ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 305 ขุดหลุมฝังตัวเอง
“พวกนายคอยดู พอชูซีหยุนขึ้นไป เธอจะต้องตกลงมาอย่างแน่นอน!” ไคเต๋า พูดออกอย่างมั่นใจ
จากนั้นชูซีหยุนก็ขึ้นไปบนหลังม้า ม้าตัวนั้นก็ยังไม่เคลื่อนไหว เงียบสนิทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นี่ทำให้ไคเต๋า โกรธมาก โดยเฉพาะตอนนี้ชูซีหยุนกำลังกอดเอวของฉินเฉิงเอาไว้!
“นี่ เธอระวังตัวหน่อยก็ดี ไม่กลัวผลกระทบที่จะตามมางั้นเหรอ? ที่นี่มีคนตั้งมากมาย ถ้าหากเธอถูกถ่าบภาพไปลงโซเซียลจะว่ายังไง?” ไคเต๋า ถามออกมาด้วยความโกรธ
“คุณไควางใจ ที่นี่ได้ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตเอาไว้หมดแล้ว ไม่มีทางเผยแพร่ไปได้” ผู้จัดการพูดออกมา
ไคเต๋า พ่นลมหายใจและไม่ได้พูดอะไร
ภายใต้การควบคุมของฉินเฉิง ม้าตัวนั้นวิ่งไปรอบสนามอย่างราบรื่น
ถึงแม้ว่าฉินเฉิงจะไม่เคยขี่ม้ามาก่อน แต่เจ้าม้าตัวนี้มันเหมือนกับฟังคำพูดของฉินเฉิงรู้เรื่อง ไม่ว่าฉินเฉิงจะสั่งมันไปทางไหนมันก็ไปทางนั้นอย่างง่ายดาย
“พี่ใหญ่กับชูซีหยุนเหมาะกันมา” จี้เซียงพูดออกมาตอนที่จูงมา
เมื่อไคเต๋า ได้ยิน เขาก็หันไปมองจี้เซียงทันทีและพูดออกมาว่า “นายพูดอะไรของนาย เจ้านั่นมันก็แค่คนธรรมดา มันจะไปคู่ควรกับชูซีหยุนได้อย่างไง?”
จี้เซียงเหลือบตามองไปที่เขาและพูดออกมาว่า “เขาดีกว่านายหลายร้อยเท่า”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?!” ไคเต๋า ม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปหาจี้เซียง
จี้เซียงเตือนเขาออกมาว่า “นายอยากจะมีเรื่องกับฉัน? ฉันจะบอกนายเอาไว้ให้เอาบุญ นายเอาชนะฉันไม่ได้หรอก”
ทันใดนั้นไคเต๋า ก็หยุดทันที
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนสูง แต่ร่างกายของเขาก็ผอมแห้ง
ส่วนทางด้านของจี้เซียง เขาเป็นทายามรุ่นที่สองของปินโจว เขาเคยมีเรื่องมาหลายครั้ง และที่สำคัญ เขาเคยไปร่ำเรียนมากับปี้เสี่ยวเหยา ถ้าต้องมาสู้กับไคเต๋า มันไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย
“ใครจะไปมีเรื่องกับนาย? ป่าเถื่อน!” ไคเต๋า พูดออกมา “ที่นี่คือสนามม้า นายมีความสามารถพอที่จะแข่งม้ากับฉันสักรอบไหม?”
ทันใดนั้นจี้เซียงก็รู้สึกหนักใจทันที ถึงแม้ว่าม้าที่เขาเลือกมามันจะไม่เลว แต่เมื่อเอามาเทียบกับม้าเหงื่อโลหิตของไคเต๋า มันยังห่างชั้นกันอีกไกล
และในตอนนั้นฉินเฉิงก็กลับมาแล้ว
เขากระโดดลงมาจากหลังม้า ยิ้มและพูดว่า “ม้าตัวนี้น่าขี่มาก! ฉันรู้สึกเหมือนฉันเป็นฮีโร่เลย”
หนานหวางกล่าวอย่างชื่นชมว่า “น้องชาย นอกจากฉันแล้วก็มีแค่นายนี่แหละที่สามารถขี่ม้าตัวนี้ได้! ม้าตัวนี้จะยอมให้ผู้ชายที่กล้าหาญเท่านั้น แต่สำหรับผู้หญิงมันไม่ชอบเอาเสียเลย แม้แต่ฉันเองยังไม่กล้าที่จะเอาผู้หญิงขึ้นไปขี่มัน!”
