ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 308 สิบสองจอมยุทธ
แม้ว่าบาดแผลนี้จะไม่ใช่บาดแผลรุนแรง แต่ก็ทำให้เขาเสียหน้า!
ถูกคนระดับนี้จัดการ ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูใคร กลัวว่าจะมีคนมาหัวเราะเยาะ!
“ระวังพลังของเธอไว้ด้วย” หัวหน้าหายใจเข้าลึก ๆ และลุกขึ้นจากพื้นด้วยความยากลำบาก
ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึม แม้ว่า 12 ต่อ 1 ก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่ลงมือ
ทันใดนั้น เปลวไฟสีน้ำเงินก็จุดขึ้นที่หน้าอกของหัวหน้า!
เปลวเพลิงทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทำให้หัวหน้าเหงื่อไหลเต็มตัว “ฟุบ” เขาคุกเข่าลงกับพื้นทันที
เขาเอามือจับหน้าอกไว้ ดิ้นรนอย่างน่าเวทนา ทำทุกวิถีทางก็ไม่สามารถดับเปลวเพลิงได้!
ไม่นานเปลวเพลิงก็ลุกไหม้จากอกของเขาไปทั่วทั้งร่าง มีเหมือนเสียงประทุขึ้น กลิ่นไหม้ก็ลอยฟุ้ง!
“อ๊าาาาา!!!” ในที่สุดหัวหน้าก็ทนไม่ไหว เขากลิ้งตัวไปมาบนพื้นอย่างบ้าคลั่ง และตะโกนออกมา
“ไม่…ฉันไม่อยากตาย!!” ใบหน้าของหัวหน้าเจ็บปวดมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เปลวไฟสีน้ำเงินเหมือนสัตว์ป่า ค่อยๆกลืนร่างกายทีละน้อยจนไหม้ และกลายเป็นเถ้าถ่าน!
ในที่สุดจอมยุทธขั้นเจ็ดก็จบชีวิตลง!
ใบหน้าของทั้ง 11 คนที่เหลือดูกังวลอย่างยิ่ง พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นคาถาหรือเวทมนตร์ใด!
แต่ฉินเฉิงที่กำลังดูการต่อสู้อยู่ก็รู้ทันที
“นี่ไม่ใช่พลังลมปราณ” ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ “มันเป็นไฟแห่งวิญญาณ เป็นคนชั้นสูงเท่านั้นที่สร้างไฟนี้ได้!”
การควบคุมเปลวไฟเหล่านี้เหนือกว่าฉินเฉิง! ซึ่งไม่สามารถเทียบได้!
ในฐานะเจ้าสำนักตำหนักเทพโอสถ การปรุงยายังปรุงได้ชั้นเลิศ การควบคุมไฟก็ย่อมเป็นเลิศเช่นกัน !
บนโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถใช้ไฟแห่งวิญญาณต่อสู้
“ไม่เอาแล้ว” ใบหน้าของทั้ง 11 คนที่เหลือดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง
“ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริงๆ เราควนจะยกเลิกการลงมือ” หนึ่งในนั้นกล่าว
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา คนทั้งสิบเอ็ดก็พูดมารวมตัวกัน
พวกเขาสูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้ไปแล้ว การเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ด้วยวิธีที่ไม่รู้จัก ทำให้ความกลัวเข้าครอบงำสมองของพวกเขา!
“ตอนนี้มันสายไปแล้วหละ” เจ้าสำนักส่ายหน้า
ใบหน้าของทั้ง 11 คนเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพวกเขาพูดอย่างเย็นชา: “เธอฆ่าพี่ใหญ่ของเราแล้ว ยังต้องการอะไรอีก หรือว่าอยากจะเก็บความเป็นจอมยุทธของพวกเราทั้งสิบเอ็ดคนไป?!”
“ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ” เจ้าสำนักหัวเราะเบา ๆ “แต่ก่อนลงมือ ก็ต้องเตรียมตัวตายซะก่อน?”
ทั้ง11คนโกรธ “เราไม่มีวันยอมแพ้หรอก!”
“จริงเหรอ” เจ้าสำนักยิ้มจางๆ “งั้นก็ลงมือได้เลยสิ”
หลังจากพูดจบ เจ้าสำนักก็ยกฝ่ามือขึ้นอีกครั้ง เปลวไฟสีน้ำเงินก็พุ่งไปรอบๆ
ไฟแห่งวิญญาณสีน้ำเงิน ได้รวมตัวเป็นสัตว์ร้ายขนาดยักษ์!
“ไป ไปจัดการพวกมันซะ” เจ้าสำนักผลัดพลังยิ่งใหญ่นั้นด้วยดวงตาอาฆาต !
“ฟู่ว!”
เสียงคำรามราวสัตว์ร้ายพุ้งเข้าไป!
สิบเอ็ดคนหมดหวังอย่างยิ่ง พวกเขารู้แล้วว่า ถ้าพวกเขาสัมผัสสัตว์ร้ายยักษ์นี้ พวกเขาจะถูกไฟเข้าแทรกทันที!
“ไม่นะ!” ใบหน้าของพวกเขาดูน่าเกลียดมาก “สู้ต่อไปก็มีแต่ตายกับตาย!”
“ถอย!”
ไม่รู้เสียงใครตะโกนออกมา หลังจากนั้นพวกเขาก็เตรียมจะวิ่ง !
ตอนนั้นมือของเจ้าสำนักก็ควบคุมเปลวไป สร้างเป็นกำแพงเพื่อขวางทางพวกเขา!
“พวกแกจะไปไหนไม่ได้” เจ้าสำนักพูดเบาๆ
“แก!” หนึ่งในนั้นกัดฟัน ทันใดนั้นเขาก็หยิบดาบยาวสีขาวออกมา แล้วกำไว้ในมือแน่น
ดาบยาวเล่มนี้เป็นสีราวกับน้ำแข็ง เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นของไม่ธรรมดา
จากนั้นเขาหายใจเข้าออก และฟันกำแพงไฟนั้นอย่างสุดกำลัง !
ดาบยาวแทงทะลุกำแพงไฟแห่งวิญญาณโดยตรง แต่ในพริบตา กำแพงกลับกลับมารวมกันอีกครั้ง!
“จบกัน” ใบหน้าของทั้งสิบเอ็ดคนดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขางัดไพ่ทั้งหมด ทั้งร่ายเวทย์ต่างๆ พวกเขาไม่สามารถทำลายกำแพงได้!
สัตว์ร้ายนี้มาอยู่ด้านหน้าของเจ้าสำนัก ราวกำรอฟังคำสั่ง
ในที่สุด เจ้าสำนักก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากโซฟา
เธอยิ้ม “ไม่ต้อง อีกไม่นานก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวดแล้ว”
หลังจากพูดแล้ว เจ้าสำนักก็ยกมือขึ้น เปลวเพลิงก็ไปท่วมร่างของทั้ง 11 คน!
“อ๊าาาาา”
ทั้งสิบเอ็ดคนสว่างไสวด้วยเปลวไฟสีน้ำเงิน เปลวไฟเผาร่างของพวกเขา!
ร่างของจอมยุทธระดับเจ็ดไม่สามารถทนกับไฟแห่งวิญญาณได้
เสียงโหยหวนกังขึ้นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อย่างที่เจ้าสำนักพูดเลย คนเหล่านั้นทั้งเจ็บปวดและทรมาน!
“โอ๊ย โอ๊ย!”
เปลวเพลิงลุกไหม้เกือบชั่วโมง และในที่สุด จากสิบเอ็ดคน ก็เหลือเพียงหนึ่งคน
จุดตันเถียนของเขาไหม้แล้ว หากมีชีวิตอยู่ ก็เป็นแค่สวะคนหนึ่ง
เจ้าสำนักเดินบนรองเท้าส้นสูง มาหาเขาทีละก้าว
“อย่า… อย่าฆ่าฉัน ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย!” ผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย คุกเข่าลงและก้มหน้าอย่างสิ้นหวัง
เจ้าสำนักมองลงมาที่เขา ราวกับเป็นพระราชินี
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจ กระทบจิตใจที่เปราะบางของเขา
“ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน!”
“ต๊อก ต๊อก ต๊อก” เสียงนี้ดังในหัวของเขาไม่หยุด
เจ้าสำนักมองมาที่เขา แล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ฆ่านาย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็ก็ผงกหัวลงอย่างสิ้นหวัง: “ขอบคุณ ขอบคุณมาก!”
“กลับไปบอกคนที่จ้างนายมาด้วย” ไฟแห่งวิญญาณค่อยๆหายไป
“ว่านี่เป็นครั้งสุดท้าย” เจ้าสำนักกล่าวต่อ “คราวหน้าหากกล้าส่งคนมาฆ่าฉันอีก ฉันจะไปเด็ดหัวมัน เข้าใจไหม?”
“ขะ…เข้าใจแล้ว!” จอมยุทธผู้นั้นใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนจะไม่ใช่เจ้าสำนักของตำหนักเทพโอสถ แต่เป็นราชินีที่ปกครองชีวิตของเขา!
เจ้าสำนักโบกมือเพื่อแสดงว่าเขาสามารถออกไปได้
จอมยุทธผู้นั้นลุกขึ้นจากพื้นและวิ่งออกจากประตูอย่างสิ้นหวัง
ฉินเฉิงลุกขึ้นและพูดว่า “ท่านเจ้าสำนัก ตามเขาไปไหม จะได้ดูว่าใครเป็นคนสั่งเขามา?”
เจ้าสำนักส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่จำเป็น”
เธอยืนตรงหน้าหน้าต่าง มองดูถนนที่อยู่ด้านล่างอย่างเงียบๆ