไปไกลกกว่าหลายพันไมล์!
ที่อีกด้านหนึ่ง ฉินเฉิงกำลังไล่ตามหลิวเจิ้งหลง ระยะห่างระหว่างทั้งสองก็ค่อยๆใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
หลิวเจิ้งหลงก็กัดฟันของเค้า ทันใดนั้นเองเค้าก็ตะโกนออกมา แขนของเค้าก็ส่งเสียง “คลิก” ดังขึ้นมาอย่างคมชัด จากนั้นเค้าก็มองเห็นกระดูกสีขาวใสราวกับคริสตัลที่กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยพร้อมกับ “หวดๆๆ” ฉินเฉิงที่พุ่งเข้ามาหา!
ด้วยความที่เค้าเป็นจอมยุทธ์กระดูกของเค้ามันก็แข็งแกร่งมาก ในตอนนี้ความแข็งแกร่งภายในร่างกายของเค้า ชิ้นส่วนกระดูกพวกนี้มันก็แข็งราวกับเหล็ก!
แต่มันมีบางอย่างที่น่าตกใจที่เกิดขึ้นกับหลิวเจิ้งหลง กระดูกที่ไม่สามารถทำลายได้เหล่านี้ หลังจากสัมผัสร่างกายของฉินเฉิงแล้ว มันก็ถูกบดจนกลายเป็นเศษผง! มันไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยอะไรเลย!
“นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!” สีหน้าของหลิวเจิ้งหลงก็ดูไม่ได้เลย เค้ากำลังรู้สึกเสียใจภายหลัง
นี่ตัวเองไปยั่วยุสัตว์นรกชนิดใดกัน!
“ฉินเฉิง นายปล่อยฉันไปเถอะ มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน!” หลิวเจิ้นหรงตะโกนในขณะที่เค้ากำลังวิ่งหนี
ฉินเฉิงลุกขึ้นอีกครั้งแล้วไล่ตามเค้าไปอย่างเงียบๆ
หลิวเจิ้งหลงยังคงตะโกนต่อไป: “ฉันรู้เรื่องความคับแค้นข้องใจระหว่างแกกับตระกูลซูมาบ้าง ตอนนี้แกเองก็กำลังหาคนอยู่ ทำไมไม่เก็บฉันไว้เป็นลูกน้องเอาไว้ใช้งานหละ!”
ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา: “ฉันบอกแล้ว แกมันไม่คู่ควร ตระกูลหลิวของแกมันก็ไม่คู่แล้ว ทั้งหมดมันไม่คู่ควรเลย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ จู่ๆหลิวเจิ้งหลงก็ร้องตะโกนขึ้นมา เค้าหันกลับมาในทันที จากนั้นเค้าก็ปล่อยแสงสีขาวออกมาจากปากของตัวเอง!
แสงนี้เป็นทักษะเฉพาะตัวของเค้า พลังงานภายในที่บริสุทธิ์ที่สุดในร่างกาย มันก็มากพอที่จะระเบิดทำลายภูเขาไปได้ทั้งลูกเลย!
“ตูม!”
แสงนั้นเกือบจะเปลี่ยนกลางคืนให้กลายเป็นกลางวัน!
ฉินเฉิงไม่สามารถหลบได้ แสงนี่มันปกคลุมไปในชั่วพริบตา มันทำให้เกิดเสียงดัง!
หลิวเจิ้งหลงหยุดหายใจอย่างหอบเหนื่อย ใบหน้าของเค้ามันเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
หลังจากที่ได้เห็นวิธีการของฉินเฉิงแล้ว ในใจ หลิวเจิ้งหลงก็รู้ดีว่าคนๆนี้ ไม่สามารถใช้เหตุผลด้วยได้เลย
“หึ!”
แสงนั่นค่อยๆลดลง จากนั้นร่างกายของฉินเฉิงมันก็เต็มไปด้วยเลือด
เสื้อผ้าบนร่างกายของเค้าฉีกขาดออกเป็นเสี่ยงๆ เค้าดูเขินอาย!
“ได้ผล!” หลิวเจิ้งหลงดีใจมาก!
ฉินเฉิงก็พูดอย่างเย็นชาว่า: “กระบวนท่านี้มันเรียกว่าอะไรกัน?”
“แกไม่ต้องรู้หรอกว่ามันเรียกว่าอะไร” หลิงเจิ้งหลงก็หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “แกแค่ต้องรู้ว่าวันนี้แกจะต้องตายด้วยกระบวนท่านี้ก็พอ!”
ทันทีที่พูดจบ แสงสีขาวในปากของหลิงเจิ้งหลงก็โผล่งออกมาอีกครั้ง!
คราวนี้แสงส่องประกายเหมือนกับระเบิดที่กำลังจะระเบิด!
ฉินเฉิงหรี่ตาแล้วพูดขึ้นมาอย่างเฉยชาว่า: “กลอุบายแบบนี้ การใช้มันครั้งที่สอง มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
ในตอนนี้เอง ร่างของฉินเฉิงก็หายไปในอากาศ!
ในวินาทีต่อมา แสงสีทองก็ส่องประกายไปทั่วอากาศแล้วร่างของฉินเฉิงมันก็มาปรากฎที่ตรงหน้าของหลิวเจิ้งหลง!
“ผั๊วะ!”
ฉินเฉิงผายฝ่ามือแล้วตบปากของหลิวเจิ้นหลง
มืออีกข้างหนึ่งก็เหมือนกับคีมคีบเหล็ก เค้าคว้าหลิวเจิ้นหลงจนไม่สามารถขยับอะไรได้เลย!
รูม่านตาของหลิวเจิ้งหลงก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเค้าก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
เค้าดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง แต่ความแข็งแกร่งของฉินเฉิงนั้นยอดเยี่ยมมากจนเค้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย!
“ไปตายซะ” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
รัศมีของแสงเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆและด้วยเสียงปัง แสงก็ระเบิดตรงเข้าในปากของ หลิวเจิ้งหลง!
หัวและร่างกายของเค้ากลายเป็นหมอกเลือดไปในทันที มันไม่เหลือแม้แต่ซากศพเลย!
ฝนโลหิตโปรยปรายลงมาที่พื้น มันทำให้พื้นกลายเป็นสีแดง บรรยากาศโดยรอบมันก็เงียบไปในทันที
ฉินเฉิงยืนนิ่งอยู่ในอากาศ แสงสีทองบนร่างกายของเค้าค่อยๆหายไป ในที่สุดร่างของเค้ามันก็ค่อยๆลงมายืนอยู่ที่พื้น
เค้ามองไปโดยรอบแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า: “ทุกคน ไม่ต้องซ่อนตัว ออกมา”
“ฮ่าฮ่า สมแล้วที่ตระกูลซูจะต้องระแวงนาย สมแล้วจริงๆ” เสียงที่คุ้นเคยนี้เองมันก็ดังขึ้นมาจากทุกทิศทุกทาง
จากนั้น แต่ละร่างมันก็ค่อยๆปรากฎขึ้นมาต่อหน้าของฉินเฉิง
เมื่อมองไปรอบๆ มันมีคนมากกว่าหนึ่งโหล