ฉินเฉิงยิ้มออกมาและพูดว่า “หนานหวาง คุณก็พูดเกินไป เออใช่ อีกเดี๋ยวจะมีการแข่งม้าไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่!” ไคเต๋า ชิงพูดออกมาก่อน “เห็นม้าที่อยู่ด้านหน้าของนายหรือยัง? นั่นเป็นม้าที่เพื่อนของฉันเลี้ยงเอาไว้ ทำไม นายเองก็อยากจะลงแข่งหรือไง?”
หนานหวางหัวเราะออกมาดังลั่น “มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว”
“งั้นก็จูงม้าของนายเข้าไป เออใช่ บอกให้คนหลบทางให้หน่อย” ไคเต๋า พูดออกมา
จากนั้นเขาก็มองไปที่จี้เซียงและพูดออกมาว่า “ว่าไงเจ้าหนุ่ม เก่งนักเก่งหนาไม่ใช่เหรอ? กล้าจูงม้าเข้าไปตรงนั้นไหม”
จี้เซียงนิ่งไม่พูดอะไร นี่มันกำลังล้อเล่นอะไรกันอยู่ ถ้าหากลงแข่งจะต้องมีการพนันอย่างแน่นอน แต่จี้หงเซิงให้เงินเขามาแต่ 5 แสนหยวน ถ้าหากแพ้เข้าไมต้องพูดถึงจะไปเที่ยวเล่นที่อื่นเลย แต่เงินกลับบ้านยังไม่มี
“ในเมื่อคุณไคเขาอยากแข่ง งั้นนายก็รับไปเขาไปเถอะ” จู่ๆฉินเฉิงก็พูดออกมา
จี้เซียงผงะ เขาส่ายหน้าและพูดว่า “พี่ใหญ่ ม้าตัวนี้ของฉันมันสู้ม้าของพวกเขาไม่ได้!”
“ไม่ใช่ปัญหา แค่เล่นๆเท่านั้น” ฉินเฉิงตบไหล่ของจี้เซียงและพูดออกมา
เมื่อจี้เซียงเห็นแบบนั้น เขาก็ทำได้แค่ตอบตกลงไป
หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ขึ้นมาบนเวที
ม้าทั้งหมดมี 12 ตัว หนานหวางเป็นหมายเลข 1 ไคเต๋า เป็นหมายเลข 2 ส่วนจี้เซียงเป็นหมายเลข12
“เจ้าหนุ่ม ฉันจะบอกนายเอาไว้ให้ ถ้าหากเข้าเป็นที่สุดท้ายจะต้องจ่ายเงินให้กับทุกคนนะ” ในตอนนั้นไคเต๋า ก็ยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียด “ม้า 1 ตัวจ่าย 5 แสนหยวน ทั้งหมดมี 12 ตัว ลองคิดดูว่ามันเป็นเงินเท่าไหร่”
สีหน้าของจี้เซียงเปลี่ยนไปทันที เขารีบพูดออกมาว่า “มันมีกฎแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมันมาก่อนเลย?”
ฉินเฉิงพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉันเพิ่งจะตั้งมันขึ้นมาเมื่อกี้ ทำไม? เดิมที่นี่มันก็เป็นที่ของพวกเราอยู่แล้ว นายเป็นคนเดินเข้ามาเองไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นฉันจะตั้งกฎอะไรฉันก็ตั้งได้ทั้งนั้น!”
“นาย!” สีหน้าของจี้เซียงน่าเกลียดมาก เขามีเงินอยู่ที่ตัวทั้งหมด 5 แสนหยวน เขาจะเอาเงินทั้งหมดมาเดิมพันแบบนี้ได้อย่างไรกัน!
“ดูเหมือนว่ากลุ่มของพวกนายมันจะต่างกับกลุ่มอื่นๆมากเลย” ฉินเฉิงหัวเราะออกมา
ไคเต๋า ตอบกลับมา “ใช่!”
ฉินเฉิงยิ้มและพูดออกมาว่า “กลุ่มของพวกนาย มีแต่พวกดาราดัง ลูกหลานคนร่ำรวย เงินแค่ 5 แสนหวยน มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอ?”
ไคเต๋า ขมวดคิ้วและพูดออกมาว่า “นายหมายความว่ายังไง?”
“ไม่ได้หมายความว่าอะไร แต่แค่จะเลนทั้งที่ก็ขอเยอะกว่านี้สักหน่อยไม่ได้หรอ 1 ตัว 1 ล้าน เป็นยังไง?” ฉินเฉิงพูด
แววตาของไคเต๋า เป็นประกาย เขาหัวเราและพูดออกมาว่า “นายเป็นคนพูดเองนะ! ทุกคนได้ยิน ใครที่ได้ที่สุดท้ายจะต้องจ่ายเงินให้กับทุกคนคนละ 1 ล้าน! ส่วน 11 คนแรกก็จะได้เงินเท่ากันทุกคน!”
เหล่าลูกหลานคนร่วยต่างร้องออกมาทันที ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนมีเงิน แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทุกอย่างล้วนอาศัยครอบครัว
ดังนั้นเงินจำนวน 10 ล้าน ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับพวกเขา
หลังจากเสียงนกหวีดดังขึ้น ม้าทั้ง 10 ตัวก็วิ่งออกไปราวกับหวัลูกศรที่พุ่งไปข้างหน้า!
หมายเลข 1 และหมายเลข 2 วิ่งไปอยู่ด้านหน้า และหมายเลข 12 ซึ่งเป็นม้าของจี้เซียง อย่างที่คิดมันอยู่ที่สุดท้าย
เมื่อเห็นแบบนั้น เขาก็รีบตะโกนออกมากับเพื่อนๆของเขาว่า “พวกนายมีเงินเท่าไหร่? ให้ฉันยืมก่อน เดี๋ยวฉันกลับไปแล้วจะเอามาคืนให้!”
ฉินเฉิงโบกมือแล้วพูดว่า “ยืมเงินอะไร งั้นสิ่งที่นายเรียกฉันว่าพี่ใหญ่มันจะไปมีความหมายอะไร?”
จี้เซียงส่ายหน้า “ครับ เดี๋ยวพอฉันกลับถึงเมืองเจียง ฉันจะให้พ่อของฉันโอนเงินให้พี่”
“นายคิดว่านายแพ้แล้วอย่างนั้นเหรอ?” ฉินเฉิงหัวเราะออกมา “รอรับเงินได้เลย”
รับเงิน? หมายเลข 12 วิ่งอยู่แค่ครึ่งสนาม จะไปรับเงินจากใคร?
จี้เซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
หมายเลข 1 และหมายเลข 2 ยังคงแข่งขันกันเพื่อชิงอันดับ 1 ไคเต๋า พูดออกมาว่า “เร็วๆ เร็วเข้า พุ่งไปเลย!”
และจู่ๆม้าของไคเต๋า ก็หยุดวิ่ง
ด้วยความเฉื่อยม้าของเขาแทบจะก้าวไม่ออก จากนั้นมันวิ่งไปด้านหน้าอย่างช้าๆ ทีละก้าว ทีละก้าว
“วู้ววววว!”
และในตอนนั้นเองม้าหมายเลข 1 ของหนานหวางก็เข้าเส้นชัยไปเป็นลำดับแลก! และม้าตัวอื่นๆก็ค่อยๆวิ่งตามเข้ามา!
มีเพียงม้าหมายเลข 2 ตัวเดียวเท่านั้นที่ค่อยๆวิ่งไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
ดวงตาของไคเต๋า แทบจะออกมาจากลูกตา เขาตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวังว่า “แม่งเอ้ย ทำไมแกถึงไม่วิ่ง? รีบวิ่งไปเร็ว!”
แต่ว่าม้าตัวนั้นมันก็ยังไม่ฟัง วิ่งไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
ไม่นาน ม้าหมายเลข 12 ของจี้เซียงก็ตามมาทัน จากนั้นเขาก็เร่งความเร็วและเข้าเส้นชัยไปในที่สุด!
“วุฮู้วววว!”
จี้เซียงตะโกนออกมาด้วยความดีใจ “ที่ 11! ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องเสียเงินแล้ว!”
ใบหน้าของไคเต๋า น่าเกลียดมาก เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆม้าของเขาถึงหยุดวิ่ง